วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ในวันวานมือที่เคยตระกองกอดเราด้วยความรักอยากทะนุถนอม

อาจจะเป็นมือเดียวกันกับที่ตบเราจนคว่ำในวันนี้เลยก็ได้

ปากที่เคยพร่ำชื่นชมเรา วันดีคืนดีอาจจะเป็นปากเดียวกันกับที่ด่าเราไฟแลบ

ลำแขนที่เคยโอบอุ้มเชิดชูอาจเป็นสองแขนที่ทุ่มเราทิ้งจนแตกกระจาย

เตรียมใจไว้ได้เลยว่าชีวิตคนเรามีสองด้าน เหมือนเหรียญกษาปณ์ที่มีทั้งด้านหัวและก้อย

คนที่เราเคยรักนักหนา เดี๋ยววันหนึ่งก็ทำให้เราต้องทุกข์แทบล้มประดาตาย

แล้วคนที่ทำให้เราต้องทุกข์แทบล้มประดาตาย เดี๋ยวก็พลิกขึ้นมาทำให้เราสุขจนแทบสำลักก็มี

เห็นไหมว่าชีวิตนี่มีสองด้านอย่างนี้ แต่คนส่วนใหญ่ชอบชีวิตด้านเดียว

ชอบแต่ด้านที่ชื่นชม แต่ด้านขมขื่นไม่ชอบ และด้านที่เราไม่ชอบ

เราก็จะพยายามหลับหูหลับตาไม่ยอมศึกษา ไม่ยอมเรียนรู้ ไม่ยอมเผชิญ

เราจึงมีชีวิตที่ตื่นอยู่อย่างผู้มืดบอด ชอบสุขแต่ปฏิเสธทุกข์ โดยหารู้ไม่ว่าสุขอยู่ที่ไหน

ทุกข์ก็แอบอยู่ตรงนั้น เราควรพัฒนาปัญญาให้สามารถเห็นสุขในทุกข์ เห็นทุกข์ในสุข

ถ้าทุกข์เกิดขึ้นมาจะได้มีปัญญาไม่กลัวทุกข์



ชีวิตของคนเรานั้นมีบทเรียนอยู่สองบทคือ บทเรียนยากและบทเรียนง่าย

คนส่วนใหญ่พอใจที่จะเรียนบทเรียนง่ายๆ แล้วหลงลืมหรือปฏิเสธบทเรียนยากๆ

บทเรียนง่ายๆ เช่น ได้ลาภ ได้ยศ สรรเสริญ สุข พอเราได้ลาภเราก็ยิ้ม พอได้ยศเราก็ยิ้ม

พอถูกสรรเสริญเราก็ยิ้ม พอมีความสุขเราก็ยิ้ม

เราหลงลืมไปว่า แท้ที่จริงเหรียญนั้นมีสองด้าน ชีวิตมีสองบทเรียน

เพราะได้ลาภย่อมคู่กับเสื่อมลาภ ได้ยศย่อมคู่กับเสื่อมยศ สรรเสริญย่อมคู่กับนินทา

สุขย่อมคู่กับทุกข์ เป็นเช่นนี้เอง


"ว.วชิรเมธี"

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 19:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: อนุโมทนาด้วยค่ะ ท่านธรรมบุตร :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 23:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus257.jpg
Lotus257.jpg [ 93.53 KiB | เปิดดู 4591 ครั้ง ]
:b27: ความสุขจากการมองโลกในแง่ดี

สถานีโทรทัศน์ไทยที.วี.สี ช่อง 3 ได้เชิญผมไปเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “ความสุขจากการมองโลกในแง่ดี” ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไปจากทุกแผนกฟัง เมื่อเร็วๆ นี้

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมาก และได้รับความสนใจดียิ่ง

ความสุขของมนุษย์มีหลายอย่างหลายมิติ

บางอย่างก็ฉาบฉวย ผิวเผินบางอย่างก็ลึกซึ่ง

แต่ความสุขเป็นสิ่งดีที่ใครๆ ก็อยากได้ แม้จะรู้ว่ามักจะอยู่กับเราไม่นานนัก ถ้าเราไม่ฝึกใจฝึกนิสัยให้มีความสุขอย่างแท้จริง ความสุขก็หลุดล่องลอยไปจากตัวเราได้ง่าย

ความสุขในแง่จิตวิทยาเป็นสุขแบบหนึ่ง ที่มนุษย์นิยมนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเห็นผลได้ง่าย

ความสุขจากการมองโลกในแง่ดีก็เป็นความสุขในแนวนำจิตวิทยามาประยุกต์ใช้อย่างหนึ่ง

มนุษย์ทั่วไปมักจะมองโลกชีวิตตัวเอง และคนอื่นเป็น 3 แบบคือ

มองโลกในแง่ดี หรือบวก (+)

มองโลกในแง่ไม่ดี หรือลบ (-)

และมองโลกในแง่กลางๆ หรือศูนย์ (0)

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรานั่งอยู่คนเดียวในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมชั้นหนึ่งที่มีผู้คนมาใช้บริการปะปนอยู่ จู่ๆมีผู้ชายคนหนึ่งที่คุณไม่รู้จัก ท่าทางดี แต่งกายดี อายุกลางคน เดินยิ้มเข้ามาทักทายคุณว่า “ สวัสดีครับ ไปไหนมาครับ ? ” คุณคิดอย่างไรในแวบแรก

ถ้าคิดว่าเขาก็แค่คนๆ หนึ่ง คงทักคนผิด ก็เท่ากับคุณคิดแบบกลางๆ

ถ้าคิดว่าเขาอาจเป็นเพื่อนเก่าที่คุณจำไม่ได้ หรือเขาอยากรู้จักและเป็นมิตรใหม่กับคุณ ก็ถือว่าคุณคิดแบบบวก (+) มองโลกในแง่ดี

ถ้าคิดว่าเขาอาจเป็นพวกมิจฉาชีพจะมาต้มตุ๋น หรือผิดปรกติทางจิตหรือเปล่า ก็ถือว่าคุณคิดในแบบลบ (-)

เคยมีรายงานว่าคนที่คิดแบบบวก หรือมองโลกในแง่ดีจะมีความสุขมากกว่าอีก 2 ชนิด เพราะในช่วงที่คิดแบบบวกนั้นจะมีการหลั่งสารของความสุขออกมา

ทำให้เกิดความหวังในชีวิตเสมอ มีกำลังใจ มองตัวเองและคนอื่นแบบมีค่าและมีศักดิ์ศรี มีมิตรเพิ่มขึ้น เข้ากับผู้คนได้ง่าย ได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ และสามารถแก้ไขอุปสรรคในชีวิตและการทำงานได้ดี ขอโทษเป็น มีอารมณ์ขันได้ ไม่กังวลใจ หรือสงสัยในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และรู้จักทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเล็กได้ด้วย

สิ่งดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ทำให้มีความสุขทั้งนั้น

คนที่มองโลกในด้านดีมักมีจิตใต้สำนึกที่ดี เคยได้รับความรักและความสนใจจากครอบครัวมาก่อน หรือเป็นเพราะเห็นแบบอย่างและประโยชน์จากการมองโลกในด้านดี จากสิ่งแวดล้อม หรือครอบครัวมาก่อน หรือเป็นเพราะมีการฝึกจิตใจให้มองโลกในด้านดีเสมอมา

อาจมีคำถามว่าถ้าเรามองโลกในด้านดี แล้วเชื่อคนอื่นได้ง่ายๆ มิเสียรู้คนบ่อยๆ หรือ

ก็ขอตอบว่า คนมองโลกในด้านดีก็มีสติและปัญญา รู้จักเลือกว่าควรจะปล่อยใจให้เชื่อคนแต่ละคนได้ต่างกัน รู้จักวางตัว และถอยตัวเป็นเมื่อพบคนไม่ดีหรือสิ่งไม่ดีจริงๆ เขาไม่ใช่คนโง่ที่ยอมให้ชักจูงได้ง่าย หรือแม้จะเสียรู้บ้างก็ไม่เสียใจมากนัก พร้อมจะรับไว้เป็นบทเรียน และยังมองโลกในแง่ดีอีกต่อไป เพราะรู้ว่าประโยชน์มีมากกว่าโทษ

ในการบรรยายนั้นได้สอนวิธีพัฒนาความคิดจาก (-) ให้ (+) ในระดับจิตใต้สำนึก เพื่อจะได้มองโลกในแง่ดี จากนั้นเราจะรู้จักตัวเองเป็นมากขึ้น อยากทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย การสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับเพื่อนมากขึ้น ได้สอนวิธีให้ความรัก ถนอมความรัก วิธีการให้อภัยตนเองและคนอื่น รวมทั้งวิธีลดความเครียด มองข้ามความหยุมหยิม ไม่ทำตัวหน้าเบื่อจำเจ รู้จักลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ซาบซึ้งความดีของตนเองและคนอื่น รู้จักยิ้มและมีความสุขได้แม้ในยามลำบาก หรือไม่มีความสุข

ประโยชน์ของการฝึกนิสัยให้มองโลกในแง่ดีนั้นมีมากมาย เป็นการเปิดประตูให้เป็นมิตรกับตัวเองและคนอื่นได้มากขึ้น และทำให้ชีวิตมีพลังของการคิดในแนวบวก ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังไม่มี

อ่านถึงตรงนี้แล้ว นึกอยากฝึกตัวเองให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้นไหมเล่า อย่าบอกว่าฝึกไม่ได้หรอก หรือมันยากเกินไปเลย เพราะนั่นเป็นการเริ่มต้น วิธีคิดแบบคนมองโลกในแง่ไม่ดีต่างหาก

ที่มา :: ที่มา : ดิฉัน ปีที่ 30 ฉบับที่731 วันที่ 15สิงหาคม2550

กราบอนุ โมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ tongue tongue tongue

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาค่ะ ท่านธรรมบุตร :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2010, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 พ.ย. 2010, 07:43
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: ทำใจสงบ
งานอดิเรก: ชอบปรึกษา
สิ่งที่ชื่นชอบ: ชื่อปกหนังสือ
ชื่อเล่น: นกเล็ก
อายุ: 30
ที่อยู่: 110/10หมู13 ต.หนองปรือ อ. บางละมุง จ.ชลบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


มี หลัก มีเหตุ ผล เป็น ประโยช์มาก เลย นะขอรับ
ผม ได้ อ่าน เเล้ว มี ใจ นึก คิด ทบทวน เมื่อ ได้ ไป
วัด เมื่อ ครั้ง ยัง อายุ10ปี พอประมาณเรียนอยู่ ป.4ได้
ได้เริ่ม รู้ การเข้าวัด อย่าง จริง ก็ เรียนอยู่ ป.5-ป.6 หลัง จาก นั้น
ก็ มี เหตุการ์ นานา ประการ ที่ นำพาชีวิต ไป ในที่ ต่างๆ รอดมาจาก ภัยอันตราย
ก็ หลาย หน ความ โชคดี นั้น กระผม เองไม่ ค่อยจะ รับ เทาไร ในชีวิต ของ กระผม ในช่วง วัย เด็ก
หรือ เป็น หนุ่ม เทาไร นัก ของ ที่ พูดกัน ว่า ทางโลก เนื่อง จากผมนั้น จะ ถูกเรียง ไป ทางว่าเด็กที่
มีนิสัยไม่ดี ออก ไป ทางลักเล็ก ขโมย น้อย พูดจา ก็จะโกหกมากกว่าจะพูดจริง ไม่ ยอมรับผิด เเต่ใจตัว เอง นั้นรู้ดี ว่า คนเอง นั้นเเหละที่ผิด สิ่งเหล่านี้ มันเกิด กับผม ทุกวัน วันละเล็กวันละน้อย ผมเองเฝ้าแต่
อด ทน มัน ถาม ว่า การเป็น เด็ก อยาก ทำเรื่องผวกนี้มัย ฝืนใจทำ เเล้วทำไป ทำไหม ตลอด เวลาที่ผ่าน
มา กระผม ก็ พยาม หาคำตอบ--- เเต่ ตอนนี้ มีผู้ รู้คำตอบเเล้ว 1-2 ท่าน เเล้วจะ มีผู้ รู้คำตอบ อีกในใจ เพิ่มไปอีก---
กลับ มา เหตุการณ์ ช่วง เริ่ม จาก การเข้าวัด ของผม เริ่ม จาก การ ยิ่ง นก ตกปลา
ก็วิ่งเล่น กับเพื่อนๆ ใน วัยเด็ก ชึ่ง เด็กๆ ทุกคน ก็ไม่อยากเล่นกับผม สักเทาไร นัก กระผมเองก็รู้ ดี ผมจะเป็นเด็กขอนข้าง จะสปรก จะมีขี้มูก หรือ นํ้าเสรมหะ ไหลออก มา จาก จมูก บ้างวันก็ 2 ข้าง บ้างวันก็1ข้าง ผ้าเช็ดหน้า อย่างดี ของกระผมก็ คือเสือ ของ ตนเอง หรือ มือ หาก ไม่มีที่ จะเซ็ด ก็ จะเป็นใบไม้สดหรือเเห้ง ที่ เห็นได้ ช่วง นั้น เช็ด หากมี เพื่อน ล้อเล่น ตามธรรมชาติ นิสัย ผมไม่เเปลกใจ ว่าเพราะอะไร ผมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะไม่ มีผุ้ ดูแล เรา นี่เอง ก่อน หน้า นั้น กระผมเอง ก็ไม่ได้รู้สึก น้อยเนื้อตำใจอะไร เพราะ เราไม่ได้ มีพ่อเเม่ ไม่ได้ มีเงิน ทอง เสื้อผ้า อะไร หรือ ลองเท้า อะไร ไม่ต้องรู้สึก ว่า เเข่งขัน กับใคร ต่อ เพราะ รู้สึก ว่า เราไม่สบายใจ ลำบากใจ อายที่ต้องไป โกหก เวลาไป โรงเรียน ที่ มี เเต่ ลูก คนรวย กระผม คิด ว่า พ่อเเม่ ก็ มา จาก ปู ยา ตา ยาย เราได้ อยู่ กับ โซน เเม่ ของเเม่ ตามภาษา ของคน กำเเพงเพชร ตามพื้น ของหมู่บ้าน เอ๋ย นามเเทนกัน พอ กระผม คิด เช่น นั้น ทุก ครั้ง มีพลัง วิ่งเล่น อย่างกะลืม โลก ไปเลย มันอุ่น ยังไงก็ไม่รู้ อยู่เพียง ว่าอุ่นอย่าง ขันมารดา ตน อยากอยู่เเบบ นั้น
ของเเต่ ระวัน ที่กระผม พบ มาจะไม่ซํ่ากัน เลยที่เดียวเชียว คน ก็ เหมือนเดิม เเต่ นิสัยใจคอ คำ พูด นั้น
ไม่ต่างกับใบมีด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2010, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 พ.ย. 2010, 07:43
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: ทำใจสงบ
งานอดิเรก: ชอบปรึกษา
สิ่งที่ชื่นชอบ: ชื่อปกหนังสือ
ชื่อเล่น: นกเล็ก
อายุ: 30
ที่อยู่: 110/10หมู13 ต.หนองปรือ อ. บางละมุง จ.ชลบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ซึ่งกระผมเอง ก็ ไม่ เอา มาใส่ ใจมาก นัก เพราะหาก ผมโตขึ้น ผมจะไม่ กล่าวเเบบนี้ ผมต้องเป็นผู้ใหญ่
ที่ดีกว่า นี้ ความคิด กระผม
ที่นี้ ผม ก็ เริ่ม จาก การเข้าวัด โดย เห็นเพื่อน มี ขนมกิน ทุกวัน เลยเเต่ ก็ไม่สนใจอะไรมาก ก็อยาก กิน ของหวาน ก็ไป ขโมย อ๋อย กิน ผลไม้กิน ก็ได้ เพราะ ออก จะเยอะ ไม่กี่ต้น ก็ ไม่ถึงให้ เจ้า ของอ่อย ขาด ทุนหลอก กระผม คุยกับตัวเอง ผ่านมา อีก1เดือน อ่อยก็ ถูกตัด ไป หว่า ยุ่งเเล้วเรา ทำไงดี อยาก กิน ขนม ของหวานๆจัง ไป ที่ไหนๆๆก้ ตัด กันหมด ทุกไร่ ที่ยังไม่ ตัดก็ไกล ที่ไกล้ๆ ก็ ต้นออนมากยังไม่ มีนํ้าตาลความหวาน ถ้าหักมา ก็จะเสีย ของเปล่าๆ เราก็กินไม่ได้ทิ้งอยู่ดี ไม่ไปเสียเวลา ทำไงดี ระหว่าง กระผมเดิน กลับ คิด กลับ บ้านก็ พบ เพื่อน ที่เป็น รวม ชั่นเรียนด้วยกัน กำลัง ถือ ถุงขนม ผ่าน มา เขี้ยวเต็มเเก้ม มาเลย ด้วย ความ อยากกิน อยาก ทานก็ เลย คิด อุบาย ชวนเล่นด้วย ก่อน อื่นเดิน ตาม ไปก่อน ก้ ตามไปถึงบ้าน เลย เห็นสภาพการเป็นอยู่ก็ นึกได้ ว่า สภาพเขา นั้นเเย่ กว่าเรา เสียอีก เขาไป มีผู้ใหญ่หรือ ญาติใจดี ที่ไหนให้มา เเน่ กระ ผมเลย สงสัย รอ จังหวะ ก็ถาม ตรงๆ ได้ ความว่า หลวงพี่ให้มา ใครกันหลวงพี่ ก็ สงสัย อีก เเล้วถาม ต่อไป อีก ว่า เเล้ว จะไป หา หรือไป พบ หลวงพี่อีก เมือไหร่ เพื่อนกระ ผมเลย บอก ด้วยสีหน้า เหมือนสีหน้า ว่าตนเองนี้เป็นคนเดียวที่ได้เข้าไป เป็นผุ้ มีระดับสูง(เย็นวันนี้) ดู จากใบหน้าละที่่ทา เเหม่ม จะอลังการ ชักอยากรู้ไป ใหญ่ๆ กระผม นี้ เป็น ลิงจ๋อไปเลย อารมณ์นั้น หร๋าๆๆ เราไปด้วยคน นะๆได้มัย เพื่อน ผยักหน้าเเล้ว ตอบ อื่มได้ ผมดีใจ ก็ รอ ให้ถึงเย็น พอ ถึงวัด ผมเห็นกำเเพง รั้วกั้นเก่าๆ ผม ก็ผ่านมาบ่อย ก็เป็น ผู้ที่ ปลงผม โกนผม ไม่ยอม มีเมีย ตอนเช้า ก็เดินไปบ้านโน้น บ้านนี้ ที่ ตกลง เขา อยู่ นี้กัน หร่า เอ๋ ตก ลงนี้ เราจะถูกหลอกมัย น่าเขา ผวกนี้ จะทำอะไรมัย ฆ่าเราก็ได้ เราดันมารู้ ความลับเขา ได้ยินเขาพูดกัน เขามองเราเเปลกๆ อย่าเขาไปไกล กว่านี้เลย จะดีกว่า กระผม เลยหยุด ที่จะเดิน ตาม เพื่อนไป ยืน มอง อย่างกล้าๆ กลัว ใจ สังให้ วิ่ง ผมก็วิ่งทัน ที่ กลับ บ้าน ตรงไป ให้ ถึงบ้านห้ามหยุด ก็พบ หน้า ย่าย ก็กำลังเตรียม ตัว ลงมา ตาม เพราะผิดวิสัย ที่กระผมจะกลับบ้าน มีไม้เลี่ยว1อัน ที่มือ เราคงจะโดน ทำโทษ ถูก ตีเเน่เลย ยืน บังทางเข้า ประตู จะวิ่งหลบก็ไม่ได้ ยอม ให้ ตีดีกว่า เราเองถูก ตีดีกว่าโด่นใครก็ไม่รู้ หลอกให้เอา ย่า พิษ ให้ทานเเล้วไม่ได้เจอ หน้า ย่ายอีก นี้เราคงคิดถึงย่าย ถึงวิ่งมาหายายเเน่ๆ ย่ายคงจะรักเป็นห่วงเราเเน่ๆ เลย คิดเเล้วก็กอด อก เเล้ว ก็ บอก เบาๆ นะ ย่าย ผมเจ็บ 5 ที ได้ มัง ก็ให้มันผ่านไป เร็วๆ ก็เเล้วกัน ตกเย็นคืนนั้น กระผม อาบนํ้าอารมณ์ดี เเล้ว นั่งกิน ข้าว สบายใจหัวเราะ ร่าเริ่ง ไม่เเอบ หลังตู้ เช่นก่อน นั้น อีกเเล้ว ผ่านไป คืน นั้น .....กระผมเริ่ม รู้สึก ถึงสิ่ง ดีดีดี กำลังเขามาหากระผม สิ่งดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2010, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุคะท่านธรรมบุตร
:b8: :b8: :b8:
บุญรักษาคะท่านบุญฤทธิ์
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร