วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๔)

เมื่อไปไหนอยู่ไหนอะไรก็ตาม
จงเป็นผู้มีสติเตือนใจของตนเองว่า
เราจะต้องมีสติ เราจะต้องมีสมาธิ
เราจะต้องมีปัญญา
เราจะต้องฝึกฝนจิตใจของตน
ให้เกิดความรู้เข้าใจในธรรมปฏิบัติ
ธรรมปฏิบัติไม่ได้เลือกกาลเวลา
กาลใดเวลาไหนก็ตามมันขึ้นอยู่กับการประกอบกระทำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๕)

การภาวนาก็เหมือนกัน
ต้องรู้จักเลือกอุบายภาวนา
พิจารณาอุบายที่ถูกจริต
อาศัยความเพียรอย่างเดียวบ่ได้...กิเลสมันพลิกเพลงเก่ง
ต้องตามให้ทัน
คนรู้จักพิจารณาก็ได้บรรลุธรรมเร็ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๖)

มรณกรรมฐานนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่เพียงคำพูด
คำพูดหรือตัวหนังสือมันละกิเลสอะไรไม่ได้
แต่ถ้าผู้ปฏิบัติน้อมนึกรำลึกในมรณกรรมฐาน
ไม่ว่าจะเห็นคน เห็นสัตว์ ป่าไม้ ป่าดงพงพี
ก็เห็นความแตกดับ
ความตายของคน ของสัตว์ ของต้นไม้ใบหญ้า

ผลที่สุดที่เกิดมาแล้วก็ต้องมีความแตกดับทำลายตายไปเป็นธรรมดา
ใครจะมายึดมาถือว่าตัวเราของเราไม่ได้ทั้งนั้น
ยึดไปเถิด เมื่อถึงความตายแล้วก็ต้องทิ้ง
ไม่ทิ้งก็จำใจทิ้ง

เมื่อจิตใจของผู้ภาวนา
ภาวนาเข้าถึงซึ่งมรณกรรมฐานแล้วไม่ห่วงใคร
บ้านก็ไม่ห่วง ลูกเต้าก็ไม่ห่วง
ลูกหลานเหลน โหลนอะไรไม่ห่วงทั้งนั้น
เพราะมันเล็งเห็นแจ้งชัดว่า ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๗)

เราเกิดมามีอายุเท่านั้นเท่านี้ปี
มันเป็นเรื่องที่แล้วมาแล้ว
แต่เวลาข้างหน้ามันขึ้นอยู่กับลมหายใจ
กำหนดแน่ไม่ได้...

เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ ก็อย่าประมาท
พยายามทำจิตใจให้สำรวมระวัง
เกิดปัญญาฟาดฟันกิเลสให้หมดไป สิ้นไปอยู่เสมอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๘)

กาลเวลามันล่วงไปผ่านไป
แต่มันมิได้ล่วงไปเปล่า
มันเอาอายุวัยของเราไปด้วย...

ดังนั้น อย่าประมาทเรื่องกาลเวลา
ให้แสวงหาสาระ คือ บุญกุศลไว้เสมอๆ
อย่าให้ชีวิตล่วงไปเปล่าประโยชน์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๑๙)

เรื่องการภาวนานั้น
ไม่หมายเอาเพียงรูปร่างภายนอก
การนั่งสมาธิตามแบบแผนอย่างเดียว
ซึ่งการนั่งแต่เพียงรูปร่างกายนั้นไม่ยุ่งยาก

ข้อสำคัญอยู่ที่การทำจิตใจตั้งมั่นรู้อยู่ภายใน
รวมอยู่ภายใน
รู้ตามเป็นจริงของสิ่งต่างๆ
มี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นต้น
จนไม่ยึดมั่นถือมั่นเสียได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๐)

ชีวิตของเราไม่เป็นของยั่งยืน
เป็นของที่ต้องตายลงโดยแน่นอน
เวลานี้เราอาจได้ยินข่าวการมรณกรรมของผู้อื่น ของพระอื่น
แต่อีกไม่นาน ข่าวนั้นจะต้องเป็นของเราบ้าง
เพราะชีวิตทุกชีวิตจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้ทั้งนั้น...

ฉะนั้น อย่าประมาทเรื่องความตาย
ให้เร่งภาวนา ทำจิตใจให้หมดกิเลส หมดทุกข์หมดร้อนให้ได้
ก่อนความตายมาถึง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๑)

ถึงอย่างไรก็ตาม
เมื่อผู้ใดยังข้องอยู่ในกาม
ลุ่มหลงอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
แล้วจะไม่มีทุกข์มีโทษนั้น อย่าหวัง
เพราะกามนั้นมีคุณน้อย มีโทษมาก
ท่านเปรียบเหมือนหัวงู
ผู้ใดไปใกล้หรือไปเหยียบงูเข้า
จะถูกมันกัดทำให้เจ็บปวด
ถ้าเป็นงูพิษก็ทำให้ถึงตายได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๒)

ทางพระสอนให้ละชั่ว ทำความดี
แต่ก็ไม่ให้ติดอยู่ในความดี
ให้บำเพ็ญจิตให้ยิ่งขึ้น
จนถึงไม่ติดดีไม่ติดชั่ว จึงจะพ้นโลกนี้ไปได้

ทางพระจึงสอนให้มุ่งภาวนา
ทำจิตให้สำรวมระวังตั้งมั่น
ทำจิตให้มีปัญญารู้ตามความเป็นจริงด้วยตนเอง
จนถอดถอนอุปทาน ความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ ออกเสีย
จึงจะเป็นไปเพื่อความสิ้นภพสิ้นชาติ
หมดทุกข์หมดอยากได้โดยแท้จริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๓)

ถ้าเราภาวนาชำระกิเลส โลภ โกรธ หลง
ออกไปมากเท่าไหร่
ก็เท่ากับความเป็นพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ของเรา
เพิ่มขึ้นทุกที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๔)

เรื่องของรูปขันธ์มันเป็นของอาศัย
อย่าไปตามใจมันนัก
ไม่ว่าจะปรุงแต่งเต็มที่อย่างไร
มันก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายอยู่นั่นเอง
จะช้าจะเร็วก็สุดแต่กรรม
ถ้ามันแปรปรวน ก็เยียวยาแก้ไขกันไปตามควร
แต่ด้วยความรู้เท่าทันว่ามันถึงที่สุดของมันแล้ว
มันก็ย่อมแก้ไขไม่ได้

ฉะนั้น วิธีจะช่วยไม่ให้เดือดร้อนมาก
ก็โดยฝึกจิตฝึกใจให้กล้า
จนรู้จักปล่อยวางได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๕)

ธรรมดาเหล็กมันจะเกิดสนิม
มันก็จะเกิดจากภายในจากเนื้อเหล็กนั้นเอง
โรคภัยไข้เจ็บก็เหมือนกัน
ก็ไม่ได้เกิดที่ไหน
นอกจากภายในสังขารร่างกายเรานั้นเอง

การจะสู้ศัตรูภายใน
เราก็ต้องบำรุงกำลังภายในของเรา
ให้แข็งแรงไว้เสมอ
ทั้งอวัยวะร่างกายและจิตใจ
จึงจะไม่เสียทีต่อข้าศึกนั้นๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๖)

เป็นธรรมดาที่สังขารร่างกายของเรา
จะต้องเดินไปสู่ความเสื่อมความสลาย
แม้จะป้องกันแก้ไขอย่างไร
ก็เป็นแต่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น
ที่จะห้ามไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตายเลยนั้นไม่ได้

ฉะนั้น จึงให้มุ่งเอาจิตเป็นสำคัญ
คือ บำรุงรักษาร่างกายพอประมาณ
แต่บำรุงรักษาจิตให้มากๆ
เป็นการหาสาระจากสิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสารนั้นๆ
ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คือ ให้เร่งรัดบำเพ็ญกุศลเต็มสติกำลัง
ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา
แม้ร่างกายจะแก่จะแตกจะตายก็ไม่วิตกกังวล
เพราะสมบัติดีๆ มีไว้ เตรียมไว้แล้ว
ดังนี้ จะไปไหนก็ไม่ต้องกลัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๗)

การภาวนาเป็นเรื่องของการบำเพ็ญเพื่อความสุข
ไม่ใช่เพื่อความทุกข์
แม้จะมีความยากลำบากบ้าง ก็อย่าท้อถอย
ให้เห็นเป็นของธรรมดาของการทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

(๒๘)

การที่เราตั้งใจทำความดี ทุกสิ่งทุกอัน
จะเป็นประเภทบารมี ๑๐ ทัศ ๓๐ ทัศ ก็ดี
หรือความดีต่างๆ ก็ดี
ก็มีความมุ่งหมายที่จะทำให้จิตใจของเราดีขึ้น
สะอาดขึ้น มีปัญญารู้แจ้ง

ทำนองเดียวกัน
ฉะนั้น แม้ว่าเราจะมาเพียงนั่งภาวนาทำจิตให้รวมเป็นสมาธิ
เป็นวิปัสสนาให้เกิดปัญญารู้แจ้งนี้
จึงว่า เป็นการทำความดีอย่างสูง
เป็นการสร้างบารมีรวบยอดนั่นเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร