วันเวลาปัจจุบัน 04 ต.ค. 2025, 18:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2017, 19:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




student_girl_reading_on_floor_hg_clr_thumb.gif
student_girl_reading_on_floor_hg_clr_thumb.gif [ 152.83 KiB | เปิดดู 4208 ครั้ง ]
ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร?
cool
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2017, 06:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8600


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร?
cool

อิทธิบาท กับ อธิบดี ซึ่งมีองค์ธรรมเหมือนกัน คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา โดยเฉพาะนั้น
หน้าที่การงานย่อมไม่เหมือนกัน อิทธิบาทเป็นการงานที่ทำโดยยิ่งยวดในหน้าที่ของตนพร้อมกันได้
ส่วนอธิบดีนั้นเป็นการที่ยิ่งใหญ่ได้เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือก็ต้องคล้อยตามอธิบดีนั้นๆไปโดยจะไม่ขัดกัน

อิทธิบาท หมายความว่า เป็นเหตุให้ถึงความสำเร็จ ฌาน อภิญญา มรรค ผล ให้บริบูรณ์ หรือแม้แต่ทำให้อายุยืน
(ดังมีในพระไตรฎกได้แสดงไว่า ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปลงอายุสังขารของพระองค์เอง
พระองค์ได้บอกกับพระอานนท์ว่า หากพระองค์ประสงค์จะอยู่ต่อพระองค์สามารถเจริญอิทธิบาท๔
และจะมีชีวิตดำรงค์อยู่ต่อไปอีกได้ตลอดกัป- บางตำราเขียนไว้ว่ากัปในที่นี้หมายถึง ๑๒๐ ปี)

อิทธิบาทเป็นธรรมที่เกิดเฉพาะมหากุศลจิตอย่างเดียว ในผลจิตก็จะไม่ชื่อว่าอิทธิบาท
ผลจิต วิริยะ ฉันทะ ปัญญาของพระอรหันต์ ไม่ชื่อว่าอิทธิบาท เพราะเป็นธรรมดาของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย เป็นความบริบูรณ์อยู่แล้ว

ส่วนอธิบดีนั้นจะเป็นได้ทั้ง กุศล อกุศล อพยากตะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2017, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
ธรรมที่เป็นอิทธิบาท กับอธิบดีต่างกันอย่างไร?
cool

เมื่อพูดถึงองค์ธรรมรวมๆ ถึงธรรมคุณอันเป็นเหตุให้มีความสำเร็จ เราเรียกว่า อิทธิบาท 4
แต่
เมื่อจิตทำเหตุในแต่ละขณะๆ จะมีองค์แห่งธรรมคุณนั้นๆ โดดเด่นประกอบในจิตแต่ละขณะๆ นั้นเพียงธรรมคุณเดียว ธรรมชาตินั้นเรียกว่า เป็นอธิปติปัจจัย คือธรรมเป็นอธิบดี

แต่มีข้อสังเกตุว่า จิตที่ทำเหตุโดยเป็นอกุศลนั้น ไม่อาจจะมี วิมังสาเป็นอธิบดีได้เลย ด้วยเหตุว่าวิมังสาเป็นลักษณะของปัญญาเจตสิกชนิดหนึ่ง

จิตเหตุ จิตวิบาก ทำโดยอธิบดีใด ก็สำเร็จโดยอธิบดีนั้น จึงเป็นกรรมเหตุ กรรมวิบากซึ่งกันและกัน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2017, 06:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
อิทธิบาท = ธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จ

อธิบดี = ธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธาน

อิทธิบาทธรรมมี 4 มีผู้อธิบายแล้ว

ธรรมที่เป็นอธิบดีมี 5 คือ อินทรีย์ 5

อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่

อินทรีย์ 5 คือ

สัทธินทรีย์=ศรัทธาเป็นใหญ่

วิริยินทรีย์=ความเพียรเป็นใหญ่

สตินทรีย์=สติเป็นใหญ่

สมาธินทรีย์=สมาธิเป็นใหญ่

ปัญญินทรีย์=ปัญญาเป็นใหญ่

ธรรมทั้ง 5 นี้เขาจะเปลี่ยนกันเป็นใหญ่ตามจังหวะแห่งเหตุ ปัจจัยและธรรม ไม่มีธรรมใดมายึดครองเป็นอธิบดีตายตัวตลอดกาล แต่สุดท้ายจะไปจบที่ปัญญา เพราะปัญญาเป็นตัวดับอวิชชา

เรื่องอย่างนี้เข้าใจยากนะครับ ต้องปฏิบัติจริงไป สังเกตพิจารณาไป ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการคิดปรุงตามตัวหนังสือครับ

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2017, 07:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
อิทธิบาท = ธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จ

อธิบดี = ธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธาน

อิทธิบาทธรรมมี 4 มีผู้อธิบายแล้ว

ธรรมที่เป็นอธิบดีมี 5 คือ อินทรีย์ 5

อินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่

อินทรีย์ 5 คือ

สัทธินทรีย์=ศรัทธาเป็นใหญ่

วิริยินทรีย์=ความเพียรเป็นใหญ่

สตินทรีย์=สติเป็นใหญ่

สมาธินทรีย์=สมาธิเป็นใหญ่

ปัญญินทรีย์=ปัญญาเป็นใหญ่

ธรรมทั้ง 5 นี้เขาจะเปลี่ยนกันเป็นใหญ่ตามจังหวะแห่งเหตุ ปัจจัยและธรรม ไม่มีธรรมใดมายึดครองเป็นอธิบดีตายตัวตลอดกาล แต่สุดท้ายจะไปจบที่ปัญญา เพราะปัญญาเป็นตัวดับอวิชชา

เรื่องอย่างนี้เข้าใจยากนะครับ ต้องปฏิบัติจริงไป สังเกตพิจารณาไป ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการคิดปรุงตามตัวหนังสือครับ

:b38:


เขาพูดแค่ อิทธิบาทกับอธิบดีกัน นี่ไปเอาอินทรีย์ ๕ เข้ามายัดเยียดอีกเพื่อให้ดูว่าเก่งกว่าคนอื่นว่างั้นเถอะ

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ไฉนสูเจ้าจึงยัดเยียดยัดใส้ใส่เพิ่มเติมขึ้นไปอีก จงใจจะบิดเลือนคำสอนชัดเจน

สูเจ้าคงไม่พ้นนรกแน่นอน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2017, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


grin
น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ
:b3:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2017, 21:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
grin
น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ
:b3:


ใช่ครับ...น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ...อย่างยิ่ง...

หยาบ...ขนาดที่ไปว่า...อนัตตลักขณสูตร...สำคัญเป็นอันดับ 2..

หยาบขนาดไหน...ก็คิดดู..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2017, 06:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
grin
น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ
:b3:


ใช่ครับ...น่าสงสารสัตว์โลกผู้มีปัญญาอันหยาบ...อย่างยิ่ง...

หยาบ...ขนาดที่ไปว่า...อนัตตลักขณสูตร...สำคัญเป็นอันดับ 2..

หยาบขนาดไหน...ก็คิดดู..


ใช่ครับคุณกบน่าสงสารจริงๆ
ใช้ชีวิตไปเกือบจะหมดอายุอยู่แล้วยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย

ไม่รู้ไปรู้มาจากไหนว่า คำสอนมีความสำคัญไปตามลำดับ 1.2.
ตกลงผมว่าแกบ้ามากกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2017, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b20:
"โง่แล้วยังอวดฉลาด" แถมยังพากันทำปมาทะต่อพระบรมครู

พระบรมศาสดาจะเริ่มต้นแสดงธรรมและเผยแพร่ธรรม พระองค์ได้ทรงพิจารณาและจัดลำดับเป็นอย่างดีแล้ว จึ.งทรงเริ่มต้นครั้งแรกด้วยการแสดงขอบเขตหรือ Scop แห่งธรรมด้วย ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมากคนแปลความหมายผิดเพี้ยนไปว่าเป็น กงล้อแห่งธรรม

ลำดับที่ 2 ถัดมาพระองค์ได้ทรงแสดงสุดยอดแห่งธรรมคือ
อนัตตา หรือ อนัตตลักขณสูตร ซึ่งในภายหลังพระองค์ยังได้ทรงสรุปไว้ว่า

"สัพเพธัมมา อนัตตา" = ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็น อนัตตา

หลังจากนั้นแล้วธรรมะที่พระองค์แสดงจึงได้เป็นไปตามเหตุ
ปัจจัย สิ่งแวดล้อม และกลุ่มบุคคลที่มาฟังธรรม อย่างเช่น
อาทิตตปริยายสูตร ที่ทรงแสดงกับชฎิล 3 พี่น้อง
มหาสติปัฏฐานสูตรที่ทรงแสดงต่อชาวกุรุ
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2017, 02:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b20:
"โง่แล้วยังอวดฉลาด" แถมยังพากันทำปมาทะต่อพระบรมครู

พระบรมศาสดาจะเริ่มต้นแสดงธรรมและเผยแพร่ธรรม พระองค์ได้ทรงพิจารณาและจัดลำดับเป็นอย่างดีแล้ว จึ.งทรงเริ่มต้นครั้งแรกด้วยการแสดงขอบเขตหรือ Scop แห่งธรรมด้วย ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมากคนแปลความหมายผิดเพี้ยนไปว่าเป็น กงล้อแห่งธรรม

ลำดับที่ 2 ถัดมาพระองค์ได้ทรงแสดงสุดยอดแห่งธรรมคือ
อนัตตา หรือ อนัตตลักขณสูตร ซึ่งในภายหลังพระองค์ยังได้ทรงสรุปไว้ว่า

"สัพเพธัมมา อนัตตา" = ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็น อนัตตา

หลังจากนั้นแล้วธรรมะที่พระองค์แสดงจึงได้เป็นไปตามเหตุ
ปัจจัย สิ่งแวดล้อม และกลุ่มบุคคลที่มาฟังธรรม อย่างเช่น
อาทิตตปริยายสูตร ที่ทรงแสดงกับชฎิล 3 พี่น้อง
มหาสติปัฏฐานสูตรที่ทรงแสดงต่อชาวกุรุ
onion


ใช่ครับ.."โง่แล้วอวดฉลาด"..จริงจริง...ที่ไปตัดสินพระธรรมขององค์สมเด็จว่ามีความสำคัญอันดับ 2...

ไม่มีใครไปว่าอะไรหรอกครับ..ว่า..อนัตตลักขณสูตร...เป็นบทที่2ที่ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์..

แต่ผมว่าอโศกะ..ที่อโศกะไปว่า..อนัตตลักขณสูตร..สำคัญอันดับ2 รองมาจาก อริยะสัจ 4....ต่างหากครับ...

asoka เขียน:
:b19:
คำพูด ที่ไม่ได้มาจากการพิสูจน์ธรรม พิสูจน์ความจริง ย่อมจะ
ฟุ้งเฟ้อ เลื่อนลอย คัดค้านสัจจธรรม และคัดค้านตัวเองด้วย

พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเผยพระโอษฐ์แสดงธรรมวันที่ 2 ด้วยเรื่อง อนัตตลักขณสูตร หรือ อนัตตา ถัดมาจากปฐมเทศนาเรื่องอริยสัจ 4 และมรรค 8 แสดงว่าเรื่อง
อนัตตานี้มีความสำคัญมากเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากอริยสัจ 4 ความข้อนี้ผู้มีจิตและสติปัญญาอันหยาบจะมองไม่เห็น จึงพลาดสิ่งดีๆที่ง่ายและสำคัญ ไปค้นหาธรรมในที่ๆมิใช่ธรรม ถลำลึกลงไปในบัญญัติ ปริยัติ จนมิอาจถอนตัว

พุทธดำรัสที่ว่า

"สัพเพธัมมา อนัตตา" นี่เป็นสุดยอดแห่งธรรมที่พระบรมศาสดาทรงสรุปไว้เลยทีเดียว สัตว์โลกทั้งหลายเอ๋ย

:b44:



พอสติมา...อโศกะจะมาเบี่ยงเบนไปเป็น...ลำดับที่ 2...แล้วมาโยนบาปใส่คนอื่นว่า...ปรามาสบรมครู....อีกด้วย..นี้....ร้ายกาจจริงจริง...

นิสัยเสีย..นะเนี้ย..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2017, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่แหละโง่แท้ อโสกะ
ที่อโสกะเรียงลำดับมาน่ะใช่ แต่ความเข้าใจผิดไปไกลเลย
ปัญญาของเจ้ามีแค่หางอึ่งเอง

พระพุทธเจ้าก่อนที่จะไปโปรดท่านใด ท่านใช้พระญานตรวจก่อนว่า
บุคคลเช่นจะสำเร็จด้วยธรรมเช่นใด เหมาะสมกับใคร เช่น ไปโปรด พระยสะ ทำไมจึงแสดงอนุปพิกถาล่ะ
แสดงให้เห็นว่าไม่เรียงความสำคัญ 1.2. ใช่ไหมล่ะ คนโง่นี่จะคิดเรื่องฉลาดไม่เป็น คิดได้แค่เรื่องโง่ๆ เรียกว่าโง่แท้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2017, 10:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b3: :b23:
น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา

คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ

"กัมมุนาวัตติโลโก"

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด
:b23:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2017, 11:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b3: :b23:
น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา

คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ

"กัมมุนาวัตติโลโก"

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด
:b23:

มันเป็นกรรมของสัตว์ที่สะสมทิฏฐิมานานแก้ได้ยาก

สัตว์น้ำเห็นน้ำเป็นที่พึ่งเป็นที่ปลอดภัย
สัตว์ป่าเห็นป่าเป็นที่ปลอดภัย

เจริญเถอะอโสกะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2017, 13:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b3: :b23:
น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา

คงต้องเวียนว่ายกันอยู่อีกนานนะ

"กัมมุนาวัตติโลโก"

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

จงไปสู่ที่ชอบๆเถิด
:b23:


ใครคับที่ไม่เห็นความสำคัญของอนัตตา...

นี้..ผมเถียงอโศกะนะครับ..ที่อโศกะจัดอนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากอริยะสัจ 4...ก็เพราะเห็นว่าสำคัญนี้แหละถึงได้มาเถียงอโศกะอยู่นี้...

ตัวอโศกะเองต่างหากที่ไปจัดลำดับว่า..อนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากอริยะสัจ...4

พอผมมาเถียง...ว่าอโศกะคิดผิดแล้ว...

แล้วอโศกะยังมายัดข้อหากระผมว่า..
...

น่าเสียดายที่กบและธรรมาไม่เห็นความสำคัญและความหมายอันลึกซึ้งของ อนัตตา

......

ตลก....บริโภค...ไปรึเปล่า..

ใครไปจัด..อนัตตาสำคัญเป็นอันดับ 2...ละ..มิใช่อโศกะดอกหรือ?


งง...กับชีวิต..จริงเลย
555...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร