วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 23:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 161 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2012, 09:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


และวันที่พระสารีบุตรบรรลุธรรม
เป็นวันที่พระพุทธองค์แสดงโอวาทปาติโมกข์
ซึ่ง เป็นธรรมที่คุกกรุ่นอยู่ในช่วงเวลานั้น
อาจจะว่าเป็นธรรมที่เป็นอธิบดีในวันนั้นก็ว่าได้

อ้างคำพูด:
ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์
(๕๔) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ทรงแสดงพระปาติโมกข์ในที่ประชุมพระภิกษุสงฆ์ดังนี้...

ขันติ* คือความอดทน เป็นตบะ**อย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่า พระนิพพานเป็นธรรมอันยอดเยี่ยม
ผู้ทำร้ายผู้อื่น ผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ.
การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อม การยังจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
การไม่กล่าวร้าย ๑
การไม่ทำร้าย ๑
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑
ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑
การประกอบความเพียรในอธิจิต*** ๑
หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.

(พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูตร)

*ขันติ ความว่า ขึ้นชื่อว่า ความอดทน กล่าวคือ ความอดทน อดกลั้นนี้ เป็นตบะอย่างยิ่ง คืออย่างสูงสุดในพระศาสนานี้
**ตบะ คือการเผาอกุศลธรรมให้หมดสิ้น
***อธิจิต ความว่า ในจิตอันยิ่ง กล่าวคือ จิตที่ประกอบด้วยสมาบัติ ๘

----------------------------------------------------
บทว่า "ปาติโมกข์" ได้แก่ศีลในสิกขาบท. จริงอยู่ ศีลในสิกขาบทนั้น ชื่อว่า ปาติโมกข์ เพราะอรรถว่า ทำบุคคลผู้ปกปักรักษาศีลสิกขาบทนั้น ให้หลุดพ้นจากทุกข์ มีทุกข์ในอบายเป็นต้น. การปิดกั้น ชื่อว่า สังวร ได้แก่ การไม่ล่วงละเมิดทางกายและวาจา. สังวร คือปาติโมกข์ ชื่อว่าปาติโมกข์สังวร.

ภิกษุผู้สำรวม คือ มีกายและวาจาปิดด้วยปาติโมกข์สังวรนั้น จึงชื่อว่า สำรวมด้วยปาติโมกข์สังวร.นี่เป็นการแสดงภาวะที่ภิกษุนั้น ตั้งอยู่ในศีลนั้น.

(อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน เมฆิยสูตร)


ถ้าท่านจะจินตนาการ
ท่านต้องวางตำรา

หลับตาลง น้อมจิตดึงอารมณ์นั้น ๆ ให้มาปรากฎในมโนทวาร
แล้ว ว่ากันแบบสด ๆ เรย
ท่านทำได้ป่าว .. อย่างนี้น่ะ

มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลที่ตรงต่อ ความคิด
แต่มันเป็นเรื่องปัจจัยที่ส่งผลตรงต่อ ใจ

:b6:

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2012, 10:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b16:
กบรู้ไหมว่า "ธรรมในตำรา กับ ธรรมในกายา นั้นต่างกันอย่างไร?
:b10:
เกาะตำราเสียจนแน่นอย่างนี้ จะมีโอกาสได้สัมผัสความจริงบ้างไหมเนี๊ยะ?
:b34:


คุยกันมาตั้งนาน...ก็น่าจะรู้ว่า...ผมรู้เรื่องตำราแย่มาก...
:b3: :b3:

นอกเสียจากว่า..ต้องการอะไรสักอย่าง.. :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 08:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b16:
กบรู้ไหมว่า "ธรรมในตำรา กับ ธรรมในกายา นั้นต่างกันอย่างไร?
:b10:
เกาะตำราเสียจนแน่นอย่างนี้ จะมีโอกาสได้สัมผัสความจริงบ้างไหมเนี๊ยะ?
:b34:


คุยกันมาตั้งนาน...ก็น่าจะรู้ว่า...ผมรู้เรื่องตำราแย่มาก...
:b3: :b3:

นอกเสียจากว่า..ต้องการอะไรสักอย่าง.. :b10:

:b10:
อืม !.....เพิ่งจะทราบชัดว่า กบตัวนี้ไม่เก่งตำรา ตามคำสารภาพ
แต่ เอ้ !....ผมไปเห็นถ้อยคำในบางกะทู้ กบเต้นและร้อง น่าฟังและน่าดู คมคาย ลึกซึ้ง กินใจ ไม่ใช่เล่นๆจริงๆ สงสัยจะเป็นกบนอกกะลาแปลงร่างหรือปล่าวนะกบตัวนั้น ไว้วันหลังจะตัดข้อความดีๆเหล่านั้นมาแปะให้อ่านนะครับ

:b12: :b12: :b12:
ตำรา เป็นเพียงเครื่องมือเสริมปัญญา ที่เป็นสุตตะและจินตมยปัญญา ให้เกิดเป็น ภาวนามยปัญญา ถ้ายึดกอดตำราแน่นเกินไปก็อาจทำให้ไม่เจอธรรมชาติ ของจริง พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีตของท่านก่อนจะข้ามโคตรปุถุชนได้ท่านก็ต้องผ่านด่าน สุตตะ จินตะ อุทธัจจะ ละวางความนึกคิดติดสัญญาไปชั่วคราว จึงได้เกิดโอกาส เข้าถึง ปรมัตถธรรม
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอโศกะ :b12:

ถามนะคะ นิพพาน มีสภาวะเป็นแบบไหนหรือคะ?

ตอบด้วยตัวคุณเอง อย่าไปหยิบยกคำอุปมาอุปมัย ทีมีการเปรียบเทียบนิพพานไว้

หรือ ถ้าอธิบายด้วยตัวเองไม่ได้ อยากจะหยิบยกมา ก็ตามสะดวกค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 21:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
คุณอโศกะ :b12:

ถามนะคะ นิพพาน มีสภาวะเป็นแบบไหนหรือคะ?

ตอบด้วยตัวคุณเอง อย่าไปหยิบยกคำอุปมาอุปมัย ทีมีการเปรียบเทียบนิพพานไว้

หรือ ถ้าอธิบายด้วยตัวเองไม่ได้ อยากจะหยิบยกมา ก็ตามสะดวกค่ะ

:b16:
นิพพานเป็นธรรมธาตุ รู้ยากจากการบอกเล่า ต้องสัมผัสความจริงด้วยตนเอง แต่ถ้าจะพอคืบลามให้เข้าใจได้คร่าวๆ
"นิพพานคือสภาวะที่หมดความปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง" จะสัมผัสของจริงครั้งแรกในชีวิตได้เมื่อ "โสดาปัตติมรรคเกิดขึ้นตัดทำลายสักกายทิฏฐิและวิจิกิจฉาขาดแล้ว โสดาปัตติผลเกิดขึ้น จิตจะได้เสวยนิพพาน 2 - 3 ขณะจิตก่อน หลังจากนั้นถ้าแรงส่งมีมาก ก็อาจดับเข้าเสวยผลคือนิพพานอีก นานมากน้อยแล้วแต่การสร้างสมมาของผู้ปฏิบัติภาวนาแต่ละคน"ที่ไวกว่านั้นคือ....ถ้าใครสามารถเข้าถึง "สังขารุเปกขาญาณ"ได้ ท่านจะได้พบกับสภาวะ "นิพพานชิมลอง" หรือ "นิพพานตัวอย่าง" บางท่านก็เรียกว่า "นิพพานหลอก"
:b8:
คุณวลัยพร จะมีข้อวิตกวิจารณ์อย่างไรอีกก็ขอเรียนเชิญ ด้วยความยินดีนะครับ
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอโศกะ เคยกินยาไหม?

ถ้าเคยกิน จะจำรสชาติของยานั้นๆได้ไหม?

และสามารถ อธิบาย รสชาติของยาที่กินเข้าไปได้ไหม?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 22:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
คุณอโศกะ เคยกินยาไหม?

ถ้าเคยกิน จะจำรสชาติของยานั้นๆได้ไหม?

และสามารถ อธิบาย รสชาติของยาที่กินเข้าไปได้ไหม?

:b8:
อธิบายให้คนที่เคยกินยาอย่างที่ผมกินได้เพราะเขาต้องรู้กับใจแล้วว่ารสยาอย่างนั้นเป็นเช่นไร เหมือนกับอธิบายเรื่องรสเค็มให้คนที่เคยชิมเกลือฟังเขาจะถึงบางอ้อทันที แต่ถ้าไปอธิบายให้ฝรั่งที่ไม่รู้ภาษาไทยฟังด้วยภาษาไทยว่า "เค็ม" เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ฝรั่งคนนั้นคงตอบว่า I don,t know. เพราะสมมุติว่าเค็มที่ใช้ไม่ตรงกับปรมัตถบัญญัติที่ฝรั่งเคยประสบ
:b41:
ส่วนเรื่องที่ว่าจะจำรสยาที่เคยกินได้ไหมนี่ไม่น่าจะต้องถามนะครับ รู้อยู่แก่ใจตนเองอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับคุณวลัยพร ถ้าเคยกินยารสเดียวกับที่ผมเคยกิน แต่ถ้ายัง....คงยากที่จะเข้าใจนะครับ
จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 22:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b46: :b50: :b41: :b41: huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ



งั้นหรือคะ? :b12:


งั้นถามต่อ โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล แตกต่างกันอย่างไร?


โสดาบันมีกี่ประเภท แต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

จะหยิบยกมาจากไหนหรือจะอธิบายด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ แล้วช่วย แปลไทยเป็นไทย ให้ทุกๆคน ที่อ่านแล้ว เข้าใจด้วยนะคะ ไม่ใช่ แบบปัจจัตตัง รู้แล้ว อธิบายให้เห็นเป็นรูปธรรมไม่ได้ เหมือนที่คุณตอบคำถาม เรื่อง สภาวะพระนิพพานมา

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 22:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
asoka เขียน:
จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ



งั้นหรือคะ? :b12:


งั้นถามต่อ โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล แตกต่างกันอย่างไร?


โสดาบันมีกี่ประเภท แต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

จะหยิบยกมาจากไหนหรือจะอธิบายด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ แล้วช่วย แปลไทยเป็นไทย ให้ทุกๆคน ที่อ่านแล้ว เข้าใจด้วยนะคะ ไม่ใช่ แบบปัจจัตตัง รู้แล้ว อธิบายให้เห็นเป็นรูปธรรมไม่ได้ เหมือนที่คุณตอบคำถาม เรื่อง สภาวะพระนิพพานมา

:b12: :b12: :b12:
ก็บอกคุณวลัยพรแล้วไงครับว่า
asoka เขียน:

จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ
:b13:
ส่วนคำถามใหม่นั้น
ที่ Google search นะครับ แนะนำทุกท่านรวมทั้งคุณวลัยพรด้วย ขออาจารย์กูเกิลท่านค้นมาให้อ่านนะครับ อ่านดูหลายๆสำนวนด้วยนะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องการ ตัดมาแปะสักเท่าไหร่ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งนะครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 23:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
walaiporn เขียน:
asoka เขียน:
จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ



งั้นหรือคะ? :b12:


งั้นถามต่อ โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล แตกต่างกันอย่างไร?


โสดาบันมีกี่ประเภท แต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

จะหยิบยกมาจากไหนหรือจะอธิบายด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ แล้วช่วย แปลไทยเป็นไทย ให้ทุกๆคน ที่อ่านแล้ว เข้าใจด้วยนะคะ ไม่ใช่ แบบปัจจัตตัง รู้แล้ว อธิบายให้เห็นเป็นรูปธรรมไม่ได้ เหมือนที่คุณตอบคำถาม เรื่อง สภาวะพระนิพพานมา

:b12: :b12: :b12:
ก็บอกคุณวลัยพรแล้วไงครับว่า
asoka เขียน:

จะถามหรือวิตกวิจารณ์ไปสักแค่ไหน ก็คงได้แต่ความเหนื่อยเปล่าและสับสนเท่านั้นเองครับ
:b13:
ส่วนคำถามใหม่นั้น
ที่ Google search นะครับ แนะนำทุกท่านรวมทั้งคุณวลัยพรด้วย ขออาจารย์กูเกิลท่านค้นมาให้อ่านนะครับ อ่านดูหลายๆสำนวนด้วยนะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องการ ตัดมาแปะสักเท่าไหร่ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งนะครับ
:b8:



กะแล้วว่า จะต้องมีคำตอบ กลับมา ทำนองแบบนี้ ที่ถามๆมาตั้งแต่ต้นน่ะ เพราะคิดอยู่แล้วว่า คุณจะตอบกลับมาแบบไหน ก็เป็นตามที่คิดไว้จริงๆ

คุณว่าคนอื่นถนัดตัดแปะมาตอบ คุณเองก็เช่นกัน ตัดแปะมาตอบ ตั้งแต่ต้นจนจบ


เป็นโสดาบัน แต่เกิดเป็นยักษ์ แบบพระเจ้าพิมพิสาร

กับเป็นโสดาบัน แบบที่คิดๆว่าเป็นกัน(ปัจจัจตัง) แล้วยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารอีกนานเท่าไหร่ไม่รู้


เป็นโสดาบัน แบบพระเจ้าพิมพิสาร ดีกว่าค่ะ อย่างน้อย เกิดไม่เกิน ๗ ชาติ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 23:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโสกะ...กลัว...จะตกหลุมพราง

เพราะคิดว่า..คุณวลัยพรกำลังขุดหลุมพรางดักทางใว้...

นี้เรียกว่า....เพราะคิดไปเอง...แท้ ๆ

ถ้าอโสกะจะพิจารณา...ก็ดูว่าตนกลัวเพราะเหตุใด....กลัวตกหลุม...ตอบแล้วไม่ตรงเป้า...เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน....รังมีแต่จะเสียกับเสีย....ที่กลัวสิ่งเหล่านี้...ก็เพราะมีเรา...มีเราก็มีหน้าเรา...มีหน้าจึงมีกลัวเสียหน้า...พิจารณาให้เห็นเหตุแห่งความกลัว...แบบนี้...ก็เป็นธรรมได้เหมือนกันนะ....

รึอโสกะถนัดแต่นิ่งรู้..ดู..ดูมันไป....เห็นมันก็เป็นปัญญาแล้ว

รึว่า...แม้แต่นิ่งรู้....ตอนตอบไปเมื่อตะกี้...อโสกะก็ไม่ได้ทำ?

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 23:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องโสดาบันเกิดเป็นยักษ์...นี้..ผมงง..งง.

แสดงว่า...คนกับยักษ์...มีสภาพแห่งขันธ์ทั้ง 5 เป็นอย่างเดียวกันไม่ผิดแผกแตกต่าง..

งั้นรึ?.. s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2012, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วทำไม โสดาบันจะเกิดเป็นยักษ์ไม่ได้ ในเมื่อ สวรรค์ชั้น6 ยังมีพญามารได้ อย่างคุนน้องนี่ก็.. ยักษ์ขิณีมาเกิด หนุ่มๆกลัวกันละสิ :b13: :b43:
ปล. ถ้าไม่อยากเกิดเป็นยักษ์ก็อย่ามีโทสะ โมหะ รุนแรง จะได้เกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า แต่อิทธิฤทธิ์ บารมี ต่างกันตรงที่แรงศรัธทรา และความเลื่อมใสในธรรม เพราะฉะนั้นเทวดาบางตนก็บารมีสู้ยักษ์ไม่ได้ อันนี้ก็ปัตจัตตังอีกแหละ รู้ใครรู้มันเด้อ.. :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 05 ก.ค. 2012, 23:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 161 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร