วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 05:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 00:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 00:42
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านที่เป็นชาวพุทธย่อมรู้ซึ้งกันแทบทั้งหมดว่า หัวใจแห่งการปฏิบัติ และเข้าถึงสัจจธรรม ต้องถึงพร้อมด้วยกาย วาจา และ ใจ

คำถาม ง่าย ๆ สั้น ๆ คือ

ทำอย่างไรจะให้ กาย วาจา ใจ รวมเป็นหนึ่ง

ต้องการทราบวิธีปฏิบัติ ที่ได้ผลจริง และพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์ได้ ขอร้องอย่าลอกคัมภีร์ หรือท่องจากตำรามาตอบ

รอคำตอบจากทุกท่าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 02:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็เพียงแค่เราศึกษาพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้รู้ในระดับหนึ่งแล้วต่อจากนั้นก็ลงมือปฎิบัติ แต่เรื่องการปฎิบัตินั้นมีหลากหลายวิธีครับ(สิ่งนี้ขึ้นอยู่ที่การสั่งสมมาไม่เหมือนกัน)แต่สำหรับผมนั้นการปฎิบัติของผมที่ทำอยู่เป็นประจำและเดี๋ยวนี้ก็ยังปฎิบัติอยู่คือการดูจิตภายในกายเราว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
แต่ผมไม่ได้นั่งสมาธินะครับเพราะเคยนั่งแล้วจิตไม่ค่อยสงบทั้งๆที่เป็นสถานที่สงบก็ตาม แต่พอตามดูจิตไปเรื่อย ๆทุกขณะที่ทำงานอยู่จิตกลับมีสมาธิสามารถพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งที่กระทบกับเราหรือไม่ก็ตามพอเราเข้าใจจิตมันก็จะสงบไปเองโดยที่เราไม่ต้องไปบังคับเลย กล่าวคือถ้าจิตเห็นถึงความเป็นจริงในทุกๆสิ่งหรือที่เรียกว่าสภาวะธรรม กาย วาจา และใจก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะเกิดความเห็นที่ถูกตรงตามความเป็นจริงครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 06:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล..สมาธิ..ปัญญา

ปฏิบัติตาม..มรรคมีองค์ 8

พระพุทธเจ้า..อรหันตเจ้า..ได้พิสูจน์แล้ว

หรือจะเอา..วิธีของกระผม..ที่ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมายังงัย :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 08:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 10:05
โพสต์: 20

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบง่าย ๆ สั้น ๆ "มีสติ"


มีสติ ระลึกรู้ กาย วาจา ใจ ตามความเป็นจริง ในขณะปัจจุบันที่กาย วาจา ใจ กำลังเกิด กำลังดำเนินไป
เมื่อมีสติรู้ชัดทั้งกาย วาจา ใจ ย่อมถึงพร้อมทั้ง กาย วาจา ใจ ย่อมเห็นความจริงของกาย วาจา ใจ ย่อมเข้าใจแจ้งชัดในกาย วาจา ใจ ย่อมละวางกาย วาจา ใจ




ปล. หากปฏิบัติถูกต้องและตรง ไม่ว่าเริ่มอย่างไร จะจบลงที่จุดเดียวกันเสมอ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันกับพุทธองค์ จะเห็นสิ่งเดียวกันกับพุทธองค์เสมอ แม้สำนวน คำพูด ลีลาในการพูดแตกต่างกันตามจริตนิสัย แต่ก็จะลงกันได้ด้วยธรรมอันถูกต้องและตรง


เจริญในธรรมยิ่ง ๆ

.....................................................
ปลดล็อคใจ ตัดโซ่ร้อยรัดพันธนาการ สู่ทางแห่งเสรีชน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำตอบสั้นๆ แต่ไม่ง่าย คือ ตามกายและใจที่เป็นขณะปัจจุบันทันทุกๆขณะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 19:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่ทำผิด..ทำชั่ว..ไม่ใช่เขาไม่รู้นะ..ไม่งั้นคงไม่หลบ ๆ ซ้อน ๆ ทำหรอก..

เขารู้..ว่ามันผิด...แต่ก็ยังทำ
:b9: :b9: :b9:

นี้แหละ..ที่สั้น ๆ แต่ไม่ง่าย :b13: :b13:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 10 ธ.ค. 2010, 21:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2010, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2010, 14:56
โพสต์: 122

โฮมเพจ: chanachai20102553@gmail.com
แนวปฏิบัติ: ค้นหาธรรมของพุทธเจ้า
งานอดิเรก: มองธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: แค่นามสมมุติ
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: ดูก่อนท่านทั้งหลาย.........................

สิ่งที่จะกระทำให้ กาย วาจา และใจ รวมเป็นหนึ่ง และง่ายที่สุด คือ การทำสมาธิ
สงบกาย..... เมื่อกายสงบนิ่งไม่มีการขยับของสังขาร ทางวาจาก็จะไม่เกิดขึ้นเพราะกายส
งบลงแล้ว ทั้งรูปรส กลิ่นเสียง ทางหู ตา จมูก ลิ้น กายสัมผัส ต่อจากนั้นทางใจก็จะสงบตามมา
ขอให้ท่านค่อยๆปฏฏิบัติไม่ต้องรีบหรือเร่ง
แล้วปัญญาในการรู้แจ้งจะเกิดขึ้น

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม

.....................................................
เราจักขออำนาจบุญกุศลที่ตัวเราได้กระทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
จงแผ่อำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลายไปสู่ทั่วทั้งสากลโลก ทั้ง16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน วิญญาณที่มีรูป และ ไม่มีรูป ทั่วทั้งทุกอณูใน 3 โลกจงได้รับแห่งบุญกุศลที่เราได้จักกระทำไว้ด้วยเทอญ สาธุ.................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2010, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณKururin

ขอตอบแบบสั้น ๆ นะคะจากประสบการณ์ตรงค่ะ
"เจริญสมถะภาวนา" กาย วาจา ใจ รวมเป็นหนึ่งได้ดีค่ะ...หรือเรียกว่า เอกคตา (สะกดผิดต้องขออภัยไม่ได้เปิดตำราตอบ) จะทำให้มี "สติ" ระลึกได้และรู้สึกตัว ได้บ่อย ๆ ขึ้น หลังจากนั้นก็นำ
"สมถะภาวนา" ไปเป็นบาทฐานในการ "เจริญวิปัสสนา" เพื่อรู้ใน สามัญลักษณะของรูปของนามที่ดำเนินไปตามกฏของไตรลักษณ์ (การเจริญวิปัสสนาต้องศึกษาปริยัติมาบ้างจึงจะปฏิบัติได้)

ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2010, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


จะทำให้กายสามัคคี จิตสามัคคี จิตต้องรวมสู่ความสงบด้วยอารมณ์การภาวนา
จนเข้าสู่ความสงบเท่านั้นมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นเพียงแต่ความว่างเปล่า
ทำได้เช่นนี้ จึงเรียกว่ารวมกาย วาจา ใจ เป็นหนึ่งเดียวและเมื่อนั้นจิตถึงจะคลายความกำหนัด
และความยึดมั่นในตัวตนของเรา ในสิ่งที่ใช่เรา ในของๆเรา และในตัวตนเขา ในสิ่งที่ใช่เขา ในของๆเขา
ออกไปได้ และเข้าสู่ความเปนอิสระในที่สุด
รวมเรียกว่าความไม่ประมาท ได้จากฝึกสติและสัมชัญญะ สติทำให้เกิดปัญญาตัวต้น ส่วนสัมปชัญญะทำให้เกิดปัญญาตัวตาม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron