วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 09:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธศาสนา กับ เยาวชน
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติไทย มาแต่ครั้งโบราณเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา
ในครั้งโบราณ ลูกหลานคนไทยส่วนใหญ่ แม้แต่บุตรหลานของ ข้าราชบริพาร น้อยใหญ่ ต่างก็ล้วนได้ร่ำเรียนวิทยาการด้านต่างๆ มาจากวัด จะเรียกว่าวัดเป็นโรงเรียนสรรพอาชีพ ของประชาชนในสมัยนั้นก็ว่า ได้
และก็ย่อมเป็นที่แน่นอนว่า เมื่อวัด เป็นเสมือนหนึ่งโรงเรียนแล้ว เหล่าพระสงฆ์ทั้งหลายล้วนมีสถานะเป็นครู อีกสถานะหนึ่ง นอกเหนือจากการเป็น ผู้สืบทอดพุทธศาสนา
ทำไมพระสงฆ์ในสมัยโบราณ จึงมีความรู้ ความสามารถรอบด้าน ท่านทั้งหลายลองให้สมองคิดพิจารณาดู อาจจะเกิดความเข้าใจได้ ด้วยตัวเองในระดับหนึ่ง
พระสงฆ์ทั้งหลายในสมัยโบราณ ไม่ผูกติดกับหลักธรรม ,วินัย จนไม่มองถึงหลักความจริง จนไม่มองถึง ความจำเป็นในการดำรงชีวิตของผู้ศรัทธา และการปกครองบ้านเมืองตามหลักวิทยาการทุกแขนง
แต่พระสงฆ์ทั้งหลายในสมัยโบราณ เป็นผู้รอบรู้ ตามหลักความเป็นจริง ตามหลักความเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ และการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ตามยุค ตามสมัย
ดังนั้น บุตรหลาน ของประชาชนทุกระดับชั้น ที่ได้เข้าเล่าเรียนวิทยาการต่างๆ ในวัด ล้วนได้รับ วิทยาการทุกด้าน ตั้งแต่ ด้านศีลธรรม ตามหลักความเป็นจริง ของพุทธศาสนา จนไปถึงการได้ร่ำเรียน ศิลปะวิทยาการ ในด้านต่าง ที่อาจจะกล่าวได้ว่า ครบถ้วนในกระบวนการศึกษาของแขนงวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว การเมืองการปกครอง การเศรษฐกิจ การสังคม มานุษยวิทยา และอื่นๆ อีกมากมาย ในยุคสมัยนั้น

บุตรหลานของประชาชนทุกระดับชั้นในสมัยนั้น เมื่อได้รับการขัดเกลา และอบรมจากพระสงฆ์ ตามหลักความเป็นจริง ตามหลักธรรมชาติ อันเป็นไปตามหลักธรรมแห่งพุทธศาสนา เยาวชน บุตรหลานทั้งหลาย เหล่านั้น จึงประกอบไปด้วย ศีลธรรม สืบเนื่องต่อๆกันมา จนกลายเป็นจารีตวัฒนธรรมประเพณี ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเฉพาะตัวบุคคล เช่นการ บวช, หรือทั้งที่เป็นการสังคมของชุมชน เช่น ประเพณีต่างๆ ดังที่ท่านทั้งหลายคงได้ยิน ได้เห็น ตามท้องถิ่นต่างๆ ของแต่ละจังหวัด แต่ละภาคของประเทศไทย อยู่แล้ว

เมื่อท่านทั้งหลายมองดูในยุคปัจจุบันนี้ การสังคมเป็นอยู่ของประชาชน ได้แปรเปลี่ยนไป ตามกระแสโลกาภิวัตน์
เหล่าพระสงฆ์ ผูกติด กับธรรม,วินัย จนไม่ศึกษา ให้เป็นไปตามหลักความจริง ให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ไม่เกิดการพัฒนา ในด้านความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ หลักธรรมทั้งหลายที่มีอยู่
ดันทุรังดื้อด้าน ไม่คิดพิจารณา ถึงหลักความเป็นจริง ไม่มีความรู้ทางด้านธรรมอย่างแท้จริง และยังมีอีกหลายอย่าง ที่พระสงฆ์ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ในความหมายของคำสอนแห่งพระไตรปิฎก
แต่กลับกลายเป็น ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างปฏิบัติ ไม่ได้ร่วมกัน ศึกษา พิจารณา ให้เป็นเกิดการพัฒนา ตามยุค ตามสมัย ตามการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ในยุคปัจจุบัน
สาเหตุนี้ เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถอบรมขัดเกลา เยาวชน ให้มีความยึดมั่นในหลักธรรมคำสอน
เพราะสิ่งที่พระสงฆ์นำมาสอน ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เป็นไปตามสังคมปัจจุบัน
พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้ผู้คนทั้งหลาย หลีกหนี หรือหลบหลีก ให้ห่างไกลจากอบายมุขทั้งหลาย แต่เพียงอย่างเดียว
แต่พุทธศาสนา สอนให้ผู้คนทั้งหลาย ได้รู้ ได้เข้าใจ ถึงธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติของสรรพสิ่งทั้งหลาย และยังสอนให้ผุ้คนทั้งหลายได้เข้าใจ ในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ตั้งแต่ชั้นปุถุชนคนทั่่วไปทั้งหลายเป็นต้นไป
หมายความว่า พุทธศาสนา สอนให้รู้จักคิด รู้จักใช้ประสบการณ์ รู้จักคุณ รู้จักพูด รู้จักการทำมาหากิน รู้จักการกระทำในการทำมาหากิน รู้จักความเป็นพ่อแม่ บุตร ฯลฯ รู้จักหน้าที่ รู้จักการให้ตามหน้าที่ นั้นๆ อย่างนี้เป็นต้น

หากบุคคลากรทางศาสนา รวมไปถึงเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย ได้เรีบนรุ้ จนเกิดความเข้าใจ ตามหลักธรรมแห่งพุทธศาสนา ที่เป็นไปตามหลักความจริง เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
การพัฒนาจิตใจ แห่งเขาเหล่านั้น ก็จะเริ่มขึ้น
แต่ก่อนจะเริ่มการพัฒนาจิตใจ ความคิด ความรู้ ความเข้าใจของเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย
บุคคลากรทาางพุทธศาสนา ควรได้ มีความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาความรู้ความเข้าใจในตัวเอง ให้เป็นไปตามหลักความจริง ให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
เพราะ ยุคสมัยนี้ และต่อไปในอนาคต วิทยาการต่างๆ ล้วนแสดง หรือ ทำให้เยาวชน บุตรธิดาทั้งหลาย ได้รู้ว่า สิ่งที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ หรืออื่นใด มีความจำเป็นในชีวิต ในความคิด ในความรู้ ของพวกเขาทั้งสิ้น
ให้เหล่าพระสงฆ์ และบุคคลากรทางพุทธศาสนา ได้ร่วมกันศึกษา พิจารณา เพื่อพัฒนาทั้งตัวเอง และเยาวชน บุตรธิดา
ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปเถิด ยิ่งๆขึ้นไปเถิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2008, 04:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


พิมพ์ข้อความตกขาดหายไปวรรคหนึ่ง ดังต่อไปนี้

"พุทธศาสนา มุ่งสอนให้มนุษย์ทั้งหลาย หลุดพ้นจากกิเลส อันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ ไม่มากก็น้อย กล่าวคือ สอนให้รู้จักกิเลส เข้าใจในกิเลส และรุ้จักขจัดกิเลสเหล่านั้น นับตั้งแต่ตัวเอง และผู้อื่น
พุทธศาสนามิได้บังคับ หรือต้องการให้มนุษย์ทั้งหลาย บรรลุสู่ความเป็นอริยะบุคคล เพราะในทางที่เป็นจริง ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์ทุกคน จะรู้ จะเข้าใจ และฝึกปฏิบัติธรรม จนบรรลุชั้นอริยะบุคคลได้ทุกทั่วตัวตน
ดังนั้น พุทธศาสนา จึงมุ่งสอนให้มนุษย์หลุดพ้นจากกิเลส อันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ นับตั้งแต่ระดับ ปุถุชนคนทั่วไป
หมายความว่า หลักธรรมคำสอนในทางพุทธศาสนานั้น มีสอนไว้สำหรับ คนทุกระดับสมองสติปัญญา ให้บุคคลเหล่านั้น หลุดพ้นจากกิเลส ตามแต่สมองสติปัญญา หรือ ตามแต่ความคิดของพวกเขาเหล่านั้น โดยไม่เบียดเบียนตัวเองจนเกินไป และโดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นจนทำให้เกิดความเดือดร้อน อย่างนี้เป็นต้น" ที่กล่าวไปข้างต้นนี้ เป็นเพียงการอธิบายความ ในด้านที่เป็นไปตามค่านิยมทางสังคมเท่านั้น หากจะพิจารณาเพื่อให้รู้ และเข้าใจ ในกิเลส อันก่อให้เกิด พฤติกรรม หรือการกระทำทั้งทาง กาย วาจา และใจ จะต้องพิจารณา อย่างเป็นกลาง(ในที่นี้ไม่อธิบาย )

นี้เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ท่านทั้งหลาย รวมทั้งบุคคลากรทางพุทธศาสนา ควรได้ ศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อให้เกิดความรู้อย่างแท้จริง เพื่อพัฒนา ตนเอง และ ผู้ศรัทธา ยังหมายรวมไปถึง การพัฒนา เยาวชน อันจักทำให้ ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า ทั้งจิตใจ ความคิด และพฤติกรรม การกระทำ ฉะนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2008, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หมายความว่า พุทธศาสนา สอนให้รู้จักคิด รู้จักใช้ประสบการณ์ รู้จักคุณ รู้จักพูด รู้จักการทำมาหากิน รู้จักการกระทำในการทำมาหากิน รู้จักความเป็นพ่อแม่ บุตร ฯลฯ รู้จักหน้าที่ รู้จักการให้ตามหน้าที่ นั้นๆ อย่างนี้เป็นต้น
หากบุคคลากรทางศาสนา รวมไปถึงเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย ได้เรีบนรุ้ จนเกิดความเข้าใจ ตามหลักธรรมแห่งพุทธศาสนา ที่เป็นไปตามหลักความจริง เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
การพัฒนาจิตใจ แห่งเขาเหล่านั้น ก็จะเริ่มขึ้น
แต่ก่อนจะเริ่มการพัฒนาจิตใจ ความคิด ความรู้ ความเข้าใจของเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย
บุคคลากรทาางพุทธศาสนา ควรได้ มีความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาความรู้ความเข้าใจในตัวเอง ให้เป็นไปตามหลักความจริง ให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
เพราะ ยุคสมัยนี้ และต่อไปในอนาคต วิทยาการต่างๆ ล้วนแสดง หรือ ทำให้เยาวชน บุตรธิดาทั้งหลาย ได้รู้ว่า สิ่งที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ หรืออื่นใด มีความจำเป็นในชีวิต ในความคิด ในความรู้ ของพวกเขาทั้งสิ้น
ให้เหล่าพระสงฆ์ และบุคคลากรทางพุทธศาสนา ได้ร่วมกันศึกษา พิจารณา เพื่อพัฒนาทั้งตัวเอง และเยาวชน บุตรธิดา
ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปเถิด ยิ่งๆขึ้นไปเถิด


ฝากย้ำไว้อีกครั้ง เพื่อเยาวชนของเราค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2009, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


แมวขาวมณี เขียน:
อ้างคำพูด:
หมายความว่า พุทธศาสนา สอนให้รู้จักคิด รู้จักใช้ประสบการณ์ รู้จักคุณ รู้จักพูด รู้จักการทำมาหากิน รู้จักการกระทำในการทำมาหากิน รู้จักความเป็นพ่อแม่ บุตร ฯลฯ รู้จักหน้าที่ รู้จักการให้ตามหน้าที่ นั้นๆ อย่างนี้เป็นต้น
หากบุคคลากรทางศาสนา รวมไปถึงเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย ได้เรีบนรุ้ จนเกิดความเข้าใจ ตามหลักธรรมแห่งพุทธศาสนา ที่เป็นไปตามหลักความจริง เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
การพัฒนาจิตใจ แห่งเขาเหล่านั้น ก็จะเริ่มขึ้น
แต่ก่อนจะเริ่มการพัฒนาจิตใจ ความคิด ความรู้ ความเข้าใจของเยาวชน บุตร ธิดา ทั้งหลาย
บุคคลากรทาางพุทธศาสนา ควรได้ มีความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาความรู้ความเข้าใจในตัวเอง ให้เป็นไปตามหลักความจริง ให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
เพราะ ยุคสมัยนี้ และต่อไปในอนาคต วิทยาการต่างๆ ล้วนแสดง หรือ ทำให้เยาวชน บุตรธิดาทั้งหลาย ได้รู้ว่า สิ่งที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ หรืออื่นใด มีความจำเป็นในชีวิต ในความคิด ในความรู้ ของพวกเขาทั้งสิ้น
ให้เหล่าพระสงฆ์ และบุคคลากรทางพุทธศาสนา ได้ร่วมกันศึกษา พิจารณา เพื่อพัฒนาทั้งตัวเอง และเยาวชน บุตรธิดา
ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปเถิด ยิ่งๆขึ้นไปเถิด


ฝากย้ำไว้อีกครั้ง เพื่อเยาวชนของเราค่ะ


ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปข้างต้นดังที่ผู้ใช้ชื่อว่า "แมวขาวมณี" ได้นำมาย้ำอีกครั้งนั้น
หากจะพิจารณา แยกแยะรายละเอียดเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการคิด และอื่นๆรวมจำนวน แปดข้อนั้น ก็จักย่อมเกิดความรู้ ความเข้าใจ ตามหลักพุทธศาสนายิ่งขึ้น เพราะหลักการ เป็นการอธิบาย และสามารถคิดพิจารณาตามหลักภาษาไทยได้เลย และสามารถนำไปประยุกต์หรือประกอบ การคิดพิจารณา ตามที่มีอยู่ในพระไตรปิฏกได้ อย่างกลมกลืน แต่อาจจะต้องใช้สมองมากหน่อย เพราะหลักภาษา หรือการใช้ภาษาแตกต่างกัน
ท่านทั้งหลาย ก็เลือกเอาตามแต่ถนัดเถิดขอรับ
อนึ่ง ควรได้ทำความเข้าใจไว้ว่า
หลักการหรือหลักธรรม อันเป็นบรรทัดฐาน ทางพุทธศาสนานี้ ใช้ได้ในทุกระดับสมองสติปัญญา ใช้ได้ในทุกระดับการเรียนการสอน ตั้งแต่ ปุถุชน คนทั่วไป จนไปถึง ระดับ อริยะบุคคล
เป็นแนวทางในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ของสรรพสิ่งทั้งหลายก็ได้
หรือจะเป็นหลักอันนำไปสู่การหลุดพ้นจากอาสวะแห่งกิเลสก็ได้ เช่นกัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร