วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2020, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...เพราะว่า
คนก็ชอบ เรื่องมหรสพเรื่องบันเทิง
พอเอาเรื่องพระมาสอน ก็ง่วงนอน
ก็เลยไม่มีใครอยากจะดูกัน

...เพราะใจของคนส่วนใหญ่นั้น
ใฝ่ไปในทางบันเทิงมหรสพ
ใฝ่ไปในทางกามอารมณ์
ไม่ได้ใฝ่ไปในทางความสงบ

...พอเอาเรื่องของความสงบมาเผยแผ่
ก็เลยหาวกัน นั่งดูปั๊บ เดี๋ยวก็หลับ
แต่ถ้าเอาเรื่องของกามอารมณ์
มาเผยแผ่นี้..ตื่นเต้นเร้าใจ
อยากจะเป็นเหมือนเขาขึ้นมา.
...................................
.
หนังสือสติธรรม หน้า 27
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











#ก่อนทำอะไรลงไปให้คิดเสียก่อนว่า
"มันได้ผลดีหรืออย่างไร ต่อไปข้างหน้า
ถ้ารู้ว่ามันไม่ดี ให้ความทุกข์ เราก็ไม่ทำ
ประกอบแต่คุณงามความดี​ ให้ระลึกรู้ว่าเมื่อ
มีเหตุก็ต้องมีผล ไม่ได้ทำเสียเปล่าหรอก
ทำเหตุลงไปแล้วไม่ได้รับผล ไม่มีหรอก
ในโลกนี้​ เหตุดี ก็ต้องได้รับผลดี เหตุชั่ว
ก็ต้องได้รับผลชั่ว​ มันจะสูญหายไปไม่มี.. "

#โอวาทธรรม
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย












#ถ้าเมตตาได้ห่างเหินจากใจ
"ของสัตว์โลกกาลใด กาลนั้น แม้
สัตว์โลกจะมีความอุดมสมบูรณ์ด้วย
เครื่องอุปโภคบริโภคนานาชนิด​ อย่าง
พึงพอใจก็ตาม แต่จะไม่มีความสงบสุข
ตกค้างอยู่ในวงสัตว์โลกนั้นๆเลย ส่วน
ที่ได้รับ จะมีแต่ความเดือดร้อนขุ่นเคือง
ไปทุกหย่อมหญ้า.. "

#โอวาทธรรม
#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต











การแจกพระ บางท่านอาจจะคิดว่าไม่มีผลหรือทำให้คนติดในวัตถุ ถ้าถือว่าเป็นวัตถุก็น่าติ แต่ถ้าคิดเป็นพระก็ต้องคิด ที่พ่อแจก พ่อไม่เคยโฆษณาว่าพระที่พ่อแจกไปมีอานุภาพอะไร มีความต้องการอยู่อย่างเดียวคือ ให้คนมีความรู้สึกว่ามีพระอยู่ที่ตัว

อย่างน้อยอารมณ์ที่รู้สึกว่ามีพระที่ตัว อารมณ์ย่อมเป็นกุศล กุศลนิดหน่อยถ้ามีความรู้สึกบ่อย ๆ สามารถทำให้คนที่ตายไป เพราะนึกถึงพระเสมอ ๆ

อย่างเบา ก็เกิดเป็นเทวดา

อย่างกลาง ก็เป็นพรหม

อย่างสูง ก็ไปนิพพาน

แบบพ่อค้าที่หวังกำไรน้อย แต่ได้บ่อย ๆ ก็รวยได้ฉันนั้น แต่ทว่าความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเป็นอย่างไรนั้น พ่อไม่คำนึง คำนึงอย่างเดียวคือ สงเคราะห์คนที่มีบารมีอ่อน

คนที่มีบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีนั้นพ่อไม่ห่วง ท่านพวกนั้นท่านไม่ต้องเกาะราวหรือไม้เท้าก็เดินไหว สำหรับคนที่มีบารมีอ่อน ยังต้องเกาะราวและไม้เท้า จึงต้องอาศัยวัตถุ คือพระพุทธรูปสงเคราะห์

จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๗๖













จงทำ "ใจ" ให้เหมือน "แผ่นดิน"
เพราะว่าแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้
ไม่ได้เคยโกรธใครทำอะไรใครเลย

จงทำ "ใจ" เหมือน "น้ำ"
เพราะธรรมดาของน้ำย่อมเป็นของสะอาด
ชำระของสกปรกได้ทุกเมื่อและเป็นของดื่มกิน
เพื่อมีชีวิตช่วยเหลือแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

จงทำ "ตน" ให้เหมือน "ผ้าเช็ดเท้า"
เพราะธรรมดาของผ้าเช็ดเท้า
ย่อมไม่มีความรักความชัง ฉันใด
ใจเราก็ทำเหมือนกัน ฉันนั้น

เมื่อเราตั้งใจฝึกฝนอบรมได้เช่นนี้แล้ว
ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสุข ความทุกข์ในใจก็จะไม่เกิด
ดังสุภาษิตที่ท่านกล่าวไว้ว่า "จิตตัง ทันตังสุขาวหัง"
จิตที่ฝึกฝนมาดีแล้ว นำมาซึ่งความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า

หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล











“ทุกครั้งที่มีความรัก
ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหัก
ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ

ทุกคนที่มีความรัก
ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า

ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์
เอาไว้เสมอ"

ท่าน ว.วชิรเมธี










"อันความรัก หรือที่รัก เมื่อผู้ใดมีร้อยหนึ่ง
ผู้นั้นก็มีทุกข์ร้อยหนึ่ง รักเก้าสิบ แปดสิบ เจ็ดสิบ
หกสิบ ห้าสิบ เป็นต้น จำนวนทุกข์ก็มีเท่านั้น

ถึงแม้มีรักเพียงอย่างหนึ่ง ก็มีทุกข์อย่างหนึ่ง
ต่อเมื่อไม่มีรัก จึงจะไม่มีทุกข์ ผู้หมดรักหมดทุกข์นั้น
พระพุทธเจ้า ตรัสเรียกว่า เป็นผู้ไม่มีโศก ไม่มีธุลีใจ
ไม่มีคับแค้น"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ












นั่นแหละมันทุกข์ เข้าใจไหม ทุกข์ทั้งนั้นแหละ
เป็นผัวเมียกันบอกรักกันๆ มันก็ดีแต่ตอนใหม่ๆ นั่นละ

แต่กินข้าวเปล่าใส่น้ำปลามันยังว่าอร่อยเลย
พอนานไปทีนี้ไม่อร่อยแล้ว ทำมาแค่ไหนก็ไม่อร่อยแล้ว

เข้าใจไหม มันเบื่อ มันนาน

(กล่าวจบ หลวงปู่ก็หัวเราะ)

คนอื่นด่ากันไม่ได้นะ ด่ากันไปด่ากันมาเดี๋ยวเป็นเรื่อง แต่ผัวเมียด่ากันเดี๋ยวก็กลับมาดีกันหรอก ด่ากันๆ แต่อย่าหนีให้นะ หนีมาบวชยังตามถึงวัดเลย (หัวเราะ)

เมียด่าให้อย่าไปโกรธนะ ให้ทำอย่างนี้ เขียนพุทโธใส่หัวเลย เขียนใส่หน้าผาก ผัวก็พุทโธ เมียก็พุทโธ พอเมียด่าก็ส้าาา...ธุ

(หลวงปู่ทำท่ายกมือไหว้)
ขอบคุณที่ให้พร

(หลวงปู่หัวเราะนานมาก)
________

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร










“กรรมชั่ว 5 อย่าง ...
กรรมชั่วอันใดที่ลุ่มหลงทำมาแต่ก่อน
ในชีวิตนี่แหละ ก็ให้อธิษฐานใจละไปเสีย ว่า
”แต่ก่อนข้าพเจ้าไม่รู้อย่างนี้
ถ้าข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ทำเลย
ก็เพราะความไม่รู้จึงทำกรรมชั่วบางสิ่งบางอย่างมา
เพราะฉะนั้นบัดนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าทำอย่างนั้นมันเป็นบาป
ตั้งแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไม่กระทำต่อไป
ด้วยอำนาจแห่งความสัตย์ความจริงอันนี้
ขอให้บาปกรรมที่ข้าพเจ้าได้ลุ่มหลงกระทำมาแต่ก่อนนั้นให้มันหมดไปสิ้นไป”
นี่เราต้องอธิษฐานใจละเรื่อยไปอย่างนั้น
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วกรรมเก่ามันจะไม่หมดนะ
มันจะตามสนองไปในชาติต่อไปอีก
นี่แหละพระพุทธเจ้าสอนให้เราพากเพียรพยายาม
ละบาปและบำเพ็ญบุญนะ
เพียรพยายามกระทำอุบายแยบคลายในใจ
ดังที่แนะนำมานั้นแหละ ถ้าหากว่าเราไม่ทำอุบายแยบคลายในใจ ไม่อธิษฐานใจอย่างว่า นั้นน่ะ อยู่เรื่อยๆ
ไปเฉยๆ เนี๊ยะนะ บาปกรรมมันไม่หมด
แสดงว่าใจยังยึดมันใว้อยู่ ยังไม่เบื่อมัน
จึงไม่อธิษฐานใจละ”

โอวาทธรรม
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2020, 11:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2020, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต

สามอย่างนี้แล

ทำชั่วได้เป็นล้านๆอย่าง


smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 34 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร