วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2012, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
การพยายามเน้นชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสมาธินั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่สำคัญ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของมรรค 8 แต่ยังไม่เข้าประเด็นสำคัญของอริยสัจ 4 ซึ่งจะทำให้เกิดผลของความเข้าใจและเห็นธรรมอย่างถูกต้อง
ดิฉันขอบอกได้คำเดียวว่า ท่านมั่วมากเลยเจ้าค่ะ นี่แหละเจ้าค่ะที่เรียกว่าอวิชชา ประเด็นหลักก่อนจะเข้าถึงธรรมมันสมาธิเลยแหละเจ้าค่ะ ไม่เน้นสมาธิก่อนมันจะมีสติทำให้เกิดปัญญาได้อย่างไรเจ้าค่ะ แล้วท่านจะเข้าใจธรรมที่มันลึกซึ้งได้อย่างไร onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 03:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
asoka เขียน:
การพยายามเน้นชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสมาธินั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่สำคัญ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของมรรค 8 แต่ยังไม่เข้าประเด็นสำคัญของอริยสัจ 4 ซึ่งจะทำให้เกิดผลของความเข้าใจและเห็นธรรมอย่างถูกต้อง
ดิฉันขอบอกได้คำเดียวว่า ท่านมั่วมากเลยเจ้าค่ะ นี่แหละเจ้าค่ะที่เรียกว่าอวิชชา ประเด็นหลักก่อนจะเข้าถึงธรรมมันสมาธิเลยแหละเจ้าค่ะ ไม่เน้นสมาธิก่อนมันจะมีสติทำให้เกิดปัญญาได้อย่างไรเจ้าค่ะ แล้วท่านจะเข้าใจธรรมที่มันลึกซึ้งได้อย่างไร onion

คุณน้องคิงคองครับ อย่าไปยุ่งกับคุณโสกะแกเลยครับ แกก็เป็บแบบนี้แหล่ะครับ
ชอบหยิบบทความคนนี้นิด คนนั้นหน่อย แล้วก็โพส ผลที่ออกมาเลยกลายเป็นหัวมังกุ ท้ายมังกร
อ่านแล้วปวดหัวครับ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 21:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




GEDC1812_resize.JPG
GEDC1812_resize.JPG [ 67.52 KiB | เปิดดู 3421 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
...เป็นส่วนหนึ่งของมรรค8 แต่ไม่เข้าประเด็นสำคัญของอริยะสัจ4....
ฮา...อะไรจะปานนั้น
:b32: :b32: :b32:


คุุณไปหัวเราะคุณ asoka เขา แสดงว่าที่เขาพูดมาผิดหรือว่าถูกล่ะครับ
หากผิดแล้วที่ถูกควรจะเป็นยังไงครับช่วยอธิบายในสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้อง
ให้เขาดูได้หรือเปล่าครับ ผมก็อยากรู้นะ


ขอโทษครับ...ไม่ได้เจตนา....ไม่ตอบ...แต่ไม่เห็นจริง ๆ

คือคุณอโสกะ..แก่ไม่เอาสมถะ...สมาธิแก่เลยไม่เน้น....สมาธิมันถึงอยู่นอกเป้าหมายของแก่ไป

แต่ที่แก่ทำอยู่....กลับเป็นสมถะจ๋าเลย...แต่แก่ไม่รู้ :b32:

รู้ตัวทั่วพร้อม...รู้ปัจจุบัน...เฝ้าดูเกิดดับของแก่นั้นแหละ..สมถะจ๋าเลย

น่าขำมั้ยละ?

เลยแซวแก่เล่น ๆ ....เรียกมรรค7เลยไป๊..นั้นแหละ

:b16: :b16: :b16:

:b12:
แซวมาก็แซวกลับเน้อคุณกบ
ที่คุณกบว่าอโศกะไม่เอาสมถะนั้นเกือบใช่แต่ไม่ถูกต้อง
อโศกะไม่เอาสมถะแบบฤาษีและนิคฤนถ์หรือพราหมณ์ฮินดูทั้งหลาย แต่อโศกะเอาสมาธิตามแบบของพระพุทธเจ้าหรือสัมมาสมาธิดังแสดงในมรรค 8

ที่คุณกบมากล่าวตู่ด้วยปัญญาอันหยาบว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นเป็นสมถะจ๋าเลย คุณกบเอาเหตุผลและหลักฐานใดมาอ้างอิง เพราะผมไปดูกรรมฐาน 40 กอง ไม่เห็นมีกองไหนบอกว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นคือการทำสมถกรรมฐาน

ถ้าคุณกบจะเพิ่มความสังเกตพิจารณาลงไปให้ดีจะได้รู้ว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นเป็นการเจริญสติตามสัมมาสติในมรรค 8 เลยทีเดียว คือการเจริญสติปัฏฐาน 4 นั่นเอง
"สติเป็นเหตุสมาธิ" สัมมาสติก็เป็นเหตุสัมมาสมาธิ คุณกบรู้นัยยะของสติปัฏฐาน 4 ไหมหล่ะว่า ประเด็นของสติปัฏฐานทั้ง 4 คือ คำว่า "วิเนยยะโลเก อภิชฌา โทมนัสสัง" คือการเอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลก โลกในความหมายนี้ก็คือสัมผัสสะของทวารทั้ง 6 นั่นเอง ถ้าหยุดยินดียินร้ายได้สิ่งที่จะเกิดเป็นผลคือ อุเบกขา ความวางเฉย เมื่อวางเฉยได้ในทุกสัมผัส ผลที่จะเกิดตามมาคือจิตตั้งมั่นหรือสมาธิจนถึงระดับเอกัคคตาหรือสังขารุเปกขาญาณ นี่คือสมาธิหรืออาจเรียกวาสมถะตามวิธีการของพระพุทธเจ้าก็ได้

onion
ก็เลยขอส่งขำกลับคืนมาให้คุณกบด้วยเน้อ
แล้วไม่เอาผิดเอาถูกกับใครหรอกนะครับ ใครก็ต้องคิดว่าตนเองถูกทุกคนเก่งดีทุกคนนั่นแหละครับถูกของตนแต่จะถูกต้องตามธรรมหรือไม่นี่ต้องใช้สติ ปัญญาวินิจฉัยไต่ตรองตัดสินเอาเอง
ขอให้พากันเอาธรรมเป็นใหญ่เอาธรรมเป็นเครื่องวินิจฉัยตัดสินความกันให้มากแล้วลานธรรมนี้จะสงบเย็น
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 21:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


นั้นมั้ยละ...อย่างที่ผมว่ามั้ยละ....นิ่ง รู้ตัวทั่วพร้อม...มีผล...คือสมถะ

"สติเป็นเหตุสมาธิ"

แต่อโสกะ...รับไม่ได้กับคำว่า...สมถะ...เพราะกลัวจะไปเหมือนกันกับฤาษี :b13:

สมถะ...มันเป็นคำกลาง ๆ นะ..อโสกะ...จะมิจฉา...หรือสัมมา...ก็อยู่ที่ผู้ทำ

ไม่ได้อยู่ที่...คำ...ว่า...สมถะ...หรอก :b12:

asoka เขียน:

แซวมาก็แซวกลับเน้อคุณกบ
ที่คุณกบว่าอโศกะไม่เอาสมถะนั้นเกือบใช่แต่ไม่ถูกต้อง
อโศกะไม่เอาสมถะแบบฤาษีและนิคฤนถ์หรือพราหมณ์ฮินดูทั้งหลาย แต่อโศกะเอาสมาธิตามแบบของพระพุทธเจ้าหรือสัมมาสมาธิดังแสดงในมรรค 8

ที่คุณกบมากล่าวตู่ด้วยปัญญาอันหยาบว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นเป็นสมถะจ๋าเลย คุณกบเอาเหตุผลและหลักฐานใดมาอ้างอิง เพราะผมไปดูกรรมฐาน 40 กอง ไม่เห็นมีกองไหนบอกว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นคือการทำสมถกรรมฐาน

ถ้าคุณกบจะเพิ่มความสังเกตพิจารณาลงไปให้ดีจะได้รู้ว่า "การสำรวมกายใจเอาสติปัญญามานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์"นั้นเป็นการเจริญสติตามสัมมาสติในมรรค 8 เลยทีเดียว คือการเจริญสติปัฏฐาน 4 นั่นเอง
"สติเป็นเหตุสมาธิ
"
สัมมาสติก็เป็นเหตุสัมมาสมาธิ คุณกบรู้นัยยะของสติปัฏฐาน 4 ไหมหล่ะว่า ประเด็นของสติปัฏฐานทั้ง 4 คือ คำว่า "วิเนยยะโลเก อภิชฌา โทมนัสสัง" คือการเอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลก โลกในความหมายนี้ก็คือสัมผัสสะของทวารทั้ง 6 นั่นเอง ถ้าหยุดยินดียินร้ายได้สิ่งที่จะเกิดเป็นผลคือ อุเบกขา ความวางเฉย เมื่อวางเฉยได้ในทุกสัมผัส ผลที่จะเกิดตามมาคือจิตตั้งมั่นหรือสมาธิจนถึงระดับเอกัคคตาหรือสังขารุเปกขาญาณ นี่คือสมาธิหรืออาจเรียกวาสมถะตามวิธีการของพระพุทธเจ้าก็ได้

onion
ก็เลยขอส่งขำกลับคืนมาให้คุณกบด้วยเน้อ
แล้วไม่เอาผิดเอาถูกกับใครหรอกนะครับ ใครก็ต้องคิดว่าตนเองถูกทุกคนเก่งดีทุกคนนั่นแหละครับถูกของตนแต่จะถูกต้องตามธรรมหรือไม่นี่ต้องใช้สติ ปัญญาวินิจฉัยไต่ตรองตัดสินเอาเอง
ขอให้พากันเอาธรรมเป็นใหญ่เอาธรรมเป็นเครื่องวินิจฉัยตัดสินความกันให้มากแล้วลานธรรมนี้จะสงบเย็น
:b8:


ผล...มันคือ..สมาธิ...

เอิ๊ก...เอิ๊ก....เอิ๊ก.... :b32: :b32:

ไม่แซวต่อหรอก....

แต่ขอ...ฮา.. :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 19:55
โพสต์: 146


 ข้อมูลส่วนตัว


แนบไฟล์:
GEDC1812_resize.JPG
GEDC1812_resize.JPG [ 67.52 KiB | เปิดดู 3416 ครั้ง ]

หืม เห็นภาพนี้แล้วสะเทือนใจจริงๆ มีออกในข้อสอบด้วย นี่คือภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

จำได้ลางๆว่าเป็นศิลปะยุคทวาราวดี หรือศรีวิชัยนี่แหละ แล้วอะไรนะ เป็นรูปแบบที่ได้รับอิทธิพล
ศิลปะปัญจาละ หรืออะไรซักอย่าง

แต่ผมตอบถูกแค่ว่า เป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร น่ะ เลยไม่รู้จะได้กี่คะแนนหนอ

.....................................................
เก็บธรรมใส่กล่อง.....เรียนรู้จากบัณฑิต.....คบหากัลยาณมิตร.....จิตอ่อนน้อมในพระธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




067dsq_resize.jpg
067dsq_resize.jpg [ 28.99 KiB | เปิดดู 3416 ครั้ง ]
nongkong เขียน:
asoka เขียน:
การพยายามเน้นชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสมาธินั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่สำคัญ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของมรรค 8 แต่ยังไม่เข้าประเด็นสำคัญของอริยสัจ 4 ซึ่งจะทำให้เกิดผลของความเข้าใจและเห็นธรรมอย่างถูกต้อง
ดิฉันขอบอกได้คำเดียวว่า ท่านมั่วมากเลยเจ้าค่ะ นี่แหละเจ้าค่ะที่เรียกว่าอวิชชา ประเด็นหลักก่อนจะเข้าถึงธรรมมันสมาธิเลยแหละเจ้าค่ะ ไม่เน้นสมาธิก่อนมันจะมีสติทำให้เกิดปัญญาได้อย่างไรเจ้าค่ะ แล้วท่านจะเข้าใจธรรมที่มันลึกซึ้งได้อย่างไร onion

:b16:
ไม่อยากจะมีวาทะกับnongkongเลยเพราะสงสารตั้งแต่ไปเห็นกระทู้ที่พิไรรำพัน เหมือนกับว่าพยายามทำดีแต่กลับมีคนเห็นเป็นร้ายไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรมา ก็น่าจะรู้ตัวเองแล้วนะว่าเพราะชอบไปวิตกวิจารณ์ผู้อื่นโดยไม่พิจารณาให้ละเอียดลึกซึ้งจึงคงมีสักครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งที่ไปประมาทจ้วงจาบพระอริยเจ้าเข้าด้วยความไม่รู้ วิบากกรรมอันนั้นจึงห้ามมรรคห้ามผลห้ามนิพพานถ้าไม่ไปรีบขอขมากรรม
onion
nongkongคงมิได้สังเกตให้ดีๆว่าในลานธรรมจักรช่วงนี้มีบุรุษผู้ยั้งฉุดไม่ได้ไประรานสหธรรมิกและกัลยาณมิตรไปทั่วเพราะคิดว่าความเห็นที่ไปตีความในพระสูตรมาผิดๆของตัวถูกต้องเลยมีเรื่องถกเถียงสนทนากันในประเด็นที่ไม่เข้าประเด็นของหัวใจและหลักการสำคัญของคำสอนของพระพุทธเจ้า
การนำเอาอริยสัจ 4 ขึ้นมาทะลุกลางกระแสครั้งนี้ก็เพื่อดึงสัมปชัญญะให้กลับคืนมาสู่หมู่คณะให้พากันกลับมาพูดคุยสนทนากันในเรื่องของทุกข์......เหตุเกิดทุกข์......ความดับทุกข์......และทางดำเนินไปให้ถึงความดับทุกข์ อันเป็นประเด็นหลักของคำสอนของพระพุทธบิดา
ดังนั้นnongkongจงอย่าได้มากล่าวอย่างมั่วๆโดยไม่คิดพิจารณาให้ดี สิ่งที่น้องคงทำลงไปนี้อาจจะยิ่งกว่าอวิชชา เพราะว่าไปขวางธรรม กรรมอย่างนี้มีผลหนัก พึงพิกถอนเสียโดยเร็วเถิด


แล้วที่คุณโฮฮับมาเออออห่อหมกด้วยก็จงอย่าได้ไปหลงเพลินคิดว่ามีเพื่อน กัลยาณมิตรนั้นไม่ใช่จะพบได้ง่ายๆด้วยวินิจฉัยอันหยาบนะครับ

แล้วอันที่มากล่าวว่า "หลักก่อนจะเข้าถึงธรรมมันสมาธิเลยแหละเจ้าค่ะ ไม่เน้นสมาธิก่อนมันจะมีสติทำให้เกิดปัญญาได้อย่างไร" อันนี้ต้องพิจารณาให้ดีๆ สมาธิที่เป็นมิจฉาสมาธิอย่างฤาษีชีไพรในครั้งพุทธกาลและปัจจุบันไม่ทำให้เกิดปัญญาหลุดพ้นได้ มีแต่จะติดหลงอยู่ในสมาธิสุขและอาตมัน ถ้าสมาธิดีจริง ฤาษีในอินเดียก็บรรลุธรรมกันไปหมดแล้ว
สมาธิที่ดีและถูกต้องต้องมาจากสติปัญญาที่ได้รับการอบรมให้ รู้จักวิชาของพระพุทธเจ้ามาเป็นอย่างดี คืออริยสัจ 4 และมรรค 8 วิปัสสนาภาวนา สติปัฏฐาน 4 โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ นั่นนจึงจะใช่ทาง
ปัญญาต้องนำหน้ามาก่อนเสมอ แล้ว สติ สมาธิจึงจะดีแลถูกต้องตาม ขอจงเข้าใจลำดับแห่งธรรมให้ถูกต้อง มรรค 8 นั้นลองดูให้ดีพระพุทธบิดาทรงเรียงลำดับตามธรรมมาไว้เป็นอย่างดียิ่งแล้วคือ

ปัญญา.......ศีล.......สมาธิ มิใช่ ศีล.....สมาธิ.....ปัญญา ความข้อนี้ต้องกลับไปวิจัย ค้นคว้า พิจารณาให้หนัก พิสูจน์ด้วการปฏิบั้ติจริงให้แน่แล้วจึงจะเข้าใจความนัยอันสำคัญยิ่งนี้


ขอให้พบกัลยาณมิตร มีสติปัญญามีดวงตาธรรมสว่างไสวส่องเห็นทางธรรมอันใช่ตามพุทธวิชาโดยเร็ววันเทอญ :b27:
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
กบพูด ....ผล...มันคือ..สมาธิ...

เอิ๊ก...เอิ๊ก....เอิ๊ก....

ไม่แซวต่อหรอก....

แต่ขอ...ฮา..
cool
แต่มันเป็นสมาธิที่มาจากฐานคนละฐานเลยเน้อคุณกบ ไม่เหมือนสมาธิของฤาษีเน้อ
ดีแล้วที่หยุดแซวไม่อย่างนั้นจะเข้าเนื้อมากกว่านี้

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
กล่องธรรม เขียน:
แนบไฟล์:
GEDC1812_resize.JPG

หืม เห็นภาพนี้แล้วสะเทือนใจจริงๆ มีออกในข้อสอบด้วย นี่คือภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

จำได้ลางๆว่าเป็นศิลปะยุคทวาราวดี หรือศรีวิชัยนี่แหละ แล้วอะไรนะ เป็นรูปแบบที่ได้รับอิทธิพล
ศิลปะปัญจาละ หรืออะไรซักอย่าง

แต่ผมตอบถูกแค่ว่า เป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร น่ะ เลยไม่รู้จะได้กี่คะแนนหนอ

:b12:
คุณกล่องธรรมก็เก่งนะ ที่รู้ว่าเป็นรูปพระโพธิสัตว์ ครั้ังนี้ก็กราบเชิญท่านมาช่วยปราบมารยังไงล่ะครับ
ไม่ต้องการคะแนนอะไรด้วยครับไม่ต้องให้คะแนนใดๆ
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาตแสดงความเห็น

ผมได้อ่านข้อความที่ท่านกบ กับท่านอโศกะ กล่าวนั้นผมกลับมองเห็นว่าเป็นเนื้อเดียวกันในมุมที่แตกต่างเหมือนชิมอ้อยลำเดียวกันที่มีความหวานแต่มองคนละท่อน บางคนมองต้น บางคนมองปลาย

ส่วนเรื่อง ศีล-สมาธิ-ปัญญา ปัญญา-ศีล-สมาธิ นั้นการจะขึ้นต้นด้วยอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ศีล-สมาธิ-ปัญญา ปัญญา-ศีล-สมาธิ สมาธิ-ปัญญา-ศีลนั้น การเคลื่อนไหวในวงล้อแห่งธรรมย่อมเกื้อหนุนกันเติบโตไปเรื่อยๆ บ้างจะเริ่มต้นเน้นหนักทางศีล สมาธิหรือปัญญานั้น ย่อมอยู่ที่อุปนิสัยของจริตแต่ละคน แต่ต้องมีการประกอบกันของธรรมทั้งสาม จึงจะเจริญก้าวหน้าได้

ถ้ามีศีลอย่างเดียว ย่อมเป็นแค่คนดีแต่ไม่อาจดับทุกข์สิ้นเชิง

ถ้ามีสมาธิอย่างเดียว ย่อมเป็นติดสุขแค่ฌาณ

ถ้ามีปัญญาอย่างเดียว ย่อมฟุ้งซ่านและวิตกจริต

ผมรู้สึกว่าเมื่อเวลาเรามีความเข้าใจธรรมในระดับหนึ่งแล้ว

ขณะที่มีปัญญาเข้มแข็งแหลมคม ศีลย่อมบริสุทธิถูกต้อง สมาธิย่อมตั้งมั่นขึ้นมีพลัง

ขณะที่มีศีลบริสุทธิถูกต้อง สมาิธิย่อมตั้งมั่นมีพลัง ปัญญาเข้มแข็งแหลมคมขึ้น

ขณะที่สมาิธิตั้งมั่นขึ้นมีพลัง ปัญญาเข้มแข็งแหลมคม ศีลย่อมบริสุทธิถูกต้องขึ้น

ผมรู้สึกว่าไม่ว่าธรรมใดจะเกิดก่อนก็ตามก็จะส่งเสริมธรรมที่เหลือให้เติบโตก้าวหน้าขึ้นทุกครั้งไป

ผมรู้สึกอยู่อย่างนี้ จริงๆ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ไม่อยากจะมีวาทะกับnongkongเลยเพราะสงสารตั้งแต่ไปเห็นกระทู้ที่พิไรรำพัน เหมือนกับว่าพยายามทำดีแต่กลับมีคนเห็นเป็นร้ายไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรมา ก็น่าจะรู้ตัวเองแล้วนะว่าเพราะชอบไปวิตกวิจารณ์ผู้อื่นโดยไม่พิจารณาให้ละเอียดลึกซึ้งจึงคงมีสักครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งที่ไปประมาทจ้วงจาบพระอริยเจ้าเข้าด้วยความไม่รู้
อ่องั้นหรือเจ้าค่ะ ดิฉันก็เพิ่งทราบว่ากรรมนี้นี่เองที่ให้ ไม่ได้มรรคได้ผล แล้วกรรมที่ดิฉันจาบจ้วงอริยเจ้าด้วยความไม่รู้อย่างที่ท่านอโสกากล่าวหา ดิฉันอโหสิกรรมให้ เพราะท่านคงไม่ได้เจตนาดูหมิ่นไส่ร้ายดิฉัน ดิฉันอภัยทานให้ท่านขอพระรัตนไตรเป็นพยานว่าจิตดิฉันบริสุทธิ์ไม่เคยจาบจ้วงหรือปรามาสอริยเจ้าอย่างที่กล่าวหา ระวังนะเจ้าค่ะกรรมจะตามสนองมาให้ร้ายดิฉัน อ่อมีอีกอย่างดิฉันจะพูดกับท่าน ถ้าจะพูดจาดูหมิ่นดิฉันอีก ดิฉันขอบอกท่านได้เลย ท่านเองนั่นแหละ จะไม่สำเร็จ มรรค ผล นิพพาน คนที่จะมีดวงตาเห็นธรรมจิตใจไม่เหมือนเศษเถ้าธุลีอย่างท่านหรอก เหยียบย้ำผุ้อื่น จิตใจของท่านอกุศลเต็มไปแล้วกิเลศเกินที่ดิฉันจะคาดเดาได้ ก็อิแค่ดิฉันมีความคิดเห็นในธรรมขัดแย้ง ถึงกลับว่าร้ายดิฉัน ตัวท่านนั่นแหละที่ไร้ซึ่งสัมมาทิฏฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ดีแล้วที่หยุดแซวไม่อย่างนั้นจะเข้าเนื้อมากกว่านี้
:b12:

กลัวว่าผมจะแซวอริยะ..รึงั้ย :b13: :b13:

asoka เขียน:
แต่มันเป็นสมาธิที่มาจากฐานคนละฐานเลยเน้อคุณกบ ไม่เหมือนสมาธิของฤาษีเน้อ...

:b12:

คุณอโสกะ...ยังหามิจฉา...หาสัมมา...อยู่อีกหรอ?

ผม..ไม่หาแล้ว :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
nongkongคงมิได้สังเกตให้ดีๆว่าในลานธรรมจักรช่วงนี้มีบุรุษผู้ยั้งฉุดไม่ได้ไประรานสหธรรมิกและกัลยาณมิตรไปทั่วเพราะคิดว่าความเห็นที่ไปตีความในพระสูตรมาผิดๆของตัวถูกต้องเลยมีเรื่องถกเถียงสนทนากันในประเด็นที่ไม่เข้าประเด็นของหัวใจและหลักการสำคัญของคำสอนของพระพุทธเจ้า
การนำเอาอริยสัจ 4 ขึ้นมาทะลุกลางกระแสครั้งนี้ก็เพื่อดึงสัมปชัญญะให้กลับคืนมาสู่หมู่คณะให้พากันกลับมาพูดคุยสนทนากันในเรื่องของทุกข์......เหตุเกิดทุกข์......ความดับทุกข์......และทางดำเนินไปให้ถึงความดับทุกข์ อันเป็นประเด็นหลักของคำสอนของพระพุทธบิดา
ดังนั้นnongkongจงอย่าได้มากล่าวอย่างมั่วๆโดยไม่คิดพิจารณาให้ดี สิ่งที่น้องคงทำลงไปนี้อาจจะยิ่งกว่าอวิชชา เพราะว่าไปขวางธรรม กรรมอย่างนี้มีผลหนัก พึงพิกถอนเสียโดยเร็วเถิด

ดิฉันเข้ามาเพื่อถามแนวทางปฏิบัติ ดิฉันไม่ได้ไปถกธรรมรึสอนธรรมผู้ใด จริตดิฉันไม่เหมือนท่านที่สอนธรรม พอดิฉันมีความเห็นแย้งแทนที่จะอธิบายความวชี้แจงอย่างคนที่มีความรู้ดูทรงภูมิ จริตกลับเป็นมิจฉาทิฏฐิ ปัญญาของท่าน อโสกะได้มาอย่างไรหรอเจ้าค่ะ ถึงได้พิจารณาธรรมได้พอคนอื่นเห็นต่างกลับมาใส่ร้ายหาว่าดิฉันปรามาสจาบจ้วงอริยเจ้าถึงไม่ได้ มรรคได้ผล จะบอกให้ท่านอโสการู้ไว้นะเจ้าค่ะ ปัญญาในทางธรรมคือ สติอบรมจนเป็นสมาธิแล้วจะเกิดปัญญา เพราะดิฉันปฏิบัติออกมาเป็นแบบนี้ แล้วถ้าท่านคิดว่าดิฉันเป็น อวิชชาก็ รอดูกันต่อไปนะเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 23:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:

ขอพระรัตนไตรเป็นพยานว่าจิตดิฉันบริสุทธิ์ไม่เคยจาบจ้วงหรือปรามาสอริยเจ้าอย่างที่กล่าวหา ระวังนะเจ้าค่ะกรรมจะตามสนองมาให้ร้ายดิฉัน


อาจมีคนคิดว่า...ตัวเขาเองเป็นอริยะ...ก็เป็นได้..นะคุณน้องกอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:

ขอพระรัตนไตรเป็นพยานว่าจิตดิฉันบริสุทธิ์ไม่เคยจาบจ้วงหรือปรามาสอริยเจ้าอย่างที่กล่าวหา ระวังนะเจ้าค่ะกรรมจะตามสนองมาให้ร้ายดิฉัน


อาจมีคนคิดว่า...ตัวเขาเองเป็นอริยะ...ก็เป็นได้..นะคุณน้องกอง

:b21: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 23:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
ผมรู้สึกว่าเมื่อเวลาเรามีความเข้าใจธรรมในระดับหนึ่งแล้ว

ขณะที่มีปัญญาเข้มแข็งแหลมคม ศีลย่อมบริสุทธิถูกต้อง สมาธิย่อมตั้งมั่นขึ้นมีพลัง

ขณะที่มีศีลบริสุทธิถูกต้อง สมาิธิย่อมตั้งมั่นมีพลัง ปัญญาเข้มแข็งแหลมคมขึ้น

ขณะที่สมาิธิตั้งมั่นขึ้นมีพลัง ปัญญาเข้มแข็งแหลมคม ศีลย่อมบริสุทธิถูกต้องขึ้น

ผมรู้สึกว่าไม่ว่าธรรมใดจะเกิดก่อนก็ตามก็จะส่งเสริมธรรมที่เหลือให้เติบโตก้าวหน้าขึ้นทุกครั้งไป

ผมรู้สึกอยู่อย่างนี้ จริงๆ :b8:


:b17: :b17: :b17: สาธุ

แต่..อโสกะจะบังคับให้มีแบบเดียว

แบบอื่น...ไม่ใช่

อโสกะจะบังคับให้ทำอย่างง่าย ๆ แบบเดียว...จะบังคับให้สายบุญสายกรรมที่มีเป็นหมื่นเป็นพัน

ให้เป็นแบบเดียว.....แบบอื่นเป็นกิลมัตถานิโยค


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร