ผมกับแฟนคบกันมา ปีกว่าแล้วครับ

แฟนเป็นคนชอบดูดวงมากเลย ผมยินดีมากถ้าเธอดูแล้ว

ดวงออกมาว่าเธอดวงขึ้น(ดวงดี) ทุกครั้งเธอก็จะมาเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเสมอ

วันนั้นผมไม่ได้ไปมหาลัยก็เลยไม่้ได้เจอกัน (ซึ่งก็ไม่ได้เจอกันทุกวันอยู่แล้ว)

แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรหา ทีนี้พอโทรไปน้ำเสียงเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป

ตอนแรกทำท่าจะไม่ยอมพูดหรืออธิบายอะไรเลย พูดอือ ๆ อา ๆ ถามคำตอบคำ

ตอนนั้นผมไม่คิดโมโหเธอเลยนะ แค่อยากจะรู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า

ถามไปถามมาสรุปว่า เธอไปดูดวงมา บอกว่าแม่นทุกเรื่องเลย

แต่หมอดูทักว่า กำลังจะต้องเลิกกับแฟน แล้วเธอก็มาคิดจริงจังเลยว่าต้องเลิก ๆ ๆ

บอกว่าไม่อยากคุย ไม่อยากเจอหน้าผม เพราะว่า จะตัดใจได้ง่าย ๆ

ผมเลยถามเธอกลับด้วยอารมณ์ขุ่น ๆว่า เชื่อหมอดูงั้นหรอ


ผมไม่เข้าใจว่าทำไมหมอดูจะต้องมาฟันธงชีวิตคนอื่นอย่างงั้นอย่างงี้ว่า

จะเลิก จะคบ ดวงจะตก ดวงจะเฮง ดีไม่ดีมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองไม่ใช่หรือ

ผมถามแฟนว่า ทำไมถึงเชื่อหมอดูคนนี้ถึงขนาดนี้ เธอบอกว่าเรื่องอื่นยังแม่นเลย

ผมนึกในใจแบบเด็ก ๆ แล้วเรื่องนี้มันจะไม่แม่นได้มั้ยล่ะ

ผมเลยถามเธอว่า ไปดูเรื่องอะไรมา เธอก็เล่าให้ผมฟัง

ผมฟังก็สรุปได้คร่าว ๆนะว่าที่หมอดูทายมาน่ะ มันคือตรรกะ ถ้า...แล้ว ถ้าไม่อย่างนั้น....จะ

คนที่มีประสบการณ์ชีวิตมากหน่อยก็ทายได้ปรื๋อแล้ว

วันนี้ผมเลยรู้สึกไม่สบายใจ แค่เวลาผ่านไปไม่กี่นาที จากความสุขมันก็กลายเป็นความทุกข์ซะแล้ว

ช่างไม่เที่ยงแท้จริง ๆ

ฝากถึงคนที่เป็นหมอดูนะครับ ทุกอาชีพต้องมีจรรยาบรรณเสมอ
แต่ผมไม่แน่ใจว่าการฟันธง หรืออะไรก็แล้วแต่ คือการผิดจรรยาบรรณหรือเปล่า

**หมอดูดี ๆ ก็มีครับ ที่ตักเตือนหรือเสนอแนะให้ระวังตัว ก็ถือเป็นตรรกะในชีวิตกันไป **





ขอบคุณทุกคนที่รับฟังปัญหาของผมนะครับ

คนที่เค้าเชื่อ ก็เชื่อเอาจริงๆ นะ พอแม่นหน่อย ไม่ว่าเรื่องไหนก็เชื่อเอาไว้ก่อน อิสตรี ก็อย่างนี้แหละครับ ผู้หญิงที่ดีที่สุดทีควรรัก ก็คือ แม่ของเราเอง คนอื่นๆ น่ะไม่ได้ครึ่งของความดี

เคยไปดูมา หมอดูบอกว่าจะเจอคนที่เป็นเนื้อคู่สองคนพอดีแฟนรู้เขาถามเราก็บอกไปหมด
แล้วก็ต้องมาทะเละกัน เพราะเขาแอบน้อยใจ ขำดีเนอะ

เห็นด้วยครับกับ ท่านเจ้าของกระทู้ หมอดูควรจะมีจรรยาบรรณ จริงแล้ววิชาหมอดู ก็มีจรรยาบรรณ ของหลักวิชาอยู่แล้วครับ แต่เนื่องด้วย ณ ปัจจุบัน วิชาหมอดูอ้างอิงอยู่ บน ฐานของธุรกิจมากเกินไป โดยเฉพาะหมอดู จะดูกันที่แม่นหรือไม่แม่น ด้วยคำจำกัดความ แม่นกับไม่แม่นเท่านั้น ทำให้ หมอดู บางท่านลืมจรรยาบรรณ ของ หมอดูไป

อาจารย์ผมสอนไว้อย่างนี้ครับ จำไว้นะ คนที่มาหาหมอดูเพราะเดือดร้อน ต้องการทางออก ดังนั้นอย่าทายอะไรที่กำลายกำลังใจเขานะ หาทางออกให้เขาโดยยืนหยัดบนหลักวิชาที่เรียน

ในฐานนะคนที่เรียนวิชาโหราศาสตร์ไทย คนนึง อยากจะเสนอมุมมองในแง่ส่วนตัวครับ ลองนึกดูให้ดีนะครับ วันนี้เรามีวิชาโหราศาสตร์ไทยอยู่ ก็ควรอนุรักษ์ไว้ ลองมองย้อนไปในอดีตซิครับ หลักวิชาของไทย เริ่มจะทะยอยหายไปจากเมืองไทย ผมก็คาดว่าซักวันนึง วิชานี้ก็คงจะหายไปเช่นกัน แต่วันนี้ ณ ปัจจุบันนี้ผมขออนุรักษ์ไว้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานเมื่อถึงเวลาที่จะส่งต่อ เขาจะรับหรือไม่รับผมก็ไม่ทราบ ผมทำได้ดีที่สุด ณ ปัจจุบันนี้แล้ว

เกี่ยวกับเรื่องทายคู่ ผมพอจะเล่าประสบการณ์ให้ฟังได้ครับ มีคนมาถามเรื่อง คู่ ว่าจะอยู่ด้วยกันไหม

คำตอบที่ได้จากผมก็คือ เอาอย่างนี้ไหม ผมพอจะชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสีย ของ ญ และ ช ให้ฟังได้จากดวง คุณก็ลองฟังดู ถ้าใช่ คุณก็ลองไปปรับตัวเพื่อให้เข้ากัน เพราะ อาจารย์ผมสอนมาว่า ในวิชาดูดวงที่เรียนมาไม่มีคู่แท้ อยู่ที่คุณจะเลือก ผมได้แต่บอก ข้อดีข้อเสีย ของแต่ละคนเพื่อปรับตัวให้เข้ากัน ในกรณีที่ คุณจะครองชีวิตด้วยกัน ส่วนคุณจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ มันเป็นการตัดสินใจของคนสองคนมากกว่า ไม่ใช่ผมหรือหลักวิชาตัดสินใจ


ด้วยความเคารพ

ถึก...จ้า

เป็นปัญหาใหญ่เหลือเกิน... เพราะผู้คนทั้งหลายหวังจะไปแก้ทุกข์ แต่ กลับไปหอบความทุกข์มานอนกอดทุกวันทุกคืน เพราะไปได้ยินเรื่องบาดใจมาจากหมอดูกันเป็นอันมาก ตกลงว่า อุตส่าห์เดินทางไปเสียสตางค์ให้หมอดูโดยไปซื้อความทุกข์กลับมาบ้าน นี่มันอะไรกันเล่า?

การวิ่งออกไปหาหมอดูนั้น ไม่เห็นว่าจะเกิดกุศลตรงไหนเลย เสียทั้งจิตใจ เสียเวลา และเสียสตางค์ด้วย ..เราควรจะเชื่อหมอดู หรือจะเชื่อเรื่องกรรมกันดี?

หากบุคคลใด นำชีวิตของตนเองไปฝากไว้กับคำพยากรณ์ของใครๆในโลกนี้ เขาย่อมประสบทุกข์เดือดร้อนได้เป็นอันมาก
พระพุทธเองค์จึงทรงตรัสว่า" หากเธอปรารถนาอยากรู้อนาคตของเธอ เธอก็จงดูที่กาย วาจา และใจของเธอในบัดนี้นั่นแหละว่า เป็นไปกับบุญหรือบาป"
หากอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีเมตตาต่อกันและกัน..เหตุใดจึงเที่ยววิ่งไปหาหมอดูอีกเล่า?
คนที่พูดบอกกล่าวเรื่องการทำนายทายทักอยู่นั้น มีศีลธรรมดีพอหรือไม่ ....เราก็ไม่รู้
ดังนั้น จงเชื่อมั่นในศีลของตน และคู่ครอง พากันตั้งตนไว้ชอบด้วยธรรม..แต่อย่าไปเชื่อคนอื่นเพราะเราไม่รู้จักศีลของ เขาเลย...ศีลเขาอาจจะไม่ดีก็ได้ จริงไหม?

คนเราพึ่งหมอดูเพราะต้องการรู้อนาคตของตัวเองค่ะ เพราะปัจจุบันคนเหล่านั้นไม่มีความมั่นใจในตัวเอง อยากหาแหล่งยึดใจ ซึ่งก็มักจะไปในทางที่มีคนบอกและแนะว่าควรจะเดินไปทางไหน

อย่าไปเชื่อเลยค่ะ หมอดูนั้นดูจากสถิติเท่านั้น ที่เคยออกมาแม่นก็เพราะมีคำถามหลอกล่อ และก็ดูสีหน้าค่าตาว่ามีทุกข์หรือสุข มีหวังหรือรอความหวัง

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับกรรมค่ะ ถ้าจะทุกข์ก็เพราะวิบาก ถ้าจะสุขก็เพราะผลบุญค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้

กรณีของน้อง ถ้าจะเลิกก็จะมีเหตุให้เลิก และเหตุผลของมันก็อยู่ที่กรรมในอดีต ถ้าจะสุขก็จะมีเหตุให้สุข แม้จะทะเลาะกัน สุดท้ายมันก็สุข เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์จึงสอนว่าอย่ายึดติดกับความสุขหรือทุกข์นั้น

ถ้าจะเชื่อ เชื่อตัวเองดีกว่า พิจารณาสิ่งที่เคยทำมาในอดีต และผลในปัจจุบันมันก็มาจากอดีตทั้งนั้น แก้ก็ต้องแก้ที่ปัจจุบันค่ะ อน่าเอาคำของคนที่ไม่รู้อดีตของเรามาเป็นแนวทางเลย ตัวเราต่างหากที่จะบอกได้ค่ะ

อิๆๆๆ กระทู้น่าจะยาว ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่า ผมขอยืนหยัดในฐานะ คนที่ศึกษา วิชาโหราศาสตร์ไทย ของแลกเปลี่ยนมุมมองนะครับ

จากข้อความของคุณchulapinan หมอดูนั้นดูจากสถิติเท่านั้น อันนี้เห็นนด้วยครับ เป็นหลักวิชาที่เกิดจากสถิติ ครับ

จากข้อความของคุณchulapinan ที่เคยออกมาแม่นก็เพราะมีคำถามหลอกล่อ และก็ดูสีหน้าค่าตาว่ามีทุกข์หรือสุข มีหวังหรือรอความหวัง ข้อความนี้ไม่เห็นด้วยนะครับ เพราะมีหมอดูบางท่านที่ ไม่ได้อ่าน จากสีหน้าหรือ คำถามหลอกล่อเท่านั้นครับ ลองมองในมุมกลับซิครับ ในกรณี ถ้าดูหมอแบบ
ออนเอ็ม โดยใช้เฉพาะข้อความ ไม่ใช้เสียงหรือกล้อง หมอดูจะทำอย่างไร ส่วนคำถามหลอกล่อ ในกรณีที่ ออนเอ็ม จะมีช่วงเวาลาให้ ผู้ถูกถามคิดก่อนที่จะตอบ

จากข้อความของคุณchulapinan คนเราพึ่งหมอดูเพราะต้องการรู้อนาคตของตัวเองค่ะ เพราะปัจจุบันคนเหล่านั้นไม่มีความมั่นใจในตัวเอง อยากหาแหล่งยึดใจ ซึ่งก็มักจะไปในทางที่มีคนบอกและแนะว่าควรจะเดินไปทางไหน ข้อความนี้เห็นด้วยครับ แต่ลองมองกลับไปใน ความจริง ผมขอตั้งคำถามง่ายๆๆเลยนะครับ คำถามของผม ลองไปเจอคนที่มีปัญหา เช่น ความรัก การเงิน การงาน ลองไปชวนแล้วให้ ทางเลือก2 ทาง คือ1ไปหาหมอดู 2.เข้าวัดเพื่อศึกษาธรรมเพื่อแก้ปัญหา ลองตั้งโจทย์แบบนี้ดูนะครับ แล้วถ้าเจอคนที่มีปัญหา คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเลือก ข้อ1 หรือข้อ2 ดังนั้นถ้าลองชี้แจงให้กับคนที่เชื่อวิชาหมอดูว่า หลักของวิชาคืออะไร ความแม่นยำเกิดจากอะไร น่าจะช่วยให้เขา คลายความเชื่อถือหมอดูแบบมุ่งมั่นลงไปได้

ผมให้มุมมองกับวิชาอย่างนี้ครับ เอาเป็นกราฟชีวิตก็ได้ คิดว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกัน จะเห็นว่า มีตัวเลข 4 แถว คือ วัน เดือน ปี เกิด และแถวที่4 คือผลรวม สังเกตง่ายๆๆครับ ทุกคนเห็นว่าทั้ง4 แถวคือตัวเลขอะไร แต่คนที่จะทำนายตัวเลขออกมาได้ ก็คือ หมอดู ในกรณีกลับกัน ถ้าเราเอาตัวเลขชุดนี้ไปให้ หมอดูซัก 4 คนทำนาย ผมกล้ายืนยันได้เลยว่า หมอดูทั้ง 4 คนนี้ จะทำนายไม่เหมือนกัน ก็จะกลายเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนออกมาว่า ตัวเลข ทั้งหมด จะทำนายได้หลายแบบ ดังนั้นไม่แปลก ถ้าใน ตัวเลข 1 ชุดที่จะมี ทำนายทั้งถูกหรือผิด สุดท้ายนี้ข้อทิ้งท้ายไว้นะครับ หมอดูก็เป็นคนธรรมดา เดินดินกินข้าวเหมือนทุกคนนั่นแหละครับ มีทุกข์ สุข เหมือนคนทั่วๆๆไป ไม่ได้ หมอดูก็ไม่ได้ มีความสามารถเกินคนปกติ ดังนั้น ก่อนที่จะเชื่อหมอดู ลองมองย้อนกลับไปดูเถอะครับว่า จริงแล้ว เรา ไม่ได้เชื่อหรือไม่เชื่อหมอดู ความจริงแล้ว เราเชื่อความคิดของเราต่างหาก


ด้วยความเคารพ


ถึก...จ้า

ผมยินดีมากที่สังคมจะมีหมอดูดี ๆ แบบคุณถึก..จ้านะครับ

แต่...ผมไม่ได้มีอคตินะ ปัจจุบันหมอดูที่ออกมาประกาศตัวปาว ๆ

ใช้คำศัพท์ คำพูด ที่กล่าวเป็นนัยว่า "ทายถูกแน่ ๆ" ตบท้ายด้วยเบอร์โทรติดต่อคิดราคาเป็นนาที

นี่มันอะไรกัน ดูเพื่อช่วยเหลือคนอื่น หรือเพื่ออตัวเองกันแน่

ผมไม่ทราบหรอกครับว่าวิชานี้เรียนกับอะไร แล้วเหล่าอาจารย์ของหมอดูสอนมาอย่างไรบ้าง

ผมเชื่อส่วนนึงนะครับว่า ศิษย์ดีเพราะมีอาจารย์(แต่อาจารย์ดีรึเปล่าไม่รู้ อีกเรื่องหนึ่ง)

และผมก็ไม่เคยลบหลู่เกี่ยวกับศาสตร์ด้านนี้เลย ออกจะรู้สึกทึ่งด้วยซ้ำ

ถามว่าตัวผมเคยดูดวงมั้ย ต้องเคยอยู่แล้ว (แฟนลากไป)

อาจจะเป็นเพราะผมเจอหมอดูที่ไม่สามารถบอกอะไร ที่จะทำให้ผมเชื่อว่าแม่น(อย่างที่ใคร ๆ พูด)

ผมเลยไม่ค่อยยึดติดกับการดูดวงเท่าไหร่


สุดท้าย ผมยังข้องใจอยู่เสมอ คือคำทำนายที่ว่าผมต้องเลิกกับแฟน หมอดูจะรู้มั้ยครับ

ว่าเค้านี่แหละคือตัวต้นเหตุ ที่กำลังจะทำให้ผมเลิกกับแฟน

ถึงตอนนี้ผมจะอธิบายและตกลงกับแฟนได้เรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปดูหมอกับใครอีก

....จรรยาบรรณ ครับ จรรยาบรรณ .... คำนึงกันไว้บ้าง



ครับ ผมอยากให้ผู้ทียึดติดกับการดูดวง ตระหนักถึงตรงนี้ให้มาก ๆ

เพราะบางครั้งคำทำนายก็ลอยไปกับสายลม หากคุณเลือกที่จะเชื่อตามความคิดของตัวเอง

ถ้าเรารู้ตัวเรา หมอดูจะไม่จำเป็นเลย
ถ้าเราเชื่อหมอดูจะมีอิทธิพลต่อชีวิตเรา ว.วชิรเมธี