วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 11:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2009, 18:02
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b37: คนที่เกิดมาแล้วย่อมกลัวความตาย
แต่ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมจนเกิดปัญญาแล้วจะทราบว่า...การเกิดเป็นทุกข์
จึงกลัวการเกิดมากกว่าการตาย
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กลัวตายครับ ไม่กลัวเกิด ถ้าได้เกิดในภพภูมิดีๆ เช่นสวรรค์ หรือมนุษย์ ถ้าไม่เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็คงไม่สามารถเลิกเกิดได้ หากพระพุทธเจ้าเลือกจะไม่เกิดตั้งแต่ตอนที่บารมีพอที่จะบรรลุธรรมได้ เราคงไม่ได้มานั่งตอบปัญหานี้

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้หมดความกลัวตายแล้วงับ เจริญ มรณานุสติอยู่ตลอด อยู่ด้วยอานาปาณสติเป็นวิหารธรรม

มีแต่กลัวการเกิด ถึงจะให้ไปเกิดดีๆแบบ พรหมโลก ก็ไม่อยากไป เทวดาและมนุษย์ก็ไม่อยากไปเกิดเเล้ว

ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดความปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาของจิต ไม่มีอะไรเลย ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 23:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
แบบว่า ไม่กลัวแต่เบื่อมากกว่า... เบื่อที่จะต้องมาเกิด เกิด เกิด

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 14:38
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับผมไม่กลัวครับคนเราก็เกิดมา ก็ต้องแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องธรรมครับ ทุกคนหนีความตายไม่ได้

กระผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาก็ต้องมีกรรมเป็นของตนครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ตราบใดยังต้องเกิดอีก แสดงว่ากิเลสในตัวเรายังไม่หมด

ดังนั้น ‘การตาย’ จึงน่ากลัวน้อยกว่า ‘การเกิด’

เพราะ “การเกิด” ย่อมเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป
cool :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่านะครับ 100 ทั้ง 100 กลัวตายทั้งนั้นแหละครับ

ผมก็คนหนึ่งแหละครับที่กลัวตาย

ไม่เชื่อลองเอามีิดมาเชือดคอตัวเองดูซิครับ

ขณะจะเชือดลองดูซิกลัวเกิดหรือกลัวตายครับ

:b5:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 23:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แรก ๆ ..เพราะกลัวตาย..จึงกลัวเกิด..

หลัง ๆ .เพราะไม่รู้....จึงกลัวเกิด..

ก็มันไม่รู้จะเกิดเป็นอะไร...ไม่มีอะไรรับประกันได้..มีแต่ความไม่แน่นอน...

พอรู้..ว่า..ความแน่นอนสามารถมีได้..แต่มีเงื่อนไข..

เพราะอยากมีความแน่นอนในอนาคต..เงื่อนไขอะไร..ก็จะทำ

เงื่อนไข..แรก..สังโยชน์ 3 ข้อแรก..จงละให้ได้..ทำให้สำเร็จ

แค่ 3 ข้อนี้นะ..ดีใจ..เห็นข้อมันน้อยดี..ใจก็ชื่น..มีกำลังใจ..ขึ้นมาเป็นกอง

ถึงปัจจุบันนี้..กำลังใจยังดีอยู่..คิดว่า..สักวัน..เราจะถึงจุดที่ไม่มีอะไรทำให้เรากลัวได้อีก..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2009, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจะให้พูดตามหลักการทางศาสนา ก็ต้องบอกว่ากลัว เกิดมากกว่ากลัวตาย
......แต่ถ้าจะให้พูดตามหลักของตัวเอง ผมไม่กลัวเกิดและไม่กลัวตาย
ที่ว่าไม่กลัวเกิด เพราะมั่นใจว่าตนเองปฏิบัติธรรมด้วยความจริงใจ ผลจะสำเร็จหรือไม่
ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ก็ได้แต่ตั้งจิตว่า สิ่งที่ทำในชาตินี้คงสะสมไปในชาติหน้า
.....ที่ว่าไม่กลัวตาย ผมว่าความตายเป็นเรื่องเล็กกว่าการเกิด เพราะใครๆย่อมรู้ว่า
เกิดแล้วต้องตายทุกคน แต่ที่ใครเขากลัวความตายเพราะกลัวจะไม่ได้เกิด คือต้อง
ชดใช้กรรมในนรก
.....อันที่จริงแล้วทุกคนกลัวไม่เหมือนกันหรอกครับ บางคนกลัวเกิด บางคนกลัวตาย
แต่ผมว่า สิ่งที่ทุกคนกลัวเหมือนกันคือ กลัวการทรมานก่อนตายก็หมายถึงโรคภัย
ไข้เจ็บไงครับ ถ้าบอกไม่กลัว ก็ขอถามว่ากลัว มะเร็งไหม อัมพฤกษ์-อัมพาตละ
สรุปสิ่งที่ทุกคนกลัว คือความเจ็บปวดครับ :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2009, 07:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ทั้งสิ้น
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ดังนี้ เมื่อความรู้เกิดขึ้น ความไม่รู้ (อวิชชา) ก็หายไปเอง ราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งเกิดขึ้นจากความไม่รู้เป็นมูลฐาน ก็พลอยถูกโค่นทำลายสาปสูญไปด้วย จึงไม่มีการหลงผิดเป็นถูก ไม่หลงใหลมัวเมา

เมื่อไม่ยึดถือ ตน ก็ไม่มี เพราะ ตน เกิดมาจากการหลงยึดถือ นั่นก็คือการมองเห็นแล้วปล่อยวาง อัตตา เสียได้ ถึงความรู้สึก อนัตตา ได้เสวยผลสูงขึ้นมาตามลำดับ ว่านี่คือ ยอดแห่งความสุข อันแท้จริง ตามที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้อย่างแน่แท้

มรณะ ธัมโมหิ มระณัง อะนะ ติโต
เรามีความตายเป็นธรรมดาเราจะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้


ผู้ถึงธรรมเป็นอยู่ก็ไม่เดือดร้อน เวลาจะตายก็ไม่เศร้าโศก ถ้าเป็นปราชญ์มองเห็นที่หมายแล้วไซร้ ถึงอยู่ท่ามกลางโลกที่โศกก็หาโศกไม่

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ............. :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2009, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2009, 18:02
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: ขออนุโมทนากับทุกความคิดเห็น
ดิฉันขออนุญาตยกตัวอย่างเรื่องของตัวดิฉันเอง
วันหนึ่งดิฉันตรวจพบมีก้อนเนื้อที่บริเวณหน้าอก
เมื่อผ่าตัดแล้ว...อีกหนึ่งสัปดาห์แพทย์นัดฟังผลดิฉันไปฟังผลคนเดียวจิตใจเป็นปกติ
บอกต้วเองว่าหากเป็นมะเร็งก็จะไม่รักษา(คิดว่าเตรียมพร้อมแล้วสำหรับความตาย)
แพทย์แจ้งว่าผลชิ้นเนื้อปกติ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดิฉันนั่งรถเมล์เพื่อจะไปฟังธรรมบรรยาย
คนขับรถเมล์เหยียบคันเร่งเพื่อให้พ้นไฟแดง
แต่เมื่อรู้ว่าไม่ทันจึงเหยียบเบรคอย่างแรง
ขณะนั้นดิฉันรู้สึกตกใจและคงจะกลัวจึงสวดมนต์
จากการพิจารณาพบว่า"เมื่อยังไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย..เราก็คิดว่าพร้อมที่จะตาย...แต่เมื่อมีเหตุมีปัจจัยมาเยือนกลับกลัวตาย"
ทุกอย่างเป็นอนัตตาจริงๆ...เพื่อนสหายธรรมกัลยาณมิตรทุกท่านอย่าประมาทนะคะ
ดิฉันขออนุโมทนากับทุกท่าน
ที่มีความเพียรในการศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2009, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


moddam เขียน:
ผมว่านะครับ 100 ทั้ง 100 กลัวตายทั้งนั้นแหละครับ

ผมก็คนหนึ่งแหละครับที่กลัวตาย

ไม่เชื่อลองเอามีิดมาเชือดคอตัวเองดูซิครับ

ขณะจะเชือดลองดูซิกลัวเกิดหรือกลัวตายครับ

:b5:



พระอริยเจ้าทั้งหลายไม่กลัวตายนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2009, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงซิครับ เว้นไว้แต่พระอริยเจ้า smiley

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2009, 03:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กลัวทั้งเกิดและตายค่ะ ไม่อยากได้ทั้งสองอย่างค่ะ
เลือกได้ไหมค่ะ? ไม่อยากเกิด ไม่อยากตายแย้วววว
mellow

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


แม้นชาติ การเกิดก็เป็นทุกข์
แม้นชรา ความแก่ก็เป็นทุกข์
แม้นมรณะ ความตายก็เป็นทุกข์ ๆลๆ



ทั้งเกิด ทั้งตาย มันก็ทุกข์ทั้งนั้นละครับ

เพียงแต่ตอนเกิดเราจำกันไม่ได้เท่านั้นละ
ท่านผู้รู้บอกว่า เวลาเกิดมันทรมานที่สุด ... แต่ เราจำไม่ได้กันเอง

ถ้าไม่เกิด มันก็ไม่ตาย
ถ้าไม่ตาย มันก็ไม่เกิด

เพราะมีเกิด จึงมีตาย
เพราะมีตาย จึงมีเกิด

จะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ก็ต้องสิ้นกิเลส สิ้นเชื้อแห่งการเกิดใหม่

หากยังไม่สิ้นกิเลส จิตยังมีเชื้ออยู่ เมื่อตาย ก็ต้องเกิดอีก... เมื่อเกิด ก็ตายอีก...ไปเรื่อยๆๆๆๆๆ

เมื่อสิ้นกิเลส ท่านไม่เรียกว่าตาย... แต่ท่านเรียกว่า ดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ย่อมไม่มีการเกิดใหม่อีก ไม่ว่าในภพใดๆ

จึงยุติเรื่องราวทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง



อนุปา ทิเสสะ นิพพานธาตุ
จึงสิ้นชาติ เพราะขาดจบ ทั้งภพสาม
อมตธาตุ ปรากฏ สุดงดงาม
หยุดเวียนตาม ตายเกิด ประเสริฐเอย ๆลๆ

ตรงประเด็น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 107 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร