เคยได้ยินผู้ใหญ่บอกว่า เกิดเป็นมนุษย์ต้องแต่งงานมีคู่ครอง
เพราะถ้าไม่มี สวรรค์จะไม่ต้อนรับ เนื่องจากเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ
จริงไหมค่ะ

จขกท. ถามน่าเอ็นดูนะครับ


ผู้ใหญ่คงอยากอุ้มหลานจึงอยากให้เราแต่งงานกระมัง

ก็ในเมื่อสวรรค์ไม่ต้อนรับ ไปนรก่ก็ได้ไม่มีปัญหา

ไม่จริง.....คับ

เดิม....เพศก็ไม่มี

ที่มามีเพศหญิง...เพศชาย....ต้องแต่งงาน..ต้องมีลูก....เป็นผลงานของอวิชชาครับ

คนจะไปสวรรค์ได้.....ไม่ต้องทำอะไรมากคับ...ทำแค่ 2 อย่าง...เอง
คือ..มี..หิริ..ความละอายต่อการทำความชั่ว..กับ..มีโอตปะ..คือ..เกรงกลัวผลของบาป

แค่นี้...ก็ไปสวรรค์ได้แล้วครับ...

คำถามของคุณ ไม่ใช่จะตอบกันได้ง่ายๆนะขอรับ จะตอบว่า จริงก็ได้ จะตอบว่าไม่จริงก็ได้ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ
๑. ผู้ใหญ่ที่คุณกล่าวถึง เป็นผู้รู้ถึงความเป็นไปของมนุษย์พอสมควร สวรรค์ที่ท่านกล่าวถึง อาจจะไม่ใช่สวรรค์ที่ต้องตายแล้วจึงจะไปได้ อาจจะเป็นสวรรค์ในทางจิตใจ ความคิด การระลึกนึกถึง อารมณ์ ความรู้สึก เพราะในความเข้าใจของผู้ใหญที่คุณกล่าวถึง เข้าใจว่า ธรรมชาติของสัตว์ทั้งหลาย รวมถึงมนุษย์ด้วย ล้วนต้องมีการสืบพันธ์ คือ ล้วนต้องมีคู่ครองด้วยกันทั้งนั้น ใครไม่มีคู่ครอง ไม่แต่งงาน ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ไม่ได้หมายความจะบังคับให้มนุษย์ทุกคนต้องมีคู่ครอง หรือต้องแต่งงานนะขอรับ ดังนั้นในข้อนี้ ก็นับได้ว่า จริงตามที่ผู้ใหญ่บอกไว้ ขอรับ
๒.แต่ถ้าจะตอบว่าไม่จริง ก็เพราะ หากสวรรค์ที่ผู้ใหญที่คุณกล่าวถึง หมายถึง สวรรค์ ที่จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ ตาย ไปแล้ว อันนี้ไม่สามารถรู้ได้ และไม่สามารถรู้ได้ว่า ว่า "สวรรค์" ที่อยู่นอกเหนือจากโลก มีจริงหรือว่าไม่มีจริง แต่งงานมีคู่ครองแล้วจะไป สวรรค์ จริงหรือไม่ หรือว่า ถ้าไม่ได้แต่งงานมีคู่ครอง จะไปสวรรค์ไม่ได้จริงหรือไม่ ไม่มีผู้ใดตอบได้
สวรรค์ นรก มีอยู่จริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ มีแต่คำบอกว่าเล่าของผู้ใหญ่นั่นแหละ ที่บอกเล่าว่า ถ้า "ทำความดี ก็ย่อมได้ขึ้นสวรรค์ " ถ้าทำความชั่ว ก็ย่อมไปลงนรก" ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่จริง
ดังนั้น คำตอบที่ไขข้อข้องใจให้กับคุณ ก็คือ ทั้งจริง และไม่จริง ดังที่ได้เขียนไปแล้วข้างต้น
ในความเป็นมนุษย์ ในธรรมชาติของมนุษย์ที่ถูกกำหนดมา ย่อมต้องมีคู่ เพื่อผลประโยชน์บางอย่างในยามแก่ชรา แต่บุคคลจะไม่มีคู่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะสมัยนี้ วิทยาการก้าวหน้า กว่าสมัยโบราณนะขอรับ สมัยโบราณ คนมีน้อย มีคู่แต่งงานมีคู่ครอง ก็เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดา เพื่อความคิดที่ว่า จะได้มีลูก มีหลานไว้สืบสกุล
ศาสนา ใครอย่าเข้าใจผิด คิดว่า ศาสนาไม่ส่งเสริมให้มีคู่ครองหรือแต่งงานกัน อย่าหลงประเด็นนะขอรับ ถ้าบุคคลใดเอาศาสนามากล่าวอ้างว่า มีรักมีทุกข์ เป็นทุกข์ เป็นอนิจจัง หรืออะไรต่อมิอะไร อย่างนั้น เขาเรียกว่า "พวกสุนัขหางด้วน"(สุภาษิตไม่ได้ด่าใครนะขอรับ) เพราะในทางศาสนา ก็มีธรรม มีศีล สำหรับมนุษย์ทั้งหลายอยู่แล้ว ขอรับ

ลำพังตนเองก็ทุกข์ มีคู่เพิ่มมาก็ทุกข์มากขึ้นอีกแล้วแต่จะยอมรับมันได้หรือเปล่า

ถ้าดิฉันมีความคิดแบบขณะนี้ ตอนยังไม่ได้แต่งงานนะคะ ดิฉันจะอยู่คนเดียว
ดิฉันคิดเหมือนคุณ Hanako

อยู่คนเดียว ดีอย่างไร ไม่ต้องเสี่ยงติดโรคจากสามี ไม่ต้องหาเงินเลี้ยงดูลูก บางครั้งก็ต้องเลี้ยงสามี
ตามใช้หนี้ให้สามีหรือภรรยา ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องมานั่งนอนยืนเดินอยู่โดยมีขันธ์5ของคนอื่นมาแบกไว้

จะอุปมาให้อ่านกันนะคะ คนเรานั้นมีขันธ์5 กันทุกคนนะคะ

บางครอบครัวมี 4 คน พ่อแม่ลูกอีก2
คนเป็นเมียต้องแบกขันธ์5ตัวเองก็มี=5แล้ว ยังต้องแบกของสามีอีก5 ลูก2คนก็เป็น10
ภรรยาแบกขันธ์ไว้ทั้งหมด 20 ขันธ์

เท่านั้นไม่พอ น้องสามีมีเรื่องกลุ้มใจเดือดร้อนมา ไม่ช่วยสามีก็จะว่าใจดำ
แบกของน้องสามีเพิ่มมาอีก5 รวมๆ แล้วเป็นภรรยาเค้าต้องแบกไว้ 25 ขันธ์

"วิถีฆราวาสนั้นคับแคบ เป็นทางมาแห่งปฏิกูล" เป็นเช่นนั้น

"ความรัก" มักทำให้ตาบอด มองเห็นแต่ความสุข ความน่าภิรมย์
ปกปิดเสียซึ่งความจริง ..

ดีเหมียนกันนะ ตุ๊กกี๊จะได้มีเพื่อน .. อิอิ

ผมว่ามนุษย์ไม่มีคู่ครองก็ได้นะครับ หลายๆคนในปัจจุบันที่ไม่ได้ครองสมณะเพศแต่ไม่มีคู่ ไม่ได้แต่งงาน จดทะเบียนใดๆ แต่ถือศีลอยู่วัด อยู่บ้านกัน

ส่วนถ้าย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาลคนที่บรรลุตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปไม่มีคู่ครองเยอะเลยครับ

...จะเลือกเกิดที่ไหนขึ้นอยู่กับการกระทำคือกรรมของแต่ละบุคคล...เกิดภพภูมิที่ไม่ต่ำกว่าคนทำดังนี้...
...1จะไปเกิดเป็นมนุษย์ที่ไม่พิการต้องมีคุณธรรมข้อไม่เห็นแก่ตัวมีให้ทาน ไม่ผิดศีล5 ขี้เกียจภาวนา...
...2จะไปเกิดบนสวรรค์ทำตามข้อ1แล้วเพิ่มภาวนาเป็นนิสัยไม่เห็นแก่ตัวและเพิ่มข้อการมีหิริ+โอตัปปะ...
...3จะไปเกิดในพรหมโลกชั้นบริวารทำตามข้อ1และ2แล้วจะต้องเพิ่มคุณธรรมข้อพรหมวิหารธรรมด้วย...
...4จะไปเกิดในพรหมโลกเป็นพระพรหมแต่ละชั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติสมาธิสำเร็จฌานแต่ละขั้นด้วยจ้ะ...
...5พรหมโลกสุทธาวาส5ชั้นได้แก่ อวิหา อตัปปา สุทธัสสา สุธัสสี อกนิษฐ สำหรับพระอนาคามีเจ้าค่ะ...

...บาป บุญ คุณ โทษ เป็นของผู้กระทำ จะมีหรือไม่มีคู่ครอง นั่นเป็นเรื่องการหลงสมมุติคิดไปเอง...
...เพศบรรพชิตเป็นผู้ที่ตัดภาระทางโลก เพื่อเพียรทางธรรม ตัดอุปสรรค เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์แล้ว...
...ถ้าทำให้ถึงที่สุดแห่งการดับทุกข์ เป็นผู้สิ้นกิเลสอาสาวะที่เป็นเครื่องหมักดองสันดานก็บรรลุอรหันต์...
...เพราะฉะนั้นการพูดถึงการมีคู่ครองเป็นของดีเป็นเรื่องของคนที่มีกิเลสหนาเค้าพูดกัน...จริงไหมคะ...

...ทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล แต่ดื่มสุรามาก จะได้ไปเกิดเป็นอสูร(อสุรา=ผู้ไม่ดื่มสุรา)...
...นิสัยขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลงมีโมหะมากถึงขั้นโกงกินทุกรูปแบบ ขี้เหนียว ขี้หึง ขี้หวง เกิดเป็นเปรต...
...พวกชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่น ก็อาจะได้ไปใช้กรรมไปเกิดเป็นนกกระจิบ นกกระจาบก็เป็นได้...
...ส่วนใครที่ชอบส่งข้อมูลข่าวสารผิดๆ เพี้ยนๆ ทำให้ผู้อื่นหลงผิด อาจไปเกิดเป็นนกพิราบก็ได้นะ...
...ต้องรักศีล5ยิ่งกว่ารักกิเลส รักตัวกลัวอบายภูมิ ก็ให้รีบทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ไม่ผูกใจโกรธใคร...