วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


.....ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส.....

จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร :b10: :b10: :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
.ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส.....

จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร



สั้นๆง่ายๆแค่เนี่ย :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
.....ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส.....

จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร


สวัสดีครับ ท่านประธาน

ภาคนี้เรียกว่าภาคสนทนา (หรือคุย) ธรรมกัน

ถามว่า จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร

ตอบ จิตผ่องใสคือจิตที่ไม่ขุ่นมัว :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b48:
น้อมนำธรรมเข้ามาสู่ตัว โอปนยิโก รู้ด้วยตนด้วยตัวของตนเอง..
ที่สำคัญมิใช่คิดและนึกจะทำให้ใจผ่องใสได้ ตองปฏิบัติค่ะ ...อยู่ในตัวในตนของทุกคน
ทุกข์ย่อมรู้.. สมุทัยย่อมละ ...นิโรธย่อมเพียรให้มาก ..มรรผลบันดลส่งผลตามกุศลกรรม...
"เมื่อจิตถูกขัดเกลาด้วยศีล จึ่งมีใจใสสะอาด..มิขุ่นมัว..
เจริญภาวนา ...สติตั้งมั้น รู้ทันบาปบุญคุณโทษ
พาใจให้สงบ ร่มเย็น สว่างด้วยปัญญา .
ด้วยกุศลกรรม ..รู้เท่าทันตัณหา.. อวิชชา.."

จิตผ่องใส..ไร้ความพยาบาท..อาฆาตใดๆ..
เบากายเบาใจ.. ปลอดโปร่ง.. อิสระ..นุ่มนวล..ว่องไว..
ที่สำคัญ..หากปรุงแต่ง..จิตมิปรุงแต่ง :b48:

..รู้สึกเหมือน..คนใจดี๊ใจดีๆ ทั้งๆที่ไม่มีอย่างนี้มาก่อน
.. รู้ .. ตื่น ..เบิกบานอยู่ในกาล..ค่ะ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตผ่องใสนั้นต้องปราศจากอกุศลจิตทั้งมวล มีแต่จิตที่ป็นกุศล ซึ่งทำให้ใจเบิกบาน ปิติสุข
แต่ถ้าจะให้ดีจิตว่างจะดีที่สุด เพราะปราศจากการปรุงแต่งใดๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรือ
อกุศล จิตจะปล่อยวางไม่ไปยินดียินร้ายทั้งสิ้น แค่ตามรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไปเท่านั้นครับ smiley

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ ค่ะ
ขออนุญาตนะคะ คุณหัสพล
จิตว่างต่างจากจิตบริสุทธิอย่างไรคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
.....ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส.....

จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร :b10: :b10: :b13: :b13:


อิ อิ ถามเขาแล้วจะมีเวลาเข้ามาอ่านมั๊ยน่ะ...

:b16:

ไม่รู้จิ่...

หึ หึ...ไม่รู้...มันก็คงจะเป็นอย่างที่มันเป็น...มั๊ง...หึ หึ

พอดีเอกอนไม่ค่อยชอบตามหา...อะไรประมาณนี้หรอก...
เพราะ... มันเป็นอะไรที่แปลก...หาเท่าไรก็หาไม่เจอ...
ไอ้ที่คิดน่ะ...ไม่เจอหรอก...
แต่ไอ้ที่เจอ...หุ หุ...ไม่ต้องคิด...อิ อิ :b13: :b13:

5555...อุ อุ ... :b13: :b13:



แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 10 ต.ค. 2010, 01:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 01:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบคุณ tongpon จิตว่างนั้นหมายถึง จิตที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีมีอะไรมากระทบก็แค่ดูและเห็นเท่านั้นไม่ได้เป็น ส่วนจิตบริสุทธิ์นั้นก็จะเหมือนกับจิตว่างแต่ต่างกันตรงที่ถ้ามีอะไร
มากระทบก้จะมีโอกาสเศร้าหมองได้ในบางครั้งถ้าสติตามรู้ไม่ทันครับ เท่าที่อ่านหนังสือธรรมะมาจากหลายๆเล่ม ตามความเข้าใจของผมเองเท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าใช่หรือไม่อย่างไรก็พิจารณาดูก่อน
เพราะกระดานตรงนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของแต่ละท่านครับ เพราะไม่สามารถจะเห็นตามกันได้ต้องอาศัยบุญบารมีที่สั่งสมกันมาของแต่ละบุคคลครับเพราะจริต(ความรู้สึกนึกคิด)ของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องจริตของมนุษย์ทั่วไปว่ามี 6 จริคด้วยกัน 1.ราคะจริต 2.โมหะจริต 3.ศรัทธาจริต 4.โทสะจริต 5.พุทธจริตและ 6. วิตกจริต
เอาไว้วันหลังจะมาบอกว่าจริตแต่ละข้อเป็นแบบไหน (ไม่ได้มีเจตนาที่จะอวดรู้ อวดเก่ง เพียงแค่เห็นว่า
มีประโยชน์สำหรับจริตบางคนเท่านั้นเองครับ)

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
.....ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส.....

จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร :b10: :b10: :b13: :b13:



สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ.

ความไม่ทำบาปทั้งสิ้น ความยังกุศลให้ถึงพร้อม ความทำจิต
ของตนให้ผ่องใส(ผ่องแผ้ว) นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.

จิตที่ผ่องใส หรือผ่องแผ้ว ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแก่ พระอริยเจ้าพระอรหันต์ทุกท่านในคืนวันเพ็ญเดือน 3 นั้น พระองค์ทรงหมายถึง อรหัตผลจิต ที่ผ่องแผ้ว แจ่มใส ไม่มีอาสวะอันใดจะฉาบทาได้อีกต่อไป เพราะบาป บุญอันใด พระอรหันตเจ้าก็ลอยไปได้หมดแล้ว
--------------

จิตที่สะอาด ... หมายเอาเฉพาะ การที่จิตไม่กระจัดจายและเกลื่อนกล่นไปตาม ไปด้วยกับบาปกรรมอันเป็นอกุศลกรรม เกี่ยวเนื่องไปกับอกุศลกรรมบถ 10

จิตที่บริสุทธิ์ หมายเอาเฉพาะ จิตในจตุตถฌานที่ปลอดโปร่งจาก การแสวงหากาม ไม่มีแล่นไปทุกขเวทนา ไม่จมอยู่กับสุขเวทนา ทั้งทางกายทางใจ เป็นจิตที่ควรแก่งานในการเจริญวิปัสสนา

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น่าจะเป็นว่า ละชั่ว ทำความดี ทำจิตให้ผ่องใส นะครับ
ท่านเจ้าของกระทู้คงจะเรียงลำดับผิด

และการทำจิตให้ผ่องใส น่าจะหมายเอา การสร้างความบริสุทธิ์สะอาดโดยมีปลายทางคือ
บริสุทธิ์สะอาดในระดับของการสิ้นอาสวะเป็นที่หมาย

:b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 22:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: อนุโมทนาสาธุค่ะ ท่านหัสพล และทุกๆท่านนะคะ
อ้างคำพูด:
ตอบคุณ tongpon จิตว่างนั้นหมายถึง จิตที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีมีอะไรมากระทบก็แค่ดูและเห็นเท่านั้นไม่ได้เป็น หัสพล พวงแก้ว


อ้างคำพูด:
จิตที่บริสุทธิ์ หมายเอาเฉพาะ จิตในจตุตถฌานที่ปลอดโปร่งจาก การแสวงหากาม ไม่มีแล่นไปทุกขเวทนา ไม่จมอยู่กับสุขเวทนา ทั้งทางกายทางใจ เป็นจิตที่ควรแก่งานในการเจริญวิปัสสนา
เช่นนั้น


อ้างคำพูด:
น่าจะเป็นว่า ละชั่ว ทำความดี ทำจิตให้ผ่องใส นะครับ
ท่านเจ้าของกระทู้คงจะเรียงลำดับผิด

และการทำจิตให้ผ่องใส น่าจะหมายเอา การสร้างความบริสุทธิ์สะอาดโดยมีปลายทางคือ
บริสุทธิ์สะอาดในระดับของการสิ้นอาสวะเป็นที่หมาย จางบางลางเลือน


ขอบคุณทุกคำตอบ..ค่ะ แจ่มแจ้งชัดเจน...แล้วค่ะ แต่ยากพอสมควร... :b44:
สักว่ารู้ สักว่าดู สักว่าเห็น แต่มิเป็นจริงตามที่เห็น..จึ่งดับไป ตรงที่รู้..แล้วจึ่งว่าง..
ความประภัสสร ผ่องใส เกิดขึ้นและก็ดับไปได้หาก ..ถึงซึ่งความบริสุทธิ์ ..ความผ่องใสจึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อใจนึก..เมื่อละได้ ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ไม่หัวเราะ ไม่ร้องให้ ไม่ยินดี ไม่เศร้าซึม..วางลงทุกสรรพสิ่ง..นิ่งและให้เป็นไปตามธรรมชาติของสัจจธรรม...

เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 23:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2010, 23:55
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตผ่องใส
จิตผ่องแผ้ว
จิตผุดผ่อง
จิตบริสุทธิ์
จิตหลุดพ้น
จิตว่าง
จิตประภัสสร
จิตสะอาด สว่าง สงบ
จิตละจากกิเลสทั้งปวง
จิตละขันธ์5
จิตอรหันต์
จิตละสังโยชน์
จิตรู้ ตื่น เบิกบาน
จิตพุทธะ
จิตดั่งแก้วน้ำใส
จิตโลกุตตระ
....


แล้ว จิต เกิดจาก อะไร
จิตมีหน้าตาอย่างไร
โลก ธรรม จิต อะไรที่เกิดก่อนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สั้นๆง่ายๆแค่เนี่ย :b12:

สั้นๆแค่นี้แหละครับ.... :b13: :b13:
ยาวไปเดี๋ยวเสียคอนเซ็บ :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
สวัสดีครับ ท่านประธาน

ภาคนี้เรียกว่าภาคสนทนา (หรือคุย) ธรรมกัน

ถามว่า จิตผ่องใสนั้นเป็นอย่างไร

ตอบ จิตผ่องใสคือจิตที่ไม่ขุ่นมัว :b1:


สวัสดีครับ...ท่านสมาชิก(บ้านเลขที่ 5)ผู้ทรงเกียรติ :b32: :b32:

ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะมีเพื่อนที่เพิ่งเริ่มสนใจศึกษาธรรมคนหนึ่งถามมา กระผมเห็นว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจดี ก็เลยเอามาตั้งกระทู้ถามความเห็นของท่านสมาชิกทั้งหลาย :b1:

คำตอบของท่านกรัชกาย ตอบได้ตรงประเด็นเป๊ะเลย :b32: :b32:
ว่าแต่จิตขุ่นมัวนั้นเป็นอย่างไรเล่าท่าน :b10: :b10:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


หัสพล พวงแก้ว เขียน:
จิตผ่องใสนั้นต้องปราศจากอกุศลจิตทั้งมวล มีแต่จิตที่ป็นกุศล ซึ่งทำให้ใจเบิกบาน ปิติสุข
แต่ถ้าจะให้ดีจิตว่างจะดีที่สุด เพราะปราศจากการปรุงแต่งใดๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรือ
อกุศล จิตจะปล่อยวางไม่ไปยินดียินร้ายทั้งสิ้น แค่ตามรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไปเท่านั้นครับ smiley

:b8: :b8: :b8:

แล้วจิตที่เป็นกุศล กับจิตว่าง อันไหนผ่องใสกว่ากันครับ :b10: :b10: :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร