วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 12:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 04:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คุณนี่มันสมองน้อยจริงๆเลยพี่โฮฮับ การปฎิบัติเพื่อสู่การบรรลุเข้าใช้คำว่าฉันทะครับท่าน มีหรือครับฉันทะใช้ในการปฏิบัติไปทำชั่วนะ แต่ถ้าอาการของจิตที่เกิดอยากขึ้นมาเขาเรียกกามฉันทะก็ไม่ผิด คุณลองดูที่ผมเขียนซิครับว่าฉันทะเป็นธรรมกลางๆ

สงสัยคุณชอบดูลิเกแน่ๆ เห็นเป็นศัพท์บาลีเข้าหน่อย ก็นึกว่าเป็นสวรรค์วิมาน
ที่บอกว่าฉัทะเป็นธรรมกลางๆนั้นน่ะ หมายความว่าเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล
มันขึ้นอยู่ว่า จิตที่เป็นประธานหรือจิตแรกปรารถณาอะไร อย่างเช่นเรื่องที่เราเคยคุยกัน
เด็กที่เรียนหมอ ถ้าจิตแรกหรือความตั้งใจเขาต้องการเรียนเพื่อรักษามนุษย์
การเรียนการทดลองต่างๆก็เป็นอิทธิบาทกุศล และฉันทะในอิทธิบาทก็เป็นกุศล
แต่ถ้าเด็กเรียนเพราะ คิดว่าหมอเป็นอาชีพที่มีรายได้มากรวยเร็ว
การเรียนการทดลองเป็นอิทธิบาทที่อกุศลและฉันทะจึงเป็นอกุศลด้วย

bigtoo เขียน:
คุณนี่มันมึนจริงๆเลยยกตัวอย่างพระมาอ้าง คุณนึกว่าผมกลัวอย่างนั้นเหรอครับ ศาสนาแห่งปัญญานะครับ ไม่ใช่ศาสนาแห่งความเชื่อ กามฉันทะใครๆ ไม่เคยได้ยินก็บ้าแล้วคุณนึกว่าผมเด็กน้อยหรือไงยกมาสุ่มสี่สุมห้า

ที่ผมเอาพระมาอ้าง เพราะผมรู้ไงว่าคุณมันเป็นพวก ชอบพูดเอาดีใส่ตัว
ถ้าสิ่งไหนพูดแล้วตัวเองไม่ดูดีก็จะปฏิเสธ แล้วอีกอย่างจะบอกให้ที่คุณบอกว่า
ศาสนาแห่งปัญญา ไม่ใช่ความเชื่อ แค่ธรรมะง่ายๆคุณยังสับสน แล้วการปฏิบัติจะไม่ผิดได้ไง

ศาสนาทุกศาสนาต้องมีความเชื่อครับ ไม่งั้นจะมานับถือทำไม
แต่พุทธศาสนาแตกต่างจากเขา เพราะพุทธศาสนาต้องเชื่อด้วยปัญญาครับ

ถ้าคุณไม่เชื่อแล้วใส่บาตรทำไมครับ แล้วบุคคลที่คุณใส่บาตรเป็นพระสงฆ์
พระสงฆ์มีหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่เชื่อพระสงฆ์แล้วมา
นับถือศาสนาพุทธทำไม แล้วที่บอกว่าใส่บาตรก็ขี้โม้ละซิ :b32:
bigtoo เขียน:
อิทธิบาทสี่มันเป็นโพธิปักขิยธรรมนะคุณ เป็นองค์ของมรรค ไม่ใช่ทางเดินโจร ฉันทะแปลว่าความพอใจ ถ้าตีง่ายอย่างนี้ก็ถูก แต่ไม่ใช่การปฏิบัติครับท่าน Onion_L Onion_L คุณเคยได้ยินเหรอครับโจรมันมีฉันทะมากเลย มันมีวิริยะ มันมีจิตตะ มันมีวิมังสา ถ้ามันมีมันจะโดนเขายิงตายเหรอ บ้าไปแล้ว

ในโพธิปักขิยธรรมน่ะ ทำไมพระพุทธองค์ต้องเน้น ธรรมที่เป็นประธาน
และธรรมที่เป็นประธาน ก็คือ สัมมัปปธานสี่

เพราะว่าสัมมัปปธานเป็นธรรมที่เน้นใจให้เป็นกุศล เพื่อให้ธรรมที่ตามมา คืออิทธิบาทสี่
ก็เป็นกุศลด้วย
พวกโจรทำอิทธิบาทสี่ด้วยใจที่เป็นอกุศลนำ อิทธิบาทและฉันทะจึงเป็นอกุศลตามตัวนำ

ใจรมันมีฉันทะ วิริยะ จิตตะและวิมังสามากกว่าคนธรรมดาซะอีก เพราะมันกลัวถูกยิงตาย
แบบที่คุณประชดไง มันจะปล้นจะฆ่าใคร ต้องวางแผน ต้องระแวดระวังหาลู่ทาง
หลบหนีสารพัด ถ้าพลาดก็ติดคุกหรือไม่ก็ถูกวิสามัญ เข้าใจมั้ย
bigtoo เขียน:
พี่โฮตั้งสติดีๆๆทีผมบอกว่าปรารถนาเป็นฉันทะ คุณบอกว่าไม่ใช่ฉันทะเป็นอิทธิบาท4ข้อปฎิบัติในองค์มรรค ผมก็เลยหยุดต่เพราะผมรู้ว่าเป็นอย่างนั้น ที่ผมบอกว่าเป็นข้อปฎิบัติในองค์มรรคคุณก็ไปอีกแนวหนึ่งตกลงใครหลงกัน :b19: และที่ยกพระมาอ้างนะครับคุณศึกษาศาสนาเข้าใจลึกขนาดไหน ผมเคารพด้วยควาเป็นสรณะ ไม่ยึดติดตัวบุคคล พระบวชใหม่ยังไม่ได้อ่าธรรมมะสักบทผมก็กราบ พระดูดบุหรี่ผมก็กราบเพราะกราบเพราะเป็นสรณะครับไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ถ้ายึดติดตัวบุคคลแล้วจะหากราบใครดีกราบตัวเองไม่ดีกว่าเหรอครับ พอเข้าใจนะ คำที่คุณcopyมานั้นทำไม่ไม่เอามาเฉยๆล่ะยกพระมาเพื่ออะไร ที่ไหนมันก็มี
คุณกำลังคิดอะไรหรือ รู้นะคิดอะไรอยู่

ไอ้ทีคุณทำอยู่นั้นแหล่ะ เขาเรียกยึดตัวบุคคล แค่เห็นคนใส่ผ้าเหลืองก็กราบ
ไม่ดูตาม้าตาเรือ เป็นแบบนั้นผมว่า คุณไปนับถือผีแบบพวกคนป่าดีกว่ามั้ง
จะได้ไม่เปลืองข้าวใส่บาตร แต่ถ้าเป็นการใส่บาตรเพื่อสร้างภาพก็ตามใจคุณครับ

เราชาวพุทธนับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่อยู่แล้ว
พระองต์บอกให้เอาธรรมะเป็นตัวแทนพระองค์ แล้วพระสงฆ์มีหน้าที่
ถ่ายทอดพระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่เรานับพระสงฆ์ก็เพราะในส่วนนี้
ไม่ใช่ไปนับถือเพราะท่านใส่ผ้าเหลือง
9d]ตกลงผมบ้าใช่มั้ยพี่โฮ ตอนแรกผมปรารถนาพระนิพาน ผมบอกเป็นฉันทะจะทำความดีสักหน่อย ท่านบอกว่าเป็นความอยากเป็นกิเลส ผมก็เงียบขี้เกียลเถียง
ตอนนี้คุนบอกว่าโจรเป็นฉันทะ คุณกลับว่าโจรเป็นฉันทะ ฉันทะนั้นถ้าดูโดยนัยแล้วเป็นอาการทางจิตที่ว่าธรรมเป็นกลางๆนั้นคือ อกุศลก็ได้ กุศลก็ได้ คำว่ากามฉันทะนั้นใครๆเขาก็รู้ แต่มันจบลงแค่ตรงนั้น แต่ฉันทะนั้นเขาใช่ในเรื่องปฎิบัติในมรรคเท่านั้นอิทธิบาท4นั้นท่านหมาย บาทแห่งความสำเร็จซึ่งมีคุณธรรมเท่านั้นและต้องเป็นในมรรคเท่านั้นด้วย ส่วนการสำเร็จของโจรนั้นมันล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว ถึงมันทำงานเสร็จมันก็ล้มเหลวอยู่ดี ฉนั้นขอให้เข้าใจตรงนี้นะครับ ส่วนที่เป็นอกุศลนั้นเรียกตัณหาก็เท่านี้เอง ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไร ก็แล้วแต่ใคร ยกตัวอย่างมาได้จะเป็นใครก็ยกมาได้ทำไมต้องบอกว่าผมจะโต้แย้งมั้ยเห็นเป็นเจ้าคุณประยุท คุณนี่แปลกจริงๆ ผมจะไปเถียงท่านทำไม มันเป็นแค่ความหมาย ขนาดพระสารีบุตร ให้ความสำคุญทางทำผิดเลยขนาดเป็นพระอรหันต์พระองค์ก็ทรงตำหนิซะแรงเลย ไม่ไม่ใช่ว่าใครตีความผิดแล้วเป็นอรหันต์ไม่ได้ มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนการยึดติดในตัวบุคคลนั้นหมายความว่าอย่างนี้ เราเชื่อว่าพระรูปนั้นมีคุณธรรมสูง เราก็จะใส่บาตรแต่องค์นั้น องค์อื่นเราไม่ใส่อันนี้ต่างหากล่ะครับคนถึงแห่กันไปเต็มวัด แย่งกันใส่แต่องค์เดียว นี่ต่างหากยึอดิด แต่มันเป็นสิทธิของเขา มันก็ไม่ผิด (ส่วผมที่ทำอยู่องค์ไหนก็ได้เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้ว เห็นตรงไหนเป็นกุศลก็ทำได้ตามกำลังที่ทำได้ก็เท่านั้นพี่โฮฮับ ผมหลงตรงไหน(การบรรลุธรรมนะมันไม่ต้องวิ่งไปทางไหนหรอกมันอยู่ในการเรานี่แหละ แต่คนที่เขาบรรลุแล้วมันหนีกระทำความดีไม่ได้หรอกนะครับ เพราะมันเป็นปกติของคุณธรรมของอริยชนทั้งหลาย ขอทำความเข้าใจไว้แค่นี้ และเรื่องที่คุณมองภาพผมนั้นชอบเอาดีใส่ตัวนั้น คิดได้อย่างไรคำนี้สำหรับนักปฎิบัติธรรม อันไหนดีก็บอกกัน เผื่อเหลือเผื่อขาดก็จะได้เติมกัน ใครทำอยู่แล้วก็อนุโมทนากันไปก็เท่านั้นเอง :b38: :b38: :b38: เห็นตื่นเช้าดีชงกาแฟให้3แก้วเลยอิๆๆ :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 30 ก.ค. 2012, 04:56, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 04:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คุณนี่มันสมองน้อยจริงๆเลยพี่โฮฮับ การปฎิบัติเพื่อสู่การบรรลุเข้าใช้คำว่าฉันทะครับท่าน มีหรือครับฉันทะใช้ในการปฏิบัติไปทำชั่วนะ แต่ถ้าอาการของจิตที่เกิดอยากขึ้นมาเขาเรียกกามฉันทะก็ไม่ผิด คุณลองดูที่ผมเขียนซิครับว่าฉันทะเป็นธรรมกลางๆ

สงสัยคุณชอบดูลิเกแน่ๆ เห็นเป็นศัพท์บาลีเข้าหน่อย ก็นึกว่าเป็นสวรรค์วิมาน
ที่บอกว่าฉัทะเป็นธรรมกลางๆนั้นน่ะ หมายความว่าเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล
มันขึ้นอยู่ว่า จิตที่เป็นประธานหรือจิตแรกปรารถณาอะไร อย่างเช่นเรื่องที่เราเคยคุยกัน
เด็กที่เรียนหมอ ถ้าจิตแรกหรือความตั้งใจเขาต้องการเรียนเพื่อรักษามนุษย์
การเรียนการทดลองต่างๆก็เป็นอิทธิบาทกุศล และฉันทะในอิทธิบาทก็เป็นกุศล
แต่ถ้าเด็กเรียนเพราะ คิดว่าหมอเป็นอาชีพที่มีรายได้มากรวยเร็ว
การเรียนการทดลองเป็นอิทธิบาทที่อกุศลและฉันทะจึงเป็นอกุศลด้วย

bigtoo เขียน:
คุณนี่มันมึนจริงๆเลยยกตัวอย่างพระมาอ้าง คุณนึกว่าผมกลัวอย่างนั้นเหรอครับ ศาสนาแห่งปัญญานะครับ ไม่ใช่ศาสนาแห่งความเชื่อ กามฉันทะใครๆ ไม่เคยได้ยินก็บ้าแล้วคุณนึกว่าผมเด็กน้อยหรือไงยกมาสุ่มสี่สุมห้า

ที่ผมเอาพระมาอ้าง เพราะผมรู้ไงว่าคุณมันเป็นพวก ชอบพูดเอาดีใส่ตัว
ถ้าสิ่งไหนพูดแล้วตัวเองไม่ดูดีก็จะปฏิเสธ แล้วอีกอย่างจะบอกให้ที่คุณบอกว่า
ศาสนาแห่งปัญญา ไม่ใช่ความเชื่อ แค่ธรรมะง่ายๆคุณยังสับสน แล้วการปฏิบัติจะไม่ผิดได้ไง

ศาสนาทุกศาสนาต้องมีความเชื่อครับ ไม่งั้นจะมานับถือทำไม
แต่พุทธศาสนาแตกต่างจากเขา เพราะพุทธศาสนาต้องเชื่อด้วยปัญญาครับ

ถ้าคุณไม่เชื่อแล้วใส่บาตรทำไมครับ แล้วบุคคลที่คุณใส่บาตรเป็นพระสงฆ์
พระสงฆ์มีหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่เชื่อพระสงฆ์แล้วมา
นับถือศาสนาพุทธทำไม แล้วที่บอกว่าใส่บาตรก็ขี้โม้ละซิ :b32:
bigtoo เขียน:
อิทธิบาทสี่มันเป็นโพธิปักขิยธรรมนะคุณ เป็นองค์ของมรรค ไม่ใช่ทางเดินโจร ฉันทะแปลว่าความพอใจ ถ้าตีง่ายอย่างนี้ก็ถูก แต่ไม่ใช่การปฏิบัติครับท่าน Onion_L Onion_L คุณเคยได้ยินเหรอครับโจรมันมีฉันทะมากเลย มันมีวิริยะ มันมีจิตตะ มันมีวิมังสา ถ้ามันมีมันจะโดนเขายิงตายเหรอ บ้าไปแล้ว

ในโพธิปักขิยธรรมน่ะ ทำไมพระพุทธองค์ต้องเน้น ธรรมที่เป็นประธาน
และธรรมที่เป็นประธาน ก็คือ สัมมัปปธานสี่

เพราะว่าสัมมัปปธานเป็นธรรมที่เน้นใจให้เป็นกุศล เพื่อให้ธรรมที่ตามมา คืออิทธิบาทสี่
ก็เป็นกุศลด้วย
พวกโจรทำอิทธิบาทสี่ด้วยใจที่เป็นอกุศลนำ อิทธิบาทและฉันทะจึงเป็นอกุศลตามตัวนำ

ใจรมันมีฉันทะ วิริยะ จิตตะและวิมังสามากกว่าคนธรรมดาซะอีก เพราะมันกลัวถูกยิงตาย
แบบที่คุณประชดไง มันจะปล้นจะฆ่าใคร ต้องวางแผน ต้องระแวดระวังหาลู่ทาง
หลบหนีสารพัด ถ้าพลาดก็ติดคุกหรือไม่ก็ถูกวิสามัญ เข้าใจมั้ย
bigtoo เขียน:
พี่โฮตั้งสติดีๆๆทีผมบอกว่าปรารถนาเป็นฉันทะ คุณบอกว่าไม่ใช่ฉันทะเป็นอิทธิบาท4ข้อปฎิบัติในองค์มรรค ผมก็เลยหยุดต่เพราะผมรู้ว่าเป็นอย่างนั้น ที่ผมบอกว่าเป็นข้อปฎิบัติในองค์มรรคคุณก็ไปอีกแนวหนึ่งตกลงใครหลงกัน :b19: และที่ยกพระมาอ้างนะครับคุณศึกษาศาสนาเข้าใจลึกขนาดไหน ผมเคารพด้วยควาเป็นสรณะ ไม่ยึดติดตัวบุคคล พระบวชใหม่ยังไม่ได้อ่าธรรมมะสักบทผมก็กราบ พระดูดบุหรี่ผมก็กราบเพราะกราบเพราะเป็นสรณะครับไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ถ้ายึดติดตัวบุคคลแล้วจะหากราบใครดีกราบตัวเองไม่ดีกว่าเหรอครับ พอเข้าใจนะ คำที่คุณcopyมานั้นทำไม่ไม่เอามาเฉยๆล่ะยกพระมาเพื่ออะไร ที่ไหนมันก็มี
คุณกำลังคิดอะไรหรือ รู้นะคิดอะไรอยู่

ไอ้ทีคุณทำอยู่นั้นแหล่ะ เขาเรียกยึดตัวบุคคล แค่เห็นคนใส่ผ้าเหลืองก็กราบ
ไม่ดูตาม้าตาเรือ เป็นแบบนั้นผมว่า คุณไปนับถือผีแบบพวกคนป่าดีกว่ามั้ง
จะได้ไม่เปลืองข้าวใส่บาตร แต่ถ้าเป็นการใส่บาตรเพื่อสร้างภาพก็ตามใจคุณครับ

เราชาวพุทธนับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่อยู่แล้ว
พระองต์บอกให้เอาธรรมะเป็นตัวแทนพระองค์ แล้วพระสงฆ์มีหน้าที่
ถ่ายทอดพระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่เรานับพระสงฆ์ก็เพราะในส่วนนี้
ไม่ใช่ไปนับถือเพราะท่านใส่ผ้าเหลือง
9d]ตกลงผิมบ้าใช่มั้ยพี่โฮ ตอนแรกผมปรารถนาพระนิพาน ผมบอกเป็นฉันทะจะทำความดีสักหน่อย ท่านบอกว่าเป็นความยากเป็นกิเลส ผมก็เงียบขี้เกียลเถียง
ตอนนี้คุนบอกว่าโจรเป็นฉันทะ คุณกลับว่าโจรเป็นฉันทะ ฉันทะนั้นถ้าดูโดยนัยแล้วเป็นอาการทางจิตที่ว่าธรรมเป็นกลางๆนั้นคือ อกุศลก็ได้ กุศลก็ได้ คำว่ากามฉันทะนั้นใครๆเขาก็รู้ แต่มันจบลงแค่ตรงนั้น แต่ฉันทะนั้นเขาใช่ในเรื่องปฎิบัติในมรรคเท่านั้นอิทธิบาท4นั้นท่านหมาย บาทแห่งความสำเร็จซึ่งมีคุณธรรมเท่านั้นและต้องเป็นในมรรคเท่านั้นด้วย ส่วนการสำเร็จของโจรนั้นมันล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว ถึงมันทำงานเสร็จมันก็ล้มเหลวอยู่ดี ฉนั้นขอให้เข้าใจตรงนี้นะครับ ส่วนที่เป็นอกุศลนั้นเรียกตัณหาก็เท่านี้เอง ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไร ก็แล้วแต่ใคร ยกตัวอย่างมาได้จะเป็นใครก็ยกมาได้ทำไมต้องบอกว่าผมจะโต้แย้งมั้ยเห็นเป็นเจ้าคุณประยุท คุณนี่แปลกจริงๆ ผมจะไปเถียงท่านทำไม มันเป็นแค่ความหมาย ขนาดพระสารีบุตร ให้ความสำคุญทางทำผิดเลยขนาดเป็นพระอรหันต์พระองค์ก็ทรงตำหนิซะแรงเลย ไม่ไม่ใช่ว่าใครตีความผิดแล้วเป็นอรหันต์ไม่ได้ มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนการยึดติดในตัวบุคคลนั้นหมายความว่าอย่างนี้ เราเชื่อว่าพระรูปนั้นมีคุณธรรมสูง เราก็จะใส่บาตรแต่องค์นั้น องค์อื่นเราไม่ใส่อันนี้ต่างหากล่ะครับคนถึงแห่กันไปเต็มวัด แย่งกันใส่แต่องค์เดียว นี่ต่างหากยึอดิด แต่มันเป็นสิทธิของเขา มันก็ไม่ผิด (ส่วผมที่ทำอยู่องค์ไหนก็ได้เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้ว เห็นตรงไหนเป็นกุศลก็ทำได้ตามกำลังที่ทำได้ก็เท่านั้นพี่โฮฮับ ผมหลงตรงไหน(การบรรลุธรรมนะมันไม่ต้องวิ่งไปทางไหนหรอกมันอยู่ในการเรานี่แหละ แต่คนที่เขาบรรลุแล้วมันหนีกระทำความดีไม่ได้หรอกนะครับ เพราะมันเป็นปกติของคุณธรรมของอริยชนทั้งหลาย ขอทำความเข้าใจไว้แค่นี้ และเรื่องที่คุณมองภาพผมนั้นชอบเอาดีใส่ตัวนั้น คิดได้อย่างไรคำนี้สำหรับนักปฎิบัติธรรม อันไหนดีก็บอกกัน เผื่อเหลือเผื่อขาดก็จะได้เติมกัน ใครทำอยู่แล้วก็อนุโมทนากันไปก็เท่านั้นเอง :b38: :b38: :b38: เห็นตื่นเช้าดีชงกาแฟให้3แก้วเลยอิๆๆ :b12:

แนะนำจะคุยธรรม ต้องระวังอย่าฟุ้งธรรม การแสดงความเห็นของคุณ
มันเป็นลักษณะของคนฟุ้งธรรม ฟุ้งซ่านปรุงแต่ง ไม่มีสาระในธรรม
พูดง่ายๆเอาแต่เนื้อน้ำไม่เอา เข้าใจมั้ย :b13:


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 04:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
คุณนี่มันสมองน้อยจริงๆเลยพี่โฮฮับ การปฎิบัติเพื่อสู่การบรรลุเข้าใช้คำว่าฉันทะครับท่าน มีหรือครับฉันทะใช้ในการปฏิบัติไปทำชั่วนะ แต่ถ้าอาการของจิตที่เกิดอยากขึ้นมาเขาเรียกกามฉันทะก็ไม่ผิด คุณลองดูที่ผมเขียนซิครับว่าฉันทะเป็นธรรมกลางๆ

สงสัยคุณชอบดูลิเกแน่ๆ เห็นเป็นศัพท์บาลีเข้าหน่อย ก็นึกว่าเป็นสวรรค์วิมาน
ที่บอกว่าฉัทะเป็นธรรมกลางๆนั้นน่ะ หมายความว่าเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล
มันขึ้นอยู่ว่า จิตที่เป็นประธานหรือจิตแรกปรารถณาอะไร อย่างเช่นเรื่องที่เราเคยคุยกัน
เด็กที่เรียนหมอ ถ้าจิตแรกหรือความตั้งใจเขาต้องการเรียนเพื่อรักษามนุษย์
การเรียนการทดลองต่างๆก็เป็นอิทธิบาทกุศล และฉันทะในอิทธิบาทก็เป็นกุศล
แต่ถ้าเด็กเรียนเพราะ คิดว่าหมอเป็นอาชีพที่มีรายได้มากรวยเร็ว
การเรียนการทดลองเป็นอิทธิบาทที่อกุศลและฉันทะจึงเป็นอกุศลด้วย

bigtoo เขียน:
คุณนี่มันมึนจริงๆเลยยกตัวอย่างพระมาอ้าง คุณนึกว่าผมกลัวอย่างนั้นเหรอครับ ศาสนาแห่งปัญญานะครับ ไม่ใช่ศาสนาแห่งความเชื่อ กามฉันทะใครๆ ไม่เคยได้ยินก็บ้าแล้วคุณนึกว่าผมเด็กน้อยหรือไงยกมาสุ่มสี่สุมห้า

ที่ผมเอาพระมาอ้าง เพราะผมรู้ไงว่าคุณมันเป็นพวก ชอบพูดเอาดีใส่ตัว
ถ้าสิ่งไหนพูดแล้วตัวเองไม่ดูดีก็จะปฏิเสธ แล้วอีกอย่างจะบอกให้ที่คุณบอกว่า
ศาสนาแห่งปัญญา ไม่ใช่ความเชื่อ แค่ธรรมะง่ายๆคุณยังสับสน แล้วการปฏิบัติจะไม่ผิดได้ไง

ศาสนาทุกศาสนาต้องมีความเชื่อครับ ไม่งั้นจะมานับถือทำไม
แต่พุทธศาสนาแตกต่างจากเขา เพราะพุทธศาสนาต้องเชื่อด้วยปัญญาครับ

ถ้าคุณไม่เชื่อแล้วใส่บาตรทำไมครับ แล้วบุคคลที่คุณใส่บาตรเป็นพระสงฆ์
พระสงฆ์มีหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่เชื่อพระสงฆ์แล้วมา
นับถือศาสนาพุทธทำไม แล้วที่บอกว่าใส่บาตรก็ขี้โม้ละซิ :b32:
bigtoo เขียน:
อิทธิบาทสี่มันเป็นโพธิปักขิยธรรมนะคุณ เป็นองค์ของมรรค ไม่ใช่ทางเดินโจร ฉันทะแปลว่าความพอใจ ถ้าตีง่ายอย่างนี้ก็ถูก แต่ไม่ใช่การปฏิบัติครับท่าน Onion_L Onion_L คุณเคยได้ยินเหรอครับโจรมันมีฉันทะมากเลย มันมีวิริยะ มันมีจิตตะ มันมีวิมังสา ถ้ามันมีมันจะโดนเขายิงตายเหรอ บ้าไปแล้ว

ในโพธิปักขิยธรรมน่ะ ทำไมพระพุทธองค์ต้องเน้น ธรรมที่เป็นประธาน
และธรรมที่เป็นประธาน ก็คือ สัมมัปปธานสี่

เพราะว่าสัมมัปปธานเป็นธรรมที่เน้นใจให้เป็นกุศล เพื่อให้ธรรมที่ตามมา คืออิทธิบาทสี่
ก็เป็นกุศลด้วย
พวกโจรทำอิทธิบาทสี่ด้วยใจที่เป็นอกุศลนำ อิทธิบาทและฉันทะจึงเป็นอกุศลตามตัวนำ

ใจรมันมีฉันทะ วิริยะ จิตตะและวิมังสามากกว่าคนธรรมดาซะอีก เพราะมันกลัวถูกยิงตาย
แบบที่คุณประชดไง มันจะปล้นจะฆ่าใคร ต้องวางแผน ต้องระแวดระวังหาลู่ทาง
หลบหนีสารพัด ถ้าพลาดก็ติดคุกหรือไม่ก็ถูกวิสามัญ เข้าใจมั้ย
bigtoo เขียน:
พี่โฮตั้งสติดีๆๆทีผมบอกว่าปรารถนาเป็นฉันทะ คุณบอกว่าไม่ใช่ฉันทะเป็นอิทธิบาท4ข้อปฎิบัติในองค์มรรค ผมก็เลยหยุดต่เพราะผมรู้ว่าเป็นอย่างนั้น ที่ผมบอกว่าเป็นข้อปฎิบัติในองค์มรรคคุณก็ไปอีกแนวหนึ่งตกลงใครหลงกัน :b19: และที่ยกพระมาอ้างนะครับคุณศึกษาศาสนาเข้าใจลึกขนาดไหน ผมเคารพด้วยควาเป็นสรณะ ไม่ยึดติดตัวบุคคล พระบวชใหม่ยังไม่ได้อ่าธรรมมะสักบทผมก็กราบ พระดูดบุหรี่ผมก็กราบเพราะกราบเพราะเป็นสรณะครับไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ถ้ายึดติดตัวบุคคลแล้วจะหากราบใครดีกราบตัวเองไม่ดีกว่าเหรอครับ พอเข้าใจนะ คำที่คุณcopyมานั้นทำไม่ไม่เอามาเฉยๆล่ะยกพระมาเพื่ออะไร ที่ไหนมันก็มี
คุณกำลังคิดอะไรหรือ รู้นะคิดอะไรอยู่

ไอ้ทีคุณทำอยู่นั้นแหล่ะ เขาเรียกยึดตัวบุคคล แค่เห็นคนใส่ผ้าเหลืองก็กราบ
ไม่ดูตาม้าตาเรือ เป็นแบบนั้นผมว่า คุณไปนับถือผีแบบพวกคนป่าดีกว่ามั้ง
จะได้ไม่เปลืองข้าวใส่บาตร แต่ถ้าเป็นการใส่บาตรเพื่อสร้างภาพก็ตามใจคุณครับ

เราชาวพุทธนับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่อยู่แล้ว
พระองต์บอกให้เอาธรรมะเป็นตัวแทนพระองค์ แล้วพระสงฆ์มีหน้าที่
ถ่ายทอดพระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่เรานับพระสงฆ์ก็เพราะในส่วนนี้
ไม่ใช่ไปนับถือเพราะท่านใส่ผ้าเหลือง
9d]ตกลงผิมบ้าใช่มั้ยพี่โฮ ตอนแรกผมปรารถนาพระนิพาน ผมบอกเป็นฉันทะจะทำความดีสักหน่อย ท่านบอกว่าเป็นความยากเป็นกิเลส ผมก็เงียบขี้เกียลเถียง
ตอนนี้คุนบอกว่าโจรเป็นฉันทะ คุณกลับว่าโจรเป็นฉันทะ ฉันทะนั้นถ้าดูโดยนัยแล้วเป็นอาการทางจิตที่ว่าธรรมเป็นกลางๆนั้นคือ อกุศลก็ได้ กุศลก็ได้ คำว่ากามฉันทะนั้นใครๆเขาก็รู้ แต่มันจบลงแค่ตรงนั้น แต่ฉันทะนั้นเขาใช่ในเรื่องปฎิบัติในมรรคเท่านั้นอิทธิบาท4นั้นท่านหมาย บาทแห่งความสำเร็จซึ่งมีคุณธรรมเท่านั้นและต้องเป็นในมรรคเท่านั้นด้วย ส่วนการสำเร็จของโจรนั้นมันล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว ถึงมันทำงานเสร็จมันก็ล้มเหลวอยู่ดี ฉนั้นขอให้เข้าใจตรงนี้นะครับ ส่วนที่เป็นอกุศลนั้นเรียกตัณหาก็เท่านี้เอง ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไร ก็แล้วแต่ใคร ยกตัวอย่างมาได้จะเป็นใครก็ยกมาได้ทำไมต้องบอกว่าผมจะโต้แย้งมั้ยเห็นเป็นเจ้าคุณประยุท คุณนี่แปลกจริงๆ ผมจะไปเถียงท่านทำไม มันเป็นแค่ความหมาย ขนาดพระสารีบุตร ให้ความสำคุญทางทำผิดเลยขนาดเป็นพระอรหันต์พระองค์ก็ทรงตำหนิซะแรงเลย ไม่ไม่ใช่ว่าใครตีความผิดแล้วเป็นอรหันต์ไม่ได้ มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนการยึดติดในตัวบุคคลนั้นหมายความว่าอย่างนี้ เราเชื่อว่าพระรูปนั้นมีคุณธรรมสูง เราก็จะใส่บาตรแต่องค์นั้น องค์อื่นเราไม่ใส่อันนี้ต่างหากล่ะครับคนถึงแห่กันไปเต็มวัด แย่งกันใส่แต่องค์เดียว นี่ต่างหากยึอดิด แต่มันเป็นสิทธิของเขา มันก็ไม่ผิด (ส่วผมที่ทำอยู่องค์ไหนก็ได้เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้ว เห็นตรงไหนเป็นกุศลก็ทำได้ตามกำลังที่ทำได้ก็เท่านั้นพี่โฮฮับ ผมหลงตรงไหน(การบรรลุธรรมนะมันไม่ต้องวิ่งไปทางไหนหรอกมันอยู่ในการเรานี่แหละ แต่คนที่เขาบรรลุแล้วมันหนีกระทำความดีไม่ได้หรอกนะครับ เพราะมันเป็นปกติของคุณธรรมของอริยชนทั้งหลาย ขอทำความเข้าใจไว้แค่นี้ และเรื่องที่คุณมองภาพผมนั้นชอบเอาดีใส่ตัวนั้น คิดได้อย่างไรคำนี้สำหรับนักปฎิบัติธรรม อันไหนดีก็บอกกัน เผื่อเหลือเผื่อขาดก็จะได้เติมกัน ใครทำอยู่แล้วก็อนุโมทนากันไปก็เท่านั้นเอง :b38: :b38: :b38: เห็นตื่นเช้าดีชงกาแฟให้3แก้วเลยอิๆๆ :b12:

แนะนำจะคุยธรรม ต้องระวังอย่าฟุ้งธรรม การแสดงความเห็นของคุณ
มันเป็นลักษณะของคนฟุ้งธรรม ฟุ้งซ่านปรุงแต่ง ไม่มีสาระในธรรม
พูดง่ายๆเอาแต่เนื้อน้ำไม่เอา เข้าใจมั้ย :b13:
อโหสิกรรม นะพี่โฮฮับ จบการสนทนาแค่นี้นะ :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 05:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="bigtoo]อโหสิกรรม นะพี่โฮฮับ จบการสนทนาแค่นี้นะ :b12:[/quote]


สุดท้าย ท่าน bigtoo ก็เป็นฝ่าย ชนะ smiley :b35: :b35: :b35:


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 05:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


หยุด
ก็เป็นเคล็ดลับหนึ่งของความสำเร็จ ใช่มั้ยท่าน


:b8:


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 05:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


สุดท้ายการเวลาก็เดินมาถึงที่สุดของมัน มันสำคัญที่สุดอยู่ตรงที่ว่าเราได้ถอดแว่นสีที่เราใสอยู่หรือไม่เพื่อจะไปมองสีที่ต่างจากแว่นที่เราหรือเปล่า การต่อสู้กันมันก็มีแต่เจ็บกันทั้งสองฝ่าย เราต่างคนก็สาดน้ำมันเข้าหากันไฟที่มันลุกท่วมอยู่แล้วในจิตใจเรามันก็ยิ่งลุกท่วมกันไปใหญ่ การสนทนาธรรมแล้วนั้นก็สนุกดี มีสีสรร ขอให้มองเฉพาะประโยชน์ ไม่มีใครแพ้ใครชนะใคร มีแต่ชนะใจตนเองก็เท่านั้นครับ :b37:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
หยุด
ก็เป็นเคล็ดลับหนึ่งของความสำเร็จ ใช่มั้ยท่าน
:b8:

ทำดีแล้วล่ะฝึกจิต สองเกลอช่วยให้กำลังใจกัน
จะได้ไม่หมดกำลังใจ

บิกทู่ก็อย่าลืมให้กำลังใจฝึกจิตด้วยล่ะ อย่าลืมสัญญา"สองเกลอหัวแข็ง"
พูดอะไรไว้ก็จำไว้ด้วยล่ะ
ถ้าผมไปแสดงความเห็นอ้างอิงเข้าก็อย่าลืมตัว :b32:


โพสต์ เมื่อ: 30 ก.ค. 2012, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
สุดท้ายการเวลาก็เดินมาถึงที่สุดของมัน มันสำคัญที่สุดอยู่ตรงที่ว่าเราได้ถอดแว่นสีที่เราใสอยู่หรือไม่เพื่อจะไปมองสีที่ต่างจากแว่นที่เราหรือเปล่า การต่อสู้กันมันก็มีแต่เจ็บกันทั้งสองฝ่าย เราต่างคนก็สาดน้ำมันเข้าหากันไฟที่มันลุกท่วมอยู่แล้วในจิตใจเรามันก็ยิ่งลุกท่วมกันไปใหญ่ การสนทนาธรรมแล้วนั้นก็สนุกดี มีสีสรร ขอให้มองเฉพาะประโยชน์ ไม่มีใครแพ้ใครชนะใคร มีแต่ชนะใจตนเองก็เท่านั้นครับ :b37:

คงไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนล็อกอินใหม่นะ บิกทู่ :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร