วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 08:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 433 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 24, 25, 26, 27, 28, 29  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เขาว่า ว่ามีอยู่แล้วสองสามหมื่นคน คนที่อาสาพกระเบิดพลีชีพเพื่อปกป้องอิสลาม ...แม้ตัวตายจะได้สิทธิพิเศษ 7 อย่าง เช่นว่า มีบาปเท่าไรก็ถูกล้างหมด ได้ไปสวรรค์แล้วได้แต่งฮานกับนางสวรรค์ 72 คน :b1:
(ได้ข้อคิด ทว่าเป็นนักรบหญิงพกระเบิดทำลายข้าศึกแล้วตาย ไปสวรรค์จะได้แต่งงานกับเทพบุตร 72 คนไหม :b10: )

https://www.facebook.com/10113952457298 ... 080093629/

อ้างคำพูด:
AH 64 ของชาอุ ถูกขีปนาวุธ SA-6 ของรัสเซีย ที่นักรบเยเมนนำมาใช้ สอย AH 64 ร่วงป่างหง่าง เมื่อวันที่
29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


https://www.facebook.com/10002198242501 ... 2Mzk4NDI5/

ยับเยินหมดแล้ว

https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/ ... e=5E3EA0D7



ความจริงที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไม่รู้ ฟัง

https://www.facebook.com/boklaokaodip/v ... 2MzcwMTUy/

:b32:
สิ่งที่กระทบตาที่ปรากฏให้เห็นได้นั้น
มันกระทบตรงกลางตาดำดับแว๊บหายไป
ถามว่ายังมีอะไรนอกตาไหมดับแปลว่าไม่มี
เหมือนฝันไหมพอตื่นนอนถึงรู้ว่าฝันนั่นน่ะคิดนึก
ตอนลืมตาเห็นมันดับหมดแล้วไม่มีแล้วมีแต่ความคิดว่ามี
ตอนหลับไม่มีวิถีจิตทางตาเลยจำสิ่งที่เคยเห็นคิดมากจนเก็บไปฝันก็มันไม่มีอยู่จริงนอกตานั่นน่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เขาว่า ว่ามีอยู่แล้วสองสามหมื่นคน คนที่อาสาพกระเบิดพลีชีพเพื่อปกป้องอิสลาม ...แม้ตัวตายจะได้สิทธิพิเศษ 7 อย่าง เช่นว่า มีบาปเท่าไรก็ถูกล้างหมด ได้ไปสวรรค์แล้วได้แต่งฮานกับนางสวรรค์ 72 คน :b1:
(ได้ข้อคิด ทว่าเป็นนักรบหญิงพกระเบิดทำลายข้าศึกแล้วตาย ไปสวรรค์จะได้แต่งงานกับเทพบุตร 72 คนไหม :b10: )

https://www.facebook.com/10113952457298 ... 080093629/

อ้างคำพูด:
AH 64 ของชาอุ ถูกขีปนาวุธ SA-6 ของรัสเซีย ที่นักรบเยเมนนำมาใช้ สอย AH 64 ร่วงป่างหง่าง เมื่อวันที่
29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


https://www.facebook.com/10002198242501 ... 2Mzk4NDI5/

ยับเยินหมดแล้ว

https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/ ... e=5E3EA0D7



ความจริงที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไม่รู้ ฟัง

https://www.facebook.com/boklaokaodip/v ... 2MzcwMTUy/

:b32:
สิ่งที่กระทบตาที่ปรากฏให้เห็นได้นั้น
มันกระทบตรงกลางตาดำดับแว๊บหายไป
ถามว่ายังมีอะไรนอกตาไหมดับแปลว่าไม่มี
เหมือนฝันไหมพอตื่นนอนถึงรู้ว่าฝันนั่นน่ะคิดนึก
ตอนลืมตาเห็นมันดับหมดแล้วไม่มีแล้วมีแต่ความคิดว่ามี
ตอนหลับไม่มีวิถีจิตทางตาเลยจำสิ่งที่เคยเห็นคิดมากจนเก็บไปฝันก็มันไม่มีอยู่จริงนอกตานั่นน่ะ
:b32: :b32:



คิกๆๆ

พุทธในเมืองไทยไปไม่รอด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เขาว่า ว่ามีอยู่แล้วสองสามหมื่นคน คนที่อาสาพกระเบิดพลีชีพเพื่อปกป้องอิสลาม ...แม้ตัวตายจะได้สิทธิพิเศษ 7 อย่าง เช่นว่า มีบาปเท่าไรก็ถูกล้างหมด ได้ไปสวรรค์แล้วได้แต่งฮานกับนางสวรรค์ 72 คน :b1:
(ได้ข้อคิด ทว่าเป็นนักรบหญิงพกระเบิดทำลายข้าศึกแล้วตาย ไปสวรรค์จะได้แต่งงานกับเทพบุตร 72 คนไหม :b10: )

https://www.facebook.com/10113952457298 ... 080093629/

อ้างคำพูด:
AH 64 ของชาอุ ถูกขีปนาวุธ SA-6 ของรัสเซีย ที่นักรบเยเมนนำมาใช้ สอย AH 64 ร่วงป่างหง่าง เมื่อวันที่
29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


https://www.facebook.com/10002198242501 ... 2Mzk4NDI5/

ยับเยินหมดแล้ว

https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/ ... e=5E3EA0D7



ความจริงที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไม่รู้ ฟัง

https://www.facebook.com/boklaokaodip/v ... 2MzcwMTUy/

:b32:
สิ่งที่กระทบตาที่ปรากฏให้เห็นได้นั้น
มันกระทบตรงกลางตาดำดับแว๊บหายไป
ถามว่ายังมีอะไรนอกตาไหมดับแปลว่าไม่มี
เหมือนฝันไหมพอตื่นนอนถึงรู้ว่าฝันนั่นน่ะคิดนึก
ตอนลืมตาเห็นมันดับหมดแล้วไม่มีแล้วมีแต่ความคิดว่ามี
ตอนหลับไม่มีวิถีจิตทางตาเลยจำสิ่งที่เคยเห็นคิดมากจนเก็บไปฝันก็มันไม่มีอยู่จริงนอกตานั่นน่ะ
:b32: :b32:



คิกๆๆ

พุทธในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 19 ธ.ค. 2019, 18:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:



กาย/ใจ หรือ รูป/นาม ไม่ว่าของใครเมื่อว่าโดยสภาวะแล้วไม่ต่างกัน ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงพูดแค่ว่า กายกับใจ รูปกับนาม พูดให้เห็นง่ายๆหยาบๆนะ ถามว่า ทุกคนเกิดมาแล้วแก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน หรือจะเถียง นี่่ให้ดูหยาบๆนะ


ดังนั้้น ที่คุณโรสพูดบ่อยๆ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ นับครั้งไม่ถ้วนนั่น ไม่ใช่พูดจากความรู้ความเข้าใจชีวิต หรือ รูปนาม หรือกายใจนี่ แต่พูดด้วยความไม่รู้ พูดด้วยความเข้าใจผิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:



กาย/ใจ หรือ รูป/นาม ไม่ว่าของใครเมื่อว่าโดยสภาวะแล้วไม่ต่างกัน ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงพูดแค่ว่า กายกับใจ รูปกับนาม พูดให้เห็นง่ายๆหยาบๆนะ ถามว่า ทุกคนเกิดมาแล้วแก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน หรือจะเถียง นี่่ให้ดูหยาบๆนะ


ดังนั้้น ที่คุณโรสพูดบ่อยๆ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ นับครั้งไม่ถ้วนนั่น ไม่ใช่พูดจากความรู้ความเข้าใจชีวิต หรือ รูปนาม หรือกายใจนี่ แต่พูดด้วยความไม่รู้ พูดด้วยความเข้าใจผิด

:b12:
จักขุนทรีย์เป็นลักษณะพิเศษ
ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้ง
อารมณ์ที่จิตรู้ทางตาทุกอย่างที่ลืมตาดูอยู่เนี่ย
บอกว่าให้คิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตรงตามคำสอนเดี๋ยวนี้ว่า
เห็นแต่เพียงสิ่งที่กระทบตาได้ตอนลืมตาดูตื่นรู้ความจริง
ตอนที่มีตาและตาไม่บอดและกำลังดูแล้วคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตรงที่กำลังเห็น
:b12:
บอกว่าสีแค่สะท้อนแสงมากระทบตาดำดับหายไปในตาดำหมดแล้วมืดทันทีมีมืดไหมไม่มืดน่ะคิดเห็นผิดไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

รูปภาพ


https://www.facebook.com/18505163351649 ... =3&theater

มาถึงเบาะรถแล้ว



ศาลปากีฯ ตัดสินประหารอาจารย์มหาวิทยาลัย ฐานโพสต์ดูหมิ่นศาสนา

ศาลปากีสถานตัดสินประหารชีวิต อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่ถูกจำคุกมานาน 6 ปีในข้อหาโพสต์ข้อความดูหมิ่นศาสนา ซึ่งเป็นโทษร้ายแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 21 ธ.ค. 2562 ว่า ศาลเรือนจำกลางเมืองมุลตาน ในประเทศปากีสถานพิพากษาประหารชีวิตนาย จูนาอิด ฮาฟีซ วัย 33 ปีอาจารย์มหาวิทยาลัย บาฮาอุดดิน ซาคาริยา (BZU) ในเมืองมุลตาน จากความผิดฐานโพสต์ข้อความดูหมิ่นศาสนาลงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์

นายฮาฟีซถูกจับเมื่อเดือนมีนาคม 2556 หลังจากถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลามไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรงมากในปากีสถาน ผู้ถูกกล่าวหามักตกเป็นเป้าหมายการทำร้ายของกลุ่มหัวรุนแรง

นายราชิด เรห์มาน ทนายความคนแรกของนายฮาฟีซ ถูกยิงเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากเขาตกลงรับทำคดีนี้ และหลายปีที่ผ่านมา นายฮาฟีซต้องถูกแยกขังเดี่ยวเนื่องจากถูกนักโทษคนอื่นๆ ทำร้ายไม่หยุดหย่อน

ทั้งนี้ ทนายความคนปัจจุบันของนายฮาฟีซกล่าวหลังทราบคำตัดสินว่า คำพิพากษานี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างที่สุด และว่าพวกเขาจะยืนอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินของศาล ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่าคำตัดสินนี้เป็นการตัดสินที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังและประหลาดใจมาก

https://www.thairath.co.th/news/foreign ... f_jybRHx1s

เทียบกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ดูเอาคัยแขกปากีฯ มีบัตรคนไทย พูดไทยยังไมได้เลย มัน คืออะไร?



รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater


แบบนี้ รอวันสิ้นชาติ

https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/ ... e=5E8D128E

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater



อ้างคำพูด:
จับอดีตปลัดหนองคาย ให้ต่างด้าวสวมบัตรประชาชน เรียกหัวละ 1.5 แสน


https://www.thairath.co.th/news/crime/1 ... HGGnNUX8Fk

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:



กาย/ใจ หรือ รูป/นาม ไม่ว่าของใครเมื่อว่าโดยสภาวะแล้วไม่ต่างกัน ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงพูดแค่ว่า กายกับใจ รูปกับนาม พูดให้เห็นง่ายๆหยาบๆนะ ถามว่า ทุกคนเกิดมาแล้วแก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน หรือจะเถียง นี่่ให้ดูหยาบๆนะ


ดังนั้้น ที่คุณโรสพูดบ่อยๆ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ นับครั้งไม่ถ้วนนั่น ไม่ใช่พูดจากความรู้ความเข้าใจชีวิต หรือ รูปนาม หรือกายใจนี่ แต่พูดด้วยความไม่รู้ พูดด้วยความเข้าใจผิด

:b12:
จักขุนทรีย์เป็นลักษณะพิเศษ
ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้ง
อารมณ์ที่จิตรู้ทางตาทุกอย่างที่ลืมตาดูอยู่เนี่ย
บอกว่าให้คิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตรงตามคำสอนเดี๋ยวนี้ว่า
เห็นแต่เพียงสิ่งที่กระทบตาได้ตอนลืมตาดูตื่นรู้ความจริง
ตอนที่มีตาและตาไม่บอดและกำลังดูแล้วคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตรงที่กำลังเห็น
:b12:
บอกว่าสีแค่สะท้อนแสงมากระทบตาดำดับหายไปในตาดำหมดแล้วมืดทันทีมีมืดไหมไม่มืดน่ะคิดเห็นผิดไงคะ
:b32: :b32:

ทุกคนที่กำลังอ่าน
กรุณาคิดให้ตรงคำ
ไม่มีตาเนื้อใครเห็นสีได้
เพราะตาเนื้อเห็นผิดโดยกำเนิด
ก็เกิดมาแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นคนและมีโอกาสได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมื่อตาเนื้อเห็นไม่ถูกตรงตามคำสอนแปลว่ามีความคิดเห็นผิดเป็นปกติเลยค่ะ
คราวนี้เราจะทำสัมมาทิฏฐิคือความคิดเห็นถูกตามคำสอนต้องจำว่าจิตเห็นแค่สี
และสีเนี่ยอ่ะค่ะเป็นรูปธรรมชนิดหนึ่งที่ปรากฏว่ากระทบตาได้เท่านั้นแตะต้องสีไม่ได้คร่า
ดังนั้นเวลาที่คนที่บวชเห็นสีตรงรูปร่างของเงินก็โลภอยากได้ก็รับเอามาครอบครองแตะต้องเห็นนะแตะไม่ได้
ในบรรดารูปทั้ง28รูปตรงตามปรมัตถธรรมรูปของสีเท่านั้นที่มองเห็นได้ส่วนรูปอื่นๆอีก27รูปมองเห็นไม่ได้ค่ะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2019, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:



กาย/ใจ หรือ รูป/นาม ไม่ว่าของใครเมื่อว่าโดยสภาวะแล้วไม่ต่างกัน ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงพูดแค่ว่า กายกับใจ รูปกับนาม พูดให้เห็นง่ายๆหยาบๆนะ ถามว่า ทุกคนเกิดมาแล้วแก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน หรือจะเถียง นี่่ให้ดูหยาบๆนะ


ดังนั้้น ที่คุณโรสพูดบ่อยๆ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ นับครั้งไม่ถ้วนนั่น ไม่ใช่พูดจากความรู้ความเข้าใจชีวิต หรือ รูปนาม หรือกายใจนี่ แต่พูดด้วยความไม่รู้ พูดด้วยความเข้าใจผิด

:b12:
จักขุนทรีย์เป็นลักษณะพิเศษ
ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้ง
อารมณ์ที่จิตรู้ทางตาทุกอย่างที่ลืมตาดูอยู่เนี่ย
บอกว่าให้คิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตรงตามคำสอนเดี๋ยวนี้ว่า
เห็นแต่เพียงสิ่งที่กระทบตาได้ตอนลืมตาดูตื่นรู้ความจริง
ตอนที่มีตาและตาไม่บอดและกำลังดูแล้วคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตรงที่กำลังเห็น
:b12:
บอกว่าสีแค่สะท้อนแสงมากระทบตาดำดับหายไปในตาดำหมดแล้วมืดทันทีมีมืดไหมไม่มืดน่ะคิดเห็นผิดไงคะ
:b32: :b32:

ทุกคนที่กำลังอ่าน
กรุณาคิดให้ตรงคำ
ไม่มีตาเนื้อใครเห็นสีได้
เพราะตาเนื้อเห็นผิดโดยกำเนิด
ก็เกิดมาแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นคนและมีโอกาสได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมื่อตาเนื้อเห็นไม่ถูกตรงตามคำสอนแปลว่ามีความคิดเห็นผิดเป็นปกติเลยค่ะ
คราวนี้เราจะทำสัมมาทิฏฐิคือความคิดเห็นถูกตามคำสอนต้องจำว่าจิตเห็นแค่สี
และสีเนี่ยอ่ะค่ะเป็นรูปธรรมชนิดหนึ่งที่ปรากฏว่ากระทบตาได้เท่านั้นแตะต้องสีไม่ได้คร่า
ดังนั้นเวลาที่คนที่บวชเห็นสีตรงรูปร่างของเงินก็โลภอยากได้ก็รับเอามาครอบครองแตะต้องเห็นนะแตะไม่ได้
ในบรรดารูปทั้ง28รูปตรงตามปรมัตถธรรมรูปของสีเท่านั้นที่มองเห็นได้ส่วนรูปอื่นๆอีก27รูปมองเห็นไม่ได้ค่ะ
:b32: :b32: :b32:



วนไปวนมา เลอะเทอะ ถามอะไรๆที่ตัวเองพูด ตอบไม่ได้ ไม่ตอบสักที ชักรำคาญ เมื่อยมือแล้ว :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2019, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลักๆ มี 3 เรื่อง คือ 1. กรมศิลป์ซ่อมยอดพระธาตุแล้วสนิมขึ้น 2. เรื่องสร้างศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกเป็นสัญลักษณ์มัสยิดในที่ดินของวัด 3. ทุบวัดกัลยาฯ


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2019, 11:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เห็นไม่ตรงไม่มีทางคิดเห็นถูกและ
ถ้าคิดเห็นผิดแล้วทำอะไรก็เห็นผิด
เห็นผิดคิดผิดทำผิดเกิดมิจฉาทิฏฐิ
:b12:
คิดตรงไปตรงมาเห็นเห็นจะจะทันที
เห็นตาตัวเองไม่ได้เห็นแค่สีทีละ1สี
สีที่เห็นเพียงสะท้อนแสงเข้าตาดำ
สีอยู่ที่มหาภูตรูปมีแค่แสงพุ่งเข้าตา
คิดว่าตัวเองเห็นถูกตรงตามคำสอน
หรือกำลังคิดถึงสิ่งที่เห็นนอกตาดำ
ทางตาทางเดียวที่เห็นไม่ตรงสี1สี
คือความคิดเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิอยู่
:b32: :b32:



ถ้าเห็นถูกก็นี่เขาเป็นอะไร


ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ

ประเด็นที่พบ

การนั่งครั้งหลังๆมานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือสรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่

ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้


:b32:
ยอมรับความจริงให้ได้ก่อนนะ
เพราะปัญญาแรกเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟัง
ไปยกอดีตสภาวะอะไรนอกกายใจตัวเองมา
บอกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดถูกตามได้
ตรงที่ตัวเองยังมีจิตครองร่างกายและต้องกำลังฟังคนอื่นบอก
แล้วก็ฟังอยู่เนี่ยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นต้องคิดตามเสียงให้ถูกกายตัวเอง
:b32: :b32:



กาย/ใจ หรือ รูป/นาม ไม่ว่าของใครเมื่อว่าโดยสภาวะแล้วไม่ต่างกัน ดังนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงพูดแค่ว่า กายกับใจ รูปกับนาม พูดให้เห็นง่ายๆหยาบๆนะ ถามว่า ทุกคนเกิดมาแล้วแก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน หรือจะเถียง นี่่ให้ดูหยาบๆนะ


ดังนั้้น ที่คุณโรสพูดบ่อยๆ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ กายใจ นับครั้งไม่ถ้วนนั่น ไม่ใช่พูดจากความรู้ความเข้าใจชีวิต หรือ รูปนาม หรือกายใจนี่ แต่พูดด้วยความไม่รู้ พูดด้วยความเข้าใจผิด

:b12:
จักขุนทรีย์เป็นลักษณะพิเศษ
ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้ง
อารมณ์ที่จิตรู้ทางตาทุกอย่างที่ลืมตาดูอยู่เนี่ย
บอกว่าให้คิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตรงตามคำสอนเดี๋ยวนี้ว่า
เห็นแต่เพียงสิ่งที่กระทบตาได้ตอนลืมตาดูตื่นรู้ความจริง
ตอนที่มีตาและตาไม่บอดและกำลังดูแล้วคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตรงที่กำลังเห็น
:b12:
บอกว่าสีแค่สะท้อนแสงมากระทบตาดำดับหายไปในตาดำหมดแล้วมืดทันทีมีมืดไหมไม่มืดน่ะคิดเห็นผิดไงคะ
:b32: :b32:

ทุกคนที่กำลังอ่าน
กรุณาคิดให้ตรงคำ
ไม่มีตาเนื้อใครเห็นสีได้
เพราะตาเนื้อเห็นผิดโดยกำเนิด
ก็เกิดมาแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นคนและมีโอกาสได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมื่อตาเนื้อเห็นไม่ถูกตรงตามคำสอนแปลว่ามีความคิดเห็นผิดเป็นปกติเลยค่ะ
คราวนี้เราจะทำสัมมาทิฏฐิคือความคิดเห็นถูกตามคำสอนต้องจำว่าจิตเห็นแค่สี
และสีเนี่ยอ่ะค่ะเป็นรูปธรรมชนิดหนึ่งที่ปรากฏว่ากระทบตาได้เท่านั้นแตะต้องสีไม่ได้คร่า
ดังนั้นเวลาที่คนที่บวชเห็นสีตรงรูปร่างของเงินก็โลภอยากได้ก็รับเอามาครอบครองแตะต้องเห็นนะแตะไม่ได้
ในบรรดารูปทั้ง28รูปตรงตามปรมัตถธรรมรูปของสีเท่านั้นที่มองเห็นได้ส่วนรูปอื่นๆอีก27รูปมองเห็นไม่ได้ค่ะ
:b32: :b32: :b32:



วนไปวนมา เลอะเทอะ ถามอะไรๆที่ตัวเองพูด ตอบไม่ได้ ไม่ตอบสักที ชักรำคาญ เมื่อยมือแล้ว :b13:

คนคิดเองไม่ได้
ก็มีปกติคิดเห็นผิด
โลกมีตามปกติภพภูมิ
ภพภูมิมนุษย์ก็ที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้งัยคะ
คิดนึกวุ่นวายส่งออกไปยุ่งแต่เรื่องนอกตัวฟุ้งไปตามเห็นผิด
ก็บอกว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้าสาระมีอยู่ตรงที่ร่างกายตัวเองกระทบอะไรบ้าง
ก็บอกแล้วบอกอีกว่าให้ฟังว่าใครบอกความจริงให้เข้าใจรู้สึกตัวตรงที่กายกำลังมีก่อนจิตออกจากร่างกายนี้
ไม่เคยคิดถูกตรงตามได้เลยไม่มีปัญญาคิดถูกตามคำสอนเข้าใจไหมคะว่าเดี๋ยวนี้แหละเป็นแบบนั้นอยู่ลืมฟัง
https://youtu.be/ZFbHsVTQGcM
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2019, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มาพร้อมกับมัสยิด
น้ำผึ้ง ดึงดูดมดฉันใด
มัสยิด ก็ดึงดูดมุสลิมฉันนั้น
ในอีสาน ไม่มีชุมชนอิสลาม
ในอีสานมีมุสลิม แต่ไม่ได้อยู่เป็นชุมชน
ในมุกดาหาร นับรายหัวได้เลย ไม่เกิน5คน
ทุกที่ในอีสานที่ไปสร้างมัสยิด
คือสร้างในชุมชนพุทธทั้งนั้น
แต่หลังจากสร้างเสร็จ
มันจะดึงดูดอิสลาม เข้ามาในพื้นที่
ต่อไป รอบๆมัสยิด จะกลายเป็นชุมชนอิสลาม
ไม่เชื่อคอยดูแล้วกัน


รูปภาพ


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

จนท.ที่เกี่ยวข้อง ควรไปขอดูบัตรประจำตัวประชาชนด้วย หากมีบัตรดูสิได้มายังไงออกที่ไหน ดูๆแล้วเหมือนมาจากตะวันออกกลาง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2019, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

คนคิดเองไม่ได้
ก็มีปกติคิดเห็นผิด

โลกมีตามปกติภพภูมิ
ภพภูมิมนุษย์ก็ที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้งัยคะ
คิดนึกวุ่นวายส่งออกไปยุ่งแต่เรื่องนอกตัวฟุ้งไปตามเห็นผิด
ก็บอกว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้าสาระมีอยู่ตรงที่ร่างกายตัวเองกระทบอะไรบ้าง
ก็บอกแล้วบอกอีกว่าให้ฟังว่าใครบอกความจริงให้เข้าใจรู้สึกตัวตรงที่กายกำลังมีก่อนจิตออกจากร่างกายนี้
ไม่เคยคิดถูกตรงตามได้เลยไม่มีปัญญาคิดถูกตามคำสอนเข้าใจไหมคะว่าเดี๋ยวนี้แหละเป็นแบบนั้นอยู่ลืมฟัง
https://youtu.be/ZFbHsVTQGcM


คุณโรสเอ้ย ขอรับ ลงจากบ้านจะไปทำการทำงาน ก็มองทางเดินบ้างนะ จะเหยียบขี้หมา รู้จักไหมขี้หมาน่ะ :b32: ขับรถขับราก็มองทางข้างหน้า ทางแยกมีไฟแดงก็จอดนะ ไม่ใช่ขับฝ่าไป เดี๋ยวได้ตายไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่งหรอก บอกไม่เชื่อ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 433 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 24, 25, 26, 27, 28, 29  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร