วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระใบฎีกาสมเส็ง กนฺตสีโล
............................................................................



วัดถ้ำศรีแก้ว
บ้านภูพานทอง ต.สร้างค้อ
อ.ภูพาน จ.สกลนคร 47180


พระใบฎีกาสมเส็ง กนฺตสีโล เจ้าอาวาส

วัดถ้ำศรีแก้ว เป็นวัดป่าปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (เดิมเป็นวัดของหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ)
สำหรับท่านที่จะเดินทางมากราบหลวงปู่หรือจะมาพักปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบก็มาได้ครับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติย่อพระอาจารย์สมเส็ง กนฺตสีโล

ท่านพระอาจารย์สมเส็ง กนฺตสีโล นามเดิมท่านชื่อ สมเส็ง นามสกุล นวลตา เกิดเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง ณ ตำบลจอมพระ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ บิดาท่านชื่อ นายลิ้ม นวลตา มารดาท่านชื่อ นางคำพันธ์ นวลตา

การอุปสมบท
อายุ ๔๑ ปี เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๕ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ วัดป่าอุดมสมพร ตำบลพรรณา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมี พระอริยเวที (หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สุวัจน์ สุวโจ วัดถ้ำศรีแก้ว จังหวัดสกลนคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์อุทัย สิริธโร วัดถ้ำพระภูวัว จังหวัดหนองคาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังจากบวชแล้ว ท่านก็ได้ติดตามหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไปปฏิบัติธรรมจำพรรษาตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่วัดถ้ำศรีแก้ว อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร วัดป่าประสาทจอมพระ อำเภอประสาท จังหวัดสุรินทร์ และติดตามหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดภูริทัตตวนาราม เมืองออนทาริโอ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น รวมทั้งได้ไปอยู่จำพรรษากับหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล ที่วัดรังสีปาลิวัน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

ปัจจุบันนี้ ท่านพระอาจารย์สมเส็ง กนฺตสีโล ท่านได้พำนักจำพรรษาและเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดถ้ำศรีแก้ว บ้านภูพานทอง จังหวัดสกลนคร และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลกุดบากเขต ๑ (ธรรมยุต)

คัดลอกมาจาก ::
http://www.sakoldham.com/

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร
............................................................................



สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่าถ้ำโพรง
บ้านสร้างแก้ว ต.สร้างค้อ
อ.ภูพาน จ.สกลนคร 47180


พระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร เจ้าอาวาส

วัดป่าถ้ำโพรง เป็นวัดป่าปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
สำหรับท่านที่จะเดินทางมากราบหลวงปู่หรือจะมาพักปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบก็มาได้

วัดป่าถ้ำโพรง เป็นวัดที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา สัปปายะ สงบเงียบ สงบเย็น ภายในมีศาลาพระพุทธชินราช พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) มีศาลาปฏิบัติธรรมสำหรับอุบาสกอุบาสิกา มีทางเดินจงกรม หากขึ้นไปบนหลังเขาก็จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวอำเภอนาคู อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันมีพระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร เป็นเจ้าอาวาส ให้การแนะนำด้านการปฏิบัติสมาธิภาวนา

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติย่อพระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร

ท่านพระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร นามเดิมท่านชื่อ ถาวร นามสกุล มุงคุณ เกิดวันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๔ ตรงกับวันอังคาร แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู ณ บ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๕ บ้านสร้างแก้ว ตำบลสร้างค้อ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อนายจี มุงคุณ มารดาชื่อนางลา มุงคุณ

การบรรพชา
อายุ ๒๔ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปี ฉลู ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดป่าดงชน ตำบลดงชน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมีหลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล วัดป่าดงชน เป็นพระอุปัชฌาย์

การอุปสมบท
อายุ ๒๔ ปี เมื่อวัน พฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ตรงกับวันแรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปี ฉลู ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ อุโบสถวัดป่าสุทธาวาส ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมีหลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล วัดป่าดงชน พระอุปัชฌาย์

อยู่ศึกษาธรรมกับหลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล
พอหลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้ไปอยู่ปฏิบัติธรรม ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล ที่วัดป่าดงชน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ซึ่งองค์หลวงพ่อสัมมานี้นั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ วัดดอยธรรมเจดีย์

พอหลังจากท่านพระอาจารย์ถาวร พ้นนิสัย คือมีพรรษา ๕ รู้หลักพระธรรมวินัย รู้จักอาบัติหนัก อาบัติเบา สิ่งไหนคือธรรมวินัย สิ่งไหนที่ไม่ใช่พระธรรมวินัย พอที่จะรักษาตัวให้พ้นจากอาบัติได้ ในบางปี ท่านก็จะลาหลวงพ่อสัมมา ขึ้นไปศึกษาธรรมกับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร ต่อจากนั้นก็ธุดงค์บำเพ็ญเพียรไปตามเทือกเขาภูพาน ในเขตจังหวัดสกลนคร เขตจังหวัดนครพนม เขตจังหวัดมุกดาหาร ครั้นพอจวนใกล้จะเข้าพรรษาท่านก็กลับมาอยู่กับหลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล ที่วัดป่าดงชน

ครั้นปี พ.ศ.๒๕๓๗ หลวงพ่อสัมมา ขนฺติปาโล ท่านมรณภาพ หลังจากจัดการงานศพเรียบร้อยแล้ว ท่านพระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร ท่านก็ได้ขึ้นมาพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าถ้ำโพรง บ้านสร้างแก้ว ตำบลสร้างค้อ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

คัดลอกมาจาก ::
http://www.sakoldham.com/

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงพ่อมหาวัชระ เตมิโย
............................................................................



วัดใหม่เจริญศิลป์
บ้านเจริญศิลป์ ต.เจริญศิลป์
อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร 47290


หลวงพ่อมหาวัชระ เตมิโย อดีตเจ้าอาวาส

พระครูจิตตภาวนาญาณ (พระอาจารย์ชาลี ถิรธมฺโม)
เจ้าอาวาสวัดป่าภูก้อน รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญศิลป์


วัดใหม่เจริญศิลป์ เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ก่อนแยกไป อ.วานรนิวาส

พระครูวชิรคุณาภรณ์ (หลวงพ่อมหาวัชระ เตมิโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญศิลป์ ซึ่งมีความศรัทธาศรัทธาต่อองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อย่างสูงสุด ได้มีดำริไว้ก่อนมรณภาพ ที่ต้องการให้ วัดใหม่เจริญศิลป์เป็นศูนย์รวมทางจิตใจทางของพุทธศาสนิกชนสำหรับปฏิบัติธรรมกรรมฐานตามคำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกทั้งเป็นสถานที่บวชเรียนของพุทธบุตร และประกอบศาสนกิจสำคัญต่างๆ ของพุทธศาสนิกชน เพื่อรำลึกถึงพระคุณของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตลอดจนเผยแผ่เกียรติคุณ บุญบารมี ปฏิปทา และคุณธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในการสั่งสอนศิษยานุศิษย์ เพื่อจะได้ยึดเหนี่ยว เป็นสิ่งเตือนใจ เป็นกำลังใจในการปฏิบัติภาวนา และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป กับทั้งประสงค์จะให้วัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นที่พึ่งทางใจในการสักการบูชาและรองรับศรัทธาของประชาชนในอำเภอเจริญศิลป์และท้องที่ใกล้เคียง ตลอดจนผู้แสวงบุญทั่วไป

หลวงพ่อมหาวัชระ เตมิโย ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

ติดต่อภายในวัด
พระอาจารย์เฉลิม ธัมมธโร โทรศัพท์ 081-964-2962

รูปภาพ
พระอาจารย์ชาลี ถิรธมฺโม
............................................................................

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงปู่คำ ยสกุลปุตฺโต
............................................................................



วัดศรีจำปาชนบท
หมู่ 9 ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร 47160
โทรศัพท์ 042-734-684


หลวงปู่คำ ยสกุลปุตฺโต อดีตเจ้าอาวาส

วัดศรีจำปาชนบท ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสกลนคร (ธรรมยุต) แห่งที่ 7 ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม และเป็นวัดที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามแนวนโยบายของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วัดศรีจำปาชนบท เป็นวัดปฏิบัติตามแนวหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ภาวนาบทพุทโธ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่คำ ยสกุลปุตฺโต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19987

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระมหาจักรายุธ สมฺปตฺโต กำลังนำพาสามเณรภาคฤดูร้อน
ออกเที่ยวภิกขาจารบิณฑบาตในหมู่บ้าน เมื่อปี 2549
............................................................................



วัดป่าโนนขุมเงิน
หมู่ 6 บ้านนาตงน้อย ต.นาตงวัฒนา
อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร 47230
โทรศัพท์ 042-981-004,
087-219-1533, 083-359-4376


พระมหาจักรายุธ สมฺปตฺโต เจ้าอาวาส

พระวิบูลธรรมภาณ (หลวงพ่อมหาทวยเทพ สุภาจาโร) อดีตเจ้าอาวาส


วัดป่าโนนขุมเงิน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสกลนคร
(ธรรมยุต) แห่งที่ 3 ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม


วัดป่าโนนขุมเงิน มีการจัดโครงการปฏิบัติธรรมสำหรับพุทธศาสนิกชน โครงการอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อน และโครงการอื่นๆ ฯลฯ อย่างต่อเนื่องตลอดปี

รูปภาพ
หลวงพ่อทวยเทพ สุภาจาโร


อาลัย “หลวงพ่อทวยเทพ” พระปฏิบัติ-ศิษย์หลวงปู่แปลง

คืนวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เวลา 02.47 น. พระวิบูลธรรมภาณ หรือหลวงพ่อทวยเทพ สุภาจาโร แห่งวัดป่าโนนขุมเงิน ต.นาตงวัฒนา อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ได้ละสังขารลงอย่างสงบ สิริอายุ 57 ปี พรรษา 36 สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ชาวสกลนครและพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่านเป็นภิกษุสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรม ดำรงตนอยู่ในกรอบแห่งพระวินัยอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติ ปฏิปทาอันงดงาม

พระวิบูลธรรมภาณ (หลวงพ่อทวยเทพ สุภาจาโร) มีนามเดิมว่า ทวยเทพ แก้วหนุนเมือง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2491 ณ บ้านห้วย ต.ม่วงใหญ่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาและมารดาชื่อ นายบุตรดี และนางแดง แก้วหนุนเมือง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 9 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5

หลังจากเรียนจบชั้น ป. 4 ได้ผันชีวิตเข้าสู่โลกแห่งธรรม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดประชาเกษม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โดยมีพระครูทัศนประกาศ อดีตเจ้าคณะอำเภออำนาจเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมา สามเณรทวยเทพ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ฝากตัวรับใช้งานแก่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดนรนาถสุนทริการาม แขวงเทเวศน์ เขตพระนคร ขณะหลวงปู่สมเด็จฯ เมื่อครั้งที่เป็นพระธรรมวราภรณ์ โดยหลวงปู่สมเด็จฯ ได้เมตตาเอ็นดูให้อยู่รับใช้ในกุฏิ

พออายุครบ 21 ปี สามเณรทวยเทพ ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 ณ วัดนรนาถสุนทริการาม โดยมีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เมื่อครั้งที่เป็นพระธรรมวราภรณ์ เมตตารับเป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาศิลา สิทฺธิธมฺโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาพิสัณห์ ฐิตายุโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานาม “สุภาจาโร” แปลว่า ผู้มีมารยาทและความประพฤติอันงดงาม

ต่อมา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูฐานานุกรมที่ “พระครูปลัดสุวัฒนพรหมจริยคุณ” รวมทั้งศึกษาสำเร็จเปรียญธรรม 4 ประโยค ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จนสำเร็จปริญญาตรีศาสนบัณฑิต

ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย สำเร็จปริญญาโท สาขาปรัชญา

เมื่อกลับสู่ประเทศไทย ได้เข้าพักที่วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ แต่เวลาเพียงไม่นาน ท่านได้รับนิมนต์จากวัดป่าธรรมชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเผยแผ่ธรรมเป็นเวลา 1 ปี

หลังจากนั้น หลวงพ่อทวยเทพได้เข้ากราบลาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อขออนุญาตไปทดลองปฏิบัติสมาธิภาวนาในป่าเขา โดยสมเด็จมหามุนีวงศ์ได้ฝากฝังท่านไว้กับ หลวงปู่แปลง สุนทโร ศิษย์เอกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร

ครั้นปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอุดมสมพรได้ระยะเวลาหนึ่ง ท่านได้รับทราบจากแม่ชีสูงอายุปฏิบัติธรรมในวัดว่า อยากขออาราธนาให้ท่าน ไปที่หมู่บ้านกลางทุ่งนา บ้านนาตงใหญ่ ต.นาตงวัฒนา อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร เนื่องจากไม่มีใครกล้าเข้าไปหักล้างถางพง เพราะสถานที่ตรงนั้นเฮี้ยนมาก ใครทำไม่ดี มักมีอันเป็นไป

ชาวบ้านจึงขออาราธนาท่านไปแผ่เมตตา และสร้างวัดบริเวณนั้น แต่หลวงพ่อทวยเทพเพียงตั้งใจมาสร้างสถานปฏิบัติธรรมเท่านั้น เวลาผ่านไป 3 ปี ในที่สุดคณะศิษยานุศิษย์ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ได้นำแปลนกุฏิมาให้ดูและบอกว่าจะสร้างสำนักวัดป่าโนนขุมเงินให้ ในที่สุด จึงได้สร้างสำนักวัดป่าโนนขุมเงิน เพื่อเปิดให้พระภิกษุสามเณรเข้าฝึกปฏิบัติธรรม โดยมีหลวงพ่อทวยเทพ นำคณะผู้ปฏิบัติธรรม ออกภาคสนาม ปฏิบัติข้างป่าช้าบ้าง ตามป่าทั่วไปบ้าง ครั้งละ 10-20 วัน

ด้วยการอุทิศตนอย่างทุ่มเท โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้สังขารหลวงพ่อทวพเทพ เจ็บป่วยลง มีอาการอาพาธเป็นระยะ มีอาการไอ เป็นโรคประจำตัวที่เกิดจากปอด และมีอาการเรื้อรัง ญาติโยมได้นำท่านเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2548

แต่อาการหลวงพ่อทวยเทพ มีแต่ทรงกับทรุดตามลำดับ จนในที่สุด วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 หลวงพ่อทวยเทพ ได้ขอกลับไปที่วัดป่าโนนขุมเงิน เพื่อกลับไปละสังขารอย่างสงบในบั้นปลายชีวิต

เหลือทิ้งไว้แต่คำสอนธรรมอันเป็นหลักความจริง ถ่ายทอดสู่บรรดาศิษยานุศิษย์ ว่า “กัมมุนา วัตตติ โลโก” สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามการกระทำของตน ขอให้ทุกคนอย่าประมาท

สำหรับร่างสังขารของพระวิบูลธรรมภาณ ได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2548 เมรุชั่วคราว วัดป่าโนนขุมเงิน อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร โดยมี พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 1, 2, 3, 12, 13 (ธ.) กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสาธุชนนับหมื่นคน ร่วมแสดงมุทิตาจิตเป็นครั้งสุดท้าย

คัดลอกมาจาก :
http://www.sakoldham.com/

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระครูพุฒิวราคม (หลวงปู่พุฒ ยโส)
............................................................................



วัดคามวาสี
บ้านหนองดินดำ ต.ตาลโกน
อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร 47240


พระครูพิศาลปัญญาคม (หลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล)
และพระครูพุฒิวราคม (หลวงปู่พุฒ ยโส) เป็นอดีตเจ้าอาวาส


วัดคามวาสี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสกลนคร
(ธรรมยุต) แห่งที่ 12 ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม


รูปภาพ
ศาสนวัตถุ-อาณาบริเวณภายใน “วัดคามวาสี” จ.สกลนคร

รูปภาพ
งานบุญวันเกิดครบ ๗๘ ปีของหลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล ๔ กันยายน ๒๕๕๑


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่พุฒ ยโส
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=25852

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

รูปภาพ
หลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล ปัจจุบันมรณภาพแล้ว


ประวัติย่อพระครูพิศาลปัญญาคม
(หลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล)


หลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล มีนามเดิมว่า ประสาร นามสกุล รำไพ เกิดเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ณ บ้านหนองดินดำ ตำบลตาลโกน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร บิดาท่านชื่อ นายสอน รำไพ มารดาท่านชื่อ นางชอม รำไพ

การอุปสมบท
อายุ ๒๐ ปี เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ วัดคามวาสี จังหวัดสกลนคร โดยมี หลวงปู่พุฒ ยโส เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นอุปสมบทแล้วก็ได้พักจำพรรษาอยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ รวมทั้งได้ออกเดินธุดงค์ บำเพ็ญสมณธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ ในแถบเทือกเขาภูพาน

ตำแหน่งทางคณะสงฆ์และสมณศักดิ์
พ.ศ.๒๕๒๓ - ๒๕๕๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดคามวาสี
พ.ศ.๒๕๒๔ - ๒๕๓๗ เป็นเจ้าคณะตำบลสว่างแดนดิน เขต ๕ (ธ)
พ.ศ.๒๕๓๗ - ๒๕๔๒ เป็นเจ้าคณะตำบลตาลโกน (ธ)
พ.ศ.๒๕๔๒ - ๒๕๕๑ เป็นเจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน (ธ)
พ.ศ.๒๕๓๐ เป็นพระอุปัชฌาย์แผนกสามัญ
พ.ศ.๒๕๒๘ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ “พระครูพิศาลปัญญาคม”
พ.ศ.๒๕๔๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

ท่านพำนักปฏิบัติธรรม อบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่พระภิกษุสามเณร ฆราวาสญาติโยม อยู่ที่วัดคามวาสี จังหวัดสกลนคร มาโดยตลอดอายุขัยของท่าน

หลวงปู่ประสาร ปญฺญาพโล ได้ถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น สิริอายุรวมได้ ๗๘ ปี พรรษา ๕๘

คัดลอกเนื้อหามาจาก ::
http://www.sakoldham.com/

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระอาจารย์เจนยุทธนา จิรยุทฺโธ (หลวงปู่ภูพาน)
............................................................................



วัดโนนสวรรค์
บ้านโนนสวรรค์ ต.พังขว้าง
อ.เมือง จ.สกลนคร 47000


พระอาจารย์เจนยุทธนา จิรยุทฺโธ (หลวงปู่ภูพาน) เจ้าอาวาส

วัดโนนสวรรค์ เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติย่อหลวงปู่ภูพาน จิรยุทฺโธ

ประวัติชีวิต
ชื่อ-สกุล พระเจนยุทธนา จิรยุทฺโธ
นามเดิม เจนยุทธนา เดชจุ้ย
วันเดือนปีเกิด วันอังคารที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๐๒
สถานที่เกิด จังหวัดชัยภูมิ
สัญชาติ ไทย
เชื้อชาติ ไทย
ศาสนา พุทธ
บิดา พระเจน (นายเจน เดชจุ้ย)
มารดา นางศรีสะอาด เดชจุ้ย (ฤาแก้วมา)
จำนวนพี่น้อง ๔ คน

ประวัติการศึกษา
ปีการศึกษา สถานที่ศึกษา วุฒิที่ได้รับ
๒๕๑๕ โรงเรียนสกลนครวันครู (๒๕๐๑) ป.๗
๒๕๑๘ โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล ม.ศ.๓
๒๕๔๒ สถาบันราชภัฏสกลนคร ศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศัดดิ์

การเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
บิดา มารดา ของ ด.ช.เจนยุทธนา รับราชการ มีการโยกย้ายบ่อย ส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยอยู่กับยายซึ่งอยู่ที่ จ.สกลนคร ตั้งแต่อยู่ในวัยทารก และเนื่องจาก ด.ช.เจนยุทธนา เป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด (โยมมารดาตั้งครรภ์ ๗ เดือน) จึงทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ตามประเพณีและความเชื่อที่สืบทอดกันมาเล่าว่าถ้าทารกที่เกิดมาแล้วอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อย พ่อแม่ มักทำพิธียกให้เป็นลูกพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เพื่อจะได้ช่วยปกป้องรักษาคุ้มครองให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ โยมบิดามารดาจึงไปทำพิธียกให้เป็นลูกพระธาตุฯ และจัดขันธ์ ๕ ดอกไม้ธูปเทียน ถวายสักการะบูชาพระธาตุฯ ทุกวันพระ เมื่อ ด.ช.เจนยุทธนา เจริญเติบโตพอรู้ความ มารดาก็จัดขันธ์ ๕ พร้อมดอกไม้ธูปเทียนนำไปถวายต่อหลวงพ่อองค์แสน พระประธานในวิหารวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เป็นประจำ

ปี พ.ศ.๒๕๑๙ นายเจนยุทธนา เดชจุ้ย ได้บวชเป็นสามเณร ที่วัดบ้านแก้งกะอาม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีหลวงปู่สังข์ ซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลมหาชัย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และจำพรรษาเพื่อปรนนิบัติหลวงปู่สังข์และปฏิบัติธรรมอยู่ ๑ เดือน ก็ขออนุญาตออกธุดงค์เพื่อบำเพ็ญเพียรโดยลำพัง และได้ออกธุดงค์ไปตามป่า เขา ถ้ำต่างๆ บริเวณเทือกเขาภูพาน เป็นเวลา ๔ ปี ได้อย่างราบรื่นปลอดภัย

ชาวบ้านได้รู้ปฏิปทาการปฏิบัติของสามเณรเจนยุทธนา เดชจุ้ย และได้เล่าต่อกันมา ต่างพากันเชื่อว่าท่านต้องเป็นผู้ทรงคุณธรรมวิเศษ จึงพากันขนานนามท่านว่า “หลวงปู่ภูพาน” ในตอนแรกสามเณรเจนยุทธนา เดชจุ้ย ไม่ยอมรับชื่อนี้ แต่ไม่สามารถทัดทานความเชื่อของชาวบ้านได้ จึงต้องปล่อยให้บุคคลทั่วไปใช้โดยบริยาย

แต่ท่านได้ให้แนวคิดในเรื่องนี้ว่า “ชื่อทุกชื่อ ล้วนแล้วแต่ตั้งขึ้นมาให้มีความหมายในทางที่ดีเพื่อเป็นมงคล และจูงใจให้เจ้าของปฏิบัติตนตั้งอยู่ในความดีสมชื่อที่ตั้งไว้ ชื่อนั้นจะหาความดีไม่ได้เลยถ้าเจ้าของนั้นประพฤติปฏิบัติแต่ความชั่ว ความไม่ดี เพราะชื่อแต่ละชื่อ เป็นเพียงสิ่งสมมติขึ้น เพื่อสะดวกในการเรียกหา และจดจำ ความสำคัญอยู่ที่ว่า เจ้าของได้ปฏิบัติตนอยู่ในความดี ความถูกต้อง ความเหมาะควรสมตามสภาวะตามหน้าที่ของตนหรือไม่ ผู้ใดมีหน้าที่อันใด ก็ให้สำนึกในหน้าที่และกระทำตามหน้าที่นั้น เช่น เมื่อสำนึกตนว่าเป็นครูก็มีความอ่อนโยน มีเมตตากรุณา ขยันในการอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ชี้แนะให้เห็นโทษในสิ่งที่เป็นโทษเป็นภัย เป็นต้น ถ้าทุกคนทุกท่านได้สำนึกและตั้งมั่นในหน้าที่ของตนแล้ว ปัญหาเรื่องชื่อนั้นก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป”

ระหว่างการก่อสร้างพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่กำลังอยู่ในโครงการก่อสร้างได้นิมนต์สามเณรเจนยุทธนา เดชจุ้ย มารับบิณฑบาต ที่พระตำหนักฯ และได้สร้างกฏิหลังเล็กๆ ให้จำพรรษาที่ “ภูดินแดง” ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก เมื่อสามเณรเจนยุทธนา เดชจุ้ย มีอายุครบบวชเป็นพระภิกษุได้ เจ้าหน้าที่จึงนำเรื่องกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระราชทานเครื่องบวชให้ บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายมหานิกายที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมือง จ.สกลนคร ได้รับฉายาว่า “ฉนฺทธมฺโม” โดยมีท่านเจ้าคุณพระเทพวิมลเมธีเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูวิจิตรสกลการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านมหาสมศักดิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

บวชเป็นพระอยู่ ๓ ปี ได้เปลี่ยนญัตติเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุตนิกาย ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามด้วยเหตุผลที่ว่า แนวทางที่คณะธรรมยุตประพฤติ ตามที่ได้ศึกษามาต้องกับอุปนิสัยของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิปทาของหลวงปู่เสาร์ กันตศีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกทั้งได้รับพระเมตตาและพระโอวาทจากสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก พร้อมทรงเป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ พระราชสิทธิโมลีเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจาคุณมหาคณิสร เป็นพระอนุสาวาจารย์ ได้รับฉายาใหม่ว่า “จิรยุทฺโธ” จำพรรษาที่วัดราชบพิธฯ ตลอดพรรษานั้น จากนั้นได้กลับมาจำพรรษา ณ วัดโนนสวรรค์ (ภูดินแดง) บ้านโนนสวรรค์ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร จนถึงปัจจุบัน

คติธรรมคำสอน
(คัดลอกจากรอยลายมือที่หลวงปู่ฯ เขียนไว้)


ความเงียบในป่าใหญ่
การเกิด การตาย เป็น เรื่อง ธรรมดา
ไม่ ตาย วันนี้ ก็ต้องตาย วัน หน้า
จะ ยืน อยู่ ในความเงียบ แม้จะเป็น การยืน
อยู่ ใน ป่า ใหญ่ เรา ก็มีความสุข

ปัญญา
มีปัญญา ทราม เพราะ ไม่ ไต่ ถาม
หรือ แสวง หา ความรู้ มี ปัญญา มาก
เพราะ รู้ จักไต่ ถามและแสวงความรู้

ดู
ดูพระที่กิจวัตร ดูคฤหัสถ์ที่ความขยัน

โลกกับธรรม, วัดในบ้าน
ถ้าเป็นฆราวาส ท่านอยู่ในโลกของฆราวาส
ก็ทำสมาธิได้ เพียงแต่ว่า ท่าน พยายามแบ่งเวลา
ให้กับโลกและธรรมเท่าๆ กันทำบ้านให้เป็นวัดได้
ไม่จำเป็นต้องมาวัด เพราะบุญอยู่ที่กายวาจาใจ
อย่างที่กล่าวแล้ว เราไปพบครูอาจารย์ เพื่อหา
แนวทางเท่านั้นเอง

ขันติ
ความอดทนไม่ผลุนพลัน พลันแล่น
มีสติครองตนอยู่ในลักษณะข่มไว้
เช่น อดทนตรากตรำในขณะทำงานไม่นำพา
หนาว ร้อน เช้า สาย บ่าย ค่ำ มีกำลังใจอยู่เหนือ
ความยาก นี้คือ ขันติ

ใจสงบ
ใจสงบแล้วย่อมเป็นใจงามและดีมั่นคง
ใจงามเป็นใจสงบในทางมารยาท

เข้าไปวัด
เข้าวัดเวลาใด ควรวัดใจเอาไว้บ้าง

ภาวะที่เป็นธรรม, ธรรมภาวะ
ภาวะที่ปราศจากทุกข์นั้น เป็นหัวใจ
ของพระธรรม
ธรรมอยู่ที่ไหน ความเป็นสิริมงคล
ย่อมเกิดขึ้นที่นั้น
สมาธิจิต เป็นงานของสมณะทุกรูป

เห็น
ถ้าท่านนั่งสมาธิเห็นสวรรค์ สิบชั้น แต่จิตของท่าน
ยังมากด้วย โลภ โกรธ หลง จิตของ ท่านยังไม่
เปี่ยมด้วย เมตตาธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสัตว์โลก
เลยท่านยังเห็นแก่ตัวอยู่ ท่าน อย่านึก ว่าสิ่ง เหล่านั้น
จะเป็นทางที่ถูกของท่าน

ความแตกแยกเป็นบ่อเกิดแห่งการทำลาย
ถ้าพระสงฆ์แตกแยกกัน ในเวลาใด หมู่ชน
ผู้เป็น พุทธบริษํท ก็แตกแยกกัน เวลานั้น แล้วที่สุด
ความแตกแยกนั้นจะตกยู่แก่บ้าน

จุดหมายปลายทาง
เราเป็นชาวพุทธที่กายวาจา อย่างเดียว หาไม่
ต้องเป็นชาวพุทธที่หัวใจด้วย
ฉะนั้น ท่านอย่าไปมุ่งหวังว่า นั่ง สมาธิแล้ว
จะต้อง เห็นสวรรค์ นรกสิ่งโน้น สิ่งนี้
นั้นเป็นเพียงทางผ่าน เป็นเพียง นิมิต เท่านั้น
ไม่ได้เป็นจุดมุ่งหมายของพุทธบริษัท ที่จะปฏิบัติ
ให้เห็นให้ถึง

ศัตรู
ศัตรูตัวร้ายของชีวิต ที่ทำให้ชีวิตและ
การเดินทางไม่ราบรื่นนั้น ไม่ใช่อะไร
ได้แก่ อกุศลจิต คือ โลภะ โทสะ โมหะ

สมมติโลก, ความฝันเมื่อตอนกลางวัน
ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันเจือด้วยอามิส
หรือ เครื่อง ล่อ สิ่งเหล่านั้นเป็นสมบัติของโลก
ฝันเอาแน่นอนอะไรไม่ได้
ใครจะสูงด้วย ยศ มากล้นด้วยกำลัง
ก็ไม่พ้นความตาย

ความศรัทธาเป็นทรัพย์อันประเสริฐ
ด้วยความศรัทธาจริงๆ ถึงแม้เมื่อบริจาคแล้ว
จะไม่มีใครจารึกชื่อของเราไว้ในแผ่นทอง
เขาก็จะจารึกไว้เองในความทรงจำด้วยความปิติ
ไม่ลืม

ความสุขที่แท้จริง
เชื่อหรือว่าวัตถุจะให้ความสุข
แก่มนุษย์ได้อย่างแท้จริง
แต่ถ้าหากมนุษย์มีธรรมแล้ว
แม้เขาไม่จำเป็น ต้อง นอนบ้านใหญ่ๆ
ปราสาทใหญ่ๆ เขาสามารถหาความสุข
จากกระท่อมน้อยๆ เพราะใจเขาเปี่ยมด้วยธรรม

พลังจิตพลังธรรม
เมื่อเรามีพลังจิตที่แข็งแรงกว่า,ความฟุ้งซ่าน
ก็จะดับไปโดยอัตโนมัติ
ความนึกคิดทั้งหลายเกิดขึ้นกับเรา
เมื่อสมาธิแก่กล้ากว่าจะทำลาย ความฟุ้งซ่าน
ความนึกคิดเหล่านั้นลงได้
ความงดงามใดหรือจะเทียบเท่าได้กับใจที่งดงาม

พึ่งตน
ลำพังความปรารถนาจะทำให้จิตใจ
พ้นจากอาสวะคือกิเลสที่ดองสันดาน
ไม่ได้เหมือนไก่ ไม่กกไข่ ปรารถนา
ให้ลูกไก่ ออกจากฟองอย่างเดียว ย่อมไม่สำเร็จ

ใจสงบเย็นเป็นใจพระ
ใจใสสงบเย็น เป็นใจพระ
ชีวิตจะไม่วุ่นวาย ถ้าไม่ส่งใจออกนอก
บวช เป็นพระ ควรหมั่นละความโกรธ
เข้าวัดเวลาใด ควรใจเอาไว้บ้าง
ชาวพุทธเมื่อเข้าวัด ควรฝึกหัดดัดจิตใจ

เกี่ยวข้องแต่ไม่ข้องเกี่ยว
ในชีวิตประจำวัน เราจะต้องเกี่ยวข้อง
กับคนอื่นๆ เมื่อเกี่ยวข้องกับเขาก็พึงเกี่ยวข้องโดยสติ
ทุกครั้ง เข้ามาในสถานที่สงบ และจงทำตน
ให้เป็นสุภาพชน

ชีวิต
จงทำตนให้มีค่าและเป็นประโยชน์
ต่อสังคมในขณะ ที่ยังมีชีวิตอยู่

ความรู้ที่เป็นภัย
การจะปฏิเสธหรือยืนยันเรื่องอะไรต้องศึกษา
เรื่องนั้นให้เข้าใจจนตลอดสาย,อย่าด่วนปฎิเสธ
หรือยืนยัน จนบางครั้งไม่ทราบว่าตนได้ยืนยันและปฏิเสธอะไร
เกิดขึ้นจากความรู้ไม่ตลอดสายของเจ้าของ
ความคิด,เห็นของตนเอง เป็นมาตรฐาน จึงกลายเป็น
ความผิด พลาด บกพร่องและบั่นทอน

เงิน
เงินจำนวนน้อยในกระเป๋าของเรา
มีค่ากล่าวเงินจำนวนมากที่ไปกู้ยืมเขามา

ดอกเอ๋ยดอกเบี้ย
การกู้เงินนั้น จะมีความสุขใจและดีใจ
ก็ชั่วขณะกู้ได้มาเท่านั้น ต่อจากนั้น ความทุกข์
ใจก็เข้าไปแทนที่เพราะต่อไปจะต้องหาเงิน
ใช้หนี้และเสียดอกเบี้ยให้เขา
ธรรมดาดอกไม้ถ้า ถ้าเก็บไว้นานๆ
จะเหี่ยวแห้ง ร่วงโรย หมดความสวยงาม
แต่ดอกเบี้ยกลับตรงกันข้ามยิ่งนานก็พอกพูน
ยิ่งงอกงามมากขึ้นทุกขณะ

วันคืน
วันคืน ของนักภาวนา คือ
วันคือ แห่งการคิดค้น

ฉิบหาย
สุรา และการพนัน คือ บ่อเกิดแห่ง
ความพินาศ ฉิบหาย

ความตาย
ใครจะสูงด้วยยศ มากล้น ด้วยอำนาศ
มีกำลังมหาศาลอย่างไร ก็ไม่พ้นความตาย

ถึงจิตถึงใจ
ภูเขา ป่าช้า ถ้ำ เป็นที่สงบ สงัดมีน้ำใส
สะอาดเป็นที่ปราศจากคนไม่พลุกพล่าน
ปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง เอาชีวิต
เป็นเดิมพัน เป็นเครื่องประกันการปฏิบัติ
เพื่อให้ได้ถึงธรรม

น่าคิด
อนาคตที่สร้างด้วยการทำงาน นั้นเป็นอนาคต
ที่มั่นคง น่าสรรเสริญ
เอามีดคมไปเฉือน หิน ยิ่ง เฉือน ยิ่งทื่อ
กล้าเพราะฤทธิ์ สุรา เป็นความกล้า ในทางชั่ว

อดีตปัจจุบันและอนาคต
อดีตจะเป็นอย่างไรก็ตามใจ แต่ปัจจุบัน
และอนาคตยังเป็นของเรา ขอให้เริ่มทำใหม่
สร้างใหม่ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อนาคตย่อมจะดี
ความเข้าใจ เป็นมูลฐาน แห่งการให้อภัย

คัดลอกมาจาก :
หนังสือหทัยภูพาน (โดยทุนนิธิหลวงปู่ภูพาน 2533)

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงปู่สุภาพ ธมฺมปญฺโญ
............................................................................



วัดทุ่งสว่าง
บ้านโคกคอน ต.โคกสี
อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร 47110


หลวงปู่สุภาพ ธมฺมปญฺโญ อดีตเจ้าอาวาส

วัดทุ่งสว่าง เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (บริกรรมภาวนาพุทโธ)
สำหรับท่านที่ต้องการไปปฏิบัติธรรมที่วัดไปได้ทุกเวลาทุกโอกาส

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ธรรมะที่หลวงปู่สุภาพ ธมฺมปญฺโญ
ได้รับจากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร


เวลานั้นหลวงปู่สุภาพเป็นพระบวชใหม่ แม้จะเคยเป็นพระมหานิกายมา ๕ ปีแล้ว ท่านเล่าว่าเราต้องเจียมตนเจียมใจ ไม่ทำอะไรเกินเหตุ เพราะคิดว่าเรายังอ่อนแออยู่ ไม่อยากให้ครูบาอาจารย์ท่านต้องพะวงกับเรา เวลานั้นกิติติศัพท์ของท่านหอมฟุ้งไปหมด จิตใจฝักใฝ่อยากไปพบ อยากไปกราบท่าน แต่ยังไม่ตัดสินใจจะเข้าไปบ้านหนองผือ เพราะคิดว่ายังภาวนาไม่เป็นก็ไม่อยากเป็นภาระกับครูบาอาจารย์ ต่อมาก่อนเข้าพรรษาหลวงปู่สุภาพเดินทางไปกราบท่านอาจารย์มั่นที่วัดป่าบ้านหนองผือหลวงปู่คิดว่าคงไม่ทำให้ท่านต้องหนักใจแน่นอน

พ.ศ.๒๔๙๒ ก่อนเข้าพรรษาปีนั้น ได้มีโอกาสรับความเมตตาจากท่าน แรกๆ คิดว่าเข้าพบท่านพระอาจารย์มั่นยากและท่านคงดุ แต่เมื่อพบจริงๆ หลวงปู่เสียดายเวลากับกรลังเลใจมากนานแสนนาน เพราะคิดว่าเรายังไม่พร้อม เวลานั้นท่านชรามาก อาการอาพาธของท่านมีบ้างแล้ว แต่จิตใจของท่านกล้าหาญไม่เคยเสียทีแก่กิเลส ไม่วุ่นวายเหมือนคนแก่ใจฝ่อทั้งหลาย เจ็บหน่อยโอย ปวดหน่อยโอย ไม่ได้เรื่องเลย

ท่านพระอาจารย์มั่นเมตตาแนะนำธรรมะในการปฏิบัติ การได้รับความเมตตาจากท่านครั้งนั้นหลวงปู่สุภาพก็เกิดกำลังใจมาก ได้พบหมูคณะพระป่าด้วยกันอย่างเต็มที่ ได้กราบครูบาอาจารย์จำนวนมากที่มาชุมนุมกัน จนกระทั่งเข้าพรรษาก็ยังมีโอกาสอยู่นะ ออกพรรษาก็มรณภาพละโลกกิเลสนี้ไป แหม! เกือบเสียทีเหมือนกัน ถ้าไม่ได้พบท่านก็พูดไม่เหมือนกัน หลวงปู่ไปกราบท่านที่เสนาสนะป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

หลวงปู่เสียดายเวลา ลังเลใจมานานเกือบเสียทีความกลัว ถ้าหากกลัวมากๆ ก็อด หมดโอกาสอย่างแน่นอนเลย

ความจริงแล้วใน พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นต้นมา ท่านพระอาจารย์มั่นเอาธุระมากในการอบรมศิษย์จนกระทั่งปีที่ท่านละโลกอันวุ่นวาย พ.ส.๒๔๙๒ รวม ๘ ปีเต็ม ท่านพระอาจารย์มั่นอบรมสั่งสอนศิษย์ชนิดตีไข่ให้แตก กระแทกกิเลสหลุดเป็นแผ่นๆ เลยทีเดียว ใครไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้หนีหมด ในช่วงนั้นแหละที่ใครๆ เข้าใจว่าท่านดุมาก

ความจริงหลวงปู่คิดว่าท่านเมตตาครั้งสุดท้ายต่างหาก... ท่านไม่เคยดุด่าใคร ใครมีกิเลสก็ถูกตัวตรงๆ ใครสะอาดบริสุทธิ์ กิเลสตัณหาก็ไม่ติดจิตใจ

คัดลอกมาจาก :
หนังสือบูรพาจารย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


วัดเขาถ้ำพระ
บ้านหนองสะไน ต.นาม่อง
อ.กุดบาก จ.สกลนคร 47180


หลวงพ่อแสวง สุมังคโล เจ้าอาวาส

วัดเขาถ้ำพระ เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

แผนที่วัดเขาถ้ำพระ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=969

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


วัดสว่างพัฒนา
ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร 47000


หลวงพ่อเกียน ทีฆายุโก เจ้าอาวาส

วัดสว่างพัฒนา เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร