วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 14:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2012, 19:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว




พระสีวสี ปรางถือไอแพด.jpg
พระสีวสี ปรางถือไอแพด.jpg [ 125.84 KiB | เปิดดู 5501 ครั้ง ]
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดชัยศิลานิมิต บ้านจบก-หนองเหล็ก ต.บ้านผือ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานประกอบ พิธีเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด รุ่น “มหาลาภ ทันโลก โภคทรัพย์” ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี พุทธศักราช 2555 มีพระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์และประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก

โดยก่อนที่จะมีการประกอบพิธีพราหมณ์ และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกิดฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า 30 นาที และเมื่อฝนหยุดตกปรากฏว่าท้องฟ้าเหนือพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างเกิดปรากฏการณ์รุ้งเจ็ดสีขึ้นมาเป็นรูปโค้งครอบหลังคาโบสถ์นานกว่า 15 นาที และเมื่อเริ่มประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปได้ประมาณ 10 นาที แสงรุ้งเจ็ดสีก็จางหายไป ปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจแก่พระสงฆ์ ชาวบ้าน และผู้มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงอภินิหารปรากฏให้เห็น

จากนั้นเมื่อถึงช่วงเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด ทางวัดชัยศิลานิมิตได้นำช้างแสนรู้ 2 เชือกมารับทองจากญาติโยมเพื่อนำไปเททองหล่อพระสีวลี ซึ่งช้างได้แสดงความสามารถช่วยหยิบทองเปลว ทองแผ่น มาใส่ในถาดรองด้วยผ้าขาว แล้วช่างเททองก็นำไปเททองหล่อ พระสีวลี ปางถือไอแพด โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธี ประกอบด้วย หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู จังหวัดอุบลราชธานี, หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม จังหวัดบุรีรัมย์, หลวงพ่อสอ วัดศรัทธารมณ์ จังหวัดสุรินทร์, หลวงพ่อสุข วัดบ้านตาโน จังหวัดสุรินทร์, หลวงพ่อมา วัดบ้านสโน จังหวัดสุรินทร์ และหลวงพ่อทองคำ วัดป่าเทพประทานพร จังหวัดสุรินทร์

พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า การที่นำแนวคิดการเททองหล่อพระสีวลีในปางถือไอแพด เพราะต้องการสื่อความหมายว่า พระสงฆ์ทุกวันนี้อยู่ในโลกที่กว้างไกลเต็มไปด้วยเทคโนโลยี พระสงฆ์ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย และต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยสอนญาติโยมคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงพระพุทธศาสนา เพราะเด็กหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้แล้วห่างวัดไม่ฟังธรรม แนวทางที่พระสงฆ์จะทำได้คือการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้แล้วใช้สอนธรรมะกับคนรุ่นใหม่ สื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนใครจะว่าอะไรอาตมาสามารถตอบคำถามกับสังคมได้

“อีกประการหนึ่งคือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆ ญาติโยมจะเห็นพระสีวลีปางถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวาง ซึ่งเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ” พระครูปลัดวิสุทธิ์กล่าว

ที่มา... http://www.naewna.com/local/29438
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2012, 20:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


deecup เขียน:
โดยก่อนที่จะมีการประกอบพิธีพราหมณ์ และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกิดฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า 30 นาที และเมื่อฝนหยุดตกปรากฏว่าท้องฟ้าเหนือพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างเกิดปรากฏการณ์รุ้งเจ็ดสีขึ้นมาเป็นรูปโค้งครอบหลังคาโบสถ์นานกว่า 15 นาที และเมื่อเริ่มประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปได้ประมาณ 10 นาที แสงรุ้งเจ็ดสีก็จางหายไป ปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจแก่พระสงฆ์ ชาวบ้าน และผู้มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงอภินิหารปรากฏให้เห็น


มันก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ ฝนหลงฤดูเกิดขึ้นได้ ไม่แปลกอะไร รุ้งเกิดขึ้นได้ ไม่แปลกอะไร
จะเกิดกี่นาทีมันก็ยังเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอยู่ดี ไม่แปลกเช่นกัน คนต่างหากทึกทักเอาเอง

ความเชื่อก็คือความเชื่อ ควรแยกความเชื่อออกจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ศาสนาพุทธเน้นปฏิบัติ
สิ่งที่่พระพุทธเจ้าสอนนั้นปฏิบัติได้จริง พิสูจน์ได้จริง และเกิดขึ้นได้จริง ศาสนาพุทธจึงไม่ใช่ศาสนา
ที่สอนเรื่องความเชื่อ แต่สอนให้อยู่เหนือความเชื่อ ศาสนาพุทธคือศาสนาแห่งวิทยาศาสตร์ที่ว่า
ด้วยเรื่องศาสตร์แห่งเหตุและผล สามารถพิสูจน์และเข้าถึงได้จริงๆ

ส่วนเรื่องที่เห็นด้วยหรือไม่นั้น

หากตอบว่าเห็นด้วย ผู้ที่ไม่บูชาพระพุทธรูปคงไม่ค่อยชอบใจ
หากตอบว่าไม่เห็นด้วย ผู้ที่บูชาพระพุทธรูปก็คงไม่พอใจ

กลายเป็นว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็มีแต่เสียทั้งขึ้นทั้งล่องนะ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2012, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2789


 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
พิธีเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด รุ่น “มหาลาภ ทันโลก โภคทรัพย์” ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี พุทธศักราช 2555 มีพระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์และประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก


พระสีวลีเถระ ท่านเป็นเอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7500

การสร้างรูปหล่อพระสีวลี ก็ควรตระหนักถึงคุณธรรมของท่าน การเพียรสั่งสมบารมีของท่านกว่าจะเป็นเอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก พระมหาสาวก พระขีณาสพผู้สิ้นแล้วซึ่งอาสวกิเลส ไม่ใช่นึกอยากจะสร้างปางไหนก็ได้ ปางถือไอแพด ไม่น่าจะเหมาะสมนัก


deecup เขียน:
พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า การที่นำแนวคิดการเททองหล่อพระสีวลีในปางถือไอแพด เพราะต้องการสื่อความหมายว่า พระสงฆ์ทุกวันนี้อยู่ในโลกที่กว้างไกลเต็มไปด้วยเทคโนโลยี พระสงฆ์ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย และต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยสอนญาติโยมคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงพระพุทธศาสนา เพราะเด็กหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้แล้วห่างวัดไม่ฟังธรรม แนวทางที่พระสงฆ์จะทำได้คือการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้แล้วใช้สอนธรรมะกับคนรุ่นใหม่ สื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนใครจะว่าอะไรอาตมาสามารถตอบคำถามกับสังคมได้

“อีกประการหนึ่งคือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆ ญาติโยมจะเห็นพระสีวลีปางถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวาง ซึ่งเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ” พระครูปลัดวิสุทธิ์กล่าว


คำกล่าวที่ว่า...พระสงฆ์ทุกวันนี้อยู่ในโลกที่กว้างไกลเต็มไปด้วยเทคโนโลยี พระสงฆ์ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย...ตามวัดต่างๆ ญาติโยมจะเห็นพระสีวลีปางถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ...คำกล่าวเช่นนี้เพื่อสนับสนุนการสร้างพระสีวสี ปรางถือไอแพด น่าจะไม่สมเหตุสมผลนัก ไปกันใหญ่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2012, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


การสร้างหล่อพระสีวลีของยุคสมัยนี้ ด้วยการเอาพระอนุพุทธะที่มีชื่อในอดีตมาดัดแปลง ถือสิ่งของ ในสิ่งที่ในอดีตนั้นท่านไม่เคยถือ เป็นการบิดเบือนกฎวินัยของสงฆ์ ที่พระอนุพุทธะในอดีตได้ถือปฏิบัติมาก่อน ทั้งๆที่พระอนุพุทธะในอดีต มีการสำรวม นุ่งห่มแต่เพียงจำเป็น มีเครื่องใช้สงฆ์ไม่กี่อย่าง (ใช้คำผิดก็ขออภัยครับ) ไม่เป็นการเคารพ แต่เป็นการสร้างภาพขึ้นมาใหม่ มีผลต่อความศรัทธาที่เปลี่ยนไป ผิดในเรื่องการแสดงรูปหล่อตัวแทนพระอนุพุทธะในอดีตกาล ไม่ตรงตามความเป็นจริงครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2012, 02:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
“อีกประการหนึ่งคือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆ ญาติโยมจะเห็นพระสีวลีปางถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวาง ซึ่งเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ” พระครูปลัดวิสุทธิ์กล่าว


จริงๆ รูปหล่อพระสีวลี ตามวัดต่างๆ ล้วนแล้วแต่สร้างหล่อในวาระสมัยต่างกัน บางรูปหล่อพระสีวลี ก็มีอายุมากกว่า 1 ปีบ้าง 5 ปีบ้าง 10 ปีบ้าง หรือนานกว่านั้น เป็นการแสดง สัญลักษณ์ ของพระสีวลี ว่า สัญลักษณ์ถือไม้เท้า คือรูปแสดงถึง พระสีวลีนั่นเอง ทุกคนที่มอง จะเกิดเป็นสัญญาว่า นี่พระสีวลีนะ

การที่จะแสดงถึง การไม่ยึดติดกับสิ่งใด ต้องมีปัญญา มีสัมมาทิฏฐิ ตามมรรคมีองค์8 จึงจะเรียกว่า ละวางตามแนวทางของศาสนาพุทธ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นได้ทำไว้ กลายเป็นความยึดมั่นถือมั่น ความแตกต่างที่ตัวเองได้ทำขึ้นใหม่กับกลายเป็น นำสิ่งที่ดีมาใช้ เพราะตัวเองก็ใช้สัญญาขันธ์ นำหน้า เช่นกัน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2012, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยฟังคำทำนายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ เมื่อสิบกว่าปีมาแล้วว่า พระเณรจะเก่งด้าน IT
มากกว่าญาติโยม...สงสัยใกล้ถึงวันนั้นแล้ว :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2012, 18:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วหลวงพ่อว่าต่อรึเปล่าละว่า...ดีหรือไม่ดี..อิอิ

s006 s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2012, 19:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ปลีกวิเวก เขียน:
เคยฟังคำทำนายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ เมื่อสิบกว่าปีมาแล้วว่า พระเณรจะเก่งด้าน IT
มากกว่าญาติโยม...สงสัยใกล้ถึงวันนั้นแล้ว :b41:


ส่วนนี้คือคำทำนายของเอกอน..... :b9: :b9:


:b1:

**************

เมื่อวิทยาการสมัยใหม่เข้าไปถึงสถาบันสงฆ์ของทิเบตที่พลัดถิ่นมาอยู่ในอินเดีย พระสงฆ์และแม่ชีทิเบตได้เข้าร่วมในโครงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อเรียนรู้ถึงการประสานกันของกายและจิตด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และผสมผสานความรู้ใหม่ ๆ เข้ากับภูมิปัญญาเก่าแก่ .-สำนักข่าวไทย

**************
**************

The Devotion of Matthieu Ricard (2008, George Schouten) หนังสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของพระทิเบตชาวฝรั่งเศษ Matthieu Ricard ที่บวชมาในสายนิงมาปะมาเกือบ 40 ปี เป็นล่ามภาษาฝรั่งเศษขององค์ดาไลลามะและเป็นพระสำคัญที่เคลื่อนไหวในเรื่องความสุขที่มาจากข้างใน รวมถึงการภาวนาแบบพุทธที่เชื่อมโยงกับวิจัยทางสมองของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่

**************
**************

Mystical Brain หนังสารคดีเกี่ยวกับการวิจัยทางสมองและสภาวะทางจิตใจ หนังที่นักวิทยาศาสตร์มาพบเจอกับพระทิเบตและผู้ปฏิบัติภาวนาจากที่ต่าง ๆ เพื่อมาค้นหาความรู้ร่วมกัน เพื่อหาจุดสมดุลระหว่างเรื่องวิทยาศาสตร์และเรื่องจิตวิญญาณ

**************

:b1:


จริง ๆ ประเทศไทยน่าจะมีเงินทุนสำหรับงานวิจัยเยอะนะ... :b14: :b14: .. :b32: :b32:

สิ่งที่เขาเลือกที่จะทำ กับสิ่งที่พวกเราเลือกที่จะทำ มันต่างกัน

:b12: :b13: :b13: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2012, 16:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ก็มีกลุ่มนักปฏิบัติไทยที่...เป็นกลุ่ม New age

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=43905

เรื่องที่หนึ่ง ชาวโลกประมาณหนึ่งในสาม ต่างรู้แล้วว่า กระบวนทัศน์ใหม่ทางสังคม (Alexander King’s Social Revolution ที่เยอรมัน Paul H. Ray’s Cultural Creative ที่อเมริกา ประเวศ วะสี คลื่นลูกที่สามแห่งสมัยรัตนโกสินทร์ ที่ประเทศไทย ประสาน ต่างใจ สู่มิติที่ห้า และ บุพนิมิตกระบวนทัศน์ใหม่ ประเทศไทยเหมือนกัน และ Jose Arguelles and Stephanie South’s Cosmic History ที่อเมริกา) นั่นคือวิวัฒนาการของจิตสู่จิตวิญญาณ และการย่างเท้าก้าวถึงยุคแห่งจิตวิญญาณ ในปี ค.ศ.๒๐๑๓ ไปแล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร