ยิ่งพวกเกิดมาไม่เคยเจอด่า เจอแต่ทำชม พอเจอด่าไปหน่อย กิเลสโทสะ เผาขึ้นมาเลย

เราจะแก้ตรงนี้ยังไง

เจอคำชมก็เกิดราคะได้ครับ
ราคะ โทสะ มีโมหะเป็นเหตุ

อสังขตะคือ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ

ทางที่จะทำให้ถึงอสังขตะคือ
- กายคตาสติ
- สมถะและวิปัสสนา
- สมาธิที่มีทั้งวิตกวิจาร สมาธิที่ไม่มีวิตกมีแต่วิจาร สมาธิที่ไม่มีทั้งวิตกวิจาร
- สุญญตสมาธิ อนิมิตตสมาธิ อัปปณิหิตสมาธิ
- สติปัฏฐาน ๔
- สัมมัปปธาน ๔
- อิทธิบาท ๔
- อินทรีย์ ๕
- พละ ๕
- โพชฌงค์ ๗
- อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘

บางคนก็อาจไม่ชอบคำชม แต่ก็ไม่นิยมให้ใครด่า

แต่คำชมที่มาจากมารยา ก็ยังมีค่าไม่เท่ากับคำด่าที่มาจากใจจริง

ไปเป็นอนาคามี...เสีย..ก็สิ้นเรื่อง

โยนลงอนิจจังเลยพ่อหนุ่ม

ถ้าปฏิบัติได้อย่างลึกซึ้ง ถึงความสงบระงับ ย่อมไม่ถูกแทงเพราะคำด่า ย่อมไม่ถูกแทงเพราะคำชม เหตุสลายตัวไปก่อนจะถึงใจเสียอีก

เพราะว่าคำชมนั้นฟังดูรื่นหู

คำด่านั้น มันมีสองอย่างถ้าด่ามาแล้วจริง คือมีจริงอย่บ้างก้ควรฟังแล้วพิจารณาตาม ใช่ก้ยอมรับ
แตถ้าไม่ใช่เรยก้อย่ารับเอาคำด่าไว้ในใจฟังหูใไว้หูแล้วก้ผ่านไป คำด่านั้นมันก้ไม่มีผลอะไรที่จะทำร้ายจิต
ใจผู้นั้นได้

ส่วนคำชมนั้น น่าฟังก้จริง แต่อย่าลืมชมจากใจ หรือเพราะเสแสร้ง บางครั้งชมมาเพื่อหวังประโยชน์อะไรบางอย่าง หรือต้องการให้เราเชื่อใจ แล้วหวังผลจากเรา
เลยมาตีสนิทด้วย คำชม หรือคำสรรเสริญจึงเปนสิ่งที่ฟังเพียงรื่นหูเท่านั้น ส่วนคำด่านั้นถึงฟัง
แล้วไม่สบายใจ แต่ถ้าทบทวนดูดีๆ เหนความจริงที่เขาว่ามา ก้สามารถนำมาแก้ไขตัวเองได้

รสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน

คำชมมันหวาน รื่นหูเนอะ


เราก็เป็นเรื่อยล่ะค่ะ แต่เราก็จะพยายามรีบรู้ตัวแล้วคิดว่า นี่...ใจเราไปเต้นตามเขาอีกแล้วน้อ..แค่เขาพูดอะไรมาก้ทำเราลอยฟ่องก็ได้น้อ บางทีก็เป็นฟืนเป็นไฟน้อ


คิดบ่อยๆ มันก็ดีขึ้นนะคะ ค่อยๆดีขึ้นค่ะ

"คำด่ามันขม คำชมมันหวาน "

แวะเข้ามาอ่าน อนุโมทนากับทุกๆคำตอบที่มีสาระดีๆคะ

แก้ที่ใครหละ ถึงจะพ้นทุกข์