วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
พระวิปัสสนาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม
บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

ได้ละสังขารด้วยอาการสงบตามเยี่ยงอย่างปฏิปทาของพระอริยเจ้าแล้ว
หลังอาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อและโรคชรา
เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๙ น.
ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จ.มุกดาหาร
สิริรวมอายุได้ ๑๐๒ ปี ๘ เดือน พรรษา ๗๓
ปิดอีก ๑ ตำนานพระป่าสายหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


:b44: :b47: :b44:

กำหนดการพระราชพิธีน้ำหลวงอาบศพหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ในพระราชานุเคราะห์
วันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๓๐ น.
ณ ศาลาการเปรียญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร


เวลา ๑๔.๐๐ น.
- พระสงฆ์ พุทธศาสนิกชนพร้อมกัน ณ ศาลาการเปรียญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม
เวลา ๑๔.๓๐ น. - นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานฝ่ายฆราวาส เดินทางถึงบริเวณพิธี
- พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสฺสโก จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
- พระสงฆ์, แม่ชี, ผู้่ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร, ข้าราชการที่ปกติขาวไว้ทุกข์
และเหล่าพุทธศาสนิกชน สรงน้ำศพหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ตามลำดับ
- พระสงฆ์อาวุโสสูงสุด ประธานฝ่ายสงฆ์ สรงน้ำหลวงอาบศพหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
- นำสรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญโญ เข้าบรรจุในหีบศพไม้สักทอง เสร็จพิธี

หมายเหตุ ข้าราชการสวมชุดปกติขาวไว้ทุกข์ ประชาชนทั่วไปแต่งกายไว้ทุกข์

:b44:

โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

ตัวของเราบัดเดี๋ยวนี้
ยังทำตัวเองให้เดือดร้อนอยู่เสมอ เพราะเหตุใด ?
ก็เพราะตนเองทำตนให้เป็นข้าศึกแก่ตน

เคยได้ตรวจดูตนเองหรือยังว่า...
อะไรคือสาเหตุที่ให้ตนเดือดร้อน
แล้วจะแก้ไขตนเองอย่างไร ?


เรื่องของจิตที่รับอารมณ์นี่
หากยังหวั่นไหวหรือกระเทือนอยู่กับทุกๆ อารมณ์
ก็ให้เข้าใจว่า มาจากภายในที่่ไม่สงบ


:b47: :b44: :b47:

• ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

• รวมคำสอน “หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50221

• กำหนดการประชุมเพลิงสรีระสังขารครูบาอาจารย์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44511

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
ภาพการเคลื่อนย้ายสรีระสังขาร “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
ที่มาของรูปภาพ : https://www.facebook.com/ataesuwan


รูปภาพ

รูปภาพ
ลายมือของพระธมฺมธโร (ครูบาแจ๋ว) รก. เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม
ที่มาของรูปภาพ : https://www.facebook.com/sthammachai


:b8: :b8: :b8: ขอน้อมกราบลาองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ
ทั้งน้อมระลึกถึงคุโณปการยิ่งที่ท่านมีต่อพระพุทธศาสนาและมวลมนุษย์ชาติ
กรรมใดที่ลูกได้ประมาทพลั้งเผลอล่วงเกินองค์หลวงปู่ ไม่ว่าด้วยกาย วาจา ใจ
ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม
กราบขอองค์หลวงปู่ได้โปรดเมตตาอโหสิกรรมและงดโทษให้ด้วยเทอญเจ้าค่ะ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
...
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2013, 06:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ และได้รับการพยากรณ์แล้ว

ตอนที่ ๑๙
รู้แจ้งประจักษ์อนาคตอันไกลโพ้น


หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้เดินธุดงค์ไปจังหวัดเชียงใหม่ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโรงธรรม อำเภอสันกำแพง อยู่กับ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ๒ พรรษา ในช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านจึงอยู่ที่นี่เป็นหลัก ในบางโอกาสก็ออกไปหาวิเวกตามดอยต่างๆ

ต่อมาได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ในช่วงนั้นได้มีการทิ้งระเบิดในเมืองบ่อยครั้ง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะปลอดภัย หลวงปู่สิมจึงชวนหลวงปู่จามออกไปอยู่ที่จอมทองระยะหนึ่ง

การปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาที่จอมทองแห่งนี้ ได้พบกับความแปลกใหม่ของจิตตัวเอง เพราะเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสมแก่การบำเพ็ญพากเพียร และบุคคลสัปปายะเนื่องด้วยหลวงปู่สิมเคยเป็นสามเณรอยู่ด้วยกัน ขณะที่อยู่กับหลวงปู่มั่น จึงมีความเข้าใจสนิทสนมกันดี

ในช่วงแรกของการภาวนา จิตไม่สงบแส่ส่ายออกนอกเกิดสัญญาปรุงแต่งลักษณะเดียวกันกับที่เคยปรากฏมาก่อนแล้ว แม้ว่าจิตจะเคยสงบถึงขั้นอัปปนาสมาธิหลายครั้งแล้วก็ตาม เกิดเสื่อมลงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ได้ใช้อุบายต่างๆ แก้ไขมาหลายครั้งต่อหลายหนแล้ว บางคืนจิตร้อนรนเสมือนว่ากิเลสไม่เบาบางเลยทั้งๆ ที่ปกติธรรมดาจะไม่ปรากฏ แต่พอเริ่มอธิฐานจิตเข้าที่ภาวนาจะเกิดอาการลักษณะนี้ขึ้นมา คิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่บำเพ็ญพากเพียรอย่างจริงจัง แต่ผลที่ได้ดูเหมือนไม่คุ้มค่า รู้สึกว่าเกือบหมดกำลังใจ

แต่เนื่องด้วยอุปนิสัยของท่านเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ท่านระลึกถึงหลวงปู่มั่น ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่เคยให้คำแนะนำสั่งสอน และปฏิปทาของท่านเหล่านั้นแล้ว จึงเกิดพลังใจตั้งสัจจะอธิฐานว่า

“ถ้าจิตจะสงบหรือไม่สงบก็ไม่ว่า จะเกิดหรือไม่เกิดอะไรก็ไม่ว่า เราไม่หวังอะไรอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเอาเฉพาะพุทโธให้แนบแน่นกับลมหายใจที่ตรงหัวใจของเรา จะไม่ยอมให้หนีไปไหน”

ต่อจากนั้นอีกไม่นาน จิตค่อยๆ สงบละเอียดรวมลงเป็นสมาธิ กายเบาจนไม่มีกายเหลือแต่จิตดวงเดียว เกิดนิมิตภาพเจดีย์ปรักหักพังมากมาย พระพุทธรูปเก่าแก่ปางต่างๆ มากมาย ต้นโพธิ์ ต้นจิก และอื่นๆ เป็นภาพแล้วภาพเล่า ต่อจากนั้นก็เห็นภาพตนเองในอดีตชาติเกิดขึ้นมาจนนับไม่ไหว ท่านได้กำหนดรู้ในภาพนิมิตที่เกิดขึ้นมาโดยลำดับ ปัญญารู้แจ้งในแต่ละชาติในอดีตทั้งกรรมดีกรรมชั่วคละเคล้าปะปนกันไป ตลอดจนบุญบารมีที่สร้างไว้แต่อดีตชาติ ทั้งขึ้นสูงและลงต่ำ สวรรค์ นรก มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน

การพิจารณากลับไปกลับมาปรากฏความรู้แจ้งชัดขึ้นมาว่า การที่มุ่งทำความเพียรเพื่อละกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นเพื่อความหลุดพ้นทุกข์ในชาตินี้ คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เสมือนว่ามีอะไรสักสิ่งหนึ่งปิดกั้นไว้ ปัญญาไม่ทะลุแจ้ง ฉุกคิดถึงแนวทางปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิมาแล้ว ชะรอยเราจะเคยปรารถนา................ มาแล้วกระมัง ท่านจึงถอนจิตออกจากสมาธิแล้วไปที่หน้าองค์พระพุทธรูป ห่มผ้าจีวรจรดไหล่เรียบร้อย กราบแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าได้เคยปรารถนา................ ที่บำเพ็ญมาเพื่อการเป็น................ ในภายภาคหน้าแล้วก็ขอให้จิตสงบเยือกเย็นขอให้ภาพนิมิตเหล่านั้นหายไปและให้เกิดความรู้แจ้งเห็นชัดเป็นที่ประจักษ์เถิด” จึงได้พักผ่อนหลับ

ในคืนต่อมาการภาวนาได้ผลดี จิตสงบรวดเร็ว จิตใจที่เคยร้อนมีแต่เยือกเย็น เบาสบาย จิตรวมลงถึงฐานอัปปนาสมาธิ พักในสมาธิเพื่อให้เกิดพลังเต็มที่แล้วจิตถอนขึ้นมาเองอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ เกิดญาณทัศนะสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ อย่างที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน หยั่งรู้เข้าใจภาพนิมิตที่เคยปรากฏมาแล้วอย่างปราศจากข้อสงสัย รู้แจ้งแล้วว่าชาตินี้ยังไม่สามารถบำเพ็ญพากเพียรให้สิ้นอาสวะกิเลสได้ ได้รู้เห็นจิตใจของตนในส่วนลึกอย่างละเอียดว่า ได้เคยอธิษฐานตั้งความปรารถนา................ ไว้แล้วในอดีตชาติและได้รับการ................ แล้ว ไม่สามารถถอนออกได้ จึงจะต้องบำเพ็ญบารมีเพิ่มขึ้น จะต้องเกิดตายอีกหลายชาติ จนกว่าบารมีจะเต็ม และถึงระยะเวลาที่จะต้องลงมาอีกเพื่อการ................ ที่จะต้องมาโปรดสัตว์ที่โลกกำลังร้อนระอุ ซึ่งเป็นระยะเวลาอีกนานเท่าใดไม่สามารถจะประมาณได้

การสั่งสมอุปนิสัยบุญบารมีในแนวทางของความเป็น................ และได้รับการ................ แล้วนั้น ก็เป็นเรื่องเฉพาะตน การจะบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นใครก็เป็นเรื่องเฉพาะของการเป็นใครคนนั้น กรณีบำเพ็ญสาวกบารมีก็จะเป็นสาวก บำเพ็ญอัครสาวกบารมีก็จะเป็นอัครสาวก บำเพ็ญปัจเจกบารมีก็เป็นปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าบำเพ็ญพุทธบารมีก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า

ผู้เขียน (พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก) ได้ถามหลวงปู่ว่า “เกิดตายอีกหลายชาติไม่เบื่อหรือ”

ท่านตอบว่า “เบื่อไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ต้องมาเกิดตายจนกว่าจะหมดภาระหน้าที่นั้น”

:b44: ที่มา... ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
ในช่วงธุดงค์ไป อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กับ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

รูปภาพ

“เมื่อกูตายแล้ว สูจะเอาสัตว์มาฆ่าทำลาบทำแกงเลี้ยงคน อีนี้เป็นคนไปซื้อมา บักนี้เป็นคนฆ่า อีนี้เป็นคนฟักลาบทำแกง ไอ้นี้เป็นคนชิม อีนี้เป็นคนตักกิน เป็นบาปเป็นกรรมกับสัตว์ กูหน๋าไม่อยากตายกับสูเจ้า อยากไปตายกับเวสสุวัณอยู่ป่าหิมพานต์ ตายแล้วให้เขาเอาเตโชธาตุเผา ไม่เป็นบาปเป็นกรรมเป็นโทษไปกับสัตว์ หมู ไก่ ปลา งัว ควาย

ดูแต่เพิ่นอาจารย์มั่น นอนป่วยอยู่หนองผือนาใน แล้วทีนี้ก็รีบจัดแจงให้เขาหามออกไปใส่ทางรถ ขึ้นรถจากพรรณานิคม เข้าสุทธาวาส แล้วก็นิพพาน จึงปลอดภัยจากการเอาชีวิตสัตว์มากินของผู้คนมาส่งศพ

การเลือกที่จะตายนั้นเลือกได้ของพระอรหันตเจ้าผู้ได้วิชชา พิจารณาตัวอย่างรอบคอบ เพราะเพิ่นรักษาสัตว์โลกไว้ตามกรรม

อันนี้พอกูตาย สูเจ้าก็เอาสัตว์มาฆ่าลาบกินกันจนตลอด โห...จะเก็บไว้เท่าใดวัน ก็กินกันไปเท่านั้น กินกันทั้งวัน กินแล้วขี้ ส้วมขี้เต็มสูบทิ้ง อึกทึกกันอยู่ทั้งวัด ฆ่าไปกินไป

ขณะองค์หลวงปู่จามเล่า ลูกหลานชาวบ้านก็หัวเราะกัน ต่างก็ปฏิเสธว่าจะไม่ให้มีการฆ่าสัตว์และจะไม่เก็บศพเอาไว้นาน (๒๕๔๙)”


:b44: ที่มา... ธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

รูปภาพ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2013, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 293

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8:

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2013, 04:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


พิธีสรงน้ำและขอขมาสรีระสังขาร
“หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”


รูปภาพ

สรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

รูปภาพ

พระธมฺมธโร (ครูบาแจ๋ว) รก. เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม

รูปภาพ

พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
และพระธมฺมธโร (ครูบาแจ๋ว)


รูปภาพ

รูปภาพ

พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก พร้อมหมู่สงฆ์
ประกอบพิธีขอขมาสรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญโญ


รูปภาพ

หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนมประชาคม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


รูปภาพ

หลวงพ่อนิพนธ์ อภิปสันโน
วัดป่าศาลาน้อย อ.ด่านซ้าย จ.เลย
และหลวงปู่นวล วัดสมเด็จภูเรือ อ.ภูเรือ จ.เลย


รูปภาพ

หลวงพ่อนิพนธ์ อภิปสันโน วัดป่าศาลาน้อย อ.ด่านซ้าย จ.เลย
ก้มกราบสรีระสังขารหลวงปู่จาม เป็นเวลานานมาก

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2013, 04:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงปู่ล้วน จันทสาโร
วัดศรีมงคลเหนือ อ.เมือง จ.มุกดาหาร


รูปภาพ

พระครูสุทธิพรหมคุณ (หลวงพ่อสุทธิพงศ์ ชนุตฺตโม)
[ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสุทธิธรรมโสภณ]
เจ้าอาวาสวัดป่าวังเลิง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
และเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม ฝ่ายธรรมยุต


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เครื่องบริขารและเครื่องใช้ต่างๆ ของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

รูปภาพ

น้ำหลวงสรงสรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

รูปภาพ

รูปภาพ

หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนมประชาคม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
และหลวงปู่ล้วน จันทสาโร
วัดศรีมงคลเหนือ อ.เมือง จ.มุกดาหาร

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 08:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ในงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม


:b50: :b49: :b50:

• ขอเชิญร่วมงานพระราชทานเพลิงหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=46974

• หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48339

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

พระภิกษุสงฆ์นำกล่าวขอขมาสรีระสังขาร
องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็นครั้งสุดท้าย


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ขอน้อมถวายอภิสัมมานสักการะ
องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ สู่พระสัคคนฤพาน


:b44: :b47: :b44:

เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์

โครงสร้างของ “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” ทั้งหมดยึดถือตามแบบโบราณ นับตั้งแต่สะพานเชื่อมไปยังตัวปราสาท เพื่อใช้เคลื่อนย้ายโลงแก้วที่บรรจุสรีระสังขาร ทำด้วยไม้ไผ่แบบโบราณโดยใช้วิธีการขัดสานเป็นรูปร่าง

ลักษณะพิเศษของ “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” มีรูปร่างโครงสร้างส่วนหัวและลำตัวทำจากโครงไม้ ตกแต่งด้วยกระดาษตะกั่วหลากสีสัน ทำลวดลายเป็นเกล็ด บริเวณส่วนหัวช้างมีความพิเศษคือสามารถขยับเคลื่อนไหวไปมาได้ โดยชิ้นส่วนคอและหัวต้องเคลื่อนไหวหมุนไปมา ใบหูสามารถพับกระพือไปมาได้ ดวงตาทั้ง ๒ ข้างต้องมีลักษณะกลมมน ขอบตาสีแดง ขนตายาวงอนสวยงาม และกะพริบได้ตลอดเวลาเสมือนมีชีวิตจริงๆ ในส่วนของปีกสามารถขยับขึ้นลงได้เหมือนจังหวะการบินของนก บริเวณส่วนหางทำจากเสื่อไม้ไผ่ ตัดเป็นรูปให้มีลักษณะเหมือนหางหงส์ มีลวดลายสวยงาม ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยสวยงามเมื่อได้พบเห็น นอกจากนั้นบริเวณงวงยังยืดหดได้ โดยทำจากผ้าเย็บเป็นทรงกระบอกเลียนแบบงวงช้าง มีเชือกร้อยอยู่ด้านในสำหรับดึงเคลื่อนไหวได้ โดยส่วนนี้จะติดตั้งคนละส่วนกับลำตัว มีกลไกใช้เชือกชักให้เคลื่อนไหวได้ ด้านหน้ามีขันเล็กๆ บรรจุข้าวตอกไว้เพื่อโปรย ลักษณะเหมือนช้างใช้งวงโปรยข้าวตอกเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังการจุดไฟประชุมเพลิงเผาศพปราสาทแล้ว ศรัทธาญาติโยมรวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ จะรอแย่งผ้าเพดานซึ่งเป็นผ้าสังฆาฏิที่ขาดปลิวลงมาถึงพื้น เพื่อเก็บเป็นเครื่องบูชาสักการะหรือเป็นวัตถุมงคลไว้ติดตัว ส่วนท้องจะติดกับพื้นดินตามธรรมชาติของนกในป่า ขณะที่ส่วนยอดจะสร้างปราสาทตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามครอบบนตัวนกอีกชั้นหนึ่ง

บริเวณส่วนยอดมียอดปราสาทฉัตร ๙ ชั้น ซึ่งถือเป็นเครื่องประดับตามสมณศักดิ์ของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพตามความเชื่อของชาวล้านนา โดย ๓ ชั้นแรก หมายถึง พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ อีก ๕ ชั้นต่อมา หมายถึง พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ได้แก่ พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตรโยสัมมาสัมพุทธเจ้า และชั้นที่ ๙ หมายถึง พระนวโลกุตรธรรมเจ้าเก้าประการ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ และนิพพาน ๑

ทั้งนี้ โดยรอบเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ทั้ง ๔ ทิศ จะมีเพดานที่ทำจากเสาไม้ไผ่สูง และขึงด้วยผ้าสังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่าของพระภิกษุสงฆ์) โดยเสาไม้ไผ่ทั้ง ๔ ต้นดังกล่าวเปรียบแทน “สีลวิสุทธิ” ซึ่งเป็นศีลของพระภิกษุสงฆ์ที่เรียกว่า “จตุปริสุทธิศีล” กล่าวคือ ศีลเป็นเหตุให้บริสุทธิ์ ๔ ประการ ได้แก่

๑. ปาฏิโมกขสังวรศีล การสำรวมระวังในพระปาฏิโมกข์
๒. อินทรียสังวรศีล การสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
๓. อาชีวปาริสุทธิศีล การเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม
๔. ปัจจัยสันนิสิตศีล การบริโภคปัจจัยด้วยการพิจารณา


ส่วนผ้าสังฆาฏิที่ขึงอยู่กับเสาไม้ไผ่ทั้ง ๔ ต้น ลอยกระพือโบกสะบัดอยู่เหนือยอดปราสาทนั้น เปรียบผ้ากาสาวพัสตร์เป็นดั่งธงชัยแห่งพระอรหันต์ที่อยู่เหนือโลก เหนือวัฏฏสงสารการเวียนว่ายตายเกิด


สำหรับฟืนที่จะใช้ในงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารนั้น ได้เลือกไม้มงคล ๗ ชนิดมาประกอบพิธีตามหลักพระอภิธรรม ได้แก่ ๑. ไม้ดอกแก้ว ๒. ไม้ขนุน ๓. ไม้จำปา ๔. ไม้จำปี ๕. ไม้ตุ้มคำ (ไม้มงคลท้องถิ่น) ๖. ไม้จันทน์ และ ๗. ไม้กฤษณา ซึ่งไม้บางชนิดหาได้ยากมาก ในวันงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารจะมีประชาชนเหล่าพุทธบริษัทเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวล้านนาเชื่อกันว่าการได้มาร่วมงานศพของพระสงฆ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นสิริมงคลยิ่ง จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองทั้งกายและใจ

นกหัสดีลิงค์ เป็นนกใหญ่ตัวโตเท่าช้าง เรียกชื่อตามเจ้าของภาษาว่า “หัตถิลิงคะสะกุโณ” เรียกตามภาษาของเราว่า “นกหัสดีลิงค์” ตามประวัติศาสตร์ล้านนาเล่าขานสืบต่อกันมาว่า พญานกหัสดีลิงค์ เป็นหนึ่งในสัตว์ในเทวคติของชาวล้านนา อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ มีความพิเศษคือมีเพศเพียงดั่งช้าง เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์ มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ ๓-๕ เชือกรวมกัน ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตรา เจ้าเมืองผู้มีอำนาจบารมีสูง เชื่อกันว่าพญานกหัสดีลิงค์จะคาบเอาสังขารร่างของผู้วายชนม์เข้าไปยังดินแดนแห่งสรวงสวรรค์แห่งป่าหิมพานต์ ด้วยความเชื่อดังกล่าว ชาวล้านนาโบราณจึงนำมาเกี่ยวข้องกับพิธีศพ มีการสร้าง “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” ขึ้นในพิธีศพ โดยเชื่อกันว่าพญานกหัสดีลิงค์ซึ่งมีพละกำลังมีความแข็งแรงมากจะเป็น “พาหนะ” นำส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าได้โดยสะดวก

ความเชื่อของชาวล้านนาแต่อดีตกาลนิยมสร้าง “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือที่สิ้นชีพตักษัย รวมถึง พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ เพื่อให้พิธีศพสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบัน เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์นิยมสร้างเพื่อใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น

ในอดีตเมื่อเจ้านายฝ่ายเหนือสิ้นชีพตักษัย การจัดประเพณีศพของเจ้านายสมัยนั้นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และสมเกียรติ ด้วยการสร้างบุษบกสวมทับพระโกศตั้งบนหลังพญานกหัสดีลิงค์ ฉุดลากด้วยช้าง และให้ชาวบ้านชาวเมืองเดินตามขบวนแห่ไปยังสุสาน ปัจจุบันพิธีศพเช่นนี้นำมาใช้กับพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วย ทั้งนี้ มีพงศาวดารโยนกตอนหนึ่ง จุลศักราช ๙๔๐ ปีขาล สัมฤทธิศก เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ความว่า “นางพระญาวิสุทธิเทวี ต๋นนั่งเมืองนครพิงค์ ถึงสวรรคต พระญาแสนหลวงจึงแต่งการพระศพ ทำเป๋นวิมานบุษบกตั้งอยู่บนหลังนกหัสดินทร์ตั๋วใหญ่ แล้วฉุดลากไปด้วยแฮงจ๊างคชสาร จาวบ้าน จาวเมืองเดินตวยก้น เจาะก๋ำแปงเมืองออกไปตางต่งวัดโลกโมฬี และทำก๋ารถวายพระเพลิง ณ ตี้นั้น เผาตึงฮูปนกหัสฯ และวิมานบุษบกนั้นตวย”

การสร้างเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ไม่ได้มีแต่ในอาณาจักรล้านนาตามที่หลายคนเข้าใจ แต่ยังมีความเชื่อเดียวกันนี้ในเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า แต่รูปลักษณะตามจินตานาการจะแตกต่างกับทางล้านนา

เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ที่ว่านี้ สร้างขึ้นเพื่อถวายเกียรติให้สมฐานะบารมีแก่พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ ซึ่งเป็นที่เคารพรักยิ่งแก่มวลหมู่มนุษย์และเทพเทวา ไฟพระราชทานเพลิงศพนั้นเป็นพระเมตตาของพระมหากษัตริย์ที่ทรงแสดงความเคารพรัก ความศรัทธา และเชิดชูเกียรติแก่พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่นั้นๆ พญานกหัสดีลิงค์ก็เท่ากับว่าเป็นพานรองรับไฟพระราชทานเพลิงศพของพระมหากษัตริย์นั่นเอง ดอกไม้มีพานเป็นภาชนะรองรับฉันใด พญานกหัสดีลิงค์ก็ใช้เป็นที่รองรับสรีระสังขารของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ผู้เป็นที่เคารพรักฉันนั้น

ก่อนหน้างานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ บนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ณ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ได้มีงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ บนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์มาก่อน อาทิเช่น พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ) ณ วัดสามัคคีบุญญาราม (วัดคีรีสุบรรพต) จ.ลำปาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๘ และพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสโล) ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓ ซึ่งทั้ง ๓ งานดังกล่าวนี้ได้รับการดูแล และให้คำปรึกษาโดยพระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) แห่งวัดอนาลโยทิพยาราม จ.พะเยา หากสงสัยว่าทำไมหลวงปู่จามซึ่งเป็นพระทางอีสานจึงใช้ประเพณีแบบล้านนา ก็ขอตอบว่า ท่านเคยไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่รุกขมูลที่เมืองเหนือมากกว่าครึ่งชีวิตขององค์ท่าน ดังนั้น หลวงปู่จามท่านจึงได้รับการยกย่องบูชาเทียบเท่ากับพระฝ่ายเหนือ

นอกจากนี้ยังมีพระทางอีสานบางรูปได้มีงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารบนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ประเพณีแบบล้านนา เช่น พระครูสิริธรรมากร (หลวงพ่อบุดดา สุภทฺโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโพธิ์ชัย จ.อุบลราชธานี และอดีตเจ้าคณะอำเภอตระการพืชผล ซึ่งมีการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ ณ วัดศรีตระการ จ.อุบลราชธานี (อันเป็นวัดที่หลวงพ่อท่านได้ลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง) เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕



:b8: :b8: :b8: รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหามาจาก ::
- บทความเรื่อง เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ และตำนานล้านนา
อรรถาธิบายโดย พระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปญฺโญ) วัดศรีดอนมูล
- บทความเรื่อง “พญานกหัสดีลิงค์” สัตว์ป่าหิมพานต์กับ...พิธีศพของล้านนา
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ออนไลน์ ฉบับวันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๓

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2014, 18:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2015, 10:25 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


ปีติมากๆ ที่มีโอกาสไปเยือนวัดป่าวิเวกวัฒนาราม วัดหลวงปู่จามค่ะ Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2019, 06:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 41 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร