"""""""""

หนู...


ผม ขอเรียกตนเองว่า อา แล้วกัน
อา มารับฟังน่ะ
เห็นใจ และ ปราถนาอย่างยิ่งให้หนูพ้นทุกข์

มีอะไรมาเล่าระบายให้ผู้อื่นฟังได้



หนูลองอ่านนี่ดูก่อน

อ่านหลายๆรอบ อ่านช้าๆ ค่อยๆพิจารณา

วันนี้อ่าน...พรุ่งนี้อ่านอีก...วันข้างหน้าอ่านอีก ๆลๆ
ทุกๆครั้งที่อ่าน เราจะค่อยๆซึมซับพระธรรมที่ท่านแสดง และ จะค่อยๆเข้าใจชีวิตมากขึ้นไปเรื่อยๆ


เขานินทาเรา


พลิกนิดเดียว

โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

วัดป่าสุนันทวนาราม
บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=555

เขานินทาเรา ด่าเรา เขาแย่งของเราไป ฯลฯ
เราไม่พอใจ เรากำลังจะโกรธเขา ต้องรีบแก้ไขทันที
“เขา” ไม่สำคัญ สำคัญที่ ใจ เรากำลังจะเป็นทุกข์
เรากำลังจะผิดศีล กำลังจะผิดข้อวัตรของเรา
ระวังนะ..... ถ้าเราเป็นทุกข์ เราก็ผิดข้อวัตรของเราแล้ว
ผิดศีล เราก็บาปแล้ว
เราต้องมี หิริ โอตตัปปะ ละอายต่อบาป เกรงกลัวต่อบาป
ถ้าเราเป็นทุกข์ เราผิดศีล เราก็บาป

ใครเขานินทาเราก็ไม่สำคัญ เขาทำอะไรๆ เราก็ไม่สำคัญ สำคัญที่ใจเรา
สำคัญที่ใจเราอย่าเป็นทุกข์เท่านั้นก็พอแล้ว
ไม่ต้องดูใคร ไม่ต้องฟังใคร ดูกายกับใจของเรานี่แหละ
เราต้องเป็นที่พึ่งของเราเอง
อัตตา หิ อัตตโน นาโถ นะ
เราขึ้นอยู่กับคำพูดหรือการกระทำของคนอื่นไม่ได้หรอก
ระวังนะ..... คนโน้นคนนี้ก็ไม่สำคัญหรอก สำคัญที่จิตของเรานี่แหละ
ใครทุกข์ก็ไม่ต้องทุกข์ตามเขา ไม่ต้องโต้ตอบ ไม่ต้องชี้แจง ไม่ต้องกลัว
สำคัญที่ใจเราอย่าเป็นทุกข์นะ
ถ้าเราทุกข์เราผิดแล้วนะ ไม่ใช่เขาผิดหรอก
ต้องรีบพิจารณาแก้ไขทันที

พลิกนิดเดียว แล้วอยู่อย่างมีความสุข

คนเราจะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์อยู่ที่ความคิดนิดเดียว
พลิกนิดเดียวเราก็จะไม่เป็นทุกข์
พลิกนิดเดียวก็จะเปลี่ยนจากมิจฉาทิฏฐิมาเป็นสัมมาทิฏฐิ
จากความคิดผิดเป็นความคิดถูก
จากทางโลกมาสู่ทางธรรม
พลิกนิดเดียวเราก็จะอยู่ได้อย่างไม่มีทุกข์
อยู่กับปัจจุบันได้อย่างสงบ
ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นแต่ละขณะอย่างสมบูรณ์


หรือ ถ้ามีเวลา ก็ลองเดินทางไปพบท่านดู




ปล...

แต่ ถ้ามันเครียดมากจริงๆ ไม่ไหวจริงๆ ก็ควรพบนักจิตวิทยา หรือ จิตแพทย์ด้วยน่ะ
การไปพบจิตแพทย์ ไม่ใช่ หมายถึงว่า ต้องเป็นบ้า แบบที่ในหนังภาพยนต์ไทยชอบแสดงกัน

ในอเมริกา การพบจิตแพทย์ถือเป็นเรื่องปกติมาก... ระดับบุคคลสำคัญ ต่างต้องมีจิตแพทย์ประจำตัวทุกคน

เวลาเราเครียด หรือ ซึมเศร้ามากๆ ระบบประสาทมันจะผิดปกติไปด้วย
เราอาจจะต้องรับการรักษาทางจิตบำบัด หรือ รับยาเข้าไปปรับดุลย์ของระบบประสาทช่วย นอกเหนือจาก พระธรรม บ้าง....ในบางครั้ง



ขอให้พ้นทุกข์

ชีวิตคนเรา เจอทั้งดีและร้าย ตอนนี้ฟ้าอาจมืดครึ้ม แต่ไม่นานก็จะกลับมาสดใส เวลาเรามีความทุกข์ ขอให้ดูคนที่ทุกข์มากกว่าเรา เราลองมองคนดูในสังคมก็จะเห็นว่า บางคนล้มนิดเดียวก็ล้มเหลวไปทั้งชีวิต ในรายการตี10 เด็กชายตาบอดสนิท มานะอดทน จนได้ทุนไปเรียนต่างประเทศนี่ขนาดเขามองไม่เห้นนะ ขอให้ทำจิตใจของตนเองให้เข้มแข็ง ทำบุญกุศลให้มาก จิตใจจะได้มีภูมิคุ้มกันความทุกข์ ให้คิดว่า สักวันมันก็จะผ่านไป เมื่อถึงตอนนั้น เราจะรู้สึกว่า สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นประสปการณ์ที่น่าจดจำ หากเราคิดว่านี่เป้นวิบากกรรมของเรา ก็ให้หมั่นสวดมนต์ แผ่เมตตา แล้วอุทิศไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หากตอนที่เราอุทิศให้เขา แล้วตัวเรารู้สึกขนลุก มีปิติ แสดงว่า เขาเหล่านั้นได้รับแล้ว ให้ทำเป็นประจำ เพื่อตัดเวรตัดภัย ขอให้พ้นภาวะนี้ไปให้ได้นะครับ เสียอะไรเสียได้อย่าให้เสียใจ เสียอะไรเสียไปอย่าให้ใจเสีย

หนูเอ๋ย ลุงเอาใจช่วยนะ หนูก็ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาสองครั้งใหญ่ๆแล้วก็ยังอยู่ได้ <แต่โดยทนทุกข์>

คราวนี้ก็มีโจทย์มาใหม่ เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้โดยไม่ทุกข์ จะทำอย่างไรดีละ

ลองแบบนี้ดูก็ได้ พิจารณาเหตุการณ์ต่างๆอย่างรอบคอบ โดยเริ่มดูที่ตัวเราก่อน ว่า

มีคำพูด การกระทำ ท่าทีลีลา อะไรบ้างใหมที่จะทำให้เขาเหล่านั้นไม่ชอบใจ หรือเข้าใจผิด หรือฯลฯ
ถ้ามีก็แก้ใขให้ดี ถ้าไม่มีแสดงว่าอาจมีกรณีอื่นๆที่เราไม่รู้
ให้แผ่เมตตาให้ตัวเองมากๆให้เป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เป็นทุกข์เลย แล้วจึงแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นด้วย

จากนั้นก็คิดว่า มีคนตั้งมากมายถูกนินทา ใส่ร้าย เพิ่มเราเข้าไปอีกคนเป็นไรไปละ จะได้ฝึกวิชาอดทน วิชาทำใจ
เมื่อเวลาผ่านไปหนู จะได้รู้ว่าเหตุการณ์มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย ยิ่งถ้าผ่านไปได้ด้วยดี ก็จะทำให้หนูแข็งแรงขึ้น
หนูอายุเท่านี้มีโจทย์มาให้ฝึกฝนมาก นับว่าเป็นโชคดี
ต่อไปหนูจะเข้มแข็งสามารถสู้กับอุปสรรคต่างเป็นที่พึ่งของพ่อ แม่ได้ ก็ขอให้หนูมีกำลังใจผ่านไปได้ด้วยดีนะ
หรือถ้าไม่ไหวจริงๆก็หลังไมค์มา ลุงจะหาเบอร์คนที่ให้กำลังใจเก่งๆ หรือเบอร์ศูนย์ฮอทไลนวัยรุนไวให้

ไม่ต้องใส่ใจค่ะเรารู้จักตัวเองมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
ต้องเข้มแข็งเข้าไว้อดทน
เค้าสร้างเรื่องเค้าก็ทุกข์ของเค้าเอง
เราจะไปทุกข์กับเค้าทำไม
สู้ สู้ น่ะค่ะ น้อง

อัพพะยา ปัชฌัง สุขัง โลเก
การไม่เบียดเบียนกันเป็นความสุขในโลก

การไม่เบียดเบียนกัน ก็ต้องมีความรัก มีความเมตตากัน
ความรักที่เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของเรา
เราควรรักอะไร?......เราควรรักพระพุทธเจ้า
รักพระธรรม รักพระสงฆ์ ให้มาก เมื่อเจออุปสรรคใดใด
ก็ไม่ย่อท้อ และนำเอาปัญหานั้นมาเป็นแบบฝึกหัด
โดยใช้สติ และปัญญา ที่ได้มาจาก การอ่านฟัง
เข้าใกล้ผู้รู้ ผู้ที่ผ่านโลกมาก่อน เช่น เข้าวัดฟังธรรม
ซักถามปัญหาชีวิตกับผู้มีประสบการณ์
โดยขอแต่เรามีขันติธรรม มีสติ และเอาปัญญา
เอาธรรมะมาเป็นประทีปส่องทาง ทำให้เราเดินไม่ผิดทาง เดินได้ถูกทาง
เป็นไปด้วยความเรียบร้อยก้าวหน้า ชีวิตจะไม่ตกตำ
ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้เหล่ากัลยาณมิตร

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ..........

ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะคะ ตั้งใจเรียนนะคะอีกแค่ไม่กี่เดือนก็จบแล้ว พี่เชื่อว่า เราเป็นคนดีก็จะต้องได้ดีนะคะ ตั้งใจสอบให้ได้เกรดดีๆ เพื่อจะได้ทำงานดีๆนะคะ ขออนุโมธนาบุญที่ได้สะสมมา ขอให้น้องประสบเจอแต่สิ่งดีๆต่อไปในอนาคตนะคะ อย่าไปท้อแท้กับเรื่องนั้นะคะ สู้ๆค่ะ

คุณน้ำตกสีเขียว
เช่นนั้น ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ทุกข์คลายสร่างจากความไม่สบายใจคับแค้นใจ

ในพระธรรมบท ทรงตรัสสอนว่า

การนินทาหรือการสรรเสริญนี้มีมาแต่โบราณ มิใช่มีเพียงวันนี้
คนย่อมนินทาแม้ผู้นั่งนิ่ง แม้ผู้พูดมาก แม้พูดพอประมาณ
ผู้ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก บุรุษผู้ถูกนินทาโดยส่วนเดียว หรือถูกสรรเสริญโดยส่วนเดียว ไม่มีแล้ว จักไม่มี และไม่มีในบัดนี้ (คาถาธรรมบท โกธวรรคที่ 17)

เพียงแต่ความโกรธ ความคับแค้นใจรุมเร้า เพราะความนินทา ทำให้ปัญญาถูกบดบัง ซึ่งผู้นินทา คุณน้ำตกสีเขียว ย่อมบรรลุวัตถุประสงค์ของเขาและต้องการให้เป็นอย่างนั้น

สิ่งที่หนูต้องการตอนนี้มากคือ สิ่งไร? ไม่ใช่หยุดการนินทาของผู้อื่นหรอก ปากของผู้อื่นไม่ใช่ปากของเราจริงหรือไม่
กำลังใจ ต่างหากเป็นสิ่งที่ต้องมีในขณะนี้

ในพระสูตรได้กล่าวดังนี้
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต มหาวรรคที่ ๕)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็คำที่เรากล่าวว่า กำลังใจพึงรู้ได้ในอันตราย...คนมี
ปัญญาทรามหารู้ไม่ ดังนี้
นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยอะไร

บุคคลบางคนในโลกนี้ กระทบความเสื่อมญาติ กระทบความเสื่อมโภคทรัพย์ หรือกระทบความเสื่อม
เพราะโรค ย่อมไม่พิจารณาอย่างนี้ว่า โลกสันนิวาสนี้เป็นอย่างนั้นเอง การได้
อัตภาพเป็นอย่างนั้น ในโลกสันนิวาสตามที่เป็นแล้ว ในการได้อัตภาพตามที่เป็น
แล้วโลกธรรม ๘ คือ ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑ ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑
นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑ ทุกข์ ๑ ย่อมหมุนเวียนไปตามโลก และโลก
ย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ดังนี้
บุคคลนั้นกระทบความเสื่อมญาติ กระทบความเสื่อมโภคทรัพย์ หรือกระทบความเสื่อมเพราะโรค ย่อมเศร้าโศก ลำบากใจ ร่ำไร ทุบอกคร่ำครวญ ถึงความหลงใหล

ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ กระทบความเสื่อมญาติ กระทบความเสื่อมโภคทรัพย์ หรือกระทบความเสื่อมเพราะโรค ย่อมพิจารณาอย่างนี้ว่าโลกสันนิวาสนี้เป็นอย่างนั้นเอง การได้อัตภาพเป็นอย่าง
นั้น ในโลกสันนิวาสตามที่เป็นแล้ว ในการได้อัตภาพตามที่เป็นแล้ว โลก
ธรรม ๘ คือ ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑ ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑
นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑ ทุกข์ ๑ หมุนเวียน ไปตามโลก และโลกย่อม
หมุนเวียนตามโลกธรรม ๘ ดังนี้ บุคคลนั้นกระทบความเสื่อมญาติ กระทบ
ความเสื่อมโภคทรัพย์ หรือกระทบความเสื่อมเพราะโรค ย่อมไม่เศร้าโศก ไม่
ลำบากใจ ไม่ร่ำไร ไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหล

ดูกรภิกษุทั้งหลายคำที่เรากล่าวว่า กำลังใจพึงรู้ได้ในอันตราย...คนมีปัญญาทรามหารู้ไม่ ดังนี้
นี้เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้ ฯ

ทำอย่างไรจึง จะมีกำลังใจ ก็ต้องละสิ่งที่บดบังปัญญา ครับคุณน้ำตกสีเขียว ซีงในพระสูตรก็สอน ครับดังนี้

(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ๔ โปตลิยสูตร)
อนึ่ง อาสวะที่เป็นเหตุคับแค้นและกระวนกระวายเหล่าใด พึงเกิดขึ้น เพราะความโกรธ
ด้วยสามารถแห่งการนินทาเป็นปัจจัย เมื่อบุคคลไม่โกรธด้วยสามารถแห่งการนินทา อาสวะที่
เป็นเหตุคับแค้นและกระวนกระวายเหล่านั้น ย่อมไม่มี คำที่เรากล่าวดังนี้ว่า ความโกรธด้วย
สามารถแห่งการนินทา พึงละได้ เพราะอาศัยความไม่โกรธด้วยสามารถแห่งการนินทา เรากล่าว
เพราะอาศัยข้อนี้.

ถ้าคุณน้ำตกสีเขียว ไม่ละความโกรธที่เกิดขึ้น ทุคติย่อมเป็นภพที่คุณน้ำตกสีเขียวจะได้รับต่อไปอีกยาวนานครับ ละ เสียเถิดครับความโกรธนั้น

บุคคลผู้ประทุษร้าย ต่อผู้ไม่ประทุษร้าย คุณน้ำตกสีเขียว ทราบไม๊ครับว่าผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับผู้นั้น ร้ายแรงกว่าที่เกิดกับคุณน้ำตกสีเขียวเป็นร้อยเท่านพันทวีครับ
คุณน้ำตกสีเขียว ดูที่พุทธพจน์นะครับ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ขตสูตรที่ ๑
ผู้ใด ย่อมสรรเสริญผู้ที่ควรนินทา หรือย่อมนินทาผู้ที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมค้นหาโทษด้วยปาก ย่อมไม่ได้ประสบสุขเพราะโทษนั้น ความพ่ายแพ้การพนันด้วยทรัพย์ทั้งหมด พร้อมด้วยตน มีโทษน้อย การที่ยังใจให้ ประทุษร้ายในท่านผู้ดำเนินไปดีแล้วนี้แหละ เป็นโทษใหญ่กว่า (โทษการพนัน) ผู้ที่ตั้งวาจา และใจอันเป็นบาปไว้ ติเตียนพระอริยเจ้า ย่อมเข้าถึงนรกสิ้นแสนสามสิบหกนิรัพ พุททะ และห้าอัพพุททะ ฯ

นั่นคือโทษหนักที่สุดสำหรับผู้นินทา ต่อผู้ที่ไม่ประทุษร้าย คือพระอริยเจ้า
ดังนั้น แม้โทษหนักก็ยังปรากฏแก่ผู้นินทา ต่อผู้ที่ไม่ประทุษร้าย เช่นเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะครับ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณน้ำตกสีเขียว คงมีกำลังใจในการละความโกรธ และไม่ใส่ใจต่อคำนินทา

ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ท่านสอนไว้ว่า



" คนเราเมื่อมีลาภ ก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมียศ ก็มีเสื่อมยศ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญ ก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้

จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม

นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกะธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้

ต้องคิดเสียว่าเขาจะติก็ช่าง ชมก็ช่าง เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ ก่อนที่เราจะทำอะไรเราคิดแล้วว่า ไม่เดือดร้อนแก่ตัวเราแลคนอื่น เราจึงทำ เขาจะนินทาว่าใส่ร้ายอย่างไรก็ช่างเขา บุญเราทำกรรมเราไม่สร้าง พยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ จะต้องไปกังวนกลัวใครติเตียนทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์ เปลืองความคิดเปล่าๆ "





ถ้าหมาหมี มีเขา เต่ามีหนวด
เหี้/ยตะกวด มีงา ผิดราศี
ถ้าควัน ไม่ปรากฏ แห่งอัคคี
มนุษย์นี้ คงจะพ้น คนนินทา

(สำนวนเก่า)


ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

(สำนวนเก่า)

อย่าท้อครับเป็นกำลังใจให้
ชีวิตนี้ไม่ได้มีแค่เพื่อนหนะ คนเราไม่ได้อยู่กับเพื่อนตลอดไป เดี๋ยวเรียนจบก็ต้องไปเจอที่ใหม่ คนใหม่
อย่าไปสนใจกับคำคนว่า คนเราหนีไม่พ้นคำนินทา เหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่า
นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต - ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
นั้นไง......เราทุกคน ต้องถูกนินทา
สัตว์ก็ยังถูกนินทา (ขนาดมันพูดไม่ได้)
สิ่งของยังถูกนินทา (นี่หนักไปใหญ่ จะร้อง จะพูด ยังไม่ได้ อยู่เฉยๆก็ยังโดน)
สายลม แสงแดด โดนหมด มนุษย์เราก็แปลก
งั้นทำใจเถอะครับ คนมีศีลเขาไม่นินทากันหรอก ไม่ใส่ร้ายกัน
แล้วเราจะไปสนใจทำไมกับคำพูดของคนที่ผิดศีล ไม่มีแม้แต่ศีล 5
สู้ต่อไปครับ รักษาศีลของตนให้ครบ คุณจะรู้สึกว่าตัวเองสูงกว่าคนอื่น
แผ่เมตตาให้เขา..........ทุกอย่างจะดีขึ้น เชื่อเถอะ

viewtopic.php?f=5&t=25002

ชอบอ่านการ์ตูนป่าวคะ สาระดีแถมทำให้อารมณ์ดีขึ้นด้วย
แม้ว่าความทุกข์จะยังอยู่ แต่ก็ทำให้เราได้คลายใจลงได้บ้างนะคะ
ลองไปเลือกอ่านดูค่ะ
หาสิ่งดีๆ ให้ตัวเอง ดีกว่ามัวจมอยู่กับเรื่องที่บางครั้งไม่สามารถแก้ได้ด้วยคนๆ เีดียว

ผู้...ที่ถูกคนอื่นอิจฉาริษยาพูดจาถากถางทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผู้นั้นจะต้องมีอะไรดีในตัวเอง เช่น เรียนหนังสือเก่ง มารยาทดีเรียบร้อย ฯลฯ
จนคนรอบช้างสังเกตเห็นได้ว่า เป็นจุดเด่น เด่นเกินหน้าเกินตาเค้า เพราะเค้าขาดแต่เรามี จึงอิจฉาว่าร้าย เพื่อสนองความรู้สึกของตน เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ตนขาด

สมมุติว่า เราไม่มีดีกว่าเขา เช่น เกเรียนโดดเรียนบ่อยๆ ผลการเรียนตกต่ำ ผลการเรียนสู้เขาไม่ได้ แถมยังขี้เหร่กว่าเขาอีก พวกเค้าคงไม่อิจฉาเรา


ดังนั้น จขกท. จงภูมิใจในความดีของตน ตั้งใจเรียนให้ผลออกมาดียิ่งๆขึ้นไป เท่ากับเราเอาชนะตนเองได้ ลบล้างคำสบประมาทกล่าวร้ายของผู้อื่นได้
ต่อไปภายหน้า ผลจากการฝึกความอดทนอดกลั้นต่อสภาพความบีบคั้นจากสิ่งรอบๆข้างได้
จะส่งผลให้เราเจริญก้าวหน้าในการเรียน ในการดำรงชีวิตในอนาคต

ถ้าใจไม่กระทบ ใครว่าอะไรเสียก็นิ่งเฉย

ทุกอย่างจะซาลงไปเองนะ

เพราะใครจะไปด่าว่าคนที่เขานิ่งสงบไม่มีปฎิกิริยาโต้ตอบละ??

เดี้ยวก็เบื่อไปเองแหละ

จริงไหม?


ใครจะด่า ใครจะว่า ช่างมัน
ใครจะชิง ใครจะชัง มันก็ช่างหัวเขา
แค่ตัวเรารู้เรา ก็ช่างเขาปะไร
ใครจะชัก ใครจะแช่ง ใครจะแกล้งใครจะหยัน
ก็ให้ช่างหัวมัน ก็ให้ปล่อยเขาไป
ใครจะชม ใครจะเชิด ว่าประเสริฐเลิศหรู
ตัวเรารู้เราอยู่ ปล่อยเขาชมไป
ใครจะรัก ใครจะเกลียด ใครจะเสียด ใครจะสี
ก็เรารู้ตัวดี ปล่อยเขาทำไป
ใครจะเมิน ใครจะมอง ใยจะต้องไหวหวั่น
ใครจะใส่ร้ายกัน ใยจะต้องสนใจ
ใครจะดี ใครจะเลวมันก็เรื่องของเขา
ใครจะนินทาเรา ใยจะต้องทุกข์ใจ
ใครจะล้อ ใครจะด่า ใยจะต้องว่าตอบ
ใครไม่สน ใครไม่ชอบ ใยจะต้องใส่ใจ
ใครจะคิดใส่ความ ใยจะต้องวุ่นจิต
หากตัวเราไม่ผิด จะไปคิดทำไม

***เกิดเป็นมนุษย์ สิ้นสุดแค่ตาย ประดุจดังท่อนไม้ ล้มทับโลกา
หมดลมเมื่อไหร่ หาประโยชน์ใดเล่า ล้วนต้องถูกเขาหามไปป่าช้า
ชีวิตยังมี สร้างความดีไว้เถิด ได้ไม่เสียชาติเกิดได้ไม่ต้องอายห มา
อันว่าความตาย คือสัจธรรมของเที่ยง สิ้นกับสำเนียงเน่าเหม็นขึ้นมา
จะเอาอะไร จะเอาอะไรกันนักหนา...