วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 173 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2019, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ขณะที่กำลังฟังและกำลังเข้าใจถูกตัวตนตามได้
ขณะนั้นแหละรู้สึกตัวแล้วว่ามีความไม่รู้มากมาย
แต่พอหยุดฟังปุ๊บคิดตามเห็นผิดของตนทันทีค่ะ
ยิ่งฟังยิ่งรู้ว่ามีกิเลสคือมีความไม่รู้ไม่มีประมาณ
อ่านตามตาเนื้อเห็นผิดท่องจำไว้มากแต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส555
:b32: :b32:
ฟังบ้างเถอะ อะไร อะไร ที่คิดเองอยู่นั่นน่ะ ไม่ตรงตามอริยสัจจะน๊า คำสอนคิดเองผิดทันทีนะจ๊ะ
https://youtu.be/P9cS-GYeQDU
:b4: :b4:


อ้างกันจัง อริยสัจจะ อริยสัจจ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :b32: ถามจริงๆ อะไรที่ว่าอริยสัจจ์ ไหนตอบให้กรัชกายนอนตายตาหลับที :b12:

:b16:
จนป่านนี้แล้ว555
คำสอนเริ่มต้นจากฟัง
คำจริงตรงตามที่กำลังมี
ตรงที่กายใจตนเองกำลังเป็น
ไม่ใช่การไปทำหรือแสวงหามาเพิ่ม
การฟังคือคิดไตร่ตรองตามเสียงคำใหม่ตลอด
ไม่มีคำเดิมหรือขณะจิตเดิมตลอดเวลาไม่มีขณะไหนกลับมาอีกเข้าใจไหมล่ะคะ
ไม่ฟังก็เลยไม่เคยคิดถูกตรงตามได้เลยระลึกไม่ถูกว่ารู้ตรงสัจจะตรงกับคำไหนแค่คำเดียวนะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงขณะต้องคิดถูกตรงตามได้ทีละน้อยจนกว่าจะมีปัญญาคิดถูกตัวตนตามได้ไงคะ
https://youtu.be/2oc-aPUlec4
:b12:
:b1: :b1:


ถามอย่างตอบอย่าง เอาเห็นๆนี่เถอะ ไม่ต้องไปคิดมาก ปวดหัวเปล่าๆ :b32:

รูปภาพ


คุณโรสไปตักบาตรเทโวเขาเปล่า :b1: :b10: มองไม่เห็น

cool
รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2019, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2019, 09:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร
ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2019, 18:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร

ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:



เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว :b32: ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน

ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2019, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร

ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:



เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว :b32: ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน

ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล.

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้า
คืออริยสัจจธรรมตรงจริง
มีความตรงและความจริง
เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง
ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ
เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช
ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน
แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ
แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2019, 19:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร

ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:



เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว :b32: ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน

ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล.

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้า
คืออริยสัจจธรรมตรงจริง
มีความตรงและความจริง
เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง
ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ
เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช
ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน
แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ
แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ
:b12:
:b32: :b32:

:b12:
ครองผ้าเพียง3ผืน
บิณฑบาตเป็นวัตร
ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร
ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร
บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง
ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้
ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2019, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร

ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:



เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว :b32: ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน

ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล.

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้า
คืออริยสัจจธรรมตรงจริง
มีความตรงและความจริง
เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง
ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ
เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช
ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน
แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ
แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ
:b12:
:b32: :b32:

:b12:
ครองผ้าเพียง3ผืน
บิณฑบาตเป็นวัตร
ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร
ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร
บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง
ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้
ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ



ที่ถามลองตอบสิ เมื่อไม่ให้ใช้เงินจะให้ทำอย่างไร ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ละเดือนๆ นี่ก็ความเป็นจริงในการดำรงชีวิต ตอบสิ :b13: จะให้พระทำยังไง :b32: ตอบชัดๆเตาปูนไปเบย

อย่าบอกนะให้ใช้ก้อนกรวดแทนเงิน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2019, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

รู้จักคำว่า...พระพุทธศาสนาเถรวาท...มั๊ยคะ
แปลทีละคำก่อนแล้วค่อยขยายความนะคะ
พระ=ผู้ประเสริฐ
พุทธ=ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ศาสนา=คำสอน
เถระ=มั่นคง
วาทะ=คำพูด
คำสอนของผู้ที่มั่นคงในคำพูดคือคำสอนของผู้ประเสริฐผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน=คำสอนของพระพุทธเจ้า
คำสอนของผู้ที่มีความมั่นคงตรงต่อสัจจะเป็นปัจจุบันขณะทุกกาลเวลาและสถานที่ตรัสทุกคำแล้ว
เข้าใจมั๊ยว่ามีความตรงจริงตรงสัจจะไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่และตรงปัจจุบันขณะทันที
คำว่ารับเงินไม่ได้เพราะสละแล้วเงินทองก่อนบวชหลังบวชยังรับแปลว่าบิดเบือนบิดเบี้ยว
ความเป็นผู้ไม่ตรงสัจจะบวชแล้วยังคิดว่ารับเงินได้น่ะเพราะโลภงัยคะจะให้ว่างัยล่ะคะ


คุณโรสใช้วัตถุเดาสุ่มเอาไปเรื่อย พอเดาแล้วก็ว่าไปตามที่ตนเองคิดนั่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง ถ้าเปรียบก็เหมือนมวยทะเลเหวียงไปเรื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง :b32: เหมือนสุ่มปลาในหนอง สุ่มไปเรื่อย :b13: โครม โครม โครม :b1:

อาจริยวาท วาทะของพระอาจารย์, มติของพระอาจารย์, บางที ใช้เป็นคำเรียกพุทธศาสนานิกายฝ่ายเหนือ คือ มหายาน

เถรวาท “วาทะของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

เถระ พระผู้ใหญ่ ตามพระวินัยกำหนดว่า มีพรรษาตั้งแต่ ๑๐ ขึ้นไป เทียบนวกะ มัชฌิมะ

แล้วไม่เข้าใจเลยเหรอว่า
อาบัติทุกประเภททำให้
ศีลขาดและอายุพรรษา
เริ่มต้นนับศูนย์ต้องไป
ต่อหางแถวสามเณร

ประมาทกันจริงนะ
:b32: :b32:



เอาอีกแล้ว วัตถุเดาอีกแล้ว :b32: ไปเอาความคิดนั้นมาแต่ไหน

ถ้าคุณโรสไม่ศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก็จะเดาเป็นที่อับอายขายหน้าผู้รู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นแล.

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้า
คืออริยสัจจธรรมตรงจริง
มีความตรงและความจริง
เป็นคนคิดซื่อและคิดตรง
ต้องตรงต่อสัจจะใช่ไหมคะ
เพศบรรพชิตคือเพศนักบวช
ที่สละความเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
สละเพศชาวบ้านที่ประกอบอาชีพไม่ทำงาน
แล้วบวชมาเพื่อตั้งตัวตั้งใจมาขอบริจาคเรี่ยไรหรือคะ
แค่นี้ก็ยังคิดกันไม่ได้อีกอยากทำอะไรก็ทำตามใจใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างนั้นรึ
:b12:
:b32: :b32:

:b12:
ครองผ้าเพียง3ผืน
บิณฑบาตเป็นวัตร
ไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร
ก็สละบ้านเรือนญาติมิตร
บวชมาฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยง
ไม่เก็บสะสมอะไรแม้แต่เกลือยังเก็บไม่ได้
ถามหน่อยสิเด่วนี้บวชแล้วเก็บเงินในบัญชีตกนรกหมกไหม้รู้สึกตัวกันหรือยังคะ



ที่ถามลองตอบสิ เมื่อไม่ให้ใช้เงินจะให้ทำอย่างไร ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ละเดือนๆ นี่ก็ความเป็นจริงในการดำรงชีวิต ตอบสิ :b13: จะให้พระทำยังไง :b32: ตอบชัดๆเตาปูนไปเบย

อย่าบอกนะให้ใช้ก้อนกรวดแทนเงิน :b1:

cool
สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว
พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน
แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน
มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน
พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา
สมบัติเงินทองมาแจกไหม
โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง
บวชรับเงินตกนรก
ตามคำตถาคต
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2019, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว
พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน
แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน
มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน
พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา
สมบัติเงินทองมาแจกไหม
โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง
บวชรับเงินตกนรก
ตามคำตถาคต


ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ :b1: ตอบสิ

ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2019, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว
พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน
แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน
มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน
พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา
สมบัติเงินทองมาแจกไหม
โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง
บวชรับเงินตกนรก
ตามคำตถาคต


ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ :b1: ตอบสิ

ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ :b10:

:b32:
มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ
ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ
เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ
จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง
ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง
ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ
:b32:
แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ
โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ
ทำผิดตามตามกันโดย
ไม่ฟังคำสอน
555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว
พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน
แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน
มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน
พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา
สมบัติเงินทองมาแจกไหม
โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง
บวชรับเงินตกนรก
ตามคำตถาคต


ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ :b1: ตอบสิ

ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ :b10:

:b32:
มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ
ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ
เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ
จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง
ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง
ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ
:b32:
แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ
โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ
ทำผิดตามตามกันโดย
ไม่ฟังคำสอน
555
:b32: :b32:



จะให้ถอยหลังย้อนกลับไปเมื่อ สองพันกว่าปี คือใช้เทียน คิกๆๆๆ

การศึกษาวินัย ต้องเปิดดูต้นบัญญัติ ที่เรียกว่า อาทิกัมมิกะ พระพุทธเจ้าบัญญัติวินัยนั้น จะต้องมีเหตุเกิดก่อน อย่างที่บอกว่าการเผยแผ่ศาสนาครั้งพุทธกาลมีหลายศาสดาที่แข่งขันกันเผยแผ่อยู่ เช่น นิครนถนาฏบุตร เป็นต้น ศาสนานี้เคร่งมากแม้แต่ผ้าก็ไม่นุ่ง
กลับมาเรื่องพุทธครั้งกระโน้น คือ เมื่อมีภิกษุรับเงินทอง (เว้นแต่เขาทำตกหรือลืมไว้ที่วัดต้องเก็บคืนเจ้าของ) ถูกสังคมสมัยติเตียน พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติวินัยข้อนี้ (ปาจิตตีย์ - อาบัติมีหลายประเภท บางอย่างปลงได้ ปาจิตตีย์ปลงได้ บางอย่างปลงไม่ได้) แต่ครั้งกระนั้นวัดวาอารามมีผู้สร้างให้ ภิกษุสามเณรคงมีผู้อุปัฏฐากอุปถัมภ์ก็ดำรงอยู่ได้
ทีนี้ มายุคปัจจุบันก็อย่างที่เห็นค่าน้ำไฟก่อสร้างนั่นนี่ แต่คนโบราณท่านก็คิดถึงวินัยข้อนี้นะ ท่านจึงเลี่ยงโดยจัดเป็นปวารณา (มีใบปวารณา) หรือ ตอนที่ถวายก็กล่าวคำถวายอุปโลกน์มอบให้เป็นปัจจัย 4

แต่สำนักแม่สุจิน จะให้ถอยหลังกลับไปใช้เทียน :b32: ไม้ขีดไฟ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2019, 00:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

สรุปทำผิดตามตามกันมานานจนเป็นอุปนิสัยแล้ว
พอมีคนออกมาบอกความจริงตรงตามคำสอน
แล้วไม่ยอมทำให้ถูกต้องตรงตามคำสอน
มีแต่เถียงข้างๆคูๆเพื่ออยากจะใช้เงิน
พระพุทธเจ้าบวชแล้วกลับไปเอา
สมบัติเงินทองมาแจกไหม
โธ่เอ๊ยแค่นี้ก็คิดไม่ตรง
บวชรับเงินตกนรก
ตามคำตถาคต


ไหนลองตอบสิ จีวร 3 ผืน ดังกล่าวใช้เงินซื้อไหม หรือขอร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ :b1: ตอบสิ

ค่าน้ำค่าไฟทางประปานครหลวง การไฟฟ้า ให้วัดให้พระใช้ฟรีไหม ตอบ :b10:

:b32:
มาถามอะไรตรงปลายเหตุที่ทำตามตามกันมาแบบผิดๆ
ตั้งต้นยังไม่ถูกยังไม่ตรงก็ทำผิดไปเรื่อยเลยนะนั่นน่ะ
เขาถวายเทียนและไม้ขีดไฟพร้อมฟรีไม่ได้ซื้อ
จะบวชเพราะต้องการสลัดความติดข้อง
ติดในบุคคลติดในทรัพย์สินเงินทอง
ติดในญาติมิตรเพื่อมักน้อยสันโดษ
:b32:
แล้วพากันขนคนเข้าไปนอนวัดมากๆ
โลภอยากได้เงินคิดได้ไหมล่ะ
ทำผิดตามตามกันโดย
ไม่ฟังคำสอน
555
:b32: :b32:



จะให้ถอยหลังย้อนกลับไปเมื่อ สองพันกว่าปี คือใช้เทียน คิกๆๆๆ

การศึกษาวินัย ต้องเปิดดูต้นบัญญัติ ที่เรียกว่า อาทิกัมมิกะ พระพุทธเจ้าบัญญัติวินัยนั้น จะต้องมีเหตุเกิดก่อน อย่างที่บอกว่าการเผยแผ่ศาสนาครั้งพุทธกาลมีหลายศาสดาที่แข่งขันกันเผยแผ่อยู่ เช่น นิครนถนาฏบุตร เป็นต้น ศาสนานี้เคร่งมากแม้แต่ผ้าก็ไม่นุ่ง
กลับมาเรื่องพุทธครั้งกระโน้น คือ เมื่อมีภิกษุรับเงินทอง (เว้นแต่เขาทำตกหรือลืมไว้ที่วัดต้องเก็บคืนเจ้าของ) ถูกสังคมสมัยติเตียน พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติวินัยข้อนี้ (ปาจิตตีย์ - อาบัติมีหลายประเภท บางอย่างปลงได้ ปาจิตตีย์ปลงได้ บางอย่างปลงไม่ได้) แต่ครั้งกระนั้นวัดวาอารามมีผู้สร้างให้ ภิกษุสามเณรคงมีผู้อุปัฏฐากอุปถัมภ์ก็ดำรงอยู่ได้
ทีนี้ มายุคปัจจุบันก็อย่างที่เห็นค่าน้ำไฟก่อสร้างนั่นนี่ แต่คนโบราณท่านก็คิดถึงวินัยข้อนี้นะ ท่านจึงเลี่ยงโดยจัดเป็นปวารณา (มีใบปวารณา) หรือ ตอนที่ถวายก็กล่าวคำถวายอุปโลกน์มอบให้เป็นปัจจัย 4

แต่สำนักแม่สุจิน จะให้ถอยหลังกลับไปใช้เทียน :b32: ไม้ขีดไฟ :b32:

:b12:
เอาตรงๆนะ
พวกคุณคิดว่า
ตนเองรู้ไปหมด
แต่พระพุทธเจ้า
ตรัสรู้ความจริง
ที่ไม่มีใครรู้เองได้
เอาแบบตรงที่สุดนะ
แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง
คำเดียวเนี่ยมี1ไหม
หรือแค่คิดก็เลยขณะ
ปัจจุบันขณะ
ขณิกมรณะ
ขณิกสมาธิ
คือความจริง
ที่ทรงตรัสรู้
แสนโกฏิขณะ
คิดว่านับได้ไหม
เอาให้ตรงขณะนะ
เพราะตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ
เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก
เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน
คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ
กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน
แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2019, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

เอาตรงๆนะ
พวกคุณคิดว่า
ตนเองรู้ไปหมด
แต่พระพุทธเจ้า
ตรัสรู้ความจริง
ที่ไม่มีใครรู้เองได้
เอาแบบตรงที่สุดนะ
แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง
คำเดียวเนี่ยมี1ไหม
หรือแค่คิดก็เลยขณะ
ปัจจุบันขณะ
ขณิกมรณะ
ขณิกสมาธิ
คือความจริง
ที่ทรงตรัสรู้
แสนโกฏิขณะ
คิดว่านับได้ไหม
เอาให้ตรงขณะนะ
เพราะตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ
เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก
เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน
คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ
กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน
แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ
:b32: :b32:


เพ้อไปใหญ่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2019, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เขารุกไปข้างหน้า



แต่ชาวพุดในไทยไม่น้อยคิดถอยหลัง :b12: ไม่แปลกใจว่าทำไมพุทธในอินเดียซึ่งเป็นแผ่นดินพ่อจึงถูกทำลาย พุทธในอินโดฯ จึงสลาย ต่อไปสักไม่เกิน 100 ปี ก็แถวๆนี้แหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2019, 09:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เอาตรงๆนะ
พวกคุณคิดว่า
ตนเองรู้ไปหมด
แต่พระพุทธเจ้า
ตรัสรู้ความจริง
ที่ไม่มีใครรู้เองได้
เอาแบบตรงที่สุดนะ
แค่คุณนับคำว่าหนึ่ง
คำเดียวเนี่ยมี1ไหม
หรือแค่คิดก็เลยขณะ
ปัจจุบันขณะ
ขณิกมรณะ
ขณิกสมาธิ
คือความจริง
ที่ทรงตรัสรู้
แสนโกฏิขณะ
คิดว่านับได้ไหม
เอาให้ตรงขณะนะ
เพราะตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ยังไม่มีคิดนะ
เพราะจิตเห็นกะจิตคิดนึก
เป็นคนละวิถืจิตไม่เกิดตรงกัน
คิดดูสิว่าตัวเองคิดถูกหมดหรือ
กำลังคิดสิ่งที่เห็นผิดไปเกินคำสอน
แปลว่ากำลังมีความคิดถึงเห็นตามที่เห็นผิดของตนงัยคะ
:b32: :b32:


เพ้อไปใหญ่ :b32:

:b12:
ถ้าคิดว่าชอบการปฏิบัติมากนัก
งั้นมาดูกันสิว่าแต่ละคนกำลังทำอะไร
พระพุทธเจ้าตรัสว่าภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง
ครานี้มาดูกันว่าบวชแล้วรับเงินผิดไหมรู้แล้วว่ารับต้องตกนรกยังทำใช่ไหม
แล้วคนที่ชอบขนเงินไปถวายเนี่ยทำเพราะไม่รู้ว่าจะทำให้ผู้รับต้องตกนรกใช่ไหม
อยากได้บุญแต่ไม่รู้ว่าตนเองทำผิดไม่ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าใช่ไหมมีแต่เชื่อและทำตามๆกัน
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะจะได้ทิ้งวิธีทำผิดแบบตามๆกันได้
https://youtu.be/ltstw8Yz4xc
:b9: :b9:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 173 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร