วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 20:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32 ... 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 17 ก.ย. 2015, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อริยะสัจ4 มี3 รอบ มี 12 อาการ ครับ

นิโรธ..มี3 อาการ

คือ..ให้รู้ว่านี้คือนิโรธ...นิโรธนี้ควรทำให้แจ้ง..นิโรธนี้เราแจ้งแล้ว..

รอบแรก..เป็นการศึกษา
รอบสอง..เป็นการศึกษาปฏิบัติ
รอบที่สาม..เป็นผลคือรู้แจ้งแล้ว


ศิริพงศ์ เขียน:
นิโรธเป็นผลจะปฎิบัติได้อย่างไร


ข้อปฏิบัติ..พระองค์บอกใว้ก่อนแล้วครับ...
เมื่อกล่าวว่า..นิโรธควรทำให้แจ้ง...ก็แสดงว่า..ให้ปฏิบัติอยู่ในทางสายกลางคือมรรค 8.. ครับ

อาจงง...เดียวจะค่อย ๆเรียงให้ดูนะครับ...

ในธัมมจักปวัตตนสูตร..พระองค์บอกที่สุดทางสองส่วนที่ไม่ควรเดิน..ก่อน

แล้วมาบอกทางสายกลางที่จะนำออกจากกิเลสได้..คือ..มรรคมีองค์ 8

แล้วจึงมาตรัสอริยะสัจสี่...ซึ่งบอกอาการว่านิโรธคือความดับสนิทไม่เหลือแห่งตัณหา...ความสละแห่งตัณหา..ความวางแห่งตัณหา...ความปล่อยแห่งตัณหา...ความไม่พัวพันแห่งตัณหา..(เน้นอาการที่ออกจากกิเลสได้แล้ว)...คือบอกผลที่ควรจะได้จากการปฏิบัติในมรรค 8...นั้นเอง

แล้วมาตรัส..อริยสัจมีอาการ 12 ดังกล่าว...

เมื่อมาถึงที่ตรัสว่า..นิโรธควรทำให้แจ้ง...ก็แสดงว่า..ให้ปฏิบัติในองค์มรรค 8 อันเป็นทางสายกลาง...จนมีผลคือนิโรธ...นะครับผม


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 06:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อริยะสัจ4 มี3 รอบ มี 12 อาการ ครับ

นิโรธ..มี3 อาการ

คือ..ให้รู้ว่านี้คือนิโรธ...นิโรธนี้ควรทำให้แจ้ง..นิโรธนี้เราแจ้งแล้ว..

รอบแรก..เป็นการศึกษา
รอบสอง..เป็นการศึกษาปฏิบัติ
รอบที่สาม..เป็นผลคือรู้แจ้งแล้ว


ศิริพงศ์ เขียน:
นิโรธเป็นผลจะปฎิบัติได้อย่างไร


ข้อปฏิบัติ..พระองค์บอกใว้ก่อนแล้วครับ...
เมื่อกล่าวว่า..นิโรธควรทำให้แจ้ง...ก็แสดงว่า..ให้ปฏิบัติอยู่ในทางสายกลางคือมรรค 8.. ครับ

อาจงง...เดียวจะค่อย ๆเรียงให้ดูนะครับ...

ในธัมมจักปวัตตนสูตร..พระองค์บอกที่สุดทางสองส่วนที่ไม่ควรเดิน..ก่อน

แล้วมาบอกทางสายกลางที่จะนำออกจากกิเลสได้..คือ..มรรคมีองค์ 8

แล้วจึงมาตรัสอริยะสัจสี่...ซึ่งบอกอาการว่านิโรธคือความดับสนิทไม่เหลือแห่งตัณหา...ความสละแห่งตัณหา..ความวางแห่งตัณหา...ความปล่อยแห่งตัณหา...ความไม่พัวพันแห่งตัณหา..(เน้นอาการที่ออกจากกิเลสได้แล้ว)...คือบอกผลที่ควรจะได้จากการปฏิบัติในมรรค 8...นั้นเอง

แล้วมาตรัส..อริยสัจมีอาการ 12 ดังกล่าว...

เมื่อมาถึงที่ตรัสว่า..นิโรธควรทำให้แจ้ง...ก็แสดงว่า..ให้ปฏิบัติในองค์มรรค 8 อันเป็นทางสายกลาง...จนมีผลคือนิโรธ...นะครับผม
เชื่อเถอะ. นิโรธคือความดับทุกข์เกิดความสุขที่แท้จริงคือผล. พระองค์แสดงเพื่อให้เห็นผล. สัตว์เมื่อรู้ว่าผลคือความสุขจึงมีความปราถนาในสิ่งนั้น. พระองค์จึงแสดงเส้นทางที่สมควรทำให้เจริญขึ้น. มรรคต่างหากคือการปฎิบัติสู่นิโรธ


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 07:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วใครว่า...นิโรธ..คือนิโรธเองได้..ไม่ปฏิบัติตามมรรค ..ไม่ทราบ..


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แล้วใครว่า...นิโรธ..คือนิโรธเองได้..ไม่ปฏิบัติตามมรรค ..ไม่ทราบ..
เอ้! เรื่องของเรื่อง การปฎิบัติคือมรรค. ผลคือนิโรธก็แล้วกันเนาะ


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 18:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


นิสัย...นิสัย...


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
นิสัย...นิสัย...

ดีใช่ป่าว


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 19:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Bigtoo สนุกมั่ย


โพสต์ เมื่อ: 18 ก.ย. 2015, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Bigtoo สนุกมั่ย

สอนธรรมะต้องมีความสุข. ไม่ใช่สนุก


โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 06:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สอนตนให้พ้นภัย..ก่อนดีมั้ย?

แค่พื้นฐานคือศีล...ยังสีลลัพตะ..อยู่น่า


โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สอนตนให้พ้นภัย..ก่อนดีมั้ย?

แค่พื้นฐานคือศีล...ยังสีลลัพตะ..อยู่น่า
อะไรว่าไม่พ้นภัย. เขาข้ามแล้วนะ. การท่องคาถาเงินล้านน่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย ศิริพงศ์ เมื่อ 19 ก.ย. 2015, 21:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 20:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




1442669660710.jpg
1442669660710.jpg [ 101.38 KiB | เปิดดู 1675 ครั้ง ]
:b36:
วงปฏิจจสมุปบาทที่ใช้สอนในเมียนม่า
:b37:
โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 20:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




1442669670231.jpg
1442669670231.jpg [ 76.44 KiB | เปิดดู 1675 ครั้ง ]
:b36:
คำอธิบายวงปฏิจจสมุปบาทแบบพม่าที่แปลเป็นไทย
ฝากมาให้คุณกบได้เห็นได้ได้เปิดโลกทัศน์ ได้ออกจากกะลาไปชมโลกกว้างบ้างนะครับ
onion
โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 21:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:
เขียนไปเถอะ..เยอะแยะ..วังวน..เป็นเขาวงกต...

เด้วได้สะดุดขาตัวเองล้ม..ละ.. :b23: :b23:

คิดดู..ออกนอกกะลา...ง่ายกว่าลงไปเล่นในเขาวงกตนั้น..ตั้งเยอะ..

:b16: :b16: :b16:

อโสกะคงชอบอะไรเยอะ ๆ ..วุ่นๆวายๆ...เน๊าะ..


โพสต์ เมื่อ: 19 ก.ย. 2015, 21:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เยอะ ๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไร..

ไหนอโสกะว่ามาดิ....เขาว่ามรณะเป็นปัจจัย..อวิชชาจึงมี..ตรงไหน??


โพสต์ เมื่อ: 20 ก.ย. 2015, 06:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:
เขียนไปเถอะ..เยอะแยะ..วังวน..เป็นเขาวงกต...

เด้วได้สะดุดขาตัวเองล้ม..ละ.. :b23: :b23:

คิดดู..ออกนอกกะลา...ง่ายกว่าลงไปเล่นในเขาวงกตนั้น..ตั้งเยอะ..

:b16: :b16: :b16:

อโสกะคงชอบอะไรเยอะ ๆ ..วุ่นๆวายๆ...เน๊าะ..

:b12:
อนิจจังอนิจจา ไม่มีปัญญาจะเข้าใจสิ่งที่ดีๆ แล้วไปติเตียนว่าอย่างโน้นอย่างนี้ บาปปากตัวเองนะกบ

วงปฏิจจสมุปบาทแบบพม่าที่เห็นนี้ พ่อแม่ครูบาอาจารย์เมืองเมียนม่าท่านเขียนขึ้นมาไว้ใช้สอนไว้ใช้อธิบายลูกศิษย์ลูกหา
ถ้าตั้งใจศึกษาจริงๆก็จะได้ประโยชน์มาก ทำให้รู้เหตุรู้ผลและเข้าใจปฏิจสมุปบาทอย่างลึกซึ้ง เห็นจุดต่อและทางหักออกจากวัฏฏสงสาร

ส่วนที่กบพยายามจะมองหาว่ามรณะจะเป็นปัจจัยต่อให้มาเกิดเป็นอวิชชานั้นไม่มีบอกไว้เป็นบัญญัติพระพุทธเจ้าทรงทิ้งไว้ให้คนมีปัญญาค้นพบเอาเองด้วยสามัญสำนึก

คำตอบที่คุณศิริพงษ์ตอบไว้ก็ยังใช้ได้ดี ที่ว่า

ก็ตายลงในความโง่หรืออวิชชานั่นแหละมันจึงต้องมาเกิดหมุนเวียนอยู่ตามวงปฏิจจสมุปบาทไม่รู้จบ

สติปัญญาอย่างกบนี่จะนึกไม่ออก คิดไม่ได้เชียวหรือ

"ตายในความโง่ ตายเพราะความโง่ มันก็เกิดโง่ต่อไป"

ตายในความโง่ก็น่าสงสารอยู่

แต่ตายในความเห็นผิดยึดผิด แปลความหมายของพระธรรมดีๆมาอย่างผิดๆนี้สิ น่าเวทนาสงสารยิ่งกว่าสิ่งใด

:b7:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32 ... 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร