วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2014, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ทำไมการเเกว่งเเขน การว่ายน้ำจึงสำคัญนัก

ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมารณรงค์
ให้ออกกำลังกายด้วยการเเกว่งเเขนโดยอ้างว่าลด
พุงได้อีกด้วย หลายคนเเปลกใจว่าเกี่ยวกันตรงไหน ?

เเกว่งเเขน (เเบบตำราเเพทย์ เเผนจีนที่ใช้กันมานับพันปี)
บางคนถึงกับหัวเราะเยาะว่า เว่อร์เกิ้นนนนน

อย่าเพิ่งดูถูกคะ

ใต้หัวไหล่ที่เรียกว่ารักเเร้นั้น คือชุมทางของต่อม
น้ำเหลือง เบ้อเริ่มบริเวณขาหนีบ นั่นก็ชุมทางของต่อม
น้ำเหลืองขนาดใหญ่

การขยับหัวไหล่เเละรักเเร้
การเเกว่งเเขนก็ดี
การว่ายน้ำที่ขยับทั้งหัวไหล่เเละขาหนีบก็ดี
ล้วนเเล้วเเต่เป็นการออกกำลังให้ต่อมน้ำเหลืองขยับ
เพิ่มการไหลเวียนน้ำเหลือ จึงไม่ใช่ของเล่นธรรมดาๆ

คำว่าระบบน้ำเหลือง นั้นหมายรวมถึง ม้าม ต่อมทอนซิล
ต่อมไธมัส ต่อมน้ำเหลืองต่างๆ น้ำเหลือง ท่อน้ำเหลือง
นับเป็นระบบที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อทำความสะอาด
ชำระล้างของร่างกาย อันจำเป็นต่อ การรักษาสุขภาพ
ให้เเข็งเเรง เยียวยาความเจ็บป่วย

เพราะระบบน้ำเหลือง มีหน้าที่ขนถ่ายของเสีย
พิษที่สะสมในร่างกาย เศษของเซลล์ที่ตายเเล้ว
ออกไปกำจัดยังอวัยวะที่รับผิดชอบเเละขับออก
ไปจากร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดขาว เเอนตี้บอดี้
ของระบบภูมิคุ้มกัน ตลอดระยะทางของท่อน้ำเหลือง
จะมีต่อมน้ำเหลือง อยู่เป็นระยะๆ เพื่อช่วย กรองสาร
เเปลกปลอม เชื้อโรค ที่มีอันตราย

ตับเป็นอวัยวะที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบน้ำเหลือง
โดยตับมีหน้าที่สร้างน้ำเหลืองเป็นส่วนมาก เเละตับก็
อาศัยน้ำเหลืองนี่เองขนส่งสารอาหารที่ย่อยเเล้วจาก
ตับเเละลำไส้เล็กไปส่งต่อให้กับเซลล์เเละอวัยวะต่างๆ

ม้ามเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ ที่สุดของระบบน้ำเหลือง
มีหน้าที่กรอง เเละกำจัดเซลล์เม็ดเลือดเเดงที่หมดอายุ
เเละเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน
ของร่างกาย

ใครก็ตามที่ผ่าตัดเอาม้าม ต่อมทอนซิล
ต่อมไธมัสออกไป จะติดเชื้อได้ง่ายขาดภูมิต้านทาน

หากการไหลเวียน ของน้ำเหลืองติดขัด
จะทำให้ ต่อมน้ำเหลืองบวม อักเสบ

บริเวณที่น้ำเหลืองไหลเวียน เเละสังเกตได้ชัดเจนได้เเก่
ลำคอ
หลังใบหู
ท้ายทอย
หน้าอก
รักเเร้ใต้หัวไหล่
ท้องเเขน
หน้าท้องกึ่งกลางระหว่างหน้าอกกับสะดือ
บริเวณขาหนีบ

เนื่องจากน้ำเหลืองไม่มีปั้ม เหมือนระบบเลือด
ที่มีหัวใจเป็นปั้ม ดังนั้นการกระตุ้นให้น้ำเหลืองไหล
เวียนดีขึ้นจึงต้องพึ่งพิงการออกกำลังกาย

เเละการหายใจให้ลึกๆเป็นหลัก เพื่อเขย่ากระตุ้นการ
ไหลเวียนน้ำเหลืองด้วยการขยับกล้ามเนื้อ เเละกระบังลม

การเต้นกระโดดบน trampoline ดูจะเป็นวิธีการ
ที่กระตุ้นน้ำเหลืองได้ทั่วร่างกาย หากเต้นไม่ได้ก็
อาจใช้วิธี กัวช่า (Gua Sha) การนวดด้วยน้ำมัน
การ นวดเเผนไทย

ใครก็ตามที่มักมีอาการ ผิวซีด ซูบซีด หลงๆลืมๆ
ติดเชื้อบ่อยๆ เป็นหวัดเจ็บคอเสมอๆ เริ่มมีเซลลูไลท์เพิ่ม
มากขึ้น ให้สงสัยระบบน้ำเหลืองติดขัด ไหลเวียนไม่ดี

ทั้งนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากนักเพราะของเสีย ขยะมีพิษ
ตกค้างสะสมนั่นเอง

อย่าละเลยอาการน้ำเหลืองติดขัด โดยไม่ได้รักษา
เพราะ นานวันเข้าพิษร้ายอาจทำให้ล้มหมอนนอนเสื่อ
ด้วยมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง

by Dr. Kimberly Kaye Castaneda
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
Wow! I love these pics.

รูปภาพ
http://clubze.com/this-mutation-created ... its-crazy/


รูปภาพ
มะลิ ทูนหัวของบ่าว

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว




image.jpg
image.jpg [ 109.07 KiB | เปิดดู 6572 ครั้ง ]
image.jpg
image.jpg [ 105.43 KiB | เปิดดู 6572 ครั้ง ]
:b12:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว




image.jpg
image.jpg [ 246.33 KiB | เปิดดู 6572 ครั้ง ]
:b12: แมลงอะไรก็ไม่รุ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2014, 14:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


พูดเกินจริง! “แบคทีเรียกินเนื้อคน” หมอแนะอย่าปล่อยแผลเน่า ป้องกันเชื้อลุกลามได้


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2557 23:20 น.


กรมควบคุมโรค คาด ชายถูกเงี่ยงปลาตำ ติดเชื้อเสียชีวิต อาจเกิดจากแบคทีเรีย 2 กลุ่มที่มีฤทธิ์รุนแรง ทำให้เกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อ ระบุตัวที่อยู่ในน้ำเน่าและดินคือ “เนโครไทซิง ฟาสซิไอติส” ชี้ “แบคทีเรียกินเนื้อคน” พูดเกินจริง แนะอย่าปล่อยให้แผลเน่า รักษาถูกวิธีป้องกันได้

พูดเกินจริง! “แบคทีเรียกินเนื้อคน” หมอแนะอย่าปล่อยแผลเน่า ป้องกันเชื้อลุกลามได้

รูปภาพ

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีข่าวชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกเงี่ยงปลาตำ ขณะเลือกซื้อปลาทับทิมในตลาด และมีการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดกินเนื้อมนุษย์ ว่า เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวคาดว่า อาจมาจากเชื้อแอนแอโรบิกแบคทีเรีย (Anaerobic Bacteria) และเชื้อแอโรโมแนสแบคทีเรีย (Aeromonas Bacteria) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์รุนแรงกว่าแบคทีเรียตัวอื่นหลายเท่า อยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยออกซิเจน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อ และลามไปถึงการติดเชื้อในกระแสเลือดจนช็อกเสียชีวิตในเวลา 48 ชั่วโมง ผู้ที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อคือ คนที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เพราะหากเป็นแผลเชื้อจะลามมากกว่าคนทั่วไป

นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า แบคทีเรียกินเนื้อคนเป็นเรื่องที่พูดเกินจริง เพราะปกติแบคทีเรียในสิ่งแวดล้อมหลายชนิดก็มีการทำให้เกิดการติดเชื้อที่บาดแผล ในกล้ามเนื้อ ทำลายเนื้อเยื่อ และลุกลาม โดยเฉพาะกรณีแผลลึก ทำให้มีไข้สูง ปวดบริเวณแผล หากรักษาไม่ถูกต้องอาจเสียชีวิตได้ 5 - 7 วัน เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย โดยประเทศไทยมีรายงานการเสียชีวิตจากเหตุนี้ประปราย ไม่มีการเก็บสถิติ อย่างช่วงสึนามิก็พบผู้เสียชีวิตจากเหตุนี้หลายราย อย่างไรก็ตาม แบคทีเรียที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าวมีหลายตัว แต่ที่พบในน้ำเน่าและดิน เรียกว่า เชื้อแบคทีเรียเนโครไทซิง ฟาสซิไอติส (Necrotizing Fasciitis) หากติดเชื้อนี้แล้วดูแลรักษาแผลอย่างดีก็ไม่เป็นอันตราย หากปล่อยให้แผลเน่าอาจลุกลามเข้ากระแสเลือดได้

“ส่วนน้ำในสระว่ายน้ำ หรือน้ำประปาไม่มีปัญหาเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ แต่เพื่อความมั่นใจ แม้เกิดบาดแผลเล็กน้อยระหว่างสัมผัสกับน้ำสกปรก ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก สำหรับข้อความที่ส่งกันทางไลน์บอกว่าเสียชีวิตใน 2 วัน ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อที่บาดแผล ติดเชื้อในกล้ามเนื้อ ทำลายเนื้อเยื่อนั้นไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด” รองอธิบดี คร. กล่าว

ด้าน นพ.เสรี หงษ์หยก อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และเพื่อนของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทราบข่าวเนื่องจากเพื่อนโทรศัพท์มาปรึกษาอาการ โดยพบว่าไปเลือกซื้อปลาในวันที่ 18 ก.ค. จากนั้นมีอาการปวดในวันที่ 20 ก.ค. ไปหาแพทย์ ซึ่งก็ล้างแผลปกติ ต่อมาหกล้มตรงบริเวณบันได มีอาการขาบวม ไปพบแพทย์ก็พบว่าติดเชื้อแล้ว กระทั่งมาทราบอีกทีว่าเสียชีวิต

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่พบกับพวกเราได้บน Facebook โต๊ะข่าวคุณภาพชีวิตASTVmanager


:b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50: :b50:

กรมคุมโรคเผยวัคซีนไข้เลือดออกได้ผลดี คาดอีก 2 ปีได้ใช้


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2557 10:27 น.


น.พ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยผลวิจัยวัคซีนไข้เลือดออกที่ไทยร่วมกับอีก 4 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียให้ผลดี สามารถกระตุ้นภูมิคุมกันโรคไข้เลือดออกได้ 56.5 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าคนไทยจะมีโอกาสใช้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยสามารถป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ที่พบการระบาดในไทย

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews. ... 0000084163

รูปภาพ

รูปภาพ
ไอรอนแมว

จากเฟสภาพสัตว์น่ารัก

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2014, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
Wow I love these pics.

:b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49: :b49:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2014, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
wow i love these pics.

รายงานพิเศษ : สธ. แนะ 9 วิธีป้องกันตัว ให้ปลอดภัยจากฟ้าผ่า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2557 09:49 น.

รูปภาพ

ในช่วงหน้าฝนนี้ มักมีข่าวคนเสียชีวิตจากฟ้าผ่า ดังนั้น นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จึงออกมาเตือนว่า ในช่วงที่สภาพอากาศร้อนอบอ้าวและมีความชื้นสูง หากมีพายุฝน ฟ้าคะนองจะมีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้ง่าย

ทั้งนี้ ข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บรุนแรงจากการถูกฟ้าผ่า (Lightening-related injuries) ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่อยู่ในเครือข่ายการเฝ้าระวังการบาดเจ็บแห่งชาติ 33 แห่ง ของ สธ. พบว่าในรอบ 5 ปี ระหว่างปี 2551-2555 มีผู้ถูกฟ้าผ่า 180 ราย เสียชีวิต 46 ราย คิดเป็นอัตราตายร้อยละ 26

นพ.ณรงค์ยังบอกด้วยว่า ภัยจากฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัว และมีอันตรายสูง โดยลักษณะของฟ้าผ่าแบ่งเป็น 4 แบบ คือ 1. ฟ้าผ่าภายในก้อนเมฆ 2. ฟ้าผ่าระหว่างก้อนเมฆ 3. ฟ้าผ่าจากฐานเมฆลงสู่พื้นเรียกว่า ฟ้าผ่าแบบลบ 4. ฟ้าผ่าจากยอดเมฆลงสู่พื้น เรียกว่าฟ้าผ่าแบบบวก โดยฟ้าผ่าแบบลบและแบบบวกนั้น จะทำอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนพื้นดินหรือพื้นน้ำ

ทั้งนี้ ฟ้าผ่าแบบลบจะผ่าลงบริเวณใต้เงาของเมฆฝนฟ้าคะนองเป็นหลัก ส่วนฟ้าผ่าแบบบวกสามารถผ่าได้ไกลออกไปจากก้อนเมฆประมาณ 40 กิโลเมตร ในเวลาอันรวดเร็วภายในเวลา 1 วินาที มักจะเกิดในช่วงท้ายของพายุฝนฟ้าคะนองคือหลังจากที่ฝนซาแล้ว

ส่วน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แนะนำวิธีป้องกันตัวให้ปลอดภัยจากฟ้าผ่า ดังนี้

1. หากอยู่ในที่โล่งให้หาที่หลบที่ปลอดภัย เช่น อาคารขนาดใหญ่ แต่อย่าอยู่ใกล้ผนังอาคาร ประตูและหน้าต่าง หรือควรหลบในรถยนต์ที่ปิดกระจกมิดชิด แต่อย่าสัมผัสกับตัวถังรถ

2.หากหาที่หลบไม่ได้ ให้หมอบนั่งยองๆ ให้ตัวอยู่ต่ำที่สุด โดยแนบมือทั้งสองข้างติดกับเข่า แล้วซุกศีรษะเข้าไประหว่างเข่า ส่วนเท้าให้ชิดกันหรือเขย่งปลายเท้า เพื่อลดพื้นที่สัมผัสกับพื้นให้น้อยที่สุด แต่อย่านอนหมอบกับพื้น เพราะกระแสไฟฟ้าอาจวิ่งมาตามพื้นได้

3. อย่ายืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้สูงและบริเวณใกล้เคียงกับต้นไม้ หรืออยู่ในที่สูงและใกล้ที่สูง ที่สำคัญอย่ากางร่ม

4. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือกลางแจ้งในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะไม่ใช่สื่อล่อฟ้า แต่ฟ้าผ่าจะเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาในมือถือ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือมีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ สายอากาศและแบตเตอรีที่เป็นตัวล่อฟ้า จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า และยังทำให้แบตเตอรี่ลัดวงจรจนเกิดระเบิด ส่งผลให้ผู้ถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บมากขึ้น

5. ห้ามใช้โทรศัพท์บ้านหรือเล่นอินเทอร์เน็ตในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะฟ้าอาจผ่าลงมาที่เสาสัญญาณหรือเสาอากาศที่อยู่นอกบ้าน และกระแสไฟจากฟ้าผ่าจะวิ่งมาตามสายโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ทำให้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งผู้ใช้งานได้รับอันตราย

6. ควรถอดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด เพราะฟ้าอาจผ่าลงที่เสาไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้ากระชากเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้เสียได้ และควรดึงเสาอากาศของโทรทัศน์ออก เพราะหากฟ้าผ่าที่เสาอากาศบนหลังคาบ้าน อาจวิ่งเข้าสู่โทรทัศน์ได้

7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับโลหะทุกชนิด เนื่องจากโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้าและอย่าอยู่ใกล้สายไฟ

8. หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ เพราะเป็นตัวนำไฟฟ้า

9. ควรเตรียมไฟฉายไว้ส่องดูทาง เพราะอาจเกิดไฟดับหรือไฟไหม้ได้

• จับสัญญาณความเสี่ยงของการเกิดฟ้าผ่า

วิธีการสังเกตสัญญาณความเสี่ยงของการเกิดฟ้าผ่า โดยหากมีเมฆฝนฟ้าคะนองอยู่บนเหนือศีรษะ แล้วปรากฏว่าเส้นขนบนผิวหนังลุกชันขึ้น หรือเส้นผมบนศีรษะลุกตั้งขึ้น แสดงว่ากำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า หรือหากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองใกล้ตัวในระยะประมาณ 16 กิโลเมตร แล้วมีฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า และได้ยินเสียงฟ้าร้องหลังฟ้าแลบน้อยกว่า 30 วินาที แสดงว่าอยู่ใกล้เขตเสี่ยงฟ้าผ่า ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

• วิธีปฐมพยาบาลผู้ถูกฟ้าผ่า

สำหรับวิธีปฐมพยาบาลผู้ถูกฟ้าผ่า ให้สังเกตก่อนว่า ในบริเวณที่เกิดเหตุยังมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าหรือไม่ ถ้ามีให้เคลื่อนย้ายผู้ถูกฟ้าผ่าไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันตัวเราเองจากการถูกฟ้าผ่า และสามารถแตะต้องตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เนื่องจากคนที่ถูกฟ้าผ่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ในตัว ซึ่งต่างจากผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูด หรือไฟฟ้าช็อต ดังนั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าเราจะถูกไฟฟ้าดูด

โดยการปฐมพยาบาลผู้ถูกฟ้าผ่าจะใช้วิธีเดียวกับผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อต กล่าวคือหากหมดสติ ไม่รู้ตัว หัวใจหยุดเต้น และไม่หายใจ ซึ่งสังเกตได้จากอาการที่เกิดขึ้นคือ ริมผีปากเขียว สีหน้าซีดเขียวคล้ำ ทรวงอกเคลื่อนไหวน้อยมากหรือไม่เคลื่อนไหว ชีพจรบริเวณคอเต้นช้าและเบามาก

ถ้าหัวใจหยุดเต้นจะคลำชีพจรไม่ได้ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ขอให้ช่วยผายปอดทันทีก่อนนำส่งโรงพยาบาล ด้วยการให้ลมทางปากหรือที่เรียกว่า “การเป่าปาก” ร่วมกับนวดหัวใจเพื่อให้ปอดและหัวใจทำงาน โดยให้วางมือตรงกึ่งกลางลิ้นปี่เล็กน้อย กรณีทำการปฐมพยาบาลคนเดียวให้นวดหัวใจ 15 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง ถ้าทำการปฐมพยาบาลสองคน ให้นวดหัวใจ 5 ครั้งสลับกับการเป่าปาก 1 ครั้ง ก่อนนำผู้ป่วยส่งแพทย์ต่อไป

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 163 กรกฎาคม 2557 โดย กองบรรณาธิการ)




.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2014, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

บุฟเฟ่ กินไม่อั้นร้านนี้ บรื๋ออออ :b9:

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater


รูปภาพ

ซุปเปอร์แมนย่อส่วนในร่าง Water Bear ถึงจะบินไม่ได้ และไม่มีปัญญาไปทำลายขีปนาวุธ แต่ขณะเดียวกันพลังความร้อนและแรงระเบิดของอาวุธทำลายล้างทั้งหลายก็ไม่สามารถฆ่าเจ้า Water Bear หรือ หมีน้ำ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ....... อ่านต่อได้ที่ : http://animals.spokedark.tv/?p=1294
http://animals.spokedark.tv/2013/09/13/ ... 9XXXuOSwYQ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2014, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

https://www.facebook.com/DoctorTon/phot ... =1&theater

หมอต้น แพทย์จุฬา

บทความดีๆ แชร์ต่อได้นะครับ เลือกปฏิบัติเอาตามเหมาะสมครับ
ตำรวจชาวออสเตรเลียได้เขียนสิ่งนี้ขึ้นเพื่อผู้หญิงทุกคน ข้อความนี้สำหรับตัวของคุณเองและเพื่อให้คุณได้แบ่งปันให้กับภรรยา ลูก หรือทุกๆ คนที่คุณรู้จัก
หลังจากที่คุณได้อ่านคำแนะนำที่สำคัญเหล่านี้ .. คุณอาจต้องการที่จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ โปรดส่งต่อให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วง
การระมัดระวังล่วงหน้าไม่ต้องแลกกับความสูญเสีย เพราะฉะนั้นปลอดภัยไว้ดีที่สุด

1. เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้
ข้อศอกเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายของมนุษย์ หากคุณอยู่ใกล้คนร้ายในระยะที่จะใช้มันได้....
จงใช้มันซะ!

2.เคล็ดลับจากสมุดแนะนำนักท่องเที่ยว ถ้าคนร้ายต้องการกระเป๋าเงินหรือของมีค่าของคุณ อย่ายื่นให้กับเขา
........จงโยนกระเป๋าเงินของคุณไปให้ไกลจากตัวเอง.. โอกาสที่คนร้ายจะสนใจกระเป๋าเงินของคุณนั้นมีมากกว่าที่จะสนใจคุณ และนั่นจะทำให้เขาต้องไปหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ห่างจากตัวคุณ ตอนนี้แหละ จงวิ่งไปอีกทิศทางหนึ่งให้เร็วที่สุด

3. ถ้าคุณเกิดถูกลากหรือโยนเข้าไปในท้ายรถของคนร้าย สิ่งที่คุณควรทำคือ
.......ให้ถีบไฟท้ายจนหลุดออกมา ยื่นแขนของคุณออกมาจากช่อง แล้วเริ่มโบกมืออย่างบ้าคลั่ง คนขับไม่เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คนอื่นจะเห็น วิธีนี้ได้ช่วยหลายต่อหลายชีวิตมาแล้ว..

4. คุณผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะนั่งอยู่บนรถเฉยๆ หลังจากช้อปปิ้ง เที่ยว กิน หรือ ทำงานเพื่อจะแต่งหน้า เปิดผ่านหนังสือ เช็คโทรศัพท์ ฯลฯ ห้ามทำเป็นอันขาด! คนร้ายจะคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของคุณ และสิ่งที่คุณทำเป็น การเปิดโอกาสอันเหมาะสมเพื่อให้เขาเข้ามาทางที่นั่งข้างคนขับ และเอาปืนจ่อหัวคุณเพื่อจะให้คุณขับไปตามทางที่เขาต้องการ
เพราะฉะนั้น....ทันทีที่คุณขึ้นรถ........ จงล็อคประตู และรีบออกรถซะ........

แต่ถ้าเกิด.... คนร้ายอยู่บนรถกับคุณ และเอาปืนจ่อขมับคุณไว้ อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก

------ ย้ำ: อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก สิ่งที่คุณควรทำ คือ
...... เหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุด ขับพุ่งใส่กำแพงหรือสิ่งกีดขวางในละแวกนั้น ถุงลมนิรภัยฝั่งคุณจะช่วยชีวิตคุณไว้ (เช่นเดียวกับฝั่งคนร้ายหากคนร้ายนั่งเบาะหน้า) (หากคนร้ายนั่งอยู่เบาะหลัง เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส)
แต่ทันใดที่รถของคุณชน ให้รีบถอนตัวออกมา(จากถุงลมนิรภัย)
แล้ววิ่งออกจากรถสุดแรงเกิด วิธีนี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตรงที่คุณสามารถวิ่งเข้าหากลุ่มคนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ หากคุณออกรถไปที่ไกลๆ ตามเส้นทาง/สถานที่ที่คนร้ายบอก
จะทำให้คนร้ายตามตัวคุณได้ง่าย
เพราะคุณไม่รู้จักสถานที่นั้นดีเท่าเขา

5. ข้อแนะนำสำหรับการเดินไปที่รถของคุณ ในลาน/โรงจอดรถ
....ก.) จงระวัง: มองไปรอบๆ ตัวของคุณ มองเข้าไปในรถของคุณ มองลอดไปบนพื้นฝั่งที่นั่งข้างคนขับ และเบาะหลัง
....ข.) ถ้ารถของคุณมีรถตู้จอดอยู่ข้างๆ ให้ขึ้นรถทางฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ คนร้ายจะจู่โจมเหยื่อของมันโดยการฉุด ขึ้นรถตู้ในขณะที่เหยื่อกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ เพราะฉะนั้นรถตู้น่าสงสัยเหล่านี้จึงมักที่จะจอดอยู่ฝั่งคนขับ
....ค.) ให้มองไปที่รถที่จอดอยู่ข้างๆ คุณทั้งสองข้างของรถ ถ้าเจอผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวในฝั่งที่อยู่ใกล้รถของคุณมากที่สุด
------- สิ่งที่คุณควรทำคือ เดินกลับเข้าไปในห้าง หรือออฟฟิสเพื่อขอให้ รปภ หรือตำรวจเดินมากับคุณ เพื่อส่งคุณขึ้นรถ ไม่ต้องไปคิดมากกว่าคนอื่นหรือตำรวจจะมองคุณโรคจิตหรือเปล่า เพราะการระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์อันน่าสงสัยนั้น
จงตระหนักอยู่เสมอว่า ปลอดภัยไว้ก่อน...

6. จงใช้ลิฟต์ตลอดแทนที่จะใช้บันใด เพราะบันใดเป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดที่ผู้หญิงจะอยู่คนเดียว มันเป็นที่ๆ เพอร์เฟคสำหรับคนร้าย และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งในยามวิกาล

7. ถ้าคนร้ายมีปืน... แต่คุณไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
จงวิ่ง!! เพราะโอกาสที่คนร้ายจะยิงถูกคุณมีเพียง 4 ครั้งใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าวิ่ง) และเป็นไปได้สูง ว่าจะไม่โดนอวัยวะสำคัญ วิ่งงงงงงง!! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...การวิ่งซิกแซก

8. จุดอ่อนของผู้หญิงส่วนใหญ่คือ ขี้สงสาร ขี้เห็นใจ จงหยุดซะ!!
เท็ด บันดี้ เป็นฆาตรกรหน้าตาดี และการศึกษาสูง เขาใช้จุดอ่อนข้อนี้ของผู้หญิงเพื่อลวงมาฆ่าเสมอ เพราะฉะนั้นจงมีเหตุมีผล ดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง .... "จงช่างสังเกต" หากพบข้อสงสัยแม้เพียงข้อเดียว ก็ควรจะลีกเลี่ยงบุคคลนั้นๆ ให้เร็วที่สุด

9. เรื่องที่ควรตระหนักอีกข้อ:
เพิ่งจะมีคนมาเล่าให้ฉันฟังว่า เพื่อนสาวของได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กตอนกลางคืน และเธอก็คาดว่าเสียงนั่นดังมาจากระเบียงบ้านของเธอ เธอเลือกที่จะโทรแจ้งตำรวจแทนที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีลางสังหรณ์ว่านั่นอาจจะเป็นกลลวง และตำรวจก็สั่งกับเธอว่า
........“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด”....
เธอจึงเล่าให้ตำรวจฟังอีกว่าเสียงนั่นฟังดูเหมือนว่าเด็กนี่ได้คลานมาใกล้หน้าต่างของและเธอก็เป็นกังวลว่าถ้าหากเด็กคนนี้คลานออกไปถึงถนนก็จะถูกรถชน
ตำรวจจึงสั่งเธอว่า “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทางไปบ้านเธอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามเปิดประตูเด็ดขาดไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ตำรวจย้ำถึงสามรอบ”
ตำรวจเล่าให้เธอฟังต่อว่าพวกเขาคิดว่า... น่าจะเป็นฆาตรกรที่ใช้วิธีเปิดเทปเสียงเด็กร้องไห้เพื่อจะหลอกหล่อให้ผู้หญิงออกจากบ้านมาดู โดยที่ฆาตรกรหวังใช้จุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความขี้เห็นใจ ขี้สงสาร นั่นเอง แต่ทางตำรวจก็ยังจับตัวฆาตรกรกลุ่มนี้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีการโทรมาแจ้งและได้เล่าเรื่องเดียวกัน คือได้ยินเสียงเด็กมาจากนอกบ้าน หน้าต่าง หน้าประตู เวลากลางคืน และทุกสายที่โทรมาแจ้งล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียวทั้งสิ้น

10. ถ้าคุณตื่นขึ้นมากลางดึกและได้ยินเสียงเหมือนว่าก๊อกน้ำถูกเปิดอยู่หรือท่อน้ำของคุณแตกนอกบ้าน .....ห้ามออกไปเดินสำรวจเด็ดขาด!..... เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งจะเข้าไปเปิดก๊อกน้ำบ้านคุณให้สุดเพื่อให้คุณได้ยินและออกมานอกบ้าน นั่นคือเวลาที่พวกเขาจะโจมตีคุณ

......."จงมีสติ" อยู่ตลอดเวลา.......อยู่อย่างระมัดระวัง..... ตรวจสอบความปลอดภัย..... และอย่าลืมดูแลกันเองระหว่างคุณกับเพื่อนบ้านด้วย!

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2014, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว





.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2014, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ดิฉันได้อ่านข่าว พ่อผูกคอตายเพื่อช่วยหาทางออกเรื่องเงินให้ลูก เรื่องการช่วยเหลือกันในสังคม จริงๆ แล้ว ถ้ามีการขอความช่วยเหลือทางการเงินจากคนทั่วไป ก็คงไม่ได้รับความช่วยเหลืออยู่แล้ว อย่าว่าแต่เงินหมื่นเลยค่ะ เงินร้อยยังหายาก ยิ่งเป็นคนจนด้วยแล้ว แทบจะไม่มีใครให้คนจนยืมค่ะ อันนี้เรื่องจริงในสังคม แต่เมื่อมีคนตายเพราะเงินจำนวนไม่มากให้เห็นแล้ว คนก็จะอยากจะช่วยเพื่อซื้อชีวิตคนๆ หนึ่งไว้ซึ่งมันก็สายไปแล้วค่ะ แต่ถ้ายังไม่มีใครตายให้เห็นละ แล้วพ่อคนนี้ไปเที่ยวขอยืม ถามว่าจะม่ีคนให้ยืมหรือไม่? อย่าว่าแต่จะให้กันฟรีๆ เลยค่ะ เอาแค่ขอยืมเท่านั้น เอาแค่เงินร้อยคนจนยังยืมคนอื่นได้ยากเลย เพราะคนให้ยืมกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้คืนเค้า ซึ่งเรื่องมันก็คงต้องจบลงอย่างนี้ เป็นวิธีเดียวที่พ่อคนหนึ่งจะทำเพื่อช่วยลูก

และคนที่ช่วยเหลือคนอื่นนั้นจริงๆ นั้นก็มี อย่าให้รู้ว่าใครลำบาก ช่วยได้ช่วยนั้น มีจริงแต่หายาก และโอกาสที่คนเดือดร้อนจริงคนหนึ่ง จะเจอคนใจดีจริงๆคนหนึ่ง นั้นก็คงแสนจะยากค่ะ

ดิฉันเคยประสบด้วยตนเอง คิดจะช่วยเด็กคนหนึ่ง แต่ก็ต้องขอให้คนอื่นร่วมช่วยกันด้วย เพราะลำพังตัวดิฉันเองนั้นก็มีภาระเยอะ ช่วยได้บ้าง จึงไปบอกบุญคนรวยๆ เพื่อช่วยเด็กดีคนหนึ่ง ถามคนรวยบ้าง คนชอบทำบุญบ้าง ก็มีแต่คนทำเฉย บางคนก็พูดแถไปอย่างอื่นแปลออกมาเป็นนัยทำนองว่า ตัวใครตัวมัน

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2014, 18:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


These 9 Abandoned Places Have Been Reclaimed By Nature. It's Beautiful And Scary.
By Michael Cahill

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

1.) Abandoned Shopping Mall, Bangkok Thailand

The New World Shopping Mall has been abandoned since 1999. It shut its doors after being condemned by local regulators. A few years later a massive fire destroyed the structure's roof. Not long after that monsoon rains flooded the lower floors.

As a way to combat the spread of mosquitos and other insects breeding in the stagnant water, locals introduced koi and catfish to the former mall. Not only did the fish take care of the pest problem, they've thrived. It is now one of the world's largest urban ponds.

อันดับ 2 ถึงอันดับสุดท้าย ตามดูต่อได้ที่นี่ค่ะ
http://www.viralnova.com/reclaimed-by-n ... =fourpages

รูปภาพ

รูปภาพ
http://www.viralnova.com/zoo-animal-fri ... =fourpages

รูปภาพ
wow i love these pics.

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2014, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


A Group Of Doctors Bow In Respect For The Loss Of This Amazing Little Boy.
By Jessica Catcher LIFE : JULY 29, 2014

Doctors in China bowed in somber respect for the loss of an 11 year-old boy who passed away of a brain tumor earlier this month.

Before passing, the brave young man made sure he would go on to help others become healthy. Just eight hours after his passing, he saved several lives through organ donation of his kidneys and liver, as well as other medical research. His family explains that he wanted to save others from having to feel the pain that he suffered in his illness and “to be alive in another way.”

รูปภาพ

รูปภาพ


(via Elite Daily)

His family also spoke about how, had he lived, the boy wanted to become a doctor. He just wanted to help others. Knowing that wasn't going to happen, he saw this as the next best option. Those who received his donations will definitely agree.

Share the bittersweet story with your friends using the button below.

http://www.viralnova.com/doctors-bow-in ... =fourpages

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2014, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว





.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2014, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ
Beautiful Amazing World

รูปภาพ

รูปภาพ
Interesting Amazing Galaxy

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร