วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=22



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2019, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
“สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” พระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
(หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน)
หรือเรียกอีกพระนามว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร


:b44: :b47: :b44:

เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๖๔
ตรงกับวันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีระกา ตรีศก จุลศักราช ๑๒๘๓
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศ
“พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์” ขึ้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ
และทรงสถาปนาพระสมณศักดิ์ขึ้นเป็น
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์
นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
กล่าวคือ เป็นสมเด็จสกลสังฆปริณายก หรือสมเด็จสกลมหาสังฆปริณายก
ประธานาธิบดีแห่งสงฆมณฑลทั่วพระราชอาณาจักร
เสด็จสถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

โดยโปรดเกล้าฯ สถาปนาคำนำพระนามสำหรับเรียกตำแหน่งนี้ว่า
“สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” ซึ่งปรากฏพระนามนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในคราวนี้


ครั้นถึงวันที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๖๙
ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล อัฐศก จุลศักราช ๑๒๘๘
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น กรมหลวง

คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
หรือเรียกอีกพระนามว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์


ทรงบริบูรณ์ด้วยพระศีลาจารวัตร เนกขัมมปฏิปทาไม่บกพร่อง
พระจริยวัตรของพระองค์เป็นที่กล่าวขวัญในบรรดาศิษยานุศิษย์ว่า
ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นพระอาการ พระวาจากริ้วโกรธ หรือพระกิริยาอัชฌาศัย
ที่ไม่ต้องด้วยพระธรรมวินัยและสมณสารูปเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทรงพระสุขุมคัมภีรภาพในการบริหารกิจการพระศาสนา
ด้วยความมั่นคงในหลักการตามพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ
จนเป็นที่สรรเสริญกันว่าทรงเป็น “พระแท้” ที่ควรกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ


ทรงผนวชเป็นพระภิกษุและทรงดำรงในสมณเพศจนตลอดพระชนมชีพ
ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ยุคที่ ๒

พระกรณียกิจพิเศษ ได้แก่ การเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์
ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อครั้งทรงผนวช


ทรงศึกษาภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน
ทรงพระปรีชาญาณพิเศษในทางรจนาหนังสือทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง
ทรงพระนิพนธ์ตำราและหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น
พระคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา (พจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทยเล่มแรก),
มหานิบาตชาดก, นิทานต้นบัญญัติ, สามเณรสิกขา เป็นต้น
ซึ่งพระนิพนธ์เหล่านี้ยังได้ใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี
และการศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีพระปรีชาสามารถด้านร้อยกรอง ดังจะเห็นได้จากพระนิพนธ์โคลงเรื่องรามเกียรติ์
ซึ่งจารึกอยู่บนพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง

ทรงเป็นประธานในการจัดทำพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ
ทรงเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
และทรงริเริ่มให้จัดหลักสูตรธรรมศึกษา
เป็นหลักสูตรการเรียนพระพุทธศาสนาสำหรับฆราวาส
ควบคู่ไปกับหลักสูตรนักธรรมของบรรพชิต


:b50: :b49: :b50:

พระประวัติและปฏิปทา
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=20842

ประมวลพระรูป
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=58661

ประวัติและความสำคัญ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๕, รัชกาลที่ ๗

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19364

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2019, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
“สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” พระองค์ที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
(หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร)


:b44: :b47: :b44:

เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๘
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา
สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต)
เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุติกา (เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต)
ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช ในพระราชทินนามเดิม คือ
“สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก”
ทรงเศวตฉัตร (ฉัตรขาว) ๓ ชั้น
ดำรงตำแหน่งสกลสังฆปรินายก ปธานาธิบดีแห่งสงฆมณฑลทั่วราชอาณาจักร
นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ถึงปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศสถาปนาเฉลิมพระนาม
สมเด็จพระสังฆราชให้เต็มพระเกียรติยศตามราชประเพณี
เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓


แม้ว่าพระองค์ทรงมีชาติตระกูลอันสูง อีกทั้งทรงดำรงตำแหน่งประมุขสงฆ์
แต่พระองค์ทรงมีชีวิตอย่างเรียบง่าย สมถะ
มีเมตตาและเป็นกันเองอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะกับผู้คน แต่ยังรวมถึงสรรพสัตว์ด้วย

เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อได้เวลาฉัน พระองค์จะเสด็จไปประทับที่ห้องเล็ก
นั่งกับพื้น หันหลังพิงฝา ระหว่างที่ฉันก็จะหยิบข้าวสุกทีละเมล็ดจิ้มกับข้าว
แล้วเอาติดไว้ที่ฝาเบื้องหลัง แล้วเอานิ้วเคาะที่ฝาเบาๆ ครั้งสองครั้ง
จิ้งจกก็จะวิ่งออกมากิน บางตัวก็รู้เวลา ออกมาคอย
และกินอาหารจากพระหัตถ์ของพระองค์เลยทีเดียว
ว่ากันว่าพระองค์ทรงรู้จักจิ้งจกทุกตัวในกุฏิ

พระองค์ยังทรงเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกันเอง
ไม่ถือพระองค์ อีกทั้งไม่มีพิธีรีตอง

คราวหนึ่งพระองค์เสด็จไปงานบุญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี
ชาวบ้านที่มาทำบุญไม่รู้จักพระองค์ ก็เรียกพระองค์ว่าหลวงตา
พระองค์ก็ตอบรับ สนทนากับชาวบ้านทั้งวันอย่างสนุกและสบายใจ

บางครั้งพระองค์หายไปจากวัดบวรนิเวศวหารเป็นเวลานาน
พระผู้ใหญ่ในวัดตามหากันจนวุ่น
ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าเสด็จออกจากวัดตอนไหน
เพราะไม่มีรถหลวงประจำตำแหน่งสังฆราชมารับ ครั้นราวๆ เที่ยงเศษ
ผู้คนก็โล่งใจเมื่อเห็นพระองค์เดินถือตาลปัตรกลับมาเอง
เพราะทรงรับนิมนต์ชาวบ้านไปสวดมนต์และฉันเพลตามห้องแถวเล็กๆ
บริเวณเสาชิงช้าหรือบางลำพู เรื่องแบบนี้เลขานุการประจำพระองค์มักไม่รู้
เพราะใครที่ประสงค์จะมานิมนต์พระองค์
สามารถเข้าถึงพระองค์ได้โดยตรงและง่ายดาย
ส่วนพระองค์ก็มักจดวันเวลาไว้ตามเศษกระดาษบ้าง
ห่อใบชาบ้าง สุดแท้แต่ว่ามีอะไรอยู่ใกล้มือ

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เล่าถึงหลังจากที่พระองค์ได้รับการสถาปนา
ขึ้นที่สมเด็จพระสังฆราชแล้ว ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านได้รับฎีกานิมนต์
มางานพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง
ระหว่างที่ลูกศิษย์วัดกำลังจับกลุ่มรอพระราชาคณะในขณะที่พระราชพิธีเสร็จสิ้นลง

เด็กคนหนึ่งถามขึ้นว่า “สังฆราชองค์ใหม่ชื่ออะไรโว้ย”

ทันใดนั้นก็มีเสียงห้าวๆ ตอบมาจากข้างหลังว่า “ชื่อ ชื่น โว้ย”

ซึ่งเป็นเสียงของสมเด็จฯ ท่านที่ออกมาจากพระที่นั่ง
กำลังเดินตามหาลูกศิษย์ของท่านเพื่อกลับวัด
แล้วบังเอิญมาได้ยินเสียงปุจฉาของเด็กนั้นพอดี ก็เลยตอบให้

สมดังพระฉายาที่มีผู้คนถวายสมเด็จฯ ในยุคนั้นว่า
“สมเด็จฯ วัดบวรพูดดีไม่เป็น สมเด็จฯ วัดเทพศิรินทร์พูดเล่นไม่มี”

อันมีที่มาจากอุปนิสัยของสมเด็จฯ ๒ องค์คือ
สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร
ทรงมีอุปนิสัยเป็นคนตรง พูดโผงผาง
และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทร์
เป็นคนเคร่งครัดเคร่งเครียดในการเรียนการสอนนั่นเอง


หลังเสด็จออกทรงพระผนวชเป็นพระภิกษุ และเสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
โดยมี สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
(หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต)
ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ (พระอุปัชฌาย์)

ครั้นถึงวันที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระสมณศักดิ์และฐานันดรศักดิ์
พระราชอุปัธยาจารย์ (พระอุปัชฌาย์) ในพระองค์เมื่อครั้งทรงพระผนวช
ขึ้นเป็น “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์”
นับเป็น “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” พระองค์ที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ทรงฉัตรตาดเหลืองหรือฉัตรตาดสีทอง ๕ ชั้น
เกือบ ๒ ปีถัดมา สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ พระองค์นั้นก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์
เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๐๑


:b50: :b49: :b50:

พระประวัติและปฏิปทา
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=20236

รวมพระนิพนธ์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=49468

ประวัติและความสำคัญ วัดบวรนิเวศวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๖

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19342

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2019, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
“สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” พระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

>>>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=20005

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2019, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
“สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” พระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

>>>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=19822

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร