วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 03:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2007, 07:09
โพสต์: 48

แนวปฏิบัติ: นั่งสมาธิ
งานอดิเรก: เลี้ยงสัตว์
ชื่อเล่น: โอ
อายุ: 27
ที่อยู่: ปทุมธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b5: ท่านคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องทำบุญ 9 วัด เฉพาะวัดที่มีความหมายดี (พร้อมอธิบายเหตุผล) ข้อมูลที่ได้จะนำไปเผยแพร่ในหนังสือพุทธศาสนา

:b1: 1.จำเป็น เพราะ..........
:b16: 2.ไม่จำเป็น เพราะ.............

.....................................................
ยึดมั่นในความดี กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


. :b8: :b8: :b8: .

ทำบุญ ๙ วัด ดีกว่า ทำบุญ ๑-๘ วัด

ทำบุญ ๑๐ วัดขึ้นไป ดีกว่า ๙ วัด


......

งมงาย

. :b41: :b41: :b41: .


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 11:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำบุญกี่วัดก็ได้ แต่สำคัญสุดที่ใจ

บางทีการไปทำบุญเก้าวัด อาจได้บุญน้อยกว่าทำบุญวัดเดียว
เพราะ
ทำบุญเก้าวัด ต้องเหนื่อยเดินทางไป จิตพะวงว่าจะครบเก้าวัดไหม ทำบุญแต่ละวัดก็ต้องรีบเพื่อที่จะเตรียมตัวไปวัดต่อไป
ส่วนทำบุญวัดเดียว จิตสงบ ไม่ต้องออกเดินทางไปไหนมาก เมื่อกายไม่เหนื่อยจิตจึงสงบ มีความเต็มที่ในการทำบุญ ถวายปัจจัยแก่พุทธศาสนา

การให้ทาน = ลดความตระหนี่ถี่เหนี่ยว
การสวดมนต์,นั่งสมาธิ = จิตเป็นสมาธิ มีกำลัง
ปฎิบัติกรรมฐาน = จิตมีสติ รู้ผิดรู้ชั่ว มีความผ่องใส สามารถละอกุศล ละมิจฉาทิฐิได้

จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมสงบสุขและมีความสุข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


"ไปมากี่วัดๆ ก็ไม่เท่าวัดตัวเอง"
ดียังไง ชั่วยังไง วัดตัวเอง

ไปพันวัด หรือสร้างหมื่นวัด
ถ้าวัดดีชั่วในตัวเองออกมาไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


จำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินมาจากไหน

เหมือนกับว่า พระพุทธองค์เคยกล่าวว่า มงคลมาจากไหน?อะไรที่เรียกว่ามงคล?
มงคลไม่ได้แสวงหาจากภายนอก มงคลไม่ได้มาจากชื่อ แต่มงคลหรือดวงของเราจะดีเมื่อ
ในขณะนั้นเรากระทำอะไรอยู่ สภาวะจิตของนั้นเป็นอย่างไร ถ้าการกระทำ จิตคิดดี นี่ก็เรียกว่า เป็นมงคลครับ งงไหมครับ

ผิดถูกยังไงโปรดชี้แนะด้วยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


narong_tak เขียน:
:b5: ท่านคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องทำบุญ 9 วัด เฉพาะวัดที่มีความหมายดี (พร้อมอธิบายเหตุผล) ข้อมูลที่ได้จะนำไปเผยแพร่ในหนังสือพุทธศาสนา

:b1: 1.จำเป็น เพราะ..........
:b16: 2.ไม่จำเป็น เพราะ.............


1. จำเป็น ตราบเท่ายังมีผู้ที่ต้องการทำสิ่งอันเป็นกุศลอยู่มาก...
สิ่งนี้ ก็เป็นช่องทางหนึ่ง... ของกิจกรรมอันเป็นกุศล... อันจะต่อยอดเจริญไปสู่กิจอันเป็น
กุศลอื่น ๆ ต่อไป

2. ไม่จำเป็น... สำหรับผู้ที่...เห็นว่ามันไม่ใช่สาระอะไรที่จะยึดไว้...

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ท่านคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องทำบุญ 9 วัด เฉพาะวัดที่มีความหมายดี (พร้อมอธิบายเหตุผล) ข้อมูลที่ได้จะนำไปเผยแพร่ในหนังสือพุทธศาสนา

:b1: 1.จำเป็น เพราะ..........
:b16: 2.ไม่จำเป็น เพราะ.............


ไม่จำเป็นครับ..
เพราะบุญไม่ได้อยู่ที่จำนวนหรือชื่อวัด แม้การประพฤติศีลอยู่บ้านย่อมมีอานิสงค์มากกว่าตระเวณทำบุญ ขั้นทานที่วัด..

หากตระเวณไปด้วยจุดประสงฆ์เพื่อความโชคดีมีทรัพย์ การตระเวณนั้นมีโลภะจิตนั้นนำไป โลภะเป็นฝักฝ่ายของอกุศล สิ่งที่เป็นอกุศลย่อมมิใช่บุญ ..ในระหว่างตระเวณนั้นจิตก็เป็นไปกับโทสะและโลภะด้วยอารมณ์ต่างๆที่มากระทบ บางคราวเห็นคนสวยก็มองด้วยความติดใจ นี่เป็นงานของโลภะ หากเจอรถติดอากาศร้อนคนแน่นต้องแย่งกันชุลมุนโทสะก็เกิด ในยามกราบพระอยู่ใจก็แส่ส่ายไปด้วยอารมณ์หลากชนิด หิวบ้างเหนื่อยบ้าง ฯลฯ หาความสงบได้ยากเต็มที เช่นนี้ก็ลองพิจารณาดูว่า หากนอนหลับอยู่ที่บ้านน่าจะไม่เพิ่มกิเลสเท่ากับการตระเวณไปเช่นนั้นกระมัง.. :b16:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งโจทก์ถามตนเองว่า ทำทำไม ทำไปเพื่ออะไร

เมื่อไม่ทำ ถามตนเองว่า ทำไมถึงไม่ทำ ไม่ทำเพราะอะไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


สร้างบุญกับการมาวัด......หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม



ถาม-การสร้างบุญให้กับตนเอง จำเป็นจะต้องมาที่วัดไหมครับหลวงพ่อ?


หลวงพ่อจรัญฯ- พระพุทธเจ้าสอน ให้รู้จักวัด 3 วัด ไม่จำเป็นต้องเป็นวัดที่มีพระสงฆ์เสมอไป วัดที่มีพระสงฆ์นั้น สำหรับบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร หรือเป็นที่ประกาศศาสนา ศึกษาเล่าเรียน เป็นโรงเรียน แต่ว่าวัตรปฏิบัติสำหรับตัวเองเรานั้น จะเข้าวัดดีไหม? หรือทำความสุข สร้างความเจริญให้แก่ชีวิต โดยที่ไม่ต้องเข้าวัดได้ไหม? ตอบว่าได้ แต่ต้องมี 3 วัด

1)วัดคน
2)วัดอารมณ์ อย่าให้อารมณ์เสีย ถ้าอารมณณ์เสียไม่เป็นวัด
3)วัดจิตวัดใจ เอาตราชั่งขึ้นมาดู เอาตราชูขึ้นมาชั่ง อย่าให้เสียหาย เข้าได้ 3 วัดนี้ ถือว่าไม่ต้องเข้ามาวัด ที่ทีอาคารสถานที่ที่มีพระอยู่......
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


๑. จำเป็นสำหรับท่านที่ ต้องการความมั่นใจ ต้องการพิธีกรรม เป็นการระลึกถึงอย่างหนึ่งว่า เคยทำบุญมาแล้ว
คิดถึงที่ไร ก็อิ่มเอิบใจ จึงเหมาะกับท่านที่มีความมั่นใจน้อย ศรัทธาอ่อนอยู่ ต้องการรูปแบบและพิธีการหน่อย
จะได้คุยได้หลายวัน หลายปี ทำให้ระลึกถึงได้ตลอด เรียกว่า อนุสสติ

๒. สำหรับท่านที่ศรัทธามั่นคงแล้ว เห็นว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องการพิธีกรรมต่าง ๆ เวลาทำบุญ
ทำที่ไหนก็ได้ ยึดความสบายใจเป็นหลัก ไม่ต้องท่องภาษาบาลีให้ยุ่งยาก พูดนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นพิธี
เช่น ถวายสังฆทานนะขอรับ หรือ ถวายปัจจัยสำหรับหลวงพ่อนะเจ้าค่ะ เป็นต้น

ศาสนาพุทธมีหลายแบบให้บุคคลหลายประเภทเลือก ต้องการเปลือก ต้องการกระพี้หรือต้องการแก่น

ศาสนาเปรียบเหมือนต้นไม้ พิธีการต่าง ๆ เรียกว่าเปลือก
แต่เปลือกนี้แหละที่ป้องกันแก่น คือศาสนาพุทธ คงอยู่ได้จนถึงวันนี้

ขออนุโมทนากับทุกท่านขอรับ.. :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 15:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




9-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94.jpg
9-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94.jpg [ 81.31 KiB | เปิดดู 6450 ครั้ง ]
ทำบุญมิใช่ สละบริจาคทรัพย์ อย่างเดียว

หัวกระทู้เหมือนมาสร้างกระแสหนังไทยเรื่อง9วัดเลยนะครับ :b16:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 16:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
....
ขออนุโมทนากับทุกท่านขอรับ.. :b8:


งั๊นตั้งใจ...รับ...ดี ๆ นะ.... :b32: :b32:

อิ อิ... แล้วเราจะ...ขอ...อะไรดี...น๊ออออ...

คุณแมงป่อง....

ตั๊บแก่....แอ๊~~~~~ :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b5: .กลัววอะ...อี๊ย~~~~

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 19:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องย่อ

เมื่อ เคราะห์กรรม มาหายใจรดต้นคอ เราบริจาคเงินทำทาน เราปล่อยนกปล่อยปลา เราถือศีลกินเจ เราทำบุญโลงศพ เราเปลี่ยนชื่อแซ่ เราไหว้พระ 9 วัด เราคิดว่าทุกสิ่งคงเพียงพอแล้ว…จริงหรือ?

ระหว่างการเดินทางไปแฮงก์เอ้าท์ที่เชียงใหม่ในช่วงวันหยุดยาว ณัฐ (เจมส์ แม๊กกี้) อิลลัสเตรเตอร์หนุ่มเด็กแนว หัวใหม่ รสนิยมดี ทนคำรบเร้าของ ปุ้น (นุ่น-ศิรพันธ์) แฟนสาวคอลัมนิสต์สุดเปรี้ยวของตนไม่ไหว จึงตัดสินใจแวะบ้านที่อุทัยธานีเพื่อเยี่ยมแม่ซึ่งตัวเองไม่ได้พบหน้ามา เกือบ 2 ปีแล้ว นิตยา (ต่าย เพ็ญพักตร์) แม่ของณัฐ ที่เชื่อในเรื่อง “เคราะห์กรรม” และการ “ทำบุญ” อย่างไม่คิดหาเหตุและผล เมือณัฐ กลับมาเยี่ยมบ้าน นิตยา จึง ขอร้องแกมบังคับให้ลูกชายไปทำบุญ “9 วัด” เพื่อสะเดาะเคราะห์ แต่ปฏิกิริยาของณัฐกลับเห็นว่าเป็นเรื่องตลกไร้สาระ

จังหวะเดียวกับที่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ณัฐ ได้พบกับ พระ สุจิตโต (ภราดร ศิรโกวิท) เพื่อนเล่นในวัยเด็กที่กำลังจะออกเดินทางไปธุดงค์ทางภาคเหนือ ณัฐ จึง ชวนซี้เก่าขึ้นรถไปด้วยกัน พร้อมกับแวะทำบุญเล่นๆ ตามวัดที่อยู่รายทาง ทั้งสามเริ่มรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เข้ามาจู่โจมในรูปแบบอันแตกต่าง และสังหรณ์มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นได้ตระเตรียมให้พวกเขามาร่วมเดินทาง ครั้งนี้ด้วยกัน

หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี หนึ่งสมณเพศ มุ่งหน้าขึ้นเหนือโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่า “เคราะห์กรรม” ที่พวกเขาเคยสร้างไว้ร่วมกันได้ขอ “ติดรถ” มาด้วย! เนื่องจากกรรมไม่เคยลืมที่จะเอาคืน และมันมีวิธีการเอาคืน…ในแบบของมัน










เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นไหมล่ะ
สื่อนี่ โง่แล้วชอบอวดฉลาด

ไปๆมาๆ คนก็เข้าใจว่าศาสนาพุทธก็เป็นอย่างในเรื่องเก้าวัดนี่แหละ
แล้วพยามจะบอกว่าต้องการสื่อเรื่องบุญบาปให้วัยรุ่น
แล้วไปสื่อแบบนี้นะ

ขอบอกเลยว่า เด็กน่ะ มันฉลาด จิตมันชื่อๆตรงๆ
ไม่มีทิฐิอะไรมากเหมือนผู้ใหญ่
เอาเรื่องไม่สมเหตุสมผลไปบอกไปสอนเขาน่ะเหรอ
ยิ่งผลักเขาหนีออกจากวัด
ส่วนพวกที่เชื่อ กลายเป็นพุทธแบบสีลพรตปรามาส
นานเข้าก็จะเป็นพวกพึ่งตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งดวง พึ่งการบนบาน การเสดาะห์เคราะห์
ไสยศาสตร์มนต์ดำ ฯลฯ


สูบบหรี่ ดูเผินๆมันไม่ได้เลวอะไรหรอก
แต่บุหรี่นี่แหละ มันพาไปเจอเหล้า
เหล้าพาไปเจอสิ่งเลวร้ายที่เพิ่มดีกรีขึ้นไปอีก
กิเลสมันร้าย มันค่อยๆครอบงำกดหัวเราทีละนิดทีละหน่อย
มันมีโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม ไปจนถึงปริญญาเอก


ความเข้าใจศาสนาพุทธก็เหมือนกัน
อย่าไปดูเบาว่าความเห็นผิดเล็กๆน้อยๆไม่ค่อยมีผล
นี่แหละ จุดเริอ่มต้นของมิจฉาทิฐิอันเหนียวแน่น

ตัวใครตัวมันเด้อ พี่น้องเอ๊ย
ศาสนาพุทธนี่ ของใครของมัน ตัวใครตัวมัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 75 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร