วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยเห็นในไทยนับถือแบบเถรวาท ก็เลยเรียนอภิธรรมบาลี เรียนบาลี แต่ในจีนนับถือมหายาน เรียนอภิธรรมสันสกฤต เรียนสันสกฤต อยากทราบว่าเนื้อหาแตกต่างกันมากมั้ยครับ ช่วยตอบหน่อยนะครับ รบกวนด้วย

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 28 ธ.ค. 2009, 15:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2009, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2009, 14:19
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เนื้อหาแตกต่างกันแน่นอนครับ เพราะขนาด พระไตรปิฎก บ้านเรายังพิมเอามาแก้ไขหลายครั้งเรย
ปัจจุบันสอน ธรรมมะหลงทางกันหมด และก้บอกว่า ต้อง สะสมบุญหลายๆๆชาติ เฮ้อ!!
ซึ่งทำให้เสียหาย จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาบาลีก็ได้ครับ ถ้าเข้าใจในหลักธรรมตีธรรมะให้แตก

ก็จะเข้าใจในบาลีโดยอัตโมติ ทำยังไงไห้เข้าใจในหลักธรรมเพราะมันยากมากไม่มีไครที่สามารถอธิบายไห้ได้

ทุกวัดที่สอนธรรม สอนเหมือนอ่านหนังสือ ให้ฟัง ให้ท่องจำ และก็ บอกว่าต้องมีหลักธรรมตัวนี้ในการดำเนินชีวิต สอนได้แค่นั้นจิงๆๆ และคนส่วนไหญ่ ก็ ไม่เคลีย เออๆ แบบ งงๆๆ เพราะแบบนี้จึงไม่มีไครสอนพระอภิธรรมอย่างจิงจัง เพราะคนสอนแทบทุกคนยังไม่สามารถถอดรหัสได้ จึงเน้นไปที่พระสูตร ซึ่งพระสูตรก็ส่วนมากพึ่งบัญญัติทีหลังโดยพราหมนั่นก็คือชาดก และก็อ้างว่าพระพุทธองค์ตรัส ทำไห้น่าเชื่อถือมากขื้น นี่แหละคือความล่มสลายขอศาสนาพุทธ ขนาดคำถามง่ายๆยังตอบกันไม่ได้ เช่น พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อะไร?

แน่นอนทุกคนต้องตอบเหมือนกันหมด นั่นก็คือ อริยสัจ 4 จิงๆๆแล้วถ้าดูให้ออกมันไม่ไช่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้

ความจริงโครงสร้างของโลกไบนี้ นั่นก็คือ ปรมัตธรรม คือธรรมมะ ทั้งหมด ปรมัต แปลว่า สิ่งที่เป็นจริง ถ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 อย่างเดียว

ธรรมมะอื่นก็ไม่ต้องเรียน มานั่งศึกษาแต่อริยสัจ 4 ก็พอ และทำไมยังไม่มีไครสำเร็จ อริยสัจ 4 คือธรรมะหมวดหนึ่งในพระอภิธรรม ที่ดึงมาเพื่อสอน ปัญจวัคคี ทั้ง ห้า โดย ใช้ ฌาน สอง พิจรานาใน อริยสัจ 4

จึง ทำให้ อัญญาโกณทัญญะ ขอบวชเป็น องแรก และ สูตรที่ สอง ก็คือ อนัตลักขสูตร ซึ่งทำไห้อีก สี่องค์
ที่เหลือ ขอบวชตาม จึงเกิด ธรรมจักรกัปวตนสูตร คนก็ไป คิดได้แค่ ตรัสรู้ อริยสัจ 4

ซึ่งยังไม่มีไครถอดรหัสได้ แต่ที่ผมเรียน มีผู้ ที่สามรถอธิบาย อภิธรรมได้อย่างลึกซึ้ง และกลายเป็นเรื่องง่ายไปเรย และสามารถมองโลกได้เหนือกว่าผู้อื่นเข้าใจโลกมากขื้น

บางที่บางสำนักก็สอน ให้นักหลับตา เพ่งจิต มองดวงแก้ว หรือ เดินจงกรมยกย่างเหยีบย ระลึกทุกย่างก้าว

ถามว่าถ้าทำได้ จะสำเร็จไหม๊ ถ้าบอกว่าสำเร็จ แสดงว่าคนตาบอด สำเร็จหมดทุกคนแล้ว เพราะคนตาบอดเวลาจะเดินไปไหนต้องมีสติต้องระลึกทุกย่างก้าวหมด เก่งกว่าเจ้าสำนักทุกสำนักอีก แค่นี้ก็ยังคิดไม่ได้
และก็บอกว่าสุข สุขจริงครับแต่พอลืมตาก็เหมือนเดิมทุกข์เหมือนเดิม และก็ไปนั่งดับไหม่ แต่ของผมสอนให้เผชิญกรรมอย่างชาญฉลาด โดย "หลักปัญญาวิมุติ" ไม่ไช่ให้นั่งหลับตา พระพุทธองค์บัญญัติธรรมไว้ไห้หมดแล้ว เรามีหน้าที่ต้องมาศึกษาว่ามานเอาไปไช้อย่างไร ไม่ไช่มานั่งหลับตาหา ยังไงก็ฝากไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักธรรมสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ mail_sclib_feel@hotmail.com ^^!

หมายเหตุ:(ธรรมของพระพุทธเจ้าต้องเป็นโสนิโสมสิการ เป็นคำตอบเดียว ไม่ลังเลสงสัย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 00:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


โปรดติดตามได้ในกระทู้เหล่านี้ค่ะ :

ความเข้าใจในพระอภิธรรม-เปรียบเทียบเถรวาทและมหายาน : มมร. :b8:
viewtopic.php?f=18&t=28069&p=165222#p165222

ประวัติความเป็นมาของพระอภิธรรม : วัดบุรณศิริมาตยาราม :b8:
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14797

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญมากครับ ปัจุบันมีหลายคำถามมาก แต่หาคนมาช่วยตอบที่สงสัยไม่ค่อยจะได้เลย ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะเมล์คำถามไปนะครับ ขออนุโมทนาบุญในน้ำใจทานของท่านผู้มีเมตตาจิตอย่างมากครับ สาธู

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 18:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้เกี่ยวไหมนะ

Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒

[๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ
เป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ

เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
แล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ
ต่างสกุลกันเข้ามาบวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม
ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต

พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า
ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ผิฉะนั้น
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤตดังนี้เล่า

ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ...

ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ

เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม ฯ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 29 ธ.ค. 2009, 18:02, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


มีศาสดามาอีกคนแระ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนอภิธรรม สั้น ๆ จิ (จิต) เจ (เจตสิก) รุ (รูป) นิ (นิพพาน)

เรียนให้จบ ไม่มีจบ เพราะ

๑. จริง เท็จ ยากจำแนก มีคนเขียนมากมาย บาลี สันสกฤต อธิบายหลายยุคหลายสมัย บางส่วนกลายเป้นปรัชญา อาหารสมองของนักคิด
๒. อายุเราสั้นเกินไปที่จะศึกษาให้หมด

ศึกษาให้จบ ง่าย
คือ ศึกษาเพื่อละ และปล่อยวาง

แต่ถ้าศึกษาโดยคิดว่า เพื่อเป็นอุปนิสัยในภายภาคหน้า (ถ้ายังท่องเที่ยวอยู่ในวัฎฎะ)โดยศรัทธาว่าเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า ก็อนุโมทนา สาธุ

ไปเรียนที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์
หรือ วัดระฆังครับ ตามแนวพม่า ดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


ชาติสยาม เขียน:
ไม่รู้เกี่ยวไหมนะ

อ้างอิงพระไตรปิฎก:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒

[๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ
เป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ

เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
แล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ
ต่างสกุลกันเข้ามาบวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม
ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต

พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า
ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ผิฉะนั้น
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤตดังนี้เล่า

ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ...

ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ

เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม ฯ


:b8: :b8: :b8:

เป็นการกล่าวถึงการขออนุญาตเรียนพุทธวจนะเป็น ภาษาฉันท์ (ฉันทสะ) ในสมัยพุทธกาล
ซึ่งผู้รู้กล่าวว่าคือ ภาษาพระเวท ที่ต่อมาคือ ภาษาสันสกฤต

มีปรากฏหลักฐานในพระวินัยปิฎก อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เพื่อความกระจ่างค่ะ :

เหตุผลที่ทรงเลือกภาษาปรากฤตประกาศพระศาสนา :
ศาสตราจารย์พิเศษเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
:b8:
viewtopic.php?f=18&t=28085&p=165468#p165468


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 29 ธ.ค. 2009, 23:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2010, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถาม
รบกวนขอถามปัญหาธรรมะ 16 ข้อ แต่ปัญญายังไม่แจ้ง มีบางส่วนที่ยังไม่กระจ่าง ไม่ทราบว่าที่นี่มีท่านผู้มีปัญญาท่านใดพอจะสละเวลามาตอบปัญหาของกระผมได้บ้างมั้ย ขอรับ

1. คำว่า “สมุจจยสังคหะ” แปลเป็นไทยว่า

2. คำว่า “บาป” กับคำว่า “อกุศล” เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

3. คำว่า “กุศล” แปลว่า


4. คำว่า ธาตุ 7 มีอะไรบ้าง

5. ในหนังสือโสตัตถกีมหานิทาน ของพระจุฬพุทธโฆษะ ได้กล่าวตำนานพระโพธิสัตว์ เรื่องพรหมฤาษีอยู่ในกถาพรรณนาพาหิรนิทานว่า พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพระฤาษี ได้เห็นแม่เสือกำลังจะกินลูกเสือ พรหมฤาษีเห็นดังนั้นจึงกระโดดจากยอดเขามัณฑะตกลงไปใกล้ปากนางเสือโคร่ง ให้นางเสือโคร่งกินเนื้อแทน ขอถามว่าเหตุการณ์นี้เป็นกุศลหรืออกุศลครับ อธิบาย?
บทว่า พฺยคฺฆิยา สกมหาสิ พฺรหฺมอิสิ

6. นักศึกษามีความขวนขวายในวิชาที่เรียน จิตจดจ่ออยู่ที่การค้นหาความรู้เป็นอารมณ์เดียว คือไม่มีโทสะ โมหะ โลภะ แบบนี้เรียกว่ากุศล ได้หรือไม่ และการอยากรู้อยากค้นหาความรู้เพิ่มเติมเป็นโลภะหรือไม่? เปรียบได้กับสามเณรพอศึกษาไตรปิฎกแล้วก็เกิดความอยากรู้ เพิ่มขึ้น อยากรู้ อยากเข้าใจมากขึ้นไปอีก แบบนี้เป็นโลภะหรือไม่อธิบาย?

7. การให้ทานของพระเวสสันดรในหนังสือพระพุทธเจ้า 10 ชาติ ไม่จัดเป็นการให้ทานที่มีอานิสงค์มาก เพราะไม่ใช่การให้ทานของสัปบุรุษ กล่าวคือ เป็นทานที่ให้แล้วทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ครั้งแรกให้ทานช้างเผือก ทำให้ฝนไม่ตกทั้งเมือง ชาวเมืองเดือดร้อนมาก ต่อมาให้ทานลูกตนเองให้เกิดเดือดร้อนต่อตนเองและลูกเมีย ใช่หรือไม่ จงอธิบาย?

8. นรก เปรต อสุรกาย และเดรัจฉาน เกิดจากอกุศล สัตว์บางชนิด เช่น ผีเสื้อบางชนิด มีชีวิตแค่ 1 วันก็ตาย แมงเม่าเกิดมาแค่ 15 วันก็หมดอายุ แต่เต่าหรือช้างมีอายุยืนถึง 100 กว่าปี ถามว่ารูปที่เกิดจากอกุศล เช่นเกิดเป็นสัตว์นรก เกิดเป็นเปรต รับกรรมในนรก เปรต สัตว์นรกบางตนเกิดในนรกได้ 15 วันก็ตาย สัตว์นรกบางตนอยู่ถึงกัปถึงกัลป์จึงจะตายไปเกิดใหม่ จากข้อความข้างต้น แสดงว่าผีเสื้อ+แมงเม่า เป็นสัตว์ที่มีบุญมากกว่าเต่าหรือช้างใช่หรือไม่ อย่างไร จงอธิบาย? และทำไมมนุษย์ในเอเชียจึงสรรเสริญคุณเต่ากับช้างว่าเป็นสัตว์มีบุญมากจริงหรือไม่? เต่าเป็นสัตว์ที่มีบุญมากจริงหรือ? รูปอกุศลที่เกิดเป็นเดรัจฉานแล้วอายุยืนเหมือนเปรตเกิดในนรกแล้วอายุยืนถือว่ามีบุญ แต่เปรตเกิดในนรกได้ 15 วัน แล้วไปจุติในภพใหม่ถือว่าไม่มีบุญจริง?


9. เปรตบางพวกมีร่างกายสูงใหญ่ มีตัวสูงโต มีอายุได้ 50 วัน เปรตบางพวกมีกายคล้ายมนุษย์ไม่สูงมาก มีอายุ 100-200 ปี ถามว่าเปรตประเภทไหนที่มีบาปมากกว่ากัน โดยความเป็นเปรตกำเนิดแตกต่างกันหรือไม่ เพราะต่างกันแค่รูปร่าง แต่ความเป็นเปรตเหมือนกัน



10. พล่ากุ้งหรือกุ้งเต้น เป็นอาหารที่นำลูกกุ้งตัวเล็กๆที่มีชีวิต ยังมีชีวิตอยู่ มาใส่เครื่องยำมะนาว น้ำตาลพริก พอรับประทานเข้าไปเคี้ยวเข้าไปในปาก กุ้งก็จะเต้นดิ้นไปมาในปากดังกุ้บๆ เพราะถูกเคี้ยวทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ ถามว่าการนำอาหารแบบนี้ไปถวายพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ชี เหมาะสมหรือไม่ และการทำอาหารแบบนี้ในเมืองพุทธ คนทำก็บอกว่านับถือพระพุทธศาสนาเหมาะสมหรือไม่ และบาปมั๊ยครับ?


11. การรับประทานนมเปรี้ยวขวดละ 6 บาท เช่น ยาคูลล์,บีทาเก้น ข้างขวดเขียนว่ามีจุลินทรีย์ (สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กคล้ายๆมด) ที่มีชีวิตกว่า 20,000 ล้านตัว รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ในขวดนม รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ เมื่อนำแว่นขยายที่ขยายกว่า 100 เท่า ก็เห็นเป็นสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากมาย การนำนมเปรี้ยวไปถวายรพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ชี แล้วข้างๆขวดก็เขียนว่า “มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตกว่า 20,000 ล้านตัว” ในขวดนี้ ถามว่าการรับประทานเข้าไป โดยที่ป้ายข้างขวดก็เขียนว่า “มีสิ่งมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ในขวดนมนี้กว่า 20,000 ล้านตัว” เป็นบาปหรือไม่? เพราะเหตุใด? จงอธิบาย?


12. ในสมัยโบราณภิกษุสามเณรที่อยู่บนที่ราบสูงไม่ติดทะเลไม่เคยพบหอยนางรม กล่าวคือ มีลักษณะเหมือนก้อนหิน (หอยแครง,หอยลายก็แข็งเหมือนก้อนหิน) ประชาชน+สามเณรไม่ทราบว่าเป็นสิ่งมีชีวิต คือ ไม่มีตา หู จมูก ปาก ไม่เคลื่อนไหว ไม่กระดุกกระดิกนิ่งๆ จึงนำมารับประทาน สามเณรก็นำมาจากประชาชน นำมาต้มใส่กระทะแล้วรับประทาน ถามว่าหอยเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ และบาปมั๊ย?


13. ในศาสนาฮินดู นิกายกาลี นิยมเชือดแพะ ไก่ แกะ เพื่อบูชาเทพเจ้า คือเจ้าแม่กาลี นักบวชสอนว่า ทำอย่างงี้จะได้ขึ้นสวรรค์ เพราะสัตว์ก็คือสัตว์ คนที่ทำก็ไม่ทราบว่าสัตว์มีชีวิตจะบาปมั๊ยครับ? และคนสอนจะบาปมั๊ยครับ? ต่อมาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน 500 ปี ได้บังเกิดศาสดา ชื่อ พระเยซู สอนว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่มีวิญญาณ สัตว์ไม่มีวิญญาณ สัตว์ก็คือสัตว์ การฆ่าสัตว์ไม่บาป แต่ฆ่ามนุษย์ด้วยกัยเท่านั้นที่บาป ฉะนั้นชาวตะวันตกที่นับถือคริสต์ จึงนิยมกีฬาล่าสัตว์กันมาก เช่น ยิงเป็ด ยิงหมาป่า เอาหนังมาทำเสื้อผ้า เพราะไม่บาป ตกลงบาปมั๊ยครับ? สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าไปตรัสห้ามพราหมณ์ฮินดูในการทำพิธีบูชายัญสัตว์ว่าผิดบาป แต่ก็มีคนไม่เชื่อ อย่างงี้เป็นมิจฉาทิฐิหรือไม่ครับ? แล้วสอนคนทำบาปมั๊ย? แล้วในศาสนาคริสต์คนสอนคนทำเป็นมิจฉาทิฐิเห็นผิดและจะตกนรกมั๊ยครับ?


14. คนที่สอนว่าฆ่าสัตว์ไม่บาป จัดเป็นความเห็นผิดอย่างรุนแรงหรือไม่? ส่วนคนทำก็ยังทำต่อไปถือว่าเห็นผิดมั๊ย? แล้วสามารถจำแนกเข้าหมวดอกุศลสังคหะได้มั๊ย?


15. จากข้อ 12 ต่อมาสามเณรและประชาชนได้มีโอกาสเดินทางไปต่างเมือง พบตลาดขายเนื้อสัตว์ มีหอยมาขาย และมีป้ายเขียนบอกว่า “หอยเป็นสิ่งมีชีวิต หอย 1 กิโล มี 12 ตัว” แต่ตนก็ยังยืนยันว่าทานได้ เพราะถึงหอยใครๆ จะบอกว่ามีชีวิต แต่ฉันไม่เห็นมันกระดุกกระดิกเลยโดยเฉพาะหอยนางรม แทบไม่เห็นตัวเลย หูตาก็ไม่มี มันไม่มีชีวิต ทานได้ เพราะใจคิดว่ามันไม่มีชีวิต เป็นบาปอกุศลสังคหะมั๊ยครับ? เป็นความเห็นผิดมั๊ยครับ?



16. ในปัจจุบันท่านคิดว่ามีมนุษย์ที่มีความเห็นผิดอย่างรุนแรง เยี่ยงพระเทวทัตมากมั๊ย? และในฐานะที่ท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พระพุทธองค์ตรัสว่า “เรารู้แล้วเราจักให้ผู้อื่นรู้ด้วย?” เราในฐานะชาวพุทธมีแนวทางเผยแพร่คำสอนอย่างไรบ้าง?

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron