ตามหัวข้อน่ะครับ คือว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับผม ตอนผมอยู่ม.4 ระหว่างที่

ผมกำลังเดินเข้ามาในซอยเพื่อจะกลับบ้านผมเจอ มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งถามผมว่ากี่

โมงแล้ว ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วบอกว่า 10 โมงล่ะครับ เขาก็เลยบอกกับผมว่า

น้องๆ พี่ขอยืมมือถือน้องหน่อยได้ไหม พี่ตกรถน่ะ พี่จะไปอาเขตไม่ทัน ยืมเสร็จล่ะ

เดียวพี่จะซื้อบัตรเติมเงินมือถือ น่ะน้องเชื่อพี่เถอะเงินพี่เยอะแยะเลย ตอนแรกผม

ว่าจะให้แต่มีสิ่งหนึ่งมายับยั้งผมไว้ คือ มีอะไรบอกผมว่าห้ามให้เด็ดขาด เวลามี

ความรู้สึกนี้ผมขนจะลุกขึ้น ทุกครั้ง ผมก็เลยไม่ให้ เขาเห็นผมลังเล ก็เลยบอกผมว่า

โถ่น้อง พี่ไม่ได้เป็นคนเลว ซักหน่อย ผมก็ส่ายหัวบอกไม่ให้ เขาก็รีบขับรถไป


เหตุการณ์ที่ 2 มีโจรมาขึ้นบ้านผม พอผมกลับมาบ้าน ตอนผมเปิดรั้วบ้านเข้ามามี

ความรู้สึกว่าขนผมลุกวาป เหมือนมีใครจ้องมองผมอยู่ พอผมเดินเข้าไปในบ้าน

เห็นแสงสีขาวเหมือนเสื้อคน ค่อยๆขึ้นบันได เหมือนจะบอกผมว่ามีอะไร เกิดขึ้น

พอผมเข้าไปในบ้าน ปรากฎว่าตู้เสื้อผ้าโดนค้นหมด มีขโมยมาขึ้นบ้าน ของที่หาย

มีเพียง 2 ชิ้น มือถือ + mp3 ของผม นอกนั้นไม่หาย ก็ไม่ทราบทำไม

เหตุการณ์ที่ 3 ตอนผมเรียนจบผมต้องไปจับใบดำใบแดงมา ก่อนผมจะจับก็มี

ความรู้สึกแบบนั้น เกิดขึ้นอีก คือมีความรู้สึกว่าผมจะได้ใบดำ ซึ่งแปลกมาก เพราะ

ตอนนั้นผมกลัวอยู่ ผลออกมาก็ใบดำจริงๆ

เหตุการณ์ที่ 4 เวลาที่เพื่อนผมโทรมาแกล้งอำผมว่าเป็นคนอื่นแม้จะปลอมเสียงก็

ตามแต่ ผมก็ยังรู้ว่าป็นใคร ด้วยความรู้สึกที่กล่าวมาเช่นเคย หรือไม่เวลาเพื่อนพูด

โกหกก็ดี สิ่งพวกนี้จะเป็นตัวบอกผมหมด

ล่ะอีกหลายเหตุการณ์น่ะครับ ผมคงเล่าไม่หมด

สิ่งที่ผมถามเหล่านี้คืออะไร หรือว่าแค่อุปทาน ไปเอง ถ้าไม่อุปทานสิ่งเหล่านี้ติด

ตัวผมมาได้อย่างไร ได้จากการฝึกจิตในชาติก่อนๆรึเปล่า หากฝึกไว้จะดีไหม เอา

แค่นี้ก่อนครับ ผมยังมีคำถามอยู่ ไว้เดียวผมค่อยมาถามใหม่ ที่ผมเล่านี่ไม่ใช่เรื่อง

แต่งน่ะครับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องแต่งผมคงไม่เสียเวลาพิมพ์นานขนาด

นี้

เห็นถามไว้ที่นี่ด้วย

http://board.palungjit.com/f126/ญาณหรือว่าสัมผัสพิเศษหรือไม่ใช่ทั้งสอง-276020.html

ณ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ สัมผัสดังกล่าวยังอยู่ไหมครับ

ยัง อยู่ครับ

เหตุการณ์ครั้งล่าสุดสัมผัสรู้เกี่ยวกับอะไรครับ

เกี่ยวกับพอดีคุย หยอกล้อเล่นกับเพื่อนอ่ะครับ เพื่อนผู้ หญิง อ่ะ ครับ ประมาณว่าแซวเขาว่าเมื่อไรจะมีแฟนเมื่อไรจะแต่งงาน เขาบอกว่าเนื้อคู่เขายังไม่เกิด แล้วเขาก็ถามผมว่า ล่ะแกล่ะ ผมก็บอกว่าผมไม่มีหลอก ก็พูดแบบเล่นๆน่ะครับ ล่ะมีความรู้สึกตามที่ผมเล่นอ่ะครับ ว่า เหมือน บอกกับผมว่า คนที่ผมคุยด้วย เขาพูดว่า มีอยู่ล่ะมั้ง ล่ะผมก็ถามเขาว่าเมื่อกี้พูดประโยคตะกี้รึเปล่าเขาตอบว่า ใช่ รู้ได้ไงผมบอกผมมีหูทิพย์ พูดเล่นๆน่ะครับ

ที่ผมมาถามที่นี่อีกก็เพื่อว่ามีคนที่มีความรู้ทางด้านนี้บอกผมได้ถูกว่ามันคืออะไร มีคนบอกผมว่ามันเป็นอนาคตังญาณ ไม่รู้ใช่จริงรึเปล่า เห็นมีคนบอกว่าพวกนี้จะเสื่อมนานๆเข้าไป เสื่อมเพราะอะไรหรอครับ

ตอนนี้กำลังหัดนั่งสมาธิอยู่เพราะเป็นคนฟุ่งซ่าน อยากสงบๆ น่ะครับ

เออ มีคำถามอีกหน่อยครับ สิ่งที่ผมมีนี่ติดมากับตัวผมได้อย่างไร ผมจะพัฒนามันได้ไหม

สนุก สนุก
เดี๋ยวจะมาคุยด้วย แชร์ แชร์

คุณปฏิบัติธรรมด้วยเหร๋อ
ปฏิบัติยังไง หง่ะ
เราก็มีเรื่องพวกนี้เยอะ

ก็ต้องระวังอย่างมาก ๆ เพราะเรื่องราวเหล่านี้
ก็เหมือนกับเราเป็นหนึ่งในดาราที่แสดงในเรื่อง จอว์ 3 อิ อิ
และกำลังลงไปเล่นน้ำในทะเลที่มีฉลามว่ายอยู่ หง่ะ

มีได้ แต่ต้องรู้เท่าทัน อย่างมาก ๆ ด้วย

เกิดได้ ศึกษาได้ แต่อย่าให้อุปทานเข้ามาครอบงำ

คุณต้องแยกให้ออก
ความสามารถของพฤติกรรมจิต
กับ
สิ่งที่พระพุทธองค์สอน

ความสามารถของจิต มันวิจิตร
ส่วน ธรรมที่พระพุทธองค์พร่ำสอน ทุกอย่างล้วนเข้าสู่ กฎไตรลักษณ์

ถามว่า จะพัฒนาได้หรือไม่
ก็ได้ และ ก็อาจจะไม่ได้ มันมีปัจจัยในการเกิด-ดับอยู่
ถ้าเรารู้จักปัจจัย เราก็เข้าไปทำกับปัจจัย

แต่การจะลงไปเล่นกับอะไร ก็ต้องเป็นผู้ที่เท่าทันการเกิด-ดับ ของสิ่งนั้น อย่างมาก ๆ เสียก่อน

เรื่องนี้ จะเป็นตัวล่อที่จะทำให้ประยุกต์นำมาใช้เป็นองค์พิจารณาเพื่อเจริญในธรรมก็ได้
ทำให้เราหลงทางไปจาก ไตรลักษณ์ ก็ได้

จริง ๆ นะ
เอกอน ไม่ชอบใจอย่างมาก ๆ เลย
กับเรื่องบางอย่าง ที่มันเกิดกับเรา และเราก็รู้พฤติกรรมการเกิดมันอย่างชัดเจน
และเราก็รู้หลาย ๆ อย่าง ในปัจจัยการเกิด
แต่ เรากลับไม่สามารถคุยสิ่งที่เราประสบกับใครได้

เพราะ คุยไป ก็เจอคำตอบไปในเชิงว่า เป็นการคิดไปเอง ปรุงแต่งไปเอง
หรือไม่ ก็เจอคำตอบไปในทำนองยิ่งเย้ายวนให้เรา หลงไหล ไป

ซึ่ง เป็นคำตอบที่ไม่ได้ช่วยอะไรให้เรารู้สึกกระจ่างขึ้น หรือรู้สึกดีขึ้น
หรือ ใช้ชีวิตอยู่กับมันได้อย่างเป็นปกติสุขขึ้นเลย

กับคำตอบในเชิงว่า ปรุงแต่งไปเอง มันทำให้เราเกิดอาการชะงัก
และเดินวิถีเข้าสู่การกดข่มสิ่งที่เกิดนั้นเอาไว้ ฯลฯ
กับคำตอบในในทางเย้ายวนวิจิตร ก็ทำให้เราเกิดอาการลอยหลุดไปมีชีวิตอยู่บนก้อนเมฆ

แต่ การพิจารณาการเกิด ก็คือพิจารณาอายตนะ คือทิ่มตรงลงการเกิดดับ
มันจะทำให้เราเกิดวิชา และ หลุดจาก พฤติกรรมของจิต ได้

อันนี้ เคย ครั้งเดียว
ปกติเคยแต่ สองตัว สามตัว เล่น ๆ เพลิน ๆ ด้วยความสงสัย เพื่อจับกระแสแห่งการเกิด

แต่คราวนั้น หกตัว หกตัว จริง ๆ และจดเอาไว้ด้วย
และ การเกิดการเห็นในครั้งนั้น มันก็มีอะไรที่พิเศษมาก ๆ
เป็นครั้งแรกที่ ทัศนะที่ว่า "หงายกะลาที่คว่ำ" มันกระจ่างชัด
และเพิกถอน ความเข้าใจเก่า ๆ จนหมดสิ้น

ทุก ๆ การเห็น "เราจะเดินเพื่อความแจ้งในธรรม หรือ เราจะเอาหมกมุ่น" ล่ะ
เราจะทำความเข้าใจให้แจ้งในสัจจะ เพื่อกำจัด อวิชา ให้สิ้น
หรือเราจะเจริญความ "หมกมุ่น" ล่ะ

สาธุ..

พ่อหนุ่มคนนี้
ตามมาตบ(หลัง)ลูกให้ทุกกระทู้สิน่า
ไม่เชื่อดูนี่ ช่างอุตสาหะ ได้ทุกกระทู้จิงๆ คิๆๆๆๆ

อยากเล่น..แต่
อะไรพิเศษ ๆ ไม่มี..ก็เลยออกลูกลีลา..ไม่ได้