กบ. ระวังฟุ้งซ่านนะ. เห็นมีจรวดระเบิด. อย่าไปวางระเบิดเหมือนที่ราชประสงค์นะ55

เด๋วรออ๊บซ์...ตอบคำถามข้อแรกก่อน

แล้วเดี๋ยวจะมีตามมาด้วยเรื่องราว ...

ประมาณ การสื่อสารกับชาวต่างดาว...

จิบน้ำชารอแล้วนะเนียะ

วันนี้เพลีย...

ละเหียใจมากกว่า..อาจเข้าขั้นสมเพชไปเลย..

สำหรับคุนน้อง..การที่เราจะเข้าไปรู้..ไปเห็นอะไร..
ทั้งที่เจตนา..รึไม่เจตนา..แต่เมื่อรู้และเห็น..ก็เป็นเพียงเรื่องราวที่ปรากฏขึ้นในใจเท่านั้น..สุดท้าย ท้ายสุด เราก็ต้องกลับมาอยู่ที่ปัจจุบันธรรม..ถ้าเรามีความติดอก ติดใจ เพลิดเพลินในสิ่งที่เราไปรู้ไปเห็น..การสืบต่อของปฏิจสมุปบาทก็ไม่สิ้นสุด..ภพก็ปรากฏเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ การเข้าไปรู้อดีตก็ตาม รึ อนาคต..
สุดท้าย สิ่งเหล่านั้นก็เป็นเรื่องที่ดับไปแล้วในอดีต
และสิ่งที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต..
ถ้าเราไม่ฝึกสติให้รู้ทันในสิ่งเหล่านั้น ว่ามันเป็นทุกข์
ไม่เที่ยง..เราก็จะไม่สามารถละนันทิได้..แต่ถ้าจิตเรามีความแหลมคมฉับไวพอ ไม่ว่าจะรู้รึเห็นอะไรที่ปรากฏขึ้นในใจ..ก็ให้รู้ว่ามันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ตามธรรมดา..

คุนน้องเคยสนใจเกี่ยวกับเรื่อง ผู้ป่วยที่มีอาการจิตเภท ในลักษณะที่ เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น..พูดกับตนเอง หรือพูดกับใครซักคน ที่คนปกติไม่เห็นเหมือนเค้า..และเราก็ไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลย
ผู้ป่วยอยู่ในโลกของเค้า..โลกที่พวกเราไม่สามารถ
เข้าไปรู้ไปเห็นได้..แน่นอนว่าเรามองว่าพวกเขา ผิดปกติทางจิต..แต่สาเหตุจากอะไรล่ะ?? ทำไมพวกเขาถึงติดอยู่ในภพนั้น..และไม่สามารถหลุดมาอยู่กับปัจจุบัน โลกแห่งความจริงได้..บางครั้งคุนน้องยังอยากจะรู้และเห็นได้บ้าง แบบนั้น โลกของพวกเค้า เค้าเห็นอะไร..เค้าคุยกับใคร

อย่าเคลียดเลยกบ. ปล่อยวางบ้าง. ถ้าหนักไปก็ไม่ต้องวิ่งหาความเบาสบายแค่ปล่อยก็เบาสยาบแล้ว

ตั้งแต่รู้จักกันมาคิงคองพึ่งพูดดีวันนี้เอง แต่บางคนยังติดโลกธรรมอยู่เยอะ

จะว่าไปแล้ว...ภาพที่ว่าเราเห็นด้วยตา..นั้น..จริง ๆ ก็เป็นภาพที่ใจสร้างขึ้นมาอีกทีด้วยการแปลงสัญญาณจากระบบประสาทอีกทอดหนึ่ง....ใจไม่ได้รับแสง...ลูกตาเป็นตัวรับแสง...แต่ตาก็ไม่ได้รู้ว่ารู้อะไร..ทำหน้าที่แค่แปลงแสงเป็นสัญญาณส่งต่อ..

ดังนั้น..ภาพที่เรากำลังเห็นอยู่นี้..ก็เป็นผลงานที่ถูกทอดระหัสแล้วแปลงกลับไปเป็นภาพอีกครั้ง...เท่านั้น

ข้อบ่งชี้ง่าย ๆ ..คือ..อาการบอดสี

สิ่งที่ถูกเห็น...เป็นชิ้นเดียวกัน...แต่คนบอดสีจะเห็นบางสีต่างไปจากคนส่วนใหญ่

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกพิศดารอะไร..ถ้าหากพระที่ภาวนาพิจารณากระดูกจะเห็นหญิงที่เดินผ่านหน้าไปเป็นแต่โครงกระดูก...สัญญาณจากลูกตาถูกแทรกแทรง

การที่จิตเข้าถึงสมการของจิตอื่นได้....สามารถเห็นปรากฎการณ์ที่ยังไม่เกิด..หรือที่เกิดมาแล้ว...รึกำลังเกิดในปัจจุบันได้...จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด....นอกจากภาพแล้ว...ก็อาจเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของสมการนั้นๆ..อีกด้วยก็ได้

และ...อาจถึงขั้นที่สามารถใส่ตัวแปรบางตัวในสมการนั้นๆแล้วรู้อย่างแม่นยำด้วยว่า..สมการนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปทางไหน...

ผู้ที่รู้แต่ไม่แม่นยำก็มี...

อย่างนี้กระมัง...ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระมหากัสสปะไม่ให้ทำบางอย่างที่เป็นพุทธวิสัย...