วันเวลาปัจจุบัน 30 ก.ค. 2025, 01:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กระดาษทิชชู่ตัดเพชรได้ไหม(คิดให้ดีๆก่อนตอบ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 10:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
กระดาษทิชชู่ตัดเพชรได้ไหม(คิดให้ดีๆก่อนตอบ)


เข้าใจว่า

มีเพียงสิ่งที่คิดจะตัดเพชร จึงคิดค้นหาสิ่งที่จะมาตัดเพชร

ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม


:b8: :b8: :b8: :b8:

ถ้ายังมีสิ่งที่คิดว่า ยังมีเพชรให้ต้องตัด

:b40: :b40: :b40: :b40:

ผู้ปฏิบัติจำนวนมากหลายกลุ่ม ต่างมีองค์ปฐม
แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยเห็นสาวกขององค์ปฐมของแต่ละกลุ่มจะรวมตัวกัน
เป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียวกันได้สักกะที
....
เพราะอะไรกัน

:b6: :b6: :b6:


ถ้าสาวกเบื้องซ้าย เบื้องขวามีปรากฎ ก็ไม่ได้ปรากฎมีมากมายหรอก
ที่มีมากมาย ก็ดูเหมือนธุรกิจแบบไบนารี่ ที่ลดหลั่นลงมา ชอบก๊ล ชอบกล

:b14: และผู้ปฏิบัติธรรมเข้าไปสู่วังวนนี้กันเป็นจำนวนมาก
หากไปเจอไบนารี่อีกสาย ก็ต้องมีเหตุที่ต่างจะได้แลกเปลี่ยนทัศนะกัน


:b30: :b30: :b30: :b30: :b30:

ข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้เดินทางที่ไม่ได้คาดหวังสิ่งใดจากองค์ปฐม
จึงเห็นอย่างที่เห็น
ถ้าข้าพเจ้าจะตัด ก็อาจจะทำการหาช่องทางตัดสาย ไบนารี่ ที่มากมายในห้วงคำนึง
ให้เหลือเพียง จิตหนึ่ง


:b38: :b38: :b38:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 06 ก.ย. 2011, 11:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 11:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ปฏิบัติทุกคน เชื่อเถอะ
เมื่อปฏิบัติถึงระดับหนึ่ง แทบจะคิดว่าตนเป็นสิ่งสูงสุดได้เลย
และกระทำเยี่ยงสิ่งสูงสุดด้วย อย่างไม่รู้ตัว
เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งโดดเดียว ยิ่งคิดว่าตนนั้นเป็นหนึ่งในจักรวาลได้ง่าย
เพราะแสงสว่างของตนนั้นส่องได้สว่าง และส่องได้ไกลกลบแสงอื่น ๆ
และเพราะยังไม่เห็นแสงสว่างที่ยิ่งกว่า จึงคิดว่าตนนั้นคือ สิ่งสูงสุดไปเสียแล้ว
และอัตภาพนั้นจะยังคงสืบเนื่อง :b30: :b30: :b30:

ผู้ที่จะถอดถอนตนจากอัตภาพอันวิเศษนั้นได้
ก็ต้องเห็น เกิด-ดับ ในสภาวะนั้นให้ได้


ด้วยอัตภาพ การสำแดงแห่งอัตภาพ
ก็เป็นเหตุอัศจรรย์ให้ผู้ที่เดินทางในทางธรรมจำนวนหนึ่ง ใช้เป็นที่ยึดเกาะ


จนกว่าจะเห็นวงจรไบนารี่
ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ปฏิบัติ แสวงหาโมกขธรรมที่บริบูรณ์ อันแท้จริง :b6:

:b8: :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 14:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่แน่เมื่อปฏิบัติถึงจุดหนึ่ง
ท่านอาจจะแทบจะเป็นลมล้มทั้งยืน
เกิดความสับสนในใจ อย่างไร้ทางออก

เมื่อเห็น พระผู้เป็นเจ้านั่งสนทนาอยู่บนบัลลังค์เดียวกับจอมมาร
และต่างก็สนทนากันอย่างชื่นมื่น
ผลัดเปลี่ยนกันครอบครองบัลลังค์นั้นร่วมกัน

สัญญาทำงานเช่นนั้น
สัญญาจะทำงานอย่างดีที่สุด
เพื่อสื่อสารสภาวะธรรมที่ปรากฎกับผู้เฝ้ามองอย่างดีที่สุด
ถูกต้องตรงนัยมากที่สุดเท่าที่หน้าที่เขาจะทำได้

อยู่ที่ว่า สัญญานั้นสะสมสิ่งใดมา ก็จะสะท้อนสิ่งนั้นออกมา
แต่สิ่งที่อยู่ก่อนหน้านั้น สิ่งที่เป็นตัวเข้าไปดึงสัญญานั้น ๆ มา
เป็นเวทนา/อารมณ อันเป็นปัจจัย
และสิ่งที่เป็นวิญญาณ อันเป็นปัจจัย แห่งเวทนา/อารมณ์
และสิ่งที่เป็นผัสสะ อันเป็นปัจจัย ให้เกิดวิญญาณ
และนาม-รูป อันเป็นปัจจัย ให้ปรากฎผัสสะ


:b30: :b30: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระอรหันต์ มีทั้งประเภทที่บรรลุดับกิเลสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ และบรรลุดับกิเลสได้ แต่มี

ฤทธิ์ด้วย ดังนั้นเราจะต้องรู้เหตุที่จะทำให้เกิดฤทธิ์ครับว่าเกิดจากอะไร การอบรมเจริญ

ภาวนา มี 2 อย่างคือ วิปัสสนาภาวนาและสมถภาวนา

วิปัสสนาภาวนา คือ การรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็น

อนัตตา ซึ่งผู้ที่อบรมวิปัสสนาภาวนา ผลของเขาคือการรู้ตามความเป็นจริง ละกิเลสจน

หมดสิ้นถึงการบรรลุธรรม แต่ไม่ใช่ทางเพื่อได้ฤทธิ์นะครับ แต่ทำให้ดับกิเลสได้หมดนั่น

เองครับ จึงทำให้มีผู้ที่อบรมวิปัสสนาภาวนาอย่างเดียวและได้บรรลุเป็พระอรหันต์แต่ไม่

มีฤทธิ์ ดังนั้นแม้จิตท่านจะบริสุทธิ์จากกิเลส แต่ก็ไม่ได้อบรมเหตุให้เกิดฤทธิ์คือ การ

เจริญสมถภาวนาครับ

ส่วนการเจริญสมถภาวนา เป็นเหตุให้เกิดการได้ฤทธิ์ แต่ต้องได้ถึงฌานขั้นสูงสุด

และอบรมจนคล่องแคล่วและชำนาญมากครับ จึงจะได้ฤทธิ์เพราะฉะนั้นผู้ที่อบรม

สมถภาวนาจนถึงสูงสุดและชำนาญย่อมทำให้เกิดฤทธิ์ได้ครับ ดังนั้นก่อนพุทธกาล

พวกที่เป็นฤาษีก็อบรมสมถภาวนา ได้ฤทธิ์มากมาย แต่ไม่สามารถละดับกิเลสได้เลย

เพราะสมถภาวนาไม่ใฃ่หนทางดับกิเลส แต่วิปัสสนาเป็นหนทางดับกิเลสครับ เช่น

เดียวกับวิปัสสนาภาวนาก็ไม่ใช่หนทางที่จะได้ฤทธิ์ ดังเช่นสมถภาวนาครับ


http://www.dhammahome.com/front/webboar ... p?id=18765

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระพุทธเจ้า มีการแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ยิ่งด้วยปัญญา ยิ่งด้วยศรัทธาและยิ่งด้วย

วิริยะ สำหรับพระพุทธจ้าสมณโคดม บำเพ็ญบารมีทั้งหมด 20 อสงไขยแสนกัป คือ

อธิษฐานทำบุญ ปรารถนาในใจ 7 อสงไขย อธิษฐานทำบุญและเปล่งวาจาปรารถนา

เป็นพระพุทธเจ้า 9 อสงไขย และเมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วว่าจะได้

เป็นพระพุทธเจ้า ก็บำเพ็ญบารมีอีก 4 อสงไขยแสนกัป รวมเป็น 20 อสงไขยแสนกัป

ซึ่งในความเป็นจริง การปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าทางใจและวาจา ยังถือว่าเป็นพระ

โพธิสัตว์ที่ยังไม่แน่นอนที่จะบรรลุ ต้องเมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ครั้ง

แรกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า นั่นคือ เป็นนิยตพระโพธิสัตว์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

แน่นอน ดังนั้นเมื่อนับพระพุทธเจ้าองค์แรกที่พยากรณ์พระโพธิสัตว์ว่า จะได้เป็นพระ

พุทธเจ้าคือ พระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกรพระพุทเจ้า ในกัปนั้นมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น

4 พระองค์ คือ พระตัณหังกรพุทธเจ้า พระเมธังกรพุทธเจ้า พระสรนังกรพุทธเจ้า พระ

ทีปังกรพุทธเจ้า แต่ใน 3 พระองค์แรก ยังไม่ได้รับการพยากรณ์เหตุยังไม่พร้อม จนถึง

พระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 คือ พระพุทธเจ้าทีปังกร จึงได้รับการพยากรณ์ ดังนั้นโดยทั่วไป

เมื่อจะนับองค์แรก ก็เมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกรครับ

สำหรับกรณีพระพุทธเจ้าสมณโคดม คือ นับจากการได้รับการพยากรณ์จากพระ

พุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกรเป็นองค์แรกนั่นเองครับ และนับมาเรื่อยจนปัจจุบัน พระพุทธ

เจ้าสมณโคดม เป็นองค์ที่ 24


http://www.dhammahome.com/front/webboar ... p?id=19627

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ในความเป็นจริง ข้อความในพระไตรปิฎก อธิบายว่า พระพุทธเจ้าอุบัติมาแล้วในโลก

นับไม่ถ้วน หาประมาณไมได้
เพราะสังสารวัฏฏ์ยาวนานนับประมาณไม่ได้ เปรียบเหมือน

จำนวนของพระพุทธเจ้า เท่ากับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา คือ มีมากนับไม่ได้จริงๆครับ

จึงไม่สามารถจะรู้องค์ปฐมได้เลยครับ ว่าองค์ไหนอย่างไร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องคิดเองว่า

พระพุทธเจ้าองค์ปฐมชื่อนั้น ชื่อนี้ครับ และประโยชน์คือ ไม่ใช่การสร้างพระพุทธเจ้า

องค์ปฐม เพื่อรายได้เข้าวัด อันไม่เกื้อกูลต่อพระศาสนา แต่ควรให้ศึกษาพระธรรมให้

เข้าใจ เมื่อเข้าใจพระธรรมก็เห็นพระพุทธเจ้าด้วยปัญญา สมดังที่ว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้น

เห็นเราครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


http://www.dhammahome.com/front/webboar ... p?id=19627

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2011, 21:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


รักษาใจให้เป็นกลางให้เป็นกุศลไว้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2011, 01:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ลูกรักทั้งหลายของพ่อ จงตั้งจิตฟังกระแสเสียงของพ่อให้ดีนะลูก พวกเจ้าลงมาท่องเที่ยว เพื่อเรียนรู้ความเป็นอยู่ในแดนมนุษย์นี้นานมาแล้ว ถ้าเทียบเวลาในแดนมนุษย์นี้ก็ล้านล้านๆๆๆๆๆๆๆชาติแล้ว โดยเฉพาะถ้าใครได้อ่านตำราเล่มนี้แล้ว พ่อจะถือว่าพวกเจ้าได้รับสัญญาณความรู้จากพ่อแล้ว ได้รู้จักพ่อผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงแล้ว และเวลานี้พ่อก็เฝ้ารอคอยการกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขของพวกเจ้าอยู่ตลอดเวลา ลูกเอ้ย..


ยกข้อความมาจากลิงค์แรกครับ บอกถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวงจรปฏิจจสมุปบาท โดยต้นสายปลายเหตุอ้างตนว่าเป็นพ่อ แล้วรอคอยการกลับมาของลูกๆ อันเป็นการดำเนินชีวิตตามสายเกิดของปฏิจจสมุปบาทต่อไป

ผู้ที่เห็นภัยของการเกิดแล้วนำมาบอกคือพระพุทธเจ้าของพุทธศาสนา ว่าเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ จึงดำเนินชีวิตตามสายดับของปฏิจจสมุปบาท ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

จริงๆคำว่าพ่อก็ขัดแย้งกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่ายังข้องติดกับความเป็นเราเป็นเขาอยู่ ยังคิดว่าสิ่งมีชีวิตมีแค่ร่างกายกับจิตเท่านั้น พระพุทธเจ้าท่านทรงจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นขันธ์5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันแสดงให้เห็นความถึงพร้อมของปัญญา ไม่มีผู้ใดที่เสมอ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2011, 16:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.dantipnippan.com/?cid=144272 ... _id=116623

:b10: :b10: :b10:

ท่าที ทีท่า s006 s006

เกิดอะไรขึ้นระหว่างสื่อ....
:b10: :b10:

การตอบสนองต่อการสนทนาที่....

:b30: :b30: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2011, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างปัญญาตลอดโดยที่สมาธิระดับฌาณก็ไม่มี :b1:
หนำซ้ำความรู้เรื่องจักรวาลวิทยาก็ด้อยมากๆพวกฝรั่งยังมีมากมายกว่านัก Onion_L


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร