วันเวลาปัจจุบัน 11 ก.ย. 2025, 01:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 159, 160, 161, 162, 163, 164, 165 ... 179  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปวิสิตฺวา ความว่า ปล่อยปุณณกยักษ์
ไว้ในที่นั้นนั่นเอง พระองค์ก็เสด็จลุกขึ้นเข้าไปยังพระนิเวศน์ที่ชายาของพระองค์
บรรทมอยู่ทันที. บทว่า ปิยํ มมํ ความว่า พระองค์ตรัสถามว่า เราจะให้
ธิดาซึ่งเป็นที่รักของเรา โดยได้ทรัพย์เครื่องปลื้มใจเป็นอันมากหรือ ?
พระนางวิมลาเทวี ตรัสว่า

ปุณณกยักษ์ไม่พึงได้ลูกอิรันทตีของเราเพราะ
ทรัพย์ เพราะสิ่งที่ปลื้มใจ ถ้าปุณณกยักษ์ได้หทัยของ
วิธุรบัณฑิตนำมาในนาคพิภพนี้โดยชอบธรรม เพราะ
ความชอบธรรมนั่นแล เขาจะพึงได้ลูกสาวของเรา
หม่อมฉันปรารถนาทรัพย์อื่น ยิ่งกว่าหทัยของวิธุร-
บัณฑิตหามิได้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อมฺหํ อิรนฺทตี ความว่า อิรันทตีธิดา
ของเรา. บทว่า เอเตน จิตฺเตน ความว่า ด้วยอาการที่ยินดีนั้นนั่นแล.
ลำดับนั้น ท้าววรุณนาคราชเสด็จออกจากนิเวศน์
ตรัสเรียกปุณณกยักษ์มาตรัสว่า ท่านไม่พึงได้ลูก
อิรันทตีของเรา เพราะทรัพย์ เพราะสิ่งเครื่องปลื้มใจ
ถ้าท่านได้หทัยของวิธุรบัณฑิตนำมา ในนาคพิภพนี้โดย
ชอบธรรม ท่านจะพึงได้ลูกสาวของเรา เราปรารถนา
ทรัพย์อื่นยิ่งไปกว่าหทัยของวิธุรบัณฑิตหามิได้.

บรรดาบทเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า ปุณฺณกามนฺตยิตฺวาน ความ
ว่า เรียกปุณณกยักษ์มา.
ปุณณกยักษ์ ทูลว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ในโลกนี้คนบางพวก
ย่อมเรียกคนใดว่าเป็นบัณฑิต คนบางพวกกลับเรียก
คนนั้นนั่นแลว่าเป็นพาล ในเรื่องนี้ คนทั้งหลายยัง
กล่าวแย้งกันอยู่ ขอได้ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ พระ-
องค์ทรงเรียกใครว่าเป็นบัณฑิต.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยํ ปณฺฑิโต ความว่า ได้ยินว่า ปุณณก-
ยักษ์ได้สดับว่าให้นำหทัยวิธุรบัณฑิตมาดังนี้ คิดว่า คนบางพวก เรียกคนใด
ว่า เป็นบัณฑิต แต่คนพวกอื่นก็เรียกคนนั้นแหละว่า เป็นพาล. ทั้งที่แม่นาง
อิรันทตีบอกเราว่า วิธุรบัณฑิตแม้โดยแท้ ถึงกระนั้นเราจักทูลถามท้าวเธอให้
รู้แน่นอนกว่านั้น เพราะเหตุดังนี้นั้นจึงได้กล่าวอย่างนั้น.
พระยานาคราชตรัสว่า

บัณฑิตชื่อว่าวิธุระ ผู้ทำการสั่งสอนอรรถธรรม
แก่พระเจ้าธนัญชัยโกรพยราช ถ้าท่านได้ยินได้ฟังมา
แล้ว ท่านจงไปนำบัณฑิตนั้นมา ครั้นท่านได้มาโดย
ธรรมแล้ว อิรันทตีธิดาของเรา จงเป็นภรรยาของ
ท่านเถิด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ธมฺมลทฺธา แปลว่า ได้มาแล้วโดย
ธรรม. บทว่า ปาทจราว แปลว่า เป็นหญิงบำเรอ.
ฝ่ายปุณณกยักษ์ ได้สดับพระดำรัส ของท้าว
วรุณนาคราชดังนี้แล้ว ยินดียิ่งนัก ลุกขึ้นแล้ว ไปสั่ง
บุรุษ คนใช้ของตน ผู้อยู่ในที่นั้นว่า เจ้าจงนำม้า
อาชาไนยที่ประกอบไว้แล้ว มา ณ ที่นี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อสํสิ ได้แก่ สั่งบังคับคนใช้ของตน.
บทว่า อาชญฺํ ได้แก่ ม้าสินธพผู้รู้เหตุ และมิใช่เหตุ. บทว่า ยุตฺตํ
แปลว่า ประกอบเสร็จแล้ว.
พระโบราณาจารย์ กล่าวพรรณนาม้าสินธพนั้นไว้ว่า

ม้าสินธพอาชาไนยนั้น มีหูทั้งสองประดับด้วย
ทองคำ กีบหุ้มด้วยแก้วแดง มีเครื่องประดับอก ล้วน
แล้วด้วยทองชมพูนุทอันสุกใส.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชาตรูปมยา ความว่า เมื่อจะกล่าว
พรรณนาม้าสินธพนั้นนั่นแล จึงได้กล่าวอย่างนั้น จริงอยู่ม้าสินธพมโนมัยนั้น
มีหูทั้งสองล้วนแล้วด้วยทองคำ. บทว่า กาจมหิจมยา ขุรา ความว่า ม้า
สินธพนั้น มีกีบล้วนแล้วด้วยแก้วมณี. บทว่า ชมฺโพนทสฺส ปากสฺส
ความว่า มีเครื่องประดับอก ล้วนแล้วด้วยทองชมพูนุท มีสีแดงสุกปลั่ง.
บุรุษคนใช้นั้น นำม้าสินธพมาในขณะนั้นนั่นเอง ปุณณกยักษ์ ขึ้นขี่
ม้าสินธพอาชาไนยนั้น เหาะไปสู่สำนักของท้าวเวสวัณโดยทางอากาศ แล้ว
พรรณนาภพแห่งนาค แล้วบอกเรื่องนั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะทรงประกาศความนั้นจึงได้ตรัสว่า
ปุณณยักษ์ผู้ประดับประดาแล้ว แต่งผมและ
หนวดดีแล้ว ขึ้นม้าอันเป็นพาหนะของเทวดา เหาะ
ไปในอากาศกลางหาว ปุณณกยักษ์นั้น กำหนัดแล้ว
ด้วยกามราคะ ปรารถนานางอิรันทตีนาคกัญญา ไป
ทูลท้าวกุเวรเวสวัณผู้เรืองยศ ซึ่งเป็นใหญ่แห่งหมู่ยักษ์

ว่า ภพนาคนั้นเขาเรียกชื่อว่าโภควดีนครบ้าง วาส-
นครบ้าง หิรัญญวดีนครบ้าง เป็นเมืองที่บุญกรรม
นิรมิต ล้วนแต่ทองคำ สำเร็จแก่พระยานาคผู้บริบูรณ์
ด้วยโภคทรัพย์ทุกอย่าง ป้อมและเชิงเทิน สร้างโดย
สัณฐานคออูฐ ล้วนแล้วด้วยแก้วแดงและแก้วลาย ใน

นาคพิภพนั้น มีปราสาทล้วนแล้วด้วยหิน มุงด้วย
กระเบื้องทองในนาคพิภพนั้น มีไม้มะม่วง ไม้หมาก
เม่า ไม้หว้า ไม้ตีนเป็ด ไม้จิก ไม้การะเกด ไม้
ประยงค์ ไม้ราชพฤกษ์ ไม้มะม่วงหอม ไม้ชะบา
ไม้ยางทราย ไม้จำปา ไม้กากะทิง มะลิซ้อน มะลิ

ลา และไม้กะเบา ต้นไม้ในนาคพิภพเหล่านี้มีกิ่งต่อ
กันและกัน งามยิ่งนัก ในนาคพิภพนั้น มีต้นอินท-
ผาลัม อันสำเร็จด้วยแก้วอินทนิล มีดอกและผลล้วน
ไปด้วยทองเนืองนิตย์ ท้าววรุณนาคราชผู้มีฤทธิ์มาก


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เป็นผู้ผุดขึ้นเกิดอยู่ในนาคพิภพนั้น มเหสีของพระ
ยานาคราชนั้น กำลังรุ่นสาว ทรงพระนามว่าวิมลา
มีพระรูป พระโฉมอันประกอบด้วยสิริ งดงามดังก้อน
ทองคำ สะโอดสะองดังหน่อเถาจิงจ้อดำ พระถันทั้ง
คู่มีสัณฐานดังผลมะพลับ น่าดูยิ่งนัก พระฉวีวรรณ
แดงดังน้ำครั่ง เปรียบเหมือนดอกกรรณิการ์อันแย้ม

บาน เปรียบดังนางอัปสร ผู้อยู่ในสวรรค์ชั้นไตรทศ
หรือเปรียบเหมือนสายฟ้าอันแลบออกจากกลีบเมฆ
ข้าพระองค์ผู้เป็นใหญ่ พระนางวิมลานั้น ทรงแพ้พระ-
ครรภ์ ทรงปรารถนาดวงหทัยของวิธุรบัณฑิต ข้า-
พระองค์ จะถวายดวงหทัยของวิธุรบัณฑิต แก่ท้าว
วรุณนาคราชและพระนางวิมลา เพราะการนำดวงหทัย
ของวิธุรบัณฑิตไปถวายแล้ว ท้าววรุณนาคราช และ
พระนางวิมลา จะพระราชทานพระ นางอิรันทตีราช
ธิดาแก่ข้าพระองค์.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เทววาหวหํ ความว่า พาหนะที่จะพึง
นำไป ย่อมนำพาหนะ กล่าวคือเทวดาไป เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เทววาหวหะ
นำไปด้วยพาหนะเทวดา. บทว่า ยานํ ความว่า ชื่อว่ายาน เพราะเป็นเครื่อง
นำไป คือเป็นเครื่องไป. บทว่า กปฺปิตเกสมสฺสุ ความว่า แต่งผมและ
หนวดดีแล้ว ด้วยอำนาจประดับ ถามว่า ก็ธรรมดาการแต่งผมและหนวด

ของเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มี แต่ก็กล่าวถ้อยคำให้วิจิตรไป. บทว่า ชิคึสํ
แปลว่า ผู้ปรารถนา. บทว่า เวสฺสวณํ ได้แก่ พระราชาผู้เป็นอิสระแห่ง
ราชธานีประจำทิศอีสาน. บทว่า กุเวรํ ได้แก่ ผู้มีชื่อว่า กุเวร อย่างนั้น.
บทว่า โภควตี นาม ได้แก่ ผู้ได้ชื่ออย่างนั้น เพราะเป็นมีโภคสมบัติ
สมบูรณ์. บทว่า มนฺทิเร ความว่า พระราชมนเทียรคือพระราชวัง บทว่า

วาสา หิรญฺวตี ความว่า ท่านเรียกว่า ที่ประทับ เพราะเป็นที่ประทับ
ของพระยานาค และกล่าวว่า หิรญฺวตี เพราะพระที่นั่งหิรัญญวดี แวด


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ล้อมไปด้วยกำแพงทอง. บทว่า นครํ นิมิตฺตํ แปลว่า มีนครเป็นเครื่อง
หมาย. บทว่า กาญฺจนมเย แปลว่า สำเร็จแล้วด้วยทอง. บทว่า มณฺฑลสฺส
ได้แก่ ประกอบด้วยโภคมณฑล. บทว่า นิฏฺ€ิตํ แปลว่า สำเร็จในเพราะ
การทำ. บทว่า โอฏฺ€คีวิโย ได้แก่ กระทำโดยสัณฐานดังคออูฐ. บาทคาถาว่า
โลหิตงฺคสฺส มสารคลฺลิโน ได้แก่ ป้อมและคอหอย อันสำเร็จด้วยแก้ว

แดง สำเร็จด้วยแก้วตาแมว. บทว่า ปาสาเทตฺถ นี้ ได้แก่ ปราสาทใน
นาคพิภพนี้. บทว่า สิลามยา แปลว่า สำเร็จด้วยแก้วมณี. บทว่า โสวณฺณ-
รตเนน ความว่า มุงด้วยรัตนะ กล่าวคือทอง คือด้วยอิฐอันสำเร็จด้วย
ทองคำ. บทว่า สห แปลว่า ทำพร้อมกัน. บทว่า อุปริ ภณฺฑกา
ได้แก่ ต้นปาริฉัตตกะ. บทว่า อุทฺทาลกา ได้แก่ ต้นจำปา ต้นกากะทิง

และต้นมะลิวัลย์. บาทพระคาถาว่า ภคินิมาลา อตฺเถตฺถ โกลิยา ความว่า
ไม้มะลิลา และต้นกระเบา ย่อมมีในนาคพิภพนี้. บทว่า เอเต ทุมา ปรินามิตา
ความว่า ต้นไม้ที่เผล็ดดอก ออกผลเหล่านั้น มีกิ่งเกี่ยวพันน้อมหากันและกัน
นุงนัง. บทว่า ขชฺชุเรตฺถ ได้แก่ ต้นอินทผาลัม มีในนาคพิภพนี้. บทว่า
สิลามยา แปลว่า สำเร็จด้วยแก้วอินทนิล. บทว่า โสวณฺณธุวปุปฺผิตา

ความว่า ก็ต้นไม้เหล่านั้น มีดอกอันสำเร็จด้วยทองบานอยู่เป็นนิตย์. บทว่า
ยตฺถ วสโตปปาติโก ความว่า พระยานาคผู้เกิดอยู่ในภพนาคใด. บทว่า
กาญฺจนเวลฺลิวิคฺคหา ได้แก่ มีพระสรีระเช่นกับหน่อทองคำ. บาทพระคาถา
ว่า กาฬา ตรุณาว อุคฺคตา ความว่า ผุดขึ้นแล้ว ดังแก้วกาฬวัลลีและแก้ว
ประพาฬ เพราะประกอบด้วยความงาม. บทว่า ปิจุมณฺฑตฺถนี มีพระถัน

ทั้งสองมีสัณฐานดังผลมะพลับ. บทว่า ลาขารสรตฺตสุจฺฉวี นี้ ท่านกล่าว
หมายถึงพระฉวีวรรณ แห่งพื้นพระหัตถ์และพระบาท. บทว่า ติทิโวกฺ-
กจรา แปลว่า เปรียบเหมือนนางอัปสรในสวรรค์ชั้นไตรทศ. บทว่า วิชฺชุ-
วพฺภฆนา ความว่า เปรียบเหมือนสายฟ้า ที่แลบออกจากกลีบเมฆ คือจาก
ภายในแห่งกลีบเมฆอันหนาทึบ. บทว่า ตํ เนสํ ททามิ ความว่า เราจะ


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ให้ดวงหทัยของวิธุรบัณฑิตแก่พวกเขา ท่านจงรู้อย่างนี้. ปุณณกยักษ์เรียก
พระเจ้าลุงว่า อิสฺสร ผู้เป็นใหญ่.
ปุณณกยักษ์นั้น ท้าวเวสวัณยังไม่ทรงอนุญาต ก็ไม่อาจจะไปได้
จึงได้กล่าวคาถามีประมาณเท่านี้ เมื่อเขาทูลท้าวเวสวัณให้ทรงอนุญาต ด้วย
ประการฉะนี้ ส่วนท้าวเวสวัณ ไม่ทรงได้ยินถ้อยคำของปุณณกยักษ์นั้น มี
คำถามสอดเข้ามาว่า เพราะเหตุไร ท้าวเวสวัณ จึงไม่ทรงได้ยินถ้อยคำของ

ปุณณกยักษ์ ? แก้ว่า เพราะว่า ท้าวเวสวัณ กำลังตัดสินคดีของเทวบุตร
๒ องค์ เรื่องที่พิพาทกันด้วยวิมาน ปุณณกยักษ์ทราบว่า ท้าวเธอมิได้ยิน
ถ้อยคำของตน จึงไปยืนใกล้เทวบุตรผู้ชนะ ท้าวเวสวัณ ทรงตัดสินคดีแล้ว
บังคับเทวบุตร ผู้แพ้มิให้ลุกขึ้น ตรัสกะเทวบุตรผู้ชนะว่า ท่านจงไปอยู่ใน
วิมานของท่าน ในขณะที่ท้าวเวสวัณตรัสว่า ท่านจงไปดังนี้นั่นแล ปุณณก-
ยักษ์บอกเทวบุตร ๒-๓ องค์ ให้เป็นพยานว่า ท่านทั้งหลายจงทราบว่า
พระเจ้าลุงของเราส่งเราไป แล้วสั่งให้นำม้าสินธพมา เผ่นขึ้นม้าสินธพนั้น
เหาะไป โดยนัยที่กล่าวมาแล้วในหนหลัง.

พระศาสดา เมื่อทรงประกาศความนั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
ปุณณกยักษ์นั้น ทูลลาท้าวกุเวรเวสวัณผู้เรืองยศ
เป็นใหญ่ในหมู่ยักษ์ แล้วไปสั่งบุรุษคนใช้ของตนผู้อยู่
ในที่นั้นว่า เจ้าจงเอาม้าอาชาไนยที่ประกอบแล้วมา ณ
ที่นี้ ม้าสินธพนั้นมีหูทั้งสองประดับด้วยทองคำ กีบ
หุ้มด้วยแก้วแดง เครื่องประดับอกล้วนด้วยทองคำ
ชมพูนุทอันสุกใส ปุณณกยักษ์ผู้ประดับประดาแล้ว

แต่งผม และหนวดดีแล้ว ขึ้นม้าอันเป็นยานพาหนะ
ของเทวดา เหาะไปในอากาศกลางหาว.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อามนฺตย แปลว่า เรียกมาแล้ว.
ปุณณกยักษ์นั้น เหาะไปทางอากาศนั่นเองคิดว่า วิธุรบัณฑิตมีบริวาร
มาก เราไม่อาจจับเอาเธอได้ แต่ว่าพระเจ้าธนัญชัยโกรพยราช พอพระทัย
ในการทรงสกา เราชนะท้าวเธอด้วยสกาแล้ว จักจับเอาวิธุรบัณฑิต เออก็แก้ว
ในพระคลังข้างที่ ของท้าวเธอมีเป็นจำนวนมาก ท้าวเธอคงไม่ทรงสกาด้วย

แก้วที่เป็นของพนันมีค่าเล็กน้อย บุคคลผู้ชนะพระราชาได้ควรจะนำเอาแก้ว
มณีมีค่ามากมา พระราชาจักไม่ทรงรับแก้วชนิดอื่น แก้วมณีเป็นเครื่องใช้สอย
ของพระเจ้าจักรพรรดิราช มีอยู่ในระหว่างแห่งวิบุลบรรพตใกล้กรุงราชคฤห์
เราต้องเอาแก้วมณี ซึ่งมีอานุภาพมากนั้นมาโลมล่อพระราชาจึงจะชนะพระราชา
ได้ ปุณณกยักษ์ได้ทำอย่างนั้นแล้ว.
พระศาสดา เมื่อทรงประกาศความนั้น จึงได้ตรัสพระคาถานี้ว่า

ปุณณกยักษ์นั้น ได้เหาะไปสู่กรุงราชคฤห์อันน่า
รื่นรมย์ยิ่งนัก เป็นนครของพระเจ้าอังคราช อันพวก
ข้าศึกไม่กล้าเข้าใกล้ มีภักษาหาร และข้าวน้ำมากมาย
ดังมสักกสารพิภพของท้าววาสวะ เป็นนครกึกก้องด้วย
หมู่นกยูงและนกกะเรียน อื้ออึงด้วยฝูงนกต่าง ๆ ชนิด

เป็นที่เสพอาศัยของฝูงทิชาชาติ มีนกต่าง ๆ ส่งเสียง
ร้องอยู่ อึงมี่ ภูมิภาคราบเรียบ ดารดาษไปด้วยบุปผ-
ชาติ ดังขุนเขาหิมวันต์ ปุณณกยักษ์นั้น ขึ้นสู่วิบุล-
บรรพตอันเป็นภูเขาศิลาล้วน เป็นที่อาศัยอยู่ของหมู่
กินนร เที่ยวแสวงหาแก้วมณีดวงประเสริฐอยู่ ได้เห็น
ดวงแก้วมณีนั้น ณ ท่ามกลางยอดภูเขา.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า องฺคสส รญฺโ ความว่า ในกาลนั้น
พระเจ้าอังคราช ได้ครองมคธรัฐ ด้วยเหตุนั้นจึงตรัสไว้. บทว่า ทุราสทํ
ความว่า อันข้าศึกจะเข้าไปหาได้ยาก. บทว่า มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส
ความว่า ดุจพิภพแห่งท้าววาสวะ อันได้นามว่า มสักกสาระ เพราะสร้างไว้
ใกล้ภูเขาสิเนรุ กล่าวคือ มสักกการะ. บทว่า ทิชาภิสํฆุฏฺ€ํ ความว่า


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เป็นที่อยู่กึกก้องลือลั่นไปด้วยฝูงนกอื่น ๆ. บทว่า นานาสกุณาภิรุทํ ความว่า
ฝูงนกนานาชนิด ส่งเสียงร้องด้วยเสียงอันไพเราะ เซ็งแซ่ อื้ออึงอยู่. บทว่า
สุวงฺคณํ ความว่า มีเนินอันสวยงาม มีภาคพื้นราบเรียบเป็นที่น่าฟูใจ. บทว่า
หิมวํว ปพฺพตํ แปลว่า เหมือนภูเขาหิมวันต์. บทว่า วิปุลมาภิรุยฺห ความว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุณณกยักษ์นั้นขึ้นสู่วิบุลบรรพตเห็นปานนั้น. บทว่า
ปพฺพตกูฏมชฺเฌ ความว่า ได้เห็นแก้วมณีนั้นในระหว่างยอดแห่งภูเขา.

ปุณณกยักษ์ครั้นเห็นแก้วมณีมีรัศมีอันผุดผ่อง
เป็นแก้วมณีดีเลิศด้วยยศรุ่งโรจน์โชติช่วงด้วยแก้วมณี
เป็นอันมาก สว่างไสวดังสายฟ้าแลบในอากาศ สามารถ
นำทรัพย์มาให้ดังใจหวัง แล้วถือเอาแก้วมโนหรจินดา
มีค่ามาก มีอานุภาพมากนั้น เผ่นขึ้นม้าสินธพอาชาไนย
เหาะไปในอากาศกลางหาว.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ธนาหรํ ความว่า สามารถนำทรัพย์มา
ได้ตามใจหวัง. บทว่า ททฺทลฺลมานํ แปลว่า รุ่งโรจน์ชัชวาล. บทว่า
ยสสา แปลว่า ด้วยหมู่แก้วมณีมีบริวารมาก. บทว่า โอภาสตี ความว่า
แก้วมณีนั้นสว่างไสว เหมือนสายฟ้าแลบในอากาศฉะนั้น. บทว่า ตมคฺคหี
ความว่า ได้ถือเอาแก้วมณีนั้น. บทว่า มโนหรนฺนาม ความว่า ได้นาม
อย่างนี้ว่า สามารถนำมาซึ่งทรัพย์ดังใจนึก.

ยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่า กุมภิระ มีพวกยักษ์กุมภัณฑ์แสนหนึ่งเป็นบริวาร
รักษาแก้วมณีนั้นอยู่ แต่กุมภิรยักษ์นั้น เมื่อปุณณกยักษ์ทำท่าโกรธถลึงตาดู
เท่านั้น ก็สะดุ้งกลัวตัวสั่นหนีไปแอบเขาจักวาลแลดูอยู่. ปุณณกยักษ์นั้นขับไล่
กุมภิรยักษ์ให้หนีไปแล้ว จึงถือเอาแก้วมณีเหาะไปโดยทางอากาศถึงนครนั้น.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศความนั้น จึงตรัสพระคาถาว่า
ปุณณกยักษ์นั้น ได้เหาะไปยังอินทปัตตนคร
ลงจากหลังม้าแล้วเข้าไปสู่ที่ประชุมของชาวกุรุรัฐ ไม่
กลัวเกรงพระราชา ๑๐๑ พระองค์ ที่ประชุมพร้อม
เพรียงกันอยู่ ณ ที่นั้น กล่าวท้าทายด้วยสกาว่า บรรดา
พระราชาในราชสมาคมนี้ พระองค์ไหนหนอจะทรง
ชิงเอาแก้วอันประเสริฐ ของข้าพระองค์ได้ หรือว่า
ข้าพระองค์จะพึงชนะพระราชาพระองค์ไหน ด้วย
ทรัพย์อันประเสริฐ อนึ่ง ข้าพระองค์จะชิงแก้วอัน
ประเสริฐยิ่ง กะพระราชาพระองค์ไหน หรือพระราชา
พระองค์ไหนจะทรงชนะข้าพระองค์ด้วยทรัพย์อัน
ประเสริฐ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โอรุยฺหุปาคญฺฉิ สภํ กุรูนํ ความว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุณณกยักษ์นั้นลงจากหลังม้าแล้ว พักม้าที่มีรูปอันใครไม่
เห็นแล้วเข้าไปสู่สภาแห่งชาวกุรุรัฐ ด้วยเพศแห่งมาณพน้อย. บทว่า เอกสตํ
ความว่า เป็นผู้ไม่เกรงกลัวพระราชา ๑๐๑ พระองค์ ได้กล่าวท้าทายด้วยสกา
โดยนัยมีอาทิว่า พระราชาพระองค์ไหนหนอ. บทว่า โกนีธ ความว่า พระราชา

พระองค์ไหนหนอในราชสมาคมนี้. บทว่า รญฺํ ความว่า ในระหว่างพระราชา
ทั้งหลาย. บทว่า วรมาภิเชติ ความว่า พระราชาพระองค์ไหนที่จะชิงเอาแก้ว
อันประเสริฐของข้าพเจ้าได้ คืออาจกล่าวได้ว่าเราชนะดังนี้. บทว่า กมาภิเชยฺ-
ยาม ความว่า หรือว่า พวกเราจะพึงชนะใคร ?. บทว่า วรทฺธเนน แปลว่า

ด้วยทรัพย์อันสูงสุด. บทว่า กมนุตฺตรํ ความว่า ก็พวกเรา เมื่อจะชนะ
จงชนะทรัพย์อันประเสริฐกะพระราชาพระองค์ไหน ?. บทว่า โก วาปิ โน
เชติ ความว่า ก็หรือว่า พระราชาพระองค์ไหนจะชนะพวกเราด้วยทรัพย์อัน
ประเสริฐ ปุณณกยักษ์นั้น พูดเคาะพระเจ้าโกรพยราชนั่นแลด้วยบท ๔ บท
ด้วยประการฉะนี้.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ลำดับนั้น พระเจ้าโกรพยราชทรงพระดำริว่า ก่อนแต่นี้ เรายังไม่
เคยเห็นใครที่พูดกล้าหาญเช่นนี้ นี่จะเป็นใครหนอแล เมื่อจะรับสั่งถามจึง
ตรัสพระคาถาว่า

ชาติภูมิของท่านอยู่ในแว่นแคว้นไหน ? ถ้อยคำ
ของท่านนี้ ไม่ใช่ถ้อยคำของชาวกุรุรัฐเลย ท่านมิได้
กลัวเกรงเราทั้งปวง ด้วยรัศมีแห่งผิวพรรณ ท่านจง
บอกชื่อและพวกพ้องของท่านแก่เรา.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โกรพฺยสฺเสว ความว่า ถ้อยคำของ
ท่าน ไม่ใช่ถ้อยคำของคนผู้อยู่ในแว่นแคว้นกุรุรัฐเลย.

ฝ่ายปุณณกยักษ์ได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่า พระราชานี้ ย่อมถามชื่อของ
เราด้วย ทาสชื่อปุณณกะมีอยู่คนหนึ่ง ถ้าเราจะทูลบอกว่าชื่อปุณณกะไซร้
ท้าวเธอจักดูหมิ่นได้ว่า เพราะเหตุไรทาสจึงพูดกะข้าด้วยความคะนองอย่างนี้
อย่าเลย เราจักทูลบอกชื่อของเราในชาติอดีตเป็นลำดับแก่ท้าวเธอ แล้วกล่าว
คาถาว่า

ข้าแต่พระราชา ข้าพระองค์เป็นมาณพกัจจายน-
โคตร ชื่อปุณณกะ ญาติและพวกพ้องของข้าพระองค์
อยู่ในนครกาลจัมปากะ แคว้นอังคะย่อมเรียกข้าพระ-
องค์อย่างนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ข้าพระองค์
มาถึงในนี้ด้วยต้องการจะเล่นพนันสกา.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนูนนาโม ความว่า ได้กล่าวปกปิด
เฉพาะชื่อเต็มเท่านั้นโดยชื่อที่บกพร่องนั้น. บทว่า อิติ มาหุยนฺติ ความว่า
พวกญาติย่อมกล่าวย่อมเรียกข้าพเจ้าดังนี้. บทว่า องฺเคสุ ความว่า อยู่ใน
นครกาลจัมปากะ ในอังครัฐ. บทว่า อตฺเถน เทวสฺมิ ความว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้สมมติเทพ ข้าพระองค์มาถึงในที่นี้ด้วยประสงค์จะเล่นสกา.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ลำดับนั้น พระราชาเมื่อจะตรัสถามปุณณกยักษ์นั้นว่า ดูก่อนมาณพ
ท่านผู้ที่พระราชาชำนะด้วยสกา จักถวายอะไรแก่พระราชาท่านมีอะไรหรือ
จึงตรัสพระคาถาว่า

พระราชาผู้ทรงชำนาญการเล่นสกา เมื่อชนะ
ท่านจึงพึงนำเอาแก้วเหล่าใดไป แก้วเหล่านั้นของ
มาณพมีอยู่หรือ แก้วของพระราชามีอยู่จำนวนมาก
ท่านเป็นคนเข็ญใจ จะมาพนันกะพระราชาเหล่านั้นได้
อย่างไร.

คำอันเป็นคาถานั้นมีอธิบายดังนี้ แก้วเหล่านั้นของมาณพผู้เจริญมีอยู่
หรือ. บทว่า เย ตํ ชินนฺโต ความว่า พระราชาตรัสว่า ท่านผู้ชำนาญ
เล่นสกา เมื่อท่านชำนะเขาแล้ว ท่านกล่าวว่า จงนำมา ดังนี้แล้ว พึงนำไป
แต่แก้วเป็นอันมากมีอยู่ในพระนิเวศน์ของพระราชาทั้งหลาย ท่านเป็นคนจน
ท่านจะเอาทรัพย์เป็นค่าเดิมพันพนันกะพระราชาเหล่านั้น ผู้มีทรัพย์มากอย่างนี้
ได้อย่างไร ?

ลำดับนั้น ปุณณกยักษ์ทูลว่า
แก้วมณีของข้าพระองค์ดวงนี้ ชื่อว่า สามารถนำ
ทรัพย์มาให้ได้ ดังใจปรารถนา นักเลงเล่นสกาชนะ
ข้าพระองค์แล้ว พึงนำแก้วมณีดวงประเสริฐสามารถ
นำทรัพย์มาให้ได้ดังใจปรารถนา และม้าอาชาไนย
เป็นที่เกรงขามของศัตรูนี้ไป.

ก็ในบาลีโปตถกะ ท่านลิขิตไว้ว่า แก้วมณีของข้าพระองค์นี้ มีสีแดง
ก็แก้วมณีนั้นเป็นแก้วไพฑูรย์ เพราะฉะนั้นคำนี้แหละจึงสมกัน. บรรดาบท
เหล่านั้น. บทว่า อาชญฺํ ความว่า นักเลงผู้ชำนาญเล่นสกาชนะแล้วพึงนำสิ่ง
ทั้งสองของเรานี้คือ ม้าอาชาไนยและแก้วมณีนี้ไป เพราะฉะนั้น ปุณณกยักษ์
เมื่อจะแสดงม้าจึงได้กล่าวอย่างนั้น.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระราชาทรงสดับดังนั้นแล้วจึงตรัสพระคาถาว่า
ดูก่อนมาณพ แก้วมณีดวงเดียวจักทำอะไรได้
อนึ่ง ม้าอาชาไนยตัวเดียวจักทำอะไรได้ แก้วของ
พระราชามีเป็นอันมาก ม้าอาชาไนยมีกำลังรวดเร็วดัง
ลมของพระราชามีมิใช่น้อย.
จบโทหฬินีกัณฑ์

ปุณณกยักษ์นั้นได้สดับพระดำรัสของพระราชาดังนั้นแล้ว จึงกราบทูล
ว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า เพราะเหตุไรพระองค์จึงตรัสดังนั้น ม้าของข้าพระองค์ตัว
เดียวเท่ากับม้าพันตัว แก้วมณีของข้าพระองค์ดวงเดียวเท่ากับแก้วพันดวง ม้า
ทั้งปวงจะเทียมเท่าม้าของข้าพระองค์ตัวเดียวหามิได้ ขอพระองค์ทอดพระเนตร
ดูความว่องไวของม้าตัวนี้ก่อน แล้วเผ่นขึ้นม้าขับไปโดยเบื้องบนแห่งกำแพง
พระนครที่กว้าง ๗ โยชน์ ได้ปรากฏประหนึ่งว่าม้าเอาคอจดกันเรียงล้อม

พระนคร ถ้าม้าวิ่งเร็วกว่าลำดับนั้นไปก็ไม่ปรากฏ. แม้ยักษ์ก็ไม่ปรากฏ มีแต่
ผ้าแดงคาดพุงเท่านั้น ได้ปรากฏดังผ้าแดงผืนเดียววงรอบพระนคร ปุณณกยักษ์
ลงจากหลังม้ากราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์ทอดพระเนตรเห็นกำลัง
เร็วแห่งม้าแล้วหรือ เมื่อท้าวเธอตรัสบอกว่า เออมาณพเราเห็นแล้ว จึงกราบทูล
ว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์จงทอดพระเนตรดูอีกในกาลบัดนี้ แล้วขับม้าไป

บนหลังน้ำในสระโบกขรณีที่อุทยานภายในพระนคร ม้าได้วิ่งไปมิได้ให้ปลาย
กีบเปียกเลย. ลำดับนั้น ปุณณกยักษ์ให้ม้าวิ่งควบไปบนใบบัว ตบมือแล้ว
เหยียดมือออก ม้าวิ่งเผ่นมาหยุดอยู่ที่ฝ่ามือ. ลำดับนั้น ปุณณกยักษ์กราบทูล
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งนรชน ม้าเห็นปานนี้ ควรจะจัดเป็นม้าแก้ว

หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า เมื่อพระองค์ตรัสว่า ควรมาณพ จึงกราบทูลอีกว่า
ข้าแต่พระมหาราชเจ้า ม้าแก้วยกไว้ก่อนเถิด พระองค์จงทอดพระเนตรดู
อานุภาพแห่งแก้วมณี ดังนี้แล้วเมื่อจะประกาศอานุภาพแห่งแก้วมณีนั้น จึง
กล่าวคาถาว่า


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดในทวีป ขอพระองค์จง
ทอดพระเนตรดูแก้วมณีของข้าพระองค์นี้ รูปหญิง
และรูปชาย รูปเนื้อและรูปนกมิใช่น้อย ย่อมปรากฏ
อยู่ในแก้วมณีนี้ หมู่เนื้อและหมู่นกต่างชนิด ย่อม
ปรากฏอยู่ในแก้วมณีนี้ พระยานาคและพระยาครุฑก็
ปรากฏอยู่ในแก้วมณีนี้ เชิญพระองค์ทองพระเนตร
สิ่งที่น่าอัศจรรย์ อันธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีนี้
พระเจ้าข้า.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อิตฺถีนํ ความว่า รูปหญิงมิใช่น้อย ที่
ประดับตกแต่งในแก้วมณีนั้น รูปชายก็เหมือนกัน หมู่เนื้อและนกมีประการ
ต่าง ๆ หมู่เสนาเป็นต้นย่อมปรากฏ เมื่อจะประกาศสิ่งเหล่านั้นจึงได้ทูลอย่างนั้น.
ด้วยบทว่า นิมฺมิตํ นี้ ปุณณกยักษ์กล่าวว่า ขอพระองค์จงทอดพระเนตร
ดูสิ่งอันน่าอัศจรรย์เห็นปานนี้อันธรรมดาสร้างไว้ในแก้วมณีนี้ เมื่อจะแสดงแม้
สิ่งอื่น ๆ อีกจึงกล่าวคาถาว่า

ขอพระองค์จงทอดพระเนตรจตุรงคินีเสนาคือ
กองช้าง กองม้า กองรถ และ กองเดินเท้าอันสวม
เกราะ อันธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้ เชิญ
ทอดพระเนตรพลทหารที่จัดไว้เป็นกรม ๆ คือกองช้าง
กองม้า กองรถ กองราบ อันธรรมดาสร้างสรรไว้ใน
แก้วมณีดวงนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พลคฺคานิ แปลว่า กองพลนั้นเอง.
บทว่า วิยูหานิ ได้แก่ ตั้งด้วยอำนาจกระบวน.

ขอเชิญทอดพระเนตรพระนครอันสมบูรณ์ด้วย
ป้อม มีกำแพงและค่ายเป็นอันมาก มีถนนสามแพร่ง
สี่แพร่ง มีพื้นราบเรียบ อันธรรมดาสร้างสรรไว้ใน
แก้วมณีดวงนี้ ขอเชิญทอดพระเนตรเสาระเนียด เสา
เขื่อน กลอนประตู ซุ้มประตูกับประตู อันธรรมดา
สร้างสรรไว้ในแก้วมณีดังนี้.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปุรํ แปลว่า พระนคร. บทว่า
อฏฺฏาลสมฺปนฺนํ ได้แก่ สมบูรณ์ด้วยป้อมและเชิงเทิน. บทว่า พหุปาการ-
โตรณํ แปลว่า มีกำแพงรั้วค่ายอันสูง. บทว่า สึฆาฏเก แปลว่า ถนน
สี่แพร่ง. บทว่า สุภูมิโย ความว่า มีพื้นอันน่ารื่นรมย์วิจิตรด้วยอุปจารแห่ง
นคร. บทว่า เอสิกา ได้แก่เสาระเนียดที่ตั้งขึ้นที่ประตูพระนคร, บทว่า
ปลีฆํ ได้แก่ กลอนเหล็ก อีกอย่างหนึ่งบาลีก็อย่างนี้แล. บทว่า อคฺคฬานิ
ได้แก่ ประตูพระนครและหน้าต่าง. บทว่า อฏฺฏาลเก จ แปลว่า ซุ้ม
ประตู.

ขอเชิญทอดพระเนตรฝูงนก นานาชนิดมากมาย
ที่เสาค่ายและหนทาง คือ ฝูงหงส์ นกกะเรียน นกยูง
นกจากพราก และนกเขา อันธรรมดาสร้างสรรไว้ใน
แก้วมณีดวงนี้ ขอเชิญทอดพระเนตรพระนครอัน
เกลื่อนกล่น ไปด้วยฝูงนกต่าง ๆ คือ นกดุเหว่าดำ
ดุเหว่าลาย ไก่ฟ้า นกโพระดก เป็นจำนวนมาก อัน
ธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โตรณมคฺเคสุ ได้แก่ ที่เสาค่ายและหน
ทางในพระนครนี้. บทว่า กุณาลกา แปลว่า นกดุเหว่าดำ. บทว่า จิตฺรา
ได้แก่ นกดุเหว่าลาย.
ขอเชิญทอดพระเนตรพระนครอันแวดล้อมไป
ด้วยกำแพง เป็นนครน่าอัศจรรย์ ขนพองสยองเกล้า
เขาชักธงขึ้นประจำ ลาดด้วยทรายทองอันน่ารื่นรมย์
อันธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้ เชิญทอด

พระเนตรร้านตลาดอันบริบูรณ์ด้วยสินค้าต่าง ๆ เรือน
สิ่งของในเรือน ถนนซอย ถนนใหญ่ อันธรรมดา
สร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุปาการํ ได้แก่ แวดล้อมไปด้วยกำแพง
แก้ว. บทว่า ปณฺณสาลาโย ได้แก่ ร้านตลาดอันพรั่งพร้อมไปด้วยสินค้า
นานาชนิด. บทว่า นิเวสเน นิเวเส จ ได้แก่ เรือน และสิ่งของในเรือน.
บทว่า สนฺธิพฺยูฬเห(๑. บาลีว่า สนฺธิพฺยูเห.) ได้แก่ ที่ต่อแห่งเรือน และตรอกน้อย.
บทว่า นิพฺพิทฺธวีถิโย ได้แก่ ถนนใหญ่.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ขอเชิญทอดพระเนตรโรงขายสุรา นักเลงสุรา
พ่อครัว โรงครัว พ่อค้า และหญิงแพศยา อันธรรม
ดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้ ขอเชิญทอดพระเนตร
ช่างดอกไม้ ช่างย้อม ช่างปรุงของหอม ช่างทอผ้า
ช่างทอง และช่างแก้วอันธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้ว
มณีดวงนี้ ขอเชิญทอดพระเนตร ช่างของหวาน ช่าง
ของคาว นักมหรสพ บางพวกฟ้อนรำขับร้อง บาง
พวกปรบมือ บางพวกตีฉิ่ง อันธรรมดาสร้างสรรไว้
ในแก้วมณีดวงนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โสณฺเฑ จ ความว่า โรงสุราอันประ-
กอบด้วยเครื่องประดับคอและเครื่องประดับหูอันสมควรแก่ตน และนักเลงสุรา
ผู้นั่งจัดแจงที่ดื่มสุรา. บทว่า อาฬาริเก แปลว่า พ่อครัว. บทว่า สูเท
แปลว่า ผู้ปรุงอาหาร. บทว่า ปาณิสฺสเร ความว่า ขับร้องด้วยการตบมือ.
บทว่า กุมฺภถูนิเก แปลว่า พวกตีฉิ่ง.

ขอเชิญทอดพระเนตรกลอง ตะโพน สังข์
บัณเฑาะว์ มโหระทึก และเครื่องดนตรีทุกอย่าง อัน
ธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้ ขอเชิญทอด
พระเนตรเปิงมาง กังสดาล พิณ การฟ้อนรำขับร้อง
เครื่องดนตรีดีดสีตีเป่า อันเขาประโคมครึกครื้น อัน

ธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้ ขอเชิญทอด
พระเนตรนักกระโดด นักมวยปล้ำ นักเล่นกล หญิง
งาม ชายงาม คนเฝ้ายาม และช่างตัดผม อัน
ธรรมดาสร้างสรรไว้ในแก้วมณีดวงนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สมฺมตาลํ ได้แก่ ตะโพน ที่ทำด้วยไม้
ตะเคียนเป็นต้นและกังสดาล. บทว่า ตุริยตาฬิตสํฆุฏฺ€ํ ได้แก่ เครื่องดนตรี
ต่าง ๆ ที่เขาประโคมไว้อย่างครึกครื้นเป็นอันมาก. บทว่า มุฏฺ€ิกา ได้แก่นัก
มวยปล้ำ. บทว่า โสภิยา ได้แก่ หญิงงามเมือง และชายรูปงาม. บทว่า
เวตาลิเก ได้แก่ ผู้ทำกาลเวลาให้ปรากฏขึ้น. บทว่า ชลฺเล ได้แก่ ช่างตัด
ผมกำลังปลงผมและหนวดอยู่.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 159, 160, 161, 162, 163, 164, 165 ... 179  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร