วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 21:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1375241010-1370203825-o.gif
1375241010-1370203825-o.gif [ 497.16 KiB | เปิดดู 2367 ครั้ง ]
amazing :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 20:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

แค่ศรัทธาตัวเดียวก็อวกแล้วท่าน



เปงงี้อ่ะน่ะ ถ้าคิดทำอย่าง amazing ต่อให้ทำจนวันตาย ทำจนเส้นเลือดในสมองแตก ให้เมียหยอดน้ำข้าวต้ม ก็ไม่ได้สักเรื่อง อ่ะๆ นี่พูดจริงๆนะทำเป็นเล่นไป :b32:

อ้าวท่านมาแช่งกันซะแล้ว. แค่ศรัทธาตัวเดียวท่านก็เห็นมันสุดยอดเลยนะครับบรรลุธรรมได้เลยนะ ไม่ใช่ความเชื่ออย่างที่ท่านบอกนะครับ มันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยล่ะและนี้แหล่ะที่ธรรม5อย่างถ้าใครทำได้ก็ปราถนาได้ทุกสิ่ในโลกแม้นิพพานก็หวังได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 20:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

แค่ศรัทธาตัวเดียวก็อวกแล้วท่าน



เปงงี้อ่ะน่ะ ถ้าคิดทำอย่าง amazing ต่อให้ทำจนวันตาย ทำจนเส้นเลือดในสมองแตก ให้เมียหยอดน้ำข้าวต้ม ก็ไม่ได้สักเรื่อง อ่ะๆ นี่พูดจริงๆนะทำเป็นเล่นไป :b32:



อ้าวท่านมาแช่งกันซะแล้ว แค่ศรัทธาตัวเดียวท่านก็เห็นมันสุดยอดเลยนะครับบรรลุธรรมได้เลยนะ ไม่ใช่ความเชื่ออย่างที่ท่านบอกนะครับ มันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยล่ะและนี้แหล่ะที่ธรรม5อย่างถ้าใครทำได้ก็ปราถนาได้ทุกสิ่ในโลกแม้นิพพานก็หวังได้



amazing สนทนากับกรัชกายต้องตั้งใจมั่นๆนะครับ อย่าได้หน้าลืมหลัง :b1:

กรัชกายบอกกี่หนแล้ว ว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอ แล้วก็ไม่ใช่นั่งคิดนั่งทำทีละข้อๆ อย่าง amazing เข้าใจ ถ้ายังงี้ทำจนเลือดออกจากทวารทั้ง 9 ก็ไม่สำเร็จ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 20:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 21:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

แค่ศรัทธาตัวเดียวก็อวกแล้วท่าน



เปงงี้อ่ะน่ะ ถ้าคิดทำอย่าง amazing ต่อให้ทำจนวันตาย ทำจนเส้นเลือดในสมองแตก ให้เมียหยอดน้ำข้าวต้ม ก็ไม่ได้สักเรื่อง อ่ะๆ นี่พูดจริงๆนะทำเป็นเล่นไป :b32:



อ้าวท่านมาแช่งกันซะแล้ว แค่ศรัทธาตัวเดียวท่านก็เห็นมันสุดยอดเลยนะครับบรรลุธรรมได้เลยนะ ไม่ใช่ความเชื่ออย่างที่ท่านบอกนะครับ มันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยล่ะและนี้แหล่ะที่ธรรม5อย่างถ้าใครทำได้ก็ปราถนาได้ทุกสิ่ในโลกแม้นิพพานก็หวังได้



amazing สนทนากับกรัชกายต้องตั้งใจมั่นๆนะครับ อย่าได้หน้าลืมหลัง :b1:

กรัชกายบอกกี่หนแล้ว ว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอ แล้วก็ไม่ใช่นั่งคิดนั่งทำทีละข้อๆ อย่าง amazing เข้าใจ ถ้ายังงี้ทำจนเลือดออกจากทวารทั้ง 9 ก็ไม่สำเร็จ :b1:

ผมว่าพอนะแค่ศรัทธาท่านดูพระสูตรที่ผมยกมาสิตอนท้ายๆบรรลุเลยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2013, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา
สุภูติสูตร
ครั้ง นั้นแล ท่านพระสุภูติกับสัทธภิกษุ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระสุภูติว่า ดูกรสุภูติ ภิกษุนี้ชื่อไร ท่านพระ สุภูติกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้ชื่อว่าสัทธะ เป็นบุตรอุบาสกผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา พระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกร สุภูติ ก็สัทธภิกษุนี้เป็นบุตรของอุบาสกผู้มีศรัทธาออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ย่อมเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายแลหรือ ฯ

สุ. ข้า แต่พระผู้มีพระภาค บัดนี้เป็นกาลสมควร ทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลสมควรทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ขอพระผู้มีพระภาคพึงตรัสลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธาเถิด ข้าพระองค์จักทราบบัดนี้ว่า ภิกษุนี้จะเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายหรือไม่ ฯ

พ. ดูกรสุภูติ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

ท่านพระสุภูติทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วในปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร

ภิกษุเป็นผู้มีสุตะมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมามาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง

ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี

ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุศาสนีย์โดยเคารพ

ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน ในกรณียกิจทั้งสูงและต่ำของเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในกรณียกิจนั้น

ภิกษุเป็นผู้ใคร่ธรรม กล่าวคำเป็นที่รัก เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง

ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรม ให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม

ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌาน(ทั้ง) ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

ภิกษุระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก

ภิกษุเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์

ภิกษุทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

(ภาษาไทย) เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๑๒ – ๓๑๖/๒๒๑.



นี่คือ ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา


เป็นลีลาการสอนของพระพุทธเอง.นะ..อเมสซิ้ง...ทำนองว่า...เมื่อศรัทธาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งและคำสอนจนบรรลุเป้า
หมายที่พระองค์ต้องการ..คือ..พ้นจากกิเลสทั้งปวง

ไม่ได้หมายความว่า..นี้คือความหมายของคำว่าศรัทธา...คงเข้าใจนะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 08:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
amazing เขียน:
ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา
สุภูติสูตร
ครั้ง นั้นแล ท่านพระสุภูติกับสัทธภิกษุ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระสุภูติว่า ดูกรสุภูติ ภิกษุนี้ชื่อไร ท่านพระ สุภูติกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้ชื่อว่าสัทธะ เป็นบุตรอุบาสกผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา พระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกร สุภูติ ก็สัทธภิกษุนี้เป็นบุตรของอุบาสกผู้มีศรัทธาออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ย่อมเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายแลหรือ ฯ

สุ. ข้า แต่พระผู้มีพระภาค บัดนี้เป็นกาลสมควร ทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลสมควรทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ขอพระผู้มีพระภาคพึงตรัสลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธาเถิด ข้าพระองค์จักทราบบัดนี้ว่า ภิกษุนี้จะเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายหรือไม่ ฯ

พ. ดูกรสุภูติ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

ท่านพระสุภูติทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วในปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร

ภิกษุเป็นผู้มีสุตะมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมามาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง

ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี

ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุศาสนีย์โดยเคารพ

ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน ในกรณียกิจทั้งสูงและต่ำของเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในกรณียกิจนั้น

ภิกษุเป็นผู้ใคร่ธรรม กล่าวคำเป็นที่รัก เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง

ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรม ให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม

ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌาน(ทั้ง) ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

ภิกษุระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก

ภิกษุเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์

ภิกษุทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

(ภาษาไทย) เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๑๒ – ๓๑๖/๒๒๑.



นี่คือ ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา


เป็นลีลาการสอนของพระพุทธเอง.นะ..อเมสซิ้ง...ทำนองว่า...เมื่อศรัทธาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งและคำสอนจนบรรลุเป้า
หมายที่พระองค์ต้องการ..คือ..พ้นจากกิเลสทั้งปวง

ไม่ได้หมายความว่า..นี้คือความหมายของคำว่าศรัทธา...คงเข้าใจนะ..
นี่แหล่ะคือศรัทธาของผู้ที่มีศรัทธา ผู้ใดมีศรัทธาแต่คำพูดจะเรียกว่าเป็นผู้มีศรัทธาได้อย่างไร ศรํทธาพวกนั้นเป็นเพียงศรัทธาที่มืดบอด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 18:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif
b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 2310 ครั้ง ]
amazing เรียกเฉยๆ กลัวลืม ยังคิดถึงอยู่นะครับ :b8: :b1: มีอะไรอยากจะบอก จะให้ดีต้องไปดูต้นฉบับคือ บาลี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


ถ้ากรัีชกายจะถาม amazing ยังงี้ล่ะ ว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่า 5 ข้อนั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ จะตอบว่าอย่าง่ไร :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 18:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


ถ้ากรัีชกายจะถาม amazing ยังงี้ล่ะ ว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่า 5 ข้อนั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ จะตอบว่าอย่าง่ไร :b10:

อ้าวท่านกรัชกายในพระสูตรไงล่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


ถ้ากรัีชกายจะถาม amazing ยังงี้ล่ะ ว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่า 5 ข้อนั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ จะตอบว่าอย่าง่ไร :b10:


อ้าวท่านกรัชกายในพระสูตรไงล่ะครับ


ถามอย่า่งตอบอย่าง ถามว่าท่านรู้ได้อย่างไร ? ว่า ศรัทธา เป็นต้น พระพุทธเจ้าแสดงไว้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 19:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


ถ้ากรัีชกายจะถาม amazing ยังงี้ล่ะ ว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่า 5 ข้อนั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ จะตอบว่าอย่าง่ไร :b10:


อ้าวท่านกรัชกายในพระสูตรไงล่ะครับ


ถามอย่า่งตอบอย่าง ถามว่าท่านรู้ได้อย่างไร ? ว่า ศรัทธา เป็นต้น พระพุทธเจ้าแสดงไว้ :b1:

ท่านกรัชกายสิ่งที่พระิงค์แสดงก่อนแรกคืออะไรไม่ใช่ศรัทธาหรือไงดูอินทรีย์5ยังเริ่มด้วยศรัทธาเลย ไม่มีศรัทธากรัชกายจะเดินไปอย่างไร แต่ก็ต้องมีศรัทธาที่ถูกต้องไม่มืดบอดด้วยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 19:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:
ไม่บอก



เห็นท่าจะไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ สวัสดีนะครับ บ๊ายบาย :b9:
อ้าวมาถามมีอะไรจบบ้างท่านก็ถามแปลกนี่ ผมเพียงนำธรรม5ข้อที่พระพุทธองค์แสดงไว้มาให้ดูเพื่อเป็นทางให้ปฎิบัติเป็นเข็มทิศให้ ใช่ผมต้องจบแล้วสะเมื่อไหร่


ถ้ากรัีชกายจะถาม amazing ยังงี้ล่ะ ว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่า 5 ข้อนั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ จะตอบว่าอย่าง่ไร :b10:


อ้าวท่านกรัชกายในพระสูตรไงล่ะครับ


ถามอย่า่งตอบอย่าง ถามว่าท่านรู้ได้อย่างไร ? ว่า ศรัทธา เป็นต้น พระพุทธเจ้าแสดงไว้ :b1:

ท่านกรัชกายสิ่งที่พระิงค์แสดงก่อนแรกคืออะไรไม่ใช่ศรัทธาหรือไงดูอินทรีย์5ยังเริ่มด้วยศรัทธาเลย ไม่มีศรัทธากรัชกายจะเดินไปอย่างไร แต่ก็ต้องมีศรัทธาที่ถูกต้องไม่มืดบอดด้วยนะครับ



ถามใหม่ ชัดๆ ตัว amazing เองรู้ได้ยังไง ว่าพระพุทธเจ้าแสดงไว้ รู้ได้ยังไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร