วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 152 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 21:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งหมด สรุปลงอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องทุกข์ กับการดับทุกข์ หรือ อริยสัจสี่ พระพุทธงค์แสดงความจริงอันประเสริฐนี้ ตามหลักของไตรลักษณ์และอิทัปปัจจยตาปกิจจสมุปปาท

ผู้ที่มีดวงตามเห็นธรรม หรือเห็นอิทัปปัจจยตาปกิจจสมุปปาท ย่อมรู้แจงแทงตลอดในอริยสัจสี่ได้โดยง่าย


ตามประสาของนักดับเพลิง เมื่อพูดคำว่า ดับไฟ ก็เป็นที่รู้กันว่า ต้องดับที่ต้นเพลิง เพราะได้เรียนรู้มาดีแล้ว เป็นลักษณะของภาษาที่ไช้ในการสื่อสารในกลุ่มผู้รู้ หรือเป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจ ลักษณะการสื่อสารแบบนี้ พบมากในพระไตรปิฏก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ดูละเอียดว่า ใครพูดกับใคร พูดเป็นคำเต็มหรือคำย่อ จะทำให้หลงได้โดยง่าย เหมือนชาวนาไปฟังหมอคุยกับพยาบาล

... เพราะมีทุกข์จึงต้องเวียนว่ายตายเกิด เพราะทุกข์ไม่มีหรือทุกข์ดับลงไปได้จึงไม่เกิดชาติภพ ... คำว่าทุกข์ในที่นี้หมายถึงทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาเองทางตาหูจมูกลิ้นกายใจหรือกิเลสตัณหาที่เกิดแผ่ซ่านไปในอารมณ์อันเป็นผลให้เกิดทุกขอริยสัจจ์ คำว่าชาติภพหมายถึงชาติใหม่ภพใหม่ การทำให้ทุกข์ดับคือการดับที่เหตุ

เพราะฉะนั้น จึงกล่าวโดยสรุปได้ว่า ... ดับทุกข์ได้ ก็ดับชาติดับภพได้ ...




เว้นจากความเชื่อที่เชื่อตามกันมา เว้นจากที่ได้ฟังกันต่อๆ มา ปุถุชนจะรู้ได้อย่างไรว่า ใครคือสัปปบุรุษ?


:b4: ฮ๊าฮา ถ้าไม่เคยรู้ ก็ไปไล่ วงจรปฏิจจสมุปบาท ดูนะ เจ้าข๊่า
อย่างตอนนี้ ท่านซุปฯ มีความหลงอยู่ แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่า มันเป็นทุกข์ นะเจ้าค่า

ทั้งๆ ที่ ทุกข์ แต่ก็ยัง ไม่รู้ ว่า ทุกข์ เพราะไม่เห็น เหตุแห่งทุกข์
จึงได้โดน อวิชชา หลอกให้คิด ว่า ไม่ทุกข์ ไงละ เจ้าข๊าาาาา :b4:

ฮ๊าฮา ฮ๊าฮา rolleyes :b13:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอนที่พระพุทธเจ้าเอาผ้าขาวให้ท่านจูฬปันถกลูบผ้าแล้วพิจารณาผ้า...พร้อมภาวนาว่า..รโชหรณํ ๆ

ตอนนั้น..ท่านจูฬปันถก...เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรมแล้วรึ??


Quote Tipitaka:
คาถาสุภาษิตของพระจูฬปันถกเถระ

[๓๗๓] เมื่อก่อน ญาณคติเกิดแก่เราช้า เราจึงถูกดูหมิ่น และพี่
ชายจึงขับไล่เราว่า จงกลับไปเรือนเดี๋ยวนี้เถิด เราถูกพี่ชายขับไล่แล้ว
ไปยืนร้องไห้อยู่ที่ใกล้ซุ้มประตูสังฆาราม เพราะยังมีความอาลัยในศาสนา
พระผู้มีพระภาคได้เสด็จมา ณ ที่นั้น ทรงลูบศีรษะเรา ทรงจับแขนเรา
พาเข้าไปสู่สังฆาราม พระศาสดาทรงอนุเคราะห์ ประทานผ้าเช็ดพระบาท
ให้แก่เรา ตรัสว่า จงอธิษฐานผ้าสะอาดผืนนี้ให้ตั้งมั่นดีโดยมนสิการว่า
รโชหรณํๆ ผ้าสำหรับเช็ดธุลีๆ จงตั้งจิตให้มั่น นั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว เกิดความยินดีในศาสนา ได้
บำเพ็ญสมาธิให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด เราระลึกถึงชาติ
ก่อนๆ ได้ ชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว ได้บรรลุวิชชา ๓
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำสำเร็จแล้ว พระจูฬปันถก
เถระได้เนรมิตตนขึ้นพันหนึ่ง นั่งอยู่ที่ชีวกัมพวันอันรื่นรมย์ จนถึง
เวลาเขามาบอกนิมนต์ ครั้งนั้น พระศาสดาทรงส่งทูตไปบอกเวลา
ภัตตาหารแก่เรา เมื่อทูตบอกเวลาภัตตาหารแล้ว เราได้เข้าไป
เฝ้าโดยอากาศ ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระศาสดาแล้ว นั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ลำดับนั้น พระศาสดาทรงรับรองเราผู้
ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ เราเป็นผู้ควรบูชาของโลกทั้งปวง เป็นผู้
ควรรับของอันเขานำมาบูชา เป็นนาบุญแห่งหมู่มนุษย์ ได้รับ
ทักษิณาทานแล้ว.


ก่อนที่ท่านจูฬปันถกจะได้จับผ้า ยังเป็นปุถุชน ยังไม่ได้บวช ยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม เมื่อถูจนเห็นผ้าที่ใหม่ค่อยๆ เก่า ฯ ท่านจึงเห็นความไม่เที่ยงฯ เห็นอนิจจัง ทุกขขัง อนันตา ทำให้เกิดมีดวงตาเห็นธรรมขึ้นมา

คำว่า ท่านปฏิบัติจนเกิดสมาธิ เป็นการแสดงถึงผล ไม่ใช่เหตุ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 21:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:

ก่อนที่ท่านจูฬปันถกจะได้จับผ้า ยังเป็นปุถุชน ยังไม่ได้บวช
คำว่า ท่านปฏิบัติจนเกิดสมาธิ เป็นการแสดงถึงผล ไม่ใช่เหตุ


บวชแล้ว...แล้วพระพี่ชายให้ท่องคำว่า..
ปทุมํ ยถา โกกนุทํ สุคนฺธํ ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ ตปนุตมาทิจฺจมิวนฺตลฺเข ฯ

คำแปล: ดอกปทุมชาติที่ชื่อว่าโกกนุท ขยายกลีบแย้มบานตั้งแต่เวลารุ่งอรุณยามเช้า กลิ่นเกษร หอมระเหยไม่รู้จบเธอจงพินิจดูพระสักยมุนีอังคีรส ผู้มีพระรัศมีแผ่ไพโรจน์อยู่ ดุจดวงทิวากร ส่องสว่างอยู่กลางนภากาศ ฉะนั้น

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E% ... 6%E0%B8%81
4 เดือน..ท่องยังงัยก็จำไม่ได้..สักที..

บวช....จนพี่ชายไล่ให้ไปสึก..แล้ว

ไปอยู่ไหนมา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 21:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิ..นะ...มันเป็นผลจากที่ท่านปฏิบัติมานั้นเอง..ไม่ได้มาจากไหน

และ..หากอะไรที่จะเกิดหลังจากสมาธินี้...ก็ย่อมกล่าวได้ว่า...มีสมาธินี้ก็มีส่วนที่เป็นเหตุ..ได้เหมือนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
ก่อนที่ท่านจูฬปันถกจะได้จับผ้า ยังเป็นปุถุชน ยังไม่ได้บวช ยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม เมื่อถูจนเห็นผ้าที่ใหม่ค่อยๆ เก่า ฯ ท่านจึงเห็นความไม่เที่ยงฯ เห็นอนิจจัง ทุกขขัง อนันตา ทำให้เกิดมีดวงตาเห็นธรรมขึ้นมา

คำว่า ท่านปฏิบัติจนเกิดสมาธิ เป็นการแสดงถึงผล ไม่ใช่เหตุ


:b4: ฮานะ ท่านซุปฯ เองก็ ลูบคลำ พระไตรปิฏก มาจนสึก
ก็ยังไม่เห็น ความไม่เที่ยง อนิจจัง ทุกขขัง อนันตา เลยนะ เจ้าข๊า rolleyes :b13:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ประวัติพระจูฬปันถกเถระ อยู่ในพระไตรปิฏกเล่มใหน หน้าใหน หาไม่เห็นเจอ

จากคาถาของพระจูฬปันถกเถระ ตรงที่ท่านรจณาว่า ยังมีความอาลัยในศาสนา ก็แสดงได้ว่า ท่านบวช แต่การบวชในระยะหลังๆ ก็บวชด้วยศรัทรา ยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม ถือเป็นโดยสงฆ์สมมุติ ก็มี


... การอ่านพระสูตรพระวินัย ถึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ ว่า ใครพูดกับใคร ระดับใหน เห็นว่าท่านตรัสกับท่านนี้อย่างนี้ จะเหมาเอาไปเสียทั้งหมดว่าใช้ได้กับทุกระดับ จะทำให้ได้ความเห็นแทนที่จะได้ความจริง

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แก้ไขล่าสุดโดย Supareak Mulpong เมื่อ 09 ก.ค. 2011, 22:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยนั้นบวชด้วยความศรัทธา..มีอยู่เยอะแล้ว

ไม่เห็นหรอ...ในตำรา...พระจับกลุ่มคุยกันเรื่องนั้น..หรือเรื่องนี้...แล้วพระองค์ทราบด้วยพระญาณ...ก็เสด็จมาเทศน์...จบกัณต์เทศน์...พระหลายองค์ได้มีดวงตาเห็นธรรม...

อย่างนี้มีอยู่เยอะ..ในตำรา..ไม่เคยเห็นบ้างหรอ..ท่าน

เห็นแล้ว..ก็เลิกกล่าวแบบเดิม ๆ ด้วยเสียนะ..


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 09 ก.ค. 2011, 22:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สมัยบวชด้วยความศรัทธา..มีอยู่เยอะ

ไม่เห็นหรอ...ในตำรา...พระจับกลุ่มคุยกันเรื่องนั้น..หรือเรื่องนี้...แล้วพระองค์ทราบด้วยพระญาณ...ก็เสด็จมาเทศน์...จบกัณต์เทศน์...พระหลายองค์ได้มีดวงตาเห็นธรรม...

อย่างนี้มีอยู่เยอะ..ในตำรา..ไม่เคยเห็นบ้างหรอ..ท่าน

เห็นแล้ว..ก็เลิกกล่าวแบบเดิม ๆ ด้วยเสียนะ..

สูตรใหน เล่มใหน ยกมาให้ดูหน่อยสิครับ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สมัยบวชด้วยความศรัทธา..มีอยู่เยอะ

ไม่เห็นหรอ...ในตำรา...พระจับกลุ่มคุยกันเรื่องนั้น..หรือเรื่องนี้...แล้วพระองค์ทราบด้วยพระญาณ...ก็เสด็จมาเทศน์...จบกัณต์เทศน์...พระหลายองค์ได้มีดวงตาเห็นธรรม...

อย่างนี้มีอยู่เยอะ..ในตำรา..ไม่เคยเห็นบ้างหรอ..ท่าน

เห็นแล้ว..ก็เลิกกล่าวแบบเดิม ๆ ด้วยเสียนะ..

สูตรใหน เล่มใหน ยกมาให้ดูหน่อยสิครับ


:b13: ฮ๋าฮา ท่านซุปฯ ยังอยาก ลูบคลำ พระไตรฯ ต่อไปอีก นะเจ้าข๊า rolleyes

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ยกมาให้เห็นแล้ว....จะรับปากว่าจะเลิกกล่าวอย่างเดิมมั้ยละ.?? wink ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นผู้ดู(ที่ดี ด้วยคน)ต่อไป ระหว่างรอขอนั่งดูใจไปพลางๆ :b3:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2011, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 20:18
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
๑ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือใคร ?

๒ ท่านค้นหาอะไร ?

๓ ท่านพบอะไร ?

๔ ท่านเอาอะไรมาสอน ?



ก็ชาวพุทธยัง หลง งม งาย ยึดว่าพุทธรูปคือตัวแทนของพุทธเจ้าอยุ่ จะตอบได้อย่างไงครับ

ลงชื่อ หลวงปู่พระกาเสม :b13: :b13: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2011, 13:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แสงธรรม14 เขียน:
Supareak Mulpong เขียน:
๑ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือใคร ?

๒ ท่านค้นหาอะไร ?

๓ ท่านพบอะไร ?

๔ ท่านเอาอะไรมาสอน ?



ก็ชาวพุทธยัง หลง งม งาย ยึดว่าพุทธรูปคือตัวแทนของพุทธเจ้าอยุ่ จะตอบได้อย่างไงครับ

ลงชื่อ หลวงปู่พระกาเสม :b13: :b13: :b9:


อ้าว เห็นเถียงกับผมแทบเป็นแทบตาย ว่าพระพุทธรูปคือตัวแทนของพระพุทธเจ้า เถียงชนิดข้างๆคูๆ จนแทบคอเป็นเอ็น ไหงตอนนี้มาเห็นด้วยกับผมซะแล้วล่ะ น่าอายจริงๆนะข๊ะ

ฮ๋าฮา ฮากลิ้ง กลิ้งไปกลิ้งมาเลยน่ะเจ้าข๊ะ กิ๊วๆ wink :b13: :b13: :b9: :b9:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2011, 15:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

:b10: :b10: :b10:

นี่ท่านกำลังแสดงความไม่ยึดมั่นถือมั่น

:b14: :b14: :b14:

ช่วงนี้อากาศแปรปรวน
เด็ก ๆ อย่าเมก้อนควรบริโภคแต่พอประมาณ
ขยันหมั่นออกกำลังกาย
สุขภาพจะได้แข็งแรง
และเข้านอนแต่หัววัน

:b8: :b8: :b8:

:b30: :b30: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2011, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือใคร
ตอบ.....คือเจ้าชายสิทธัตถะ มาตรัสรู้

ท่านค้นหาอะไร
ตอบ.....อมตะธรรม ต้องการค้นหาสิ่งที่ทำให้ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

ท่านค้นพบอะไร
ตอบ....อริยสัจจ์4 พบว่าตัวเองไม่มี และโลกธาตุนี้ก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเราเขาอยู่เลย
และสิ่งที่ทำให้ไม่แก่เจ็บตายก็ไม่มี นอกจากไม่เกิด จึงจะไม่แก่เจ็บตาย และพบวิธีที่ไม่เกิด

ท่านเอาอะไรมาสอน
ตอบ....ธรรมะที่ได้ตรัสรู้ ในทุกเรื่องที่สอนตลอด45ปีก็ล้วนรวมลงสู่อริยสัจจ์ทั้งสิ้น


:b7:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 152 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 49 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร