วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 03:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมอ่านมรรคข้อสัมมาสมาธิเป็นไฉน...

ในมหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธองค์ทรงแสดง สัมมาสมาธิ ด้วย ฌาน 4 คือจตุตถฌาน

สงสัยว่าเราต้องทำให้ได้ถึงระดับฌาณหรืออย่างไร
จึงจะเรียกว่าเจริญมรรคข้อนี้ผ่านขอรับ


ขอบพระคุณขอรับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาสมาธิ ขั้นฌาน 4 (จตุตถฌาน) ถ้าได้ปัญญาเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างแจ่มแจ้ง และละกิเลส โดยกิเลสไม่กำเริบอีกได้ ที่เรียกว่า ปัญญาวิมุติ อันนี้ถือว่าเป็นสัมมาสมาธิสมบูรณ์

แต่สัมมาสมาธิ ที่ได้เจโตวิมุติอย่างเดียว ยังไม่ถือว่าเป็นสัมมาสมาธิที่สมบูรณ์ เพราะละได้แต่ราคะอย่างเดียว คือ ยังเป็นเจโตวิมุติขั้นโลกีย์อยู่ เจโตวิมุตติขั้นโลกีย์นั้นยังไม่เกิดปัญญาสมบูรณ์(ปัญญาวิมุตติ) กิเลสกลับกำเริบได้อีก

ถ้าได้เจโตวิมุตติ ที่กิเลสไม่กำเริบได้อีกแล้ว ที่เรียกว่า 'สมุจเฉทประหาร' คือขาดแล้วขาดเลย ไม่กลับกำเริบอีก เจโตวิมุตติแบบนี้เป็นเจโตวิมิตติ อันละเอียดประณีต พระพุทธองค์เรียกว่า สันตเจโตวิมุตติ ถ้าได้สันตเจโตวิมุตติจึงจะถือว่าได้ปัญญาสมบูรณ์(ปัญญาวิมุตติ) เนื่องจากกิเลสไม่กำเริบอีกแล้ว

สรุป ความหลุดพ้นจากกิเลส และอวิชชาทั้งปวง จึงจะถือว่าได้ปัญญาสมบูรณ์ หรือปัญญาวิมุตติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


"เจโตวิมุตติ" ที่กิเลสไม่กำเริบได้อีกแล้ว หลุดพ้นจากกิเลสและอวิชชาทั้งปวงแล้ว อาจมีชื่อเรียกเป็นพิเศษแบบอื่นได้ เช่น เตวิชโช (ผู้ที่ได้วิชชา ๓) ฉฬภิญโญ (ผู้ได้อภิญญา ๖) ปฏิสัมภิทัปปัตโต (มีความสามารถคลุมวิชชาสามและอภิญญาหก แต่มีความฉลาดกว่าโดยเฉพาะข้อธรรมต่างๆ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองไปค้นกระทู้ของคุณ "ตรงประเด็น" ดูนะครับ
คุณตรงประเด็นท่านเรียบเรียงจากพระไตรปิฏกเอาไว้อย่างดี
ช่วยให้เขา้ใจง่ายขึ้นมาก รวดเร้วขึ้นมาก

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2008, 09:39
โพสต์: 219


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องเข้าใจ อย่างนี้ก่อนว่า อย่างไรเรียก “มิจฉาสมาธิ” อย่างไรเรียก “สัมมาสมาธิ”

“มิจฉาสมาธิ” หลวงปู่มั่น ท่านเรียก สมาธิของ หลวงตามหาบัวว่า “สมาธินอนตาย” คือติดความสงบ ไม่ยอมออกจากสมาธิมาใช้ความคิดเพื่อให้เกิดปัญญา สมาธิของ ท่านอาฬารดาบสและอุทกกดาบส ก็เช่นเดียวกัน

“สัมมาสมาธิ” คือ เมื่อใช้สมาธิตามขั้นตามภูมิที่ตัวเองทำได้ ซึ่งอาจจะเป็น อุปจาร ปฐมฌาน จนถึง จตุตถฌาน หรือบางท่านได้ถึง อรูปฌาน เมื่อเข้าสมาธิจนเต็มภูมิของตนเองแล้ว ก็ถอยออกมาที่ อุปจารสมาธิ เพื่อใช้ความคิด ตรึกตรอง โดยแยบคาย ในธรรมหมวดใดหมวดหนึ่ง จนเกิดปัญญา เข้าใจหายสงสัย ในธรรมหมวดนั้น ๆ

นี่แหละที่ท่านเรียก “สัมมาสมาธิ” สัมมาสมาธินี้ไม่จำเป็นต้องถึง ฌานที่ สี่ แค่อุปจารสมาธิ หรือสมาธิจิตตั้งมั่นก็พอ ปัญญาเกิดที่ "สมาธิจิตตั้งมั่น"นี่แหละ ไมได้เกิดที่ สมาธิความสงบ หรือ อัปนาสมาธิ

“สมาธิ” เป็นฐานอันเลิศของปัญญา ปัญญาที่เกิดจากฐานของสมาธินี้ เราเรียก “วิปัสสนา” หรือ “ภาวนามัยปัญญา”

เจริญธรรม

:b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2009, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 22:30
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


สมพล เขียน:
ผมอ่านมรรคข้อสัมมาสมาธิเป็นไฉน...

ในมหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธองค์ทรงแสดง สัมมาสมาธิ ด้วย ฌาน 4 คือจตุตถฌาน

สงสัยว่าเราต้องทำให้ได้ถึงระดับฌาณหรืออย่างไร
จึงจะเรียกว่าเจริญมรรคข้อนี้ผ่านขอรับ


ขอบพระคุณขอรับ :b8:



กะว่าจะไม่ตอบน่ะนี่ แต่พออ่าน มาสะดุด ตรงคำที่ว่า "เจริญมรรคข้อนี้ผ่าน"

ทำให้ผมคิดเหมือนกับว่า เป็นการทำข้อสอบเลยแฮะ :b32: :b32: :b32:

เลยอยากจะถามเจ้าของกระทู้ กลับไปหน่อยว่า คุณเข้าใจว่า มรรคมีองค์แปด อย่างไร เกี่ยวกับการปฏิบัติ
คุณคิดว่าควรทำให้ผ่านทีละข้อ หรือว่าทำข้อไหนให้ผ่านก่อนก็ได้ หรือว่าทำทุกข้อพร้อมกันให้ผ่าน
พร้อมกัน หรือว่าคุณคิดยังไงเอ่ยยยย :b9: :b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2009, 11:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาสมาธิหมายถึงสมาธิที่ไม่มีอารมณ์ ว่างเปล่าจากการปรุงแต่งของสังขาร

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร