วันเวลาปัจจุบัน 12 ส.ค. 2025, 17:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 06 พ.ค. 2014, 15:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ก้อนหิน...อาจจะไม่ได้ให้คำตอบใด ๆ ออกมาเป็นสำเนียง วาจา
เพื่อจรรโลงความคิดทางธรรมให้บรรเจิดในหัวสมองของผู้แสวงหาธรรม
แต่...ก้อนหินนั่นล่ะ...คือคำตอบของธรรมอยู่แล้ว

:b41:


โพสต์ เมื่อ: 06 พ.ค. 2014, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 06 พ.ค. 2014, 17:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต้ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี...


:b1: ... ไม่รู้สิ่ ... ไม่รู้จริง ๆ ว่าในภาวะที่บีบคั้นเช่นนั้น
แสงสว่างจะมีกำลังส่องเป็นทางเลือกให้กับจิตใจได้แค่ไหน...
จะประคับประคองจิตใจเราให้ผ่านพ้นไปได้เพียงใด...

เรื่องนี้ต้องไปฟังทัศนะของท่าน ติ นัช ฮัท
และผู้คนในหมู่บ้านพลัม

เพราะ ผู้คนส่วนหนึ่งที่เข้าปฏิบัติที่นั่น
ส่วนหนึ่งคือผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางจิตใจ
ได้เข้าไปปฏิบัติเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บทางใจ

ซึ่งหลายคนสามารถที่จะข้ามผ่านความหมองเศร้าแห่งจิตไปสู่แสงสว่างได้
แต่...มันก็ต้องใช้เวลา...ในที่สุดพวกเขาก็พบกับสันติในจิตได้

ซึ่ง...ตราบเมื่อยังมีคนที่แสดงให้เห็นว่า...สันติแห่งจิตใจนั้นบังเกิดขึ้นได้
เราก็ทำได้ดีที่สุดคือต้อง...เชื่อ/ศรัทธา...ว่าถ้าหากเราต้องได้พบกับชะตากรรมเช่นนั้นเข้าสักวัน
เราก็สามารถที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้เช่นกัน...

....

บางอย่าง เราไม่รู้ว่าเราจะทำได้หรือไม่
แต่...เมื่อเราเชื่อ/ศรัทธาในหนทางแห่งแสงสว่างนั้นว่ามีอยู่ และผู้ที่ไปถึงได้มีอยู่
เราก็จะรู้สึกถึงได้ว่า...หนทางอันสว่างสันตินั้น...ก็ไม่ได้ปิดกั้นสำหรับเราเช่นกัน

....

:b41:


โพสต์ เมื่อ: 08 พ.ค. 2014, 22:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:


โพสต์ เมื่อ: 08 พ.ค. 2014, 23:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต้ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี...


:b1: ... ไม่รู้สิ่ ... ไม่รู้จริง ๆ ว่าในภาวะที่บีบคั้นเช่นนั้น
แสงสว่างจะมีกำลังส่องเป็นทางเลือกให้กับจิตใจได้แค่ไหน...
จะประคับประคองจิตใจเราให้ผ่านพ้นไปได้เพียงใด...

เรื่องนี้ต้องไปฟังทัศนะของท่าน ติ นัช ฮัท
และผู้คนในหมู่บ้านพลัม

เพราะ ผู้คนส่วนหนึ่งที่เข้าปฏิบัติที่นั่น
ส่วนหนึ่งคือผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางจิตใจ
ได้เข้าไปปฏิบัติเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บทางใจ

ซึ่งหลายคนสามารถที่จะข้ามผ่านความหมองเศร้าแห่งจิตไปสู่แสงสว่างได้
แต่...มันก็ต้องใช้เวลา...ในที่สุดพวกเขาก็พบกับสันติในจิตได้

ซึ่ง...ตราบเมื่อยังมีคนที่แสดงให้เห็นว่า...สันติแห่งจิตใจนั้นบังเกิดขึ้นได้
เราก็ทำได้ดีที่สุดคือต้อง...เชื่อ/ศรัทธา...ว่าถ้าหากเราต้องได้พบกับชะตากรรมเช่นนั้นเข้าสักวัน
เราก็สามารถที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้เช่นกัน...

....

บางอย่าง เราไม่รู้ว่าเราจะทำได้หรือไม่
แต่...เมื่อเราเชื่อ/ศรัทธาในหนทางแห่งแสงสว่างนั้นว่ามีอยู่ และผู้ที่ไปถึงได้มีอยู่
เราก็จะรู้สึกถึงได้ว่า...หนทางอันสว่างสันตินั้น...ก็ไม่ได้ปิดกั้นสำหรับเราเช่นกัน

....

:b41:

:b8:
อนุโมทนากับตัวอย่างธรรมของท่าติชนัท ฮัน ที่เอก้อนยกมา

ประเด็นที่จำง่ายอยู่ที่ว่า หากเราเพียรทำลายเหตุทุกข์ อันได้แก่ความเห็นผิด กับความยึดผิด ในจิตใจเราให้เบาบางไปหรือหมดไปได้แล้ว ปัญหาที่คาดเดาว่าจะเป็นจะเกิดทั้งหมดดังที่คุณพุทธคุณยกตัวอย่างมานั้น เขาจะถูกสรุปและ แก้ไขไปเองทั้งหมด
โดยธรรมครับ
:b37:


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 04:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:



ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ถ้ายังงั้น คนที่มีชีวิตอยู่ ... 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง 20 ปี บ้าง 75 ปีเป็นต้นบ้าง แล้วก็ตายไป ช่วงอยู่ที่เขาดำรงชีวิตอยู่ ก็ไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตปลอมๆยังงั้นซี่ :b10: หรือยังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 09:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:



ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ถ้ายังงั้น คนที่มีชีวิตอยู่ ... 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง 20 ปี บ้าง 75 ปีเป็นต้นบ้าง แล้วก็ตายไป ช่วงอยู่ที่เขาดำรงชีวิตอยู่ ก็ไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตปลอมๆยังงั้นซี่ :b10: หรือยังไง

:b38:
สิ่งที่ถามมานี่เขาเรียกว่า "ประวัติชีวิตจริง" แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ เพราะมันจบเป็นอดีตไปแล้ว ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว

คุณกรัชกายต้องไปทำความรู้และประสบการณ์จริงในเรื่องปัจจุบันอารมณ์ให้ได้มากๆนะครับ จะรู้ชัดมากเลยว่า ชีวิตจริงมันมีอยู่แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจริงๆ
:b41:


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:



ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ถ้ายังงั้น คนที่มีชีวิตอยู่ ... 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง 20 ปี บ้าง 75 ปีเป็นต้นบ้าง แล้วก็ตายไป ช่วงอยู่ที่เขาดำรงชีวิตอยู่ ก็ไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตปลอมๆยังงั้นซี่ :b10: หรือยังไง

:b38:
สิ่งที่ถามมานี่เขาเรียกว่า "ประวัติชีวิตจริง" แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ เพราะมันจบเป็นอดีตไปแล้ว ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว

คุณกรัชกายต้องไปทำความรู้และประสบการณ์จริงในเรื่องปัจจุบันอารมณ์ให้ได้มากๆนะครับ จะรู้ชัดมากเลยว่า ชีวิตจริงมันมีอยู่แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจริงๆ



อ้างคำพูด:
ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว



สมมติว่า เราเขียนผิด หรือพิมพ์ผิด รุ่งขึ้นมาตรวจสอบดู อ้าว พิมพ์ผิดนี่หว่า แล้วแก้ให้เสียใหม่ คือพิมพ์หรือเขียนเสียให้ถูก เราทำได้ไหมครับ


อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ จากไหนถึงไหนในกาลทั้งสามนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 10:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:



ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ถ้ายังงั้น คนที่มีชีวิตอยู่ ... 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง 20 ปี บ้าง 75 ปีเป็นต้นบ้าง แล้วก็ตายไป ช่วงอยู่ที่เขาดำรงชีวิตอยู่ ก็ไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตปลอมๆยังงั้นซี่ :b10: หรือยังไง

:b38:
สิ่งที่ถามมานี่เขาเรียกว่า "ประวัติชีวิตจริง" แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ เพราะมันจบเป็นอดีตไปแล้ว ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว

คุณกรัชกายต้องไปทำความรู้และประสบการณ์จริงในเรื่องปัจจุบันอารมณ์ให้ได้มากๆนะครับ จะรู้ชัดมากเลยว่า ชีวิตจริงมันมีอยู่แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจริงๆ



อ้างคำพูด:
ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว



สมมติว่า เราเขียนผิด หรือพิมพ์ผิด รุ่งขึ้นมาตรวจสอบดู อ้าว พิมพ์ผิดนี่หว่า แล้วแก้ให้เสียใหม่ คือพิมพ์หรือเขียนเสียให้ถูก เราทำได้ไหมครับ


อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ จากไหนถึงไหนในกาลทั้งสามนั้น

:b12: :b12: :b12:
คำถามที่ 1 เรื่องเขียนผิด พิมพ์ผิด แล้วมาแก้ทีหลัง

ตอบ กรัชกายเคยได้ยินสำนวนการทำคดีไหมครับที่ว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"
กรรมที่พิมพ์ผิดนั้นจบไปเป็นอดีตแล้ว กรรมที่จะมาแก้ไขพิมพ์ใหม่ เป็นอนาคต ลงมือพิมพ์ใหม่ เป็นปัจจุบัน พิมพ์ใหม่เสร็จแล้ว คำที่พิมพ์ใหม่เป็นอดีตใหม่

คำถามที่ 2 อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ

ตอบ กาละ 3 ท่านเอาปัจจุบันเป็นตัวแบ่ง

สิ่งใดยังไม่เกิดรู้ในปัจจุบัน เรียก "อนาคต"

สิ่งใดกำลังเกิดรู้อยู่กับจิต เรียก "ปัจจุบันอารมณ์"

สิ่งใด้เกิดรู้เป็นปัจจุบันไปแล้ว เรียก "อดีต"


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
ท่านสามารถให้อภัยและรักคนที่ฆ่าคนในครอบครัวของท่านทั้งบ้านได้มั้ย
ยอมอภัยและอโหสิให้เขาทุกอย่าง สามารถให้เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ
ท่านและช่วยเหลือเขาทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ รักเขาจนหมดหัวใจของท่าน
หรือแม้กระทั่งเขาต้องการฆ่าท่านก็ไม่ตอบโต่ ปล่อยให้เขาฆ่าโดยดี

ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ท่านใกล้บรรลุอรหันต์แล้ว เหลืออีกนิด มาถึงตรงนี้
อารมณ์โกรธ เกลียด ริษยา ไม่มีแล้ว เหลือแต่ความรัก ถึงบอกว่าอีกนิด
เดียวก็บรรลุแล้ว

:b8:
เป็นตัวอย่างที่ดูดี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงกระมังครับ
:b27:


"มโนกรรม" ตอบไปแล้วนั่น :b1:

เหลือแต่คำว่า "ชีวิต" ยังไม่มีคำตอบ

เอายังงี้ไหมครับอโศก พอมองเห็นลางๆ ที่พูดว่า

อ้างคำพูด:
ชีวิตจริง


ชีวิตจริง ก็คือชีวิตของคนหรือของมนุษย์ที่เห็นๆ ซึ่งก็ ยืินๆ เดินๆ นั่งๆ นอนๆ กินๆ ถ่ายๆ ฯลฯ คิกๆๆ กันอยู่นี่แหละ ใช่ไหมครับ ขอคำยืนยันหน่อย :b1:

:b39:
ชีวิตจริง คือสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น ให้รู้ ให้สัมผัสในปัจจุบัน

ที่กรัชกายพูดมาก็ใช่ถ้าสิ่งเหล่านั้นปรากฏให้รู้ให้เห็นให้สัมผัสในปัจจุบัน

ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าผ่านไปแล้วเป็นอดีต หรือยังไม่เกิดไปคาดว่าจักเกิด ก็เป็นอนาคต ยังไม่ใช่ชีวิตจริง
:b43:



ชีวิตจริงมีอยู่แค่ตรงปัจจุบันอารมณ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ถ้ายังงั้น คนที่มีชีวิตอยู่ ... 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง 20 ปี บ้าง 75 ปีเป็นต้นบ้าง แล้วก็ตายไป ช่วงอยู่ที่เขาดำรงชีวิตอยู่ ก็ไม่ใช่ชีวิตจริง เป็นชีวิตปลอมๆยังงั้นซี่ :b10: หรือยังไง

:b38:
สิ่งที่ถามมานี่เขาเรียกว่า "ประวัติชีวิตจริง" แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ เพราะมันจบเป็นอดีตไปแล้ว ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว

คุณกรัชกายต้องไปทำความรู้และประสบการณ์จริงในเรื่องปัจจุบันอารมณ์ให้ได้มากๆนะครับ จะรู้ชัดมากเลยว่า ชีวิตจริงมันมีอยู่แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจริงๆ



อ้างคำพูด:
ทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอดีตนั้นไม่ได้แล้ว



สมมติว่า เราเขียนผิด หรือพิมพ์ผิด รุ่งขึ้นมาตรวจสอบดู อ้าว พิมพ์ผิดนี่หว่า แล้วแก้ให้เสียใหม่ คือพิมพ์หรือเขียนเสียให้ถูก เราทำได้ไหมครับ


อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ จากไหนถึงไหนในกาลทั้งสามนั้น

:b12: :b12: :b12:
คำถามที่ 1 เรื่องเขียนผิด พิมพ์ผิด แล้วมาแก้ทีหลัง

ตอบ กรัชกายเคยได้ยินสำนวนการทำคดีไหมครับที่ว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"
กรรมที่พิมพ์ผิดนั้นจบไปเป็นอดีตแล้ว กรรมที่จะมาแก้ไขพิมพ์ใหม่ เป็นอนาคต ลงมือพิมพ์ใหม่ เป็นปัจจุบัน พิมพ์ใหม่เสร็จแล้ว คำที่พิมพ์ใหม่เป็นอดีตใหม่

คำถามที่ 2 อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ

ตอบ กาละ 3 ท่านเอาปัจจุบันเป็นตัวแบ่ง

สิ่งใดยังไม่เกิดรู้ในปัจจุบัน เรียก "อนาคต"

สิ่งใดกำลังเกิดรู้อยู่กับจิต เรียก "ปัจจุบันอารมณ์"

สิ่งใด้เกิดรู้เป็นปัจจุบันไปแล้ว เรียก "อดีต"



วิธีการแบ่งเช่นนี้ ได้มาจากไหนครับ :b10:


อ้างคำพูด:
ตอบ กรัชกายเคยได้ยินสำนวนการทำคดีไหมครับที่ว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"



ถามว่าแก้ได้ไหม ได้ ไม่ได้ ตอบสั้นๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 12:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16:
สมมติว่า เราเขียนผิด หรือพิมพ์ผิด รุ่งขึ้นมาตรวจสอบดู อ้าว พิมพ์ผิดนี่หว่า แล้วแก้ให้เสียใหม่ คือพิมพ์หรือเขียนเสียให้ถูก เราทำได้ไหมครับ


อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ จากไหนถึงไหนในกาลทั้งสามนั้น

:b12: :b12: :b12:
คำถามที่ 1 เรื่องเขียนผิด พิมพ์ผิด แล้วมาแก้ทีหลัง

ตอบ กรัชกายเคยได้ยินสำนวนการทำคดีไหมครับที่ว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"
กรรมที่พิมพ์ผิดนั้นจบไปเป็นอดีตแล้ว กรรมที่จะมาแก้ไขพิมพ์ใหม่ เป็นอนาคต ลงมือพิมพ์ใหม่ เป็นปัจจุบัน พิมพ์ใหม่เสร็จแล้ว คำที่พิมพ์ใหม่เป็นอดีตใหม่

คำถามที่ 2 อโศก แบ่งกาลทั้งสามกาล คือ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาลสิครับ

ตอบ กาละ 3 ท่านเอาปัจจุบันเป็นตัวแบ่ง

สิ่งใดยังไม่เกิดรู้ในปัจจุบัน เรียก "อนาคต"

สิ่งใดกำลังเกิดรู้อยู่กับจิต เรียก "ปัจจุบันอารมณ์"

สิ่งใด้เกิดรู้เป็นปัจจุบันไปแล้ว เรียก "อดีต"



วิธีการแบ่งเช่นนี้ ได้มาจากไหนครับ :b10:

:b39:
วิธีการแบ่งกาละ 3 เอามาจากสภาวธรรมที่มันเป็น แล้วบอกออกมาเป็นบัญญัติภาษาตามที่คนไทยนิยมใช้

อ้างคำพูด:
ตอบ กรัชกายเคยได้ยินสำนวนการทำคดีไหมครับที่ว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"

ถามว่าแก้ได้ไหม ได้ ไม่ได้ ตอบสั้นๆ
:b16:
อดีตแก้ไม่ได้ แต่ทำใหม่ให้เหมือนอดีตอีกทีได้ ตัวหนังสือเก่าเขียนผิดแก้ได้ แต่ต้องมีรอยลบขีดฆ่าจากการทำใหม่เขียนใหม่ เป็นกรรมตัวใหม่
onion
เหมือนบ้านถูกแผ่นดินไหวพังถล่มไปแล้ว บ้านหลังเก่าในอดีตนั้นไม่มีแล้ว แต่สามารถสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมาแทนได้ในปัจจุบัน โดยจะใช้แปลนเก่าก็ได้
:b38:
เหมือนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2499 มันมีอยู่วันเดียวเท่านั้น จะทำขึ้นมาใหม่ให้เป็น 14 กุมภาพันธ์ 2499 อีก มันเป็นไปไม่ได้ กาลเวลามันเปลี่ยนไปดังสายน้ำไม่ไหลกลับคืน
:b48:


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูๆแล้วอโศกนี่ก็ไม่ธรรมดา คิกๆ เข้าใจอะไรยากมักๆ


ถามว่า เราเขียนข้อความผิด แก้ได้ไหม ? ได้ ไม่ได้ ว่าอะไรนักก็ไม่รู้ :b32:

เอานะกรัชกายจะพิมพ์ผิดนะดู อาจาน มวแ วิดทะยารัย วิดทะยาสาด กดมหู่ อยู่เหนือ ดกหมาย แก้ได้ไหม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 21:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ดูๆแล้วอโศกนี่ก็ไม่ธรรมดา คิกๆ เข้าใจอะไรยากมักๆ


ถามว่า เราเขียนข้อความผิด แก้ได้ไหม ? ได้ ไม่ได้ ว่าอะไรนักก็ไม่รู้ :b32:

เอานะกรัชกายจะพิมพ์ผิดนะดู อาจาน มวแ วิดทะยารัย วิดทะยาสาด กดมหู่ อยู่เหนือ ดกหมาย แก้ได้ไหม :b1:

:b16:
แก้ได้

ก็พิมพ์ใหม่.แก้ไขให้ถูกต้อง
:b7:

กรัชกายคงพยายามจะให้ลงตัวให้ได้ตามที่กรัชกายตั้งเป้าไว้ว่า "อดีตแก้ไขได้"

แต่ที่อโศกะพยายามจะบอกว่าอดีตที่ผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้นั้นเป็นเรื่องของกรรม การกระทำที่ทำลงไปแล้วย่อมให้ผลทันที จะกลับไปแก้ไม่ให้ผลนั้นเกิดก็ไม่ได้แล้ว ถ้าจะแก้ก็เป็นกรรมใหม่ วาระใหม่ ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน ก็คนละอันกัน
onion onion onion


โพสต์ เมื่อ: 10 พ.ค. 2014, 09:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ทำไมเมื่อเอาความยินดียินร้ายออกเสียได้ จึงหยุดคิดได้หรือมโนกรรมไม่เกิด .....

ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ เมื่อไม่มียินดียินร้าย อุเบกขา ความวางเฉยก็จะเป็นสิ่งที่คงเหลืออยู่ให้จิตได้เสวย
ที่อุเบกขาหรือความวางเฉยนั้น มโนกรรมจะหยุดพักไปชั่วคราว

ดังนั้นนักวิปัสสนาภาวนาทั้งหลาย เมื่อทำได้และชำนาญแล้ว จึงมีอุเบกขา ฌาณ 4 หรือ สังขารุเปกขาญาณ เป็นที่พักจิตพักใจ ให้มีกำลัง เพื่อจะได้เดินทางต่อไปสู่ มรรค ผล นิพพาน ที่ยิ่งๆขึ้นไป

ตรงอุเบกขา ญาณ 4 หรือสังขารุเปกขาญาณนั้น เป็นตัวสัมมาทิฏฐิ ดังมีสอนไว้ในเรื่องของอริยมรรคมีองค์ 8 นั่นเอง

:b27:


โพสต์ เมื่อ: 10 พ.ค. 2014, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูๆแล้วอโศกนี่ก็ไม่ธรรมดา คิกๆ เข้าใจอะไรยากมักๆ


ถามว่า เราเขียนข้อความผิด แก้ได้ไหม ? ได้ ไม่ได้ ว่าอะไรนักก็ไม่รู้ :b32:

เอานะกรัชกายจะพิมพ์ผิดนะดู อาจาน มวแ วิดทะยารัย วิดทะยาสาด กดมหู่ อยู่เหนือ ดกหมาย แก้ได้ไหม :b1:

:b16:
แก้ได้

ก็พิมพ์ใหม่.แก้ไขให้ถูกต้อง
:b7:

กรัชกายคงพยายามจะให้ลงตัวให้ได้ตามที่กรัชกายตั้งเป้าไว้ว่า "อดีตแก้ไขได้"

แต่ที่อโศกะพยายามจะบอกว่าอดีตที่ผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้นั้น เป็นเรื่องของกรรม การกระทำที่ทำลงไปแล้วย่อมให้ผลทันที จะกลับไปแก้ไม่ให้ผลนั้นเกิดก็ไม่ได้แล้ว ถ้าจะแก้ก็เป็นกรรมใหม่ วาระใหม่ ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน ก็คนละอันกัน


อ้างคำพูด:
เป็นเรื่องของกรรม การกระทำที่ทำลงไปแล้วย่อมให้ผลทันที



อโศกยกตัวอย่างที่พูดนั้นสิครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร