วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 20:09
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่หลังเรียนจบ ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 18:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2011, 10:31
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วง กลางเดือนตุลคม ซึ่ง เป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ
เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ



ถ้าสะดวกจะบวชได้เลยก็ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

แต่ถ้ายังไม่สะดวก ก็ เลื่อนไปก่อนก็ได้ เพื่อความสบายใจ :b8: :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วง กลางเดือนตุลคม ซึ่ง เป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ
เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ



ถ้าบวชแล้วสร้างความไม่สะดวกความทุกข์ แก่ตนเองและครอบครัวนั้นควรเลื่อนไปจนกว่าจะเหมาะสม การบำเพ็ญบุญกุศลมีตั้งมากมายหลายวิธี ทั้งทาน ศีล ภาวนา ไม่ต้องบวชก็ทำได้ แค่รำลึกถึงบุญคุณ คุณแม่ท่านทราบได้ท่านคงอิ่มใจเป็นแน่ แต่ถ้าบวชแล้วจิตใจไม่สงบ ไม่เข้าใจเนื้อแท้แห่งการบวชแล้ว ปฏิบัติไม่บริสุทธิ์แล้ว ไม่เพียงไม่ได้บุญอาจทำให้เกิดวิบากกรรมอีก ขอแสดงความเห็นว่าบวชเมื่อพร้อมเถิดครับตอนนี้มีศรัทธาแล้ว ก็ศึกษาให้เข้าใจและถึงพร้อมด้วยปัญญาและ ความเพียร อนุโมทนาครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วง กลางเดือนตุลคม ซึ่ง เป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ
เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ



ให้แง่คิดอีกมุมหนึ่ง :b1:

ภรรยา จขกท. กำลังท้องจะครบกำหนดคลอดกลางเดือน ต.ค. เมื่อภรรยาคลอดแล้วเราจะปลีกตัวไปไหนยากกว่าตอนนี้ เพราะลูกยังเล็ก บวชเสียช่วงนี้น่าจะสะดวกกว่า มีโอกาสอยู่คนเดียวเงียบๆอาจได้คิดแง่คิดอะไรดีๆ

ส่วนจะบวช 7 วัน 15 วันก็ว่าไป ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไร ให้ภรรยาอยู่กับพ่อแม่เค้าจนกว่าเราจะสึกออกมา จบ...หมดกังวลใจ คือได้บวชให้แม่ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ไม่ต้องรอนานวันคิดหลายตลบอีก วันข้างหน้าไม่มีอะไรแน่นอนครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 19:55
โพสต์: 146


 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่หลังเรียนจบ ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ


ก็แนะนำว่าเอาตามที่คุณสะดวกดีกว่านะครับ

แต่สำหรับผมนะครับ

ผมคิดว่าคุณควรจะรอให้ภรรยาคลอดก่อนดีกว่าครับ และช่วยภรรยาเลี้ยงลูกซัก 1 ปีก่อน แล้วค่อยบวชดีกว่าครับ เพราะจะได้มีคนพาเธอไปโรงพยาบาล มีคนคอยดูแลเอาใจใส่ ผู้หญิงเวลาตั้งครรภ์เธอจะหงุดหงิดมากจนบางครั้งผู้เป็นสามีอาจตามอารมณ์เธอไม่ทันเลยทีเดียวนะครับ และหลังคลอด ภรรยาของคุณร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรงและคงต้องการให้มีคนช่วยดูแลลูก

แต่ถ้าหากมีคนช่วยเลี้ยงลูกก็ดีนะครับ เพราะหลังจาก 1 ปีลังจากนั้น คุณจะได้ไม่ต้องกังเวลว่าภรรยาของคุณจะเลี้ยงลูกเองคนเดียว เพราะการบวชในขณะที่จิตใจยังกังวลหาความสงบไม่ได้ถือเป็นบาปแก่ตัวคุณเองนะครับ เพราะในขณะที่บวช จิตใจคุณก็จะคิดแต่ว่า ภรรยาจะเป็นยังไง ใครจะช่วยเลี้ยงลูก จะอยู่กันยังไง ลูกจะร้องกวนใจมั้ย ลูกจะเป็นไข้หรือเปล่า สบายดีหรือเปล่า แต่หากคุณมีญาติๆช่วยกันดูแล อย่างน้อยคุณก็เบาใจลงได้บ้างนะครับ

การบวชในขณะที่จิตใจยังมีห่วงกังวล เป็นบาป
การบวชด้วยจิตใจที่สงบ ปล่อยวาง เป็นบุญ

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

.....................................................
เก็บธรรมใส่กล่อง.....เรียนรู้จากบัณฑิต.....คบหากัลยาณมิตร.....จิตอ่อนน้อมในพระธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 19:55
โพสต์: 146


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วง กลางเดือนตุลคม ซึ่ง เป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ
เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ



ให้แง่คิดอีกมุมหนึ่ง :b1:

ภรรยา จขกท. กำลังท้องจะครบกำหนดคลอดกลางเดือน ต.ค. เมื่อภรรยาคลอดแล้วเราจะปลีกตัวไปไหนยากกว่าตอนนี้ เพราะลูกยังเล็ก บวชเสียช่วงนี้น่าจะสะดวกกว่า มีโอกาสอยู่คนเดียวเงียบๆอาจได้คิดแง่คิดอะไรดีๆ

ส่วนจะบวช 7 วัน 15 วันก็ว่าไป ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไร ให้ภรรยาอยู่กับพ่อแม่เค้าจนกว่าเราจะสึกออกมา จบ...หมดกังวลใจ คือได้บวชให้แม่ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ไม่ต้องรอนานวันคิดหลายตลบอีก วันข้างหน้าไม่มีอะไรแน่นอนครับ



ลืมถามไปครับ ว่าคุณจะบวชกี่พรรษา ถ้าบวชในระยะสั้น 1 เดือน 2 เดือน ก็ลองพิจารณาของคุณกรัชกายดูนะครับ

.....................................................
เก็บธรรมใส่กล่อง.....เรียนรู้จากบัณฑิต.....คบหากัลยาณมิตร.....จิตอ่อนน้อมในพระธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วง กลางเดือนตุลคม ซึ่ง เป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ
เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ



ให้แง่คิดอีกมุมหนึ่ง :b1:

ภรรยา จขกท. กำลังท้องจะครบกำหนดคลอดกลางเดือน ต.ค. เมื่อภรรยาคลอดแล้วเราจะปลีกตัวไปไหนยากกว่าตอนนี้ เพราะลูกยังเล็ก บวชเสียช่วงนี้น่าจะสะดวกกว่า มีโอกาสอยู่คนเดียวเงียบๆอาจได้คิดแง่คิดอะไรดีๆ

ส่วนจะบวช 7 วัน 15 วันก็ว่าไป ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไร ให้ภรรยาอยู่กับพ่อแม่เค้าจนกว่าเราจะสึกออกมา จบ...หมดกังวลใจ คือได้บวชให้แม่ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ไม่ต้องรอนานวันคิดหลายตลบอีก วันข้างหน้าไม่มีอะไรแน่นอนครับ


แง่นี้ก็ดีนะ ขออภัยในความไม่รอบคอบของผม ผมอ่านกระทู้ไม่ละเอียดทีแรกคิดว่าคุณแม่ท่านเจ้าของกระทู้ท่านเสียไปแล้ว แต่ตอนนี้ท่านยังอยู่แถมชราภาพ ถ้าตอนนี้ท่านพร้อมก็เห็นด้วยกับคุณกรัชกายครับ แต่ควรบวชแล้วศึกษาธรรมบ้างครับเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ขออโหสิในความเข้าใจผิดพลาด อนุโมทนาครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 15:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 20:09
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากครับ
ผมตั้งใจจะบวช 1 พรรษา ถึง 1 ปีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 19:55
โพสต์: 146


 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่หลังเรียนจบ ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ


ก็อยากฝากอันนี้ไว้ด้วยนะครับ

รูปภาพ


และขอเสริมว่าถึงจะล้างกรรมกันได้ แต่ก็ล้างไม่หมดนะครับ แต่อาจเบาบางลงบ้าง สิ่งที่ดีที่สุดคือการกตัญญูต่อท่านให้มากๆครับ

.....................................................
เก็บธรรมใส่กล่อง.....เรียนรู้จากบัณฑิต.....คบหากัลยาณมิตร.....จิตอ่อนน้อมในพระธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2012, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
ผมตั้งใจจะบวช 1 พรรษา ถึง 1 ปีครับ

อย่ากำหนดเวลาครับ ทรมานตนเองเสียเปล่าๆ
บวชแบบกำหนดเวลา เวลาที่เรากำหนดจะไปตัดทอนจิตใจของเราครับ
ถ้าเกินก็ดี ถึงน้อยไปแต่เราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว

บอกเมียไว้ว่าถ้านานเกินไปแล้วพี่ยังไม่สึก ก็ขอให้เมียไปถามว่าหลวงพี่บวชได้กี่พรรษาแล้ว (เป็นอันรู้กันว่าเมียอยากให้สึก) หลังจากนั้นจะอย่างไรก็ค่อยคุยกันต่อ(บวชต่อ/สึก)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2012, 03:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รบกวนถามหน่อยครับ จขกทเขาจะไปรบสามจังหวัดภาคใต้หรือครับ
หรือว่าต้องไปทำงานที่ซาอุฯ พวกเราถึงได้วางแผนชี้แนะกันเสียใหญ่โต
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2012, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
รบกวนถามหน่อยครับ จขกทเขาจะไปรบสามจังหวัดภาคใต้หรือครับ
หรือว่าต้องไปทำงานที่ซาอุฯ พวกเราถึงได้วางแผนชี้แนะกันเสียใหญ่โต


ไม่เป็นการรบกวนขอรับ คือ :b14:
จขกท. เขารบอยู่กับข้าศึกคือกิเลสอยู่ ที่จังหวัดสี่ห้องหัวใจ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2012, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


titisak เขียน:
ผมมีความตั้งใจจะบวชให้แม่หลังเรียนจบ ก่อนที่แม่จะเสีย แต่พอดีภรรยาตั้งท้องพอดี สมควรที่จะบวชหรือไม่อย่างไร เพราะภรรยาจะคลอดช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษา ช่วงที่ผมอยากจะบวชพอดีครับ เลยอยากทราบว่าควรบวชเลยดีไหมหรือว่ารอให้ภรรยาคลอดก่อนแล้วค่อยบวชปีหน้าดีครับ

ถ้าบวชแล้วมีความกังวล อย่าบวช ถ้าจะบวชก็ให้ศึกษาวินัยให้เข้าใจก่อนที่จะบวช


ถ้ามารดาเสียแล้วควรตอบแทนอย่างนี้

[๑๙๙] ดูกรคฤหบดีบุตร มารดาบิดาผู้เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจไว้ว่าท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์สกุล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ ก็หรือเมื่อท่านละไปแล้ว ทำกาลกิริยาแล้ว จักตามเพิ่มให้ซึ่งทักษิณา ๑ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 923&Z=4206

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๙. ปุตตสูตร

[๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มารดา บิดา เล็งเห็นฐานะ ๕ ประการนี้ จึงปรารถนาบุตรเกิดในสกุล ฐานะ ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุตรที่เราเลี้ยงมาแล้วจักเลี้ยงตอบแทน ๑ จักทำกิจแทนเรา ๑ วงศ์สกุลจักดำรงอยู่ได้นาน ๑ บุตร จักปกครองทรัพย์มรดก ๑ เมื่อเราตายไปแล้ว บุตรจักบำเพ็ญทักษิณาทานให้ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย มารดา บิดา เล็งเห็นฐานะ ๕ ประการนี้แล จึงปรารถนาบุตรเกิดในสกุล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร