วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 14:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2010, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากรู้เกี่ยวกับเรื่องวิญญานสัมภเวสีค่ะ

(1)การทำบุญให้กับวิญญานสัมภเวสี

(2)เพราะเหตุใดถึงต้องไปเป็นวิญญานสัมภเวสี

(3)เพราะเหตุใด เรานั่งสมาธิแล้ว ส่งผลบุญให้กับวิญญานนั้นแล้ว
ทำไมวิญญานนั้นถึงรับไม่ได้ เพราะเหตุที่เรา
หรือเหตุที่วิญญาน (ซึ่งเราคิดว่า ท่านไม่น่าจะเป็นวิญญานสัมภเวสี)

ขอความรู้ด้วยค่ะ ถ้ามากกว่า3ข้อนี้ ก็ยิ่งดีค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆท่าน
ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องวิญญานสัมภเวสีค่ะ :b41: :b55: :b45: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2010, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำตอบเรื่องสัมภเวสีสำหรับคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ของท่านผู้ที่เคารพนับถือค่ะ

สัมภเวสี คือคนที่ตายด้วยมีอุปฆาตกรรมมาตัดรอน จิตจึงต้องทิ้งร่างก่อนที่จะถึงอายุขัย
แล้วไปโอปปาติกะอยู่ในรูปนามที่เป็นทิพย์ ที่มีรูปลักษณ์เหมือนเดิมก่อนตายทุกประการ

สัมภเวสียังอยู่ในภพมนุษย์แต่อยู่ในมิติที่ต่างกันมีอายุเท่ากับอายุขัยที่เหลืออยู่ของร่างเดิม
แล้วจึงจะไปปฏิสนธิหรือโอปปาติกะ อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสัตว์อยู่ในภพใดภพหนึ่งของวัฏสงสาร
เมื่อยังเป็นมนุษย์ที่มีกายหยาบอยู่ เขาชอบบริโภคอาหารชนิดใดและบริโภคประมาณเท่าใด
เมื่อตายไปเป็นสัมภเวสีแล้ว เขายังชอบบริโภคอาหารชนิดเดิมและปริมาณเดิม
เพราะสัญญาในการบริโภคยังคงมีอยู่

เนื่องจากเป็นรูปนามอยู่ในภพมนุษย์เดียวกันกับผู้ที่ยังไม่ตาย
วันเวลาของสัมภเวสีและวันเวลาของมนุษย์ จึงมีความยาวนานเป็นอย่างเดียวกัน

การช่วยผู้ที่ตายไปเป็นสัมภเวสี ไม่ให้ต้องทนทุกข์ทรมาน
สามารถทำได้บางส่วนด้วยการอุทิศบุญ อันเกิดจากการให้วัตถุเป็นทาน
ส่วนอกุศลวิบากที่ส่งผลให้ไปเกิดเป็นสัมภเวสี เขาต้องเสวยไปจนครบอายุขัย
แล้วจึงสามารถไปเกิดเป็นสัตว์อยู่ในภพภูมิอื่น ตามแรงผลักของกรรมที่ตนทำไว้ก่อนตาย

แม้จะไปเกิดเป็นสัตว์อยู่ในต่างภพภูมิ หากผู้อุทิศบุญสามารถสื่อสารถึงกันได้ เขาย่อมรับทราบได้
ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อหรือไม่เอ่ยชื่อก็ตาม

ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญที่ตนมีให้กับคนอื่นได้
แต่เขาจะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง คือ มีผู้อุทิศบุญ มีบุญที่อุทิศ และมีผู้มารับบุญ
หากปัจจัยสามอย่างนี้ถึงพร้อม การอุทิศบุญจึงจะสัมฤทธิ์ผล
(รับรู้ว่ามีผู้อุทิศบุญให้ แล้วตัวเองมาอนุโมทนาบุญ)

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 22 ก.ค. 2010, 22:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2010, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะคุณจันทร์ฯ :b8:
ที่นำข้อมูลมาให้ค่ะ เราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะว่าเดือน7วันที่14(ของจีน)
คนจีนจะทำพิธีไหว้ .วิญญานสัมภเวสี

ซึ่งปกติทุกๆปี เราก็ไหว้โดยการ
เผากระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ า ทุกอย่างจะเป็นกระดาษหมด
เราก็คิดว่าไม่น่าจะถูกน่ะ
คือมีความรู้สึกว่า ขัดกับความรู้สึกยังไงไม่รู้สิ

คุณจันทร์ฯคิดว่า การเผากระดาษให้พวกเค้า
เค้าจะได้รับแบบไหนค่ะ? :b41: :b55: :b45: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2010, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำตอบของคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ของผู้ที่เคารพนับถือค่ะ

ทรัพย์ภายใน(บุญ)เท่านั้นที่จะนำติดตัวไปได้ บุญเท่านั้นที่ส่งถึงกันได้ (อุทิศบุญกุศลให้ผู้ล่วงลับ)
เมื่อสัมภเวสีรับทราบว่า มีผู้อุทิศบุญให้ แล้วเขามาอนุโมทนาบุญเป็นทรัพย์ภายใน
บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติบุญกิริยาวัตถุ 10 ซึ่งผู้ได้ประพฤติแล้วจึงจะมีส่วนในบุญนั้น
และบุญติดตามข้ามภพชาติได้
ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสาร ถวายอาหาร ถวายผ้านุ่งห่ม ถวายวัดเวฬุวัน
แด่พระพุทธเจ้าและสาวก หลังอุทิศบุญกุศลส่งไปให้ญาติที่เป็นเปรตมารอรับส่วนบุญได้

ฉะนั้นการเผากระดาษเงินกระดาษทอง
มิใช่การกระทำที่เป็นบุญในพุทธศาสนา จึงไม่สามารถส่งให้กันได้
แต่เนื่องจากเป็นประเพณีที่ถือสืบต่อกันมา
หากไม่ทำตามจะอยู่กับสังคมที่มีความเชื่อในประเพณีแบบนี้ได้ยาก
เว้นไว้แต่ว่าเมื่อใดที่มีโอกาสแยกครอบครัวออกมาเป็นส่วนตัว ไม่ปฏิบัติก็ไม่ผิดอะไร

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอรบกวนคุณจันทร์ฯ ช่วยถามผู้เคารพนับถือ :b8: อีกครั้งน่ะค่ะ
เราจะตั้งโต๊ะอาหารไหว้ให้พวกเค้า
แล้วเปิดcdสวดมนต์ เค้าจะรับได้หรือปล่าวค่ะ
คือเราอยากจะให้พวกเค้าได้รับบุญ


เมื่อวันอังคาร (20 Jul 2010)
ตอนประมาณ5โมงเย็น เราขับรถอยู่ช่วงนั้นฝนตก
ใจเราก็คิดว่า เรายังไม่ได้ข้อมูลเรื่องวิญญานสัมภเวสีเลย
เราจะทำบุญให้เค้าแบบไหนดี เราก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง
เดินอยู่ข้างทาง ผมของเค้าจะกระเซอะกระเซิง
ผมยาวประมาณเลยท้ายทอย

เสื้อก็ขาดกระรุ่งกระริ่ง คือขาดทั้งตัว กางเกงก็เช่นกัน
ใจเราก็คิดว่า เค้าคงประสาทไม่ดี เพราะฝนก็ตก
ข้างทางก็มีแต่สวนปาลม์ แถวนั้นบ้านคนก็ไม่มี
เพราะเป็นถนนใหญ่ แต่พอเราขับรถไปถึงตรงจุด
ที่เราเห็นเค้าเดิน เราไม่เห็นใครเลย
เราก็จอดรถดู ด้านหน้าด้านหลัง ด้านข้าง
ไม่เจอใครทั้งนั้น เราก็เลยรีบแผ่อุทิศผลบุญให้เค้า

อ้างคำพูด:
สัมภเวสี คือคนที่ตายด้วยมีอุปฆาตกรรมมาตัดรอน จิตจึงต้องทิ้งร่างก่อนที่จะถึงอายุขัย
แล้วไปโอปปาติกะอยู่ในรูปนามที่เป็นทิพย์ ที่มีรูปลักษณ์เหมือนเดิมก่อนตายทุกประการ


ใช่ค่ะ รูปร่างเค้าเหมือนคนเราทุกอย่าง
ขอบคุณ คุณจันทร์มากค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับกุศลจิตที่ตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่นของคุณbbbyด้วยค่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้าง supernatural
ดิฉันขอส่งคำตอบให้ทางEmail ผ่านลานธรรมจักรนะคะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 24 ก.ค. 2010, 11:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2010, 16:40
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉะนั้นการเผากระดาษเงินกระดาษทอง
มิใช่การกระทำที่เป็นบุญในพุทธศาสนา จึงไม่สามารถส่งให้กันได้
----------------------------------------------------------------
ขอเสริมความคิดของผมในส่วนนี้ครับ
การเผากระดาษเงิน ทอง แบงค์ รถยนต์ บ้าน 9ล9
ไม่ใช่เป็นการส่งบุญแต่เป็นการ สมมุติวัตถุให้เห็นได้ด้วยตาของมนุษย์
ตามหลักทางคนจีนแล้ว การเผาต้องมีพิธีกรรมตามหลักศาสนานิกายที่ถูกต้อง ถึงจะได้วัตถุเหล่านั้น
ถ้าเปรียบได้ว่า เหมือนการเสกของทิพย์ของเหล่าเทวดาทั้งหลาย แต่นี้เป็นการกำหนดโดยผู้ให้เองว่าของทิพย์ที่ได้อนุโมทาไปต้องเป็นรถ เป็นบ้าน เป็นเงินเป็นทอง เพราะสัมภเวสีเหล่านั้นไม่มีกำลังพอที่จะเสกของทิพย์ที่เป็นวัตถุอันเกินกำลังตนเองได้
(ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนจีนส่วนใหญ่แล้วจะกราบไหว้สิ่งที่เห็นได้ด้วยตาสมมุติขึ้นมาเป็นรูป เป็นองค์)

สรุปว่า ผมคิดว่าของที่เผาไปนั้น เป็นของสมมุตให้เกิดเป็นรูปร่างตามความต้องการของผู้ให้ เพื่อให้ผู้รับได้ของที่ชอบที่พอใจ โดยไม่เกี่ยวกับการอุทิศส่วนบุญกุศล แต่เป็นการอุทิศวัตถุอันเป็นทิพย์แทน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้อุทิศต้องมีแรงบุญที่ใช้ในการส่งพอที่จะสามารถกำหนดสิ่งของที่เป็นกระดาษ ให้เปลี่ยนไปตามที่ผู้ให้ต้องการ

แรงบุญที่ใช้ในการส่ง หมายถึง ผู้ที่มีศีล ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ถ้าเป็นคนไทยก็จะ อาศัยพระพุทธรูป พระสงฆ์
เป็นต้น
เรื่องนี้มีมูลเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะครอบครัวเป็น ไทย-จีน เลยต้องทำพิธีทั้ง2แบบ
เผาที่วัดไทย แต่ทำพิธีกงเต็กจีน

ยิ่งมีแรงลม เรือสำเภายิ่งไปถึงจุดหมายได้เร็ว.

ข้อความด้านบนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวโปรดใช้วิจารณาญานครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณปฐมกรรมเขียน


อ้างคำพูด:
เรื่องนี้มีมูลเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะครอบครัวเป็น ไทย-จีน เลยต้องทำพิธีทั้ง2แบบ



คุณปฐมกรรม พอที่จะรู้ข้อมูล เดือน7ของจีนบ้างมั๊ย!ค่ะ เรามีความรู้สึกว่า
เดือน7ของจีนนี่ วิญญานของพวกเค้าแรงน่ะค่ะ เท่าที่เราเคยเห็นๆมา

แถวหมู่บ้านที่เราอยู่ ตรงท้ายสุดจะเป็นที่ฝังศพคนจีน พอถึงเดือน7จีน
คนจะเสียชีวิตแบบติดๆกันเลย คือเสียชีวิตแบบกะทันหันทั้งนั้นเลย
เราเคยถามคนแก่ที่นี่ เค้าก็บอกแค่ว่ากลางคืนกับตอนเช้ามืด อยู่ในบ้านดีที่สุด

ขอถามท่านผู้รู้ สำหรับเพื่อนซักข้อน่ะค่ะ คนที่มีบ้านด้านหน้า ตรงกับสะพาน
คือไม่ใกล้ และก็ไม่ไกล ส่วนด้านหลังเป็นฮวงซุ๊ย
เค้าจะแก้อาถรรพ์ต่างๆได้อย่างไรค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2010, 16:40
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เดือน 7 ของจีน คือเดือน 9 ของไทย จะมีวันสำคัญของชาวจีนคือ วันสารทจีน
จะมีพิธีกรรมเรียกว่า ประเพณีเทกระจาด โปรยทาน
เชื่อกันว่า ทางนรกจะเปิดประตูนรกเพื่อให้วิญญานในนรกขึ้นมารับของเซ่นไหว้ ของญาติมิตรทั้งหลาย (ก็เหมือนโลกมนุษย์ที่มีวันพบญาติ) ไม่แค่ได้รับการเซ่นไหว้เท่านั้น วันที่ประตูนรกเปิด ผู้เป็นญาติสามารถทำกุศลผลบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้รับเต็มจำนวนด้วย แต่ลำพังเพียงแรงกุศลของผู้เป็นญาติไม่พอ จำเป็นต้องอาศัย คณะสงฆ์ในการส่งบุญ(สำหรับญาติที่ตกนรกขั้นรุนแรง) ทั้งนี้ เหล่าสัมภเวสี ผีไร้ญาติยังได้ของเซ่นไหว้และผลบุญ ที่จัดไว้อีกด้วย(ต้องเรียกเชิญถึงได้รับ)

คติความเชื่อของจีน จะไม่ต่างอะไรกับโลกมนุษย์ในปัจจุบันเลย มีสูงมีต่ำ มีดำมีขาว มีผู้ปกครองสูงสุด มีผู้ใต้บังคับบัญชา มีการโกงกิน ผลบุญและเครื่องวัตถุต่างๆที่เราอุทิศให้ญาติแล้วนั้น บางอย่างจำเป็นต้องนำไปเป็นส่วย ในการผ่านทางให้กับสัมภเวสี ที่อดอยาก ไร้ญาติ ซึ่งเป็นธรรมเนียม(ทำแล้วสบายใจก็ทำ ทำแล้วไม่เดือดร้อนก็ทำ)

........................................................................................
***อ้างถึงตอนนั้นยายผมเสีย ต้องทำพิธีนำศพไปวัดเพื่อบำเพ็ญกุศล ญาติฝ่ายแม่ ก็จัดการนำศพยายขึ้นรถกะบะ นำผ้าคลุม จากนั้นจุดธูปที่มีความยาว 1เมตร เห็นจะได้ ธูปต้องไม่ดับก่อนที่จะถึงวัด และแม่ก็ให้คนไปแลกเหรียญ 25 สตางค์ 50สตางค์ 1 บาท 5บาท 10 บาท มาเป็นมากพอสมควร แม่บอกว่าตามความเชื่อแล้ว เวลาผ่านสะพาน ไม่ว่าเล็กหรือสะพานใหญ่จำเป็นต้องโยนเหรียญ เพื่อเป็นการเบิกทาง เป็นค่าผ่านทางให้กับดวงวิญญานใหม่ที่ยังไม่มีฤทธิ์มากพอ โยน 25 สตางค์ ก็สะพานเล็ก โยน 10 บาทก็สะพานใหญ่
เพราะสะพานแต่ละสะพานจะมีเหล่าสัมพเวสี มีฤทธิ์ไม่เท่ากัน ถ้าให้ผมคิด ผมคงคิดว่าเป็นการแบ่งอาณาเขตการปกครอง (ในหนังจีนเห็นโยนกระดาษเงินกระดาษทอง แต่ประเทศไทยเดียวโดนจับ ปรับ2000กว่าจะถึงวัดคงล้มละลายได้ อิอิ) (ถ้าเจอเหรียญตกอยู่ข้างทางแนะนำอย่าเก็บจะดีกว่า)
----------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้ยาว ต้องดูสภาพของการตั้งทิศของบ้าน และองค์ประกอบหลายๆจุด

ในกรณีนี้ เราต้องยกระดับให้ชั้นที่อยู่เสมอถนนเป็นชั้นหลัก โดยทำให้ชั้นนั้นเด่นขึ้นมา ขณะที่ชั้นที่อยู่โดนบันไดบังต้องไปใช้ในเรื่องรองๆลงไป

ทางคติไม่ว่าจะจีนหรือไทยจะมีความเชื่อเรื่องการรอดใต้สะพาน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิจะเสื่อม
ลองสังเกตุว่าที่ดินหรืออาคาร ที่ตั้งอยู่หลังสะพานลอยราคาจะถูกมาก เนื่องจาก
ถ้าคิดแค่เรื่องปกติก็คือ บังหน้าร้าน บังป้ายโฆษณา
แต่ถ้าเป็นคนจีนถือว่าเรื่องใหญ่มาก เป็นการปิดกั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์,ให้คนเหยียบย้ำ การค้าขายจะไม่เจริญ
แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเป็นความต้องการของทางหลวง ก็เลยมีวิธีแก้เคล็ดต่างๆเกิดขึ้น

1.เสือคาบดาบ ยันต์แปดทิศ กระจกแปดเหลี่ยม มีขายทั่วไป ติดไว้ที่ ที่มองเห็นชัดเจน (สำหรับทางแยกและชุมนุมวิญญาน ป้องกันได้ เพราะกระจกจะเป็นตัวสะท้อน)
ปล.เสือคาบดาบอย่าไปติดตรงข้ามกับบ้านผู้อื่นนะครับ เป็นการประกาศศึกทางอ้อมกันเลยทีเดียว
ส่วนด้านหลังเป็นสุสาน ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นด้านหลัง หรือกลัวผีอิอิ บ้านผมนำยันต์ ที่ได้มาจากโรงเจ ไปติดไว้ด้านนอกประตูและหน้าต่างทุกทางเข้าออกครับ สิ่งที่มองไม่เห็นกันไว้ดีกว่าแก้ครับ
---ลมเพลมพัด---

ข้อความด้านบนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและส่วนครอบครัวโปรดใช้วิจารณาญานครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
***อ้างถึงตอนนั้นยายผมเสีย ต้องทำพิธีนำศพไปวัดเพื่อบำเพ็ญกุศล ญาติฝ่ายแม่ ก็จัดการนำศพยายขึ้นรถกะบะ นำผ้าคลุม จากนั้นจุดธูปที่มีความยาว 1เมตร เห็นจะได้ ธูปต้องไม่ดับก่อนที่จะถึงวัด และแม่ก็ให้คนไปแลกเหรียญ 25 สตางค์ 50สตางค์ 1 บาท 5บาท 10 บาท มาเป็นมากพอสมควร แม่บอกว่าตามความเชื่อแล้ว เวลาผ่านสะพาน ไม่ว่าเล็กหรือสะพานใหญ่จำเป็นต้องโยนเหรียญ เพื่อเป็นการเบิกทาง เป็นค่าผ่านทางให้กับดวงวิญญานใหม่ที่ยังไม่มีฤทธิ์มากพอ โยน 25 สตางค์ ก็สะพานเล็ก โยน 10 บาทก็สะพานใหญ่
เพราะสะพานแต่ละสะพานจะมีเหล่าสัมพเวสี มีฤทธิ์ไม่เท่ากัน ถ้าให้ผมคิด ผมคงคิดว่าเป็นการแบ่งอาณาเขตการปกครอง (ในหนังจีนเห็นโยนกระดาษเงินกระดาษทอง แต่ประเทศไทยเดียวโดนจับ ปรับ2000กว่าจะถึงวัดคงล้มละลายได้ อิอิ) (ถ้าเจอเหรียญตกอยู่ข้างทางแนะนำอย่าเก็บจะดีกว่า)


คนที่นี่เวลาจะนำศพไปฝัง ญาติและผู้ตามไปส่ง จะตะโกนเสียงดังๆคำว่า "ถึงสะพานแล้วๆ"
ตรงนี้เราก็ไม่เข้าใจ แล้วก็โปรยกระดาษเงินกระดาษทอง
แต่ฮวงซุ้ยที่ใกล้ๆกับหมู่บ้านเราแรงมากๆค่ะ

คือตอนที่ กลุ่มสมาชิกเค้าจ้างคนมาทำประตูเข้าไป ในที่ฝังศพ
ทีนี้กลุ่มสมาชิกเค้าก็ ตำหนิช่างว่า ประตูทางเข้าแคบไป
ช่างเค้าก็บอก " ไม่แคบหรอก มาพร้อมกัน3คน(หมายถึงวิญญาน)ยังเข้าได้เลย"

ทีนี้เวลาที่คนในหมู่บ้าน ใครเสียชีวิต จะต้องเสียชีวิตตามๆกันไป จนถึง3คนทุกทีเลยค่ะ
คือพอฝังศพนี้แล้ว พอตอนกลางคืนหรือตอนเช้า จะต้องมีคนเสียชีวิตอีก
จนครบ3คน

แปลกน่ะค่ะ คำพูดของคนเรานี่ เวลาพูดถึงสิ่งที่มองไม่เห็นนี่ต้องระวังน่ะค่ะ

อ้างคำพูด:
ทางคติไม่ว่าจะจีนหรือไทยจะมีความเชื่อเรื่องการรอดใต้สะพาน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิจะเสื่อม
ลองสังเกตุว่าที่ดินหรืออาคาร ที่ตั้งอยู่หลังสะพานลอยราคาจะถูกมาก เนื่องจาก
ถ้าคิดแค่เรื่องปกติก็คือ บังหน้าร้าน บังป้ายโฆษณา
แต่ถ้าเป็นคนจีนถือว่าเรื่องใหญ่มาก เป็นการปิดกั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์,ให้คนเหยียบย้ำ การค้าขายจะไม่เจริญ
แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเป็นความต้องการของทางหลวง ก็เลยมีวิธีแก้เคล็ดต่างๆเกิดขึ้น


ไม่ใช่สะพานลอยค่ะ สะพานที่เราเดินข้ามนี่แหละค่ะ คือประตูบ้านเค้า
ไม่ว่าประตูนอกประตูใน ตรงสะพานพอดีเลย
คือบ้านเค้า จะเป็นทางคล้ายๆทางสามแพร่ง คือถ้าจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ก็ตรงใกล้ๆ
ประตูบ้านเค้าพอดี ส่วนด้านหลังคือฮวงซุ้ย ที่เราเล่าให้ฟังนั่นแหละค่ะ

คือบ้านเค้าเนี่ย ขายก็ไม่มีใครกล้าซื้อแน่นอน ทีนี้ถ้าไม่เปิดcdสวดมนต์
จะมีวิธีไหนแก้ได้บ้างค่ะ เราไม่กล้าแนะนำให้เค้าเปิดcdสวดมนต์
เพราะกลัวว่า จะไปทำร้ายวิญญานที่เค้าอยู่

ประตูด้านใน เค้ามีแก้ประตูใหม่ก็แก้ไม่ได้ ประตูบ้านเค้าก็เป็นประตูกระจกดำ
บ้านเค้ามีแต่เรื่องน่ากลัว เค้าไม่รู้จะย้ายไปไหน เพราะสามีก็เสียชีวิต
หลังจากย้าย เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน

ลูกชาย2คนสมองเสียพร้อมกัน หลังจากฝังศพสามี
ส่วนลูกชายคนโต จู่ๆก็ติดเล่นการพนัน ส่วนคนเล็กก็ติดยา
ชีวิตของเค้าหมดเลย จากชีวิตที่ดีๆน่ะค่ะ :b1: :b41: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2010, 16:40
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องเริ่มไปในทางไสยศาสตร์ซะแล้วอิอิ

เอาเป็นว่า ถ้าไม่ย้ายออกก็จะประสบแต่ชีวิตแบบเดิมครับ

เราไม่มีกำลังบารมีที่จะไปยุ่งอย่ายุ่งดีกว่าครับเรื่องพวกนี้ น่ากลัวเกินกว่าจะรับไหว
สิ่งที่มองไม่เห็น มันไม่สามารถช่วยได้ ถึงจะบอกว่าพระคุ้มครองก็ตาม แต่ช่องว่างของดวงแต่ละคนมีสูงมีต่ำ

***การเปิดเพลง ไม่เกี่ยวกับการทำร้ายวิญญานนะ ถ้าเปิดให้ถูกเพลง***
***เรื่องสะพาน ผมพิมพ์ผิด ความหมายคือสะพานข้ามถนนครับ***ไม่ใช่ทางยกระดับ :b29:

ที่ไหนไม่น่าอยู่อยู่แล้วร้อนก็ไม่สำควรจะไปอยู่
เรื่องนี้ไม่ใช่กรรม แต่เป็นทางเลือกที่เจ้าของบ้านต้องตัดสินว่าควรทำอย่างไรมากกว่า
แนะนำคุณ bbby ว่า แนะนำเขาแต่พองาม ให้เขาคิดเองตัดสินเอง อย่าไปบ่งชี้ให้เขาทำนู้นทำนี้

เหมือนหมอดู ต้องมีค่าครู ถ้าไม่มีค่าครูถือว่าผิด เพราะหมอดูต้องนำค่าครูไปทำบุญ ที่ตัวหมอดูเองไปเปิดเผยความลับชีวิต
****ที่เตือนแบบนี้ บางทีมันจะเป็นการไปขัดแข้งขัดขากับสิ่งที่มองไม่เห็นครับ****

ข้อความด้านบนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและส่วนครอบครัวโปรดใช้วิจารณาญานครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 51 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร