วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2011, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม่มีลูกชายลูกสาว เมื่อลูกเกิดแม่ดีใจมากเพราะลูกๆเกิดมาด้วยความรักของพ่อและแม่

ลูกสอนให้แม่รู้ว่าหลังจากที่ลูกหย่านมแม่แล้วแม่ควรซื้อขวดนมมาไว้เยอะๆ เพื่อชงไว้ให้ลูกดื่ม

อย่างพอเพียงในตอนดึกๆ เพื่อลูกจาได้คลานไปหยิบมาดูดเองได้ถ้าพ่อกับแม่ไม่ตื่น

ลูกสอนให้แม่รุ้ว่าทำอย่างไรแม่ถึงจะพยายามให้ลูกกินผักด้วยวิธีการต่าง ๆ

ลูกสอนให้แม่รู้ว่าเมื่อลูกไม่สบายแม้จะเพียงแค่เล็กน้อย ต้องรีบพาไปหาหมอโดยเร็ว

และต้องสังเกตอาการว่าไม่สบายอย่างไร ครั้งหนึ่งเมื่อลูกสาวอายุประมาณ 4 ขวบ ลูกไม่สบาย

หลังจากพาไปหาหมอแล้ว กลับมารับประทานยาตามหมอสั่ง ได้ 2 วัน แต่อาการไข้ของลูก

ไม่ลดลงเลย ร้องไห้ตลอดเวลาจับตัวลูกตรงไหนก็เจ็บไปทั้งตัว พ่อกับแม่ตกลงกันว่าจะต้อง

พาลูกไปหาหมออีกคนหนึ่งให้ตรวจเช็คดูใหม่อีกทีว่าทำไมอาการของลูกมีแต่ทรุดลง

หลังจากคุณหมอท่านนี้ตรวจสักพักหนึ่ง ท่านก็มีคำสั่งให้พาไปเจาะเลือดที่ รพ ด่วน

มี จม แนบไปด้วย ขอความกรุณาขอผลตรวจทันที

และทันทีที่ทราบผลตรวจคุณหมอบอกว่า ถ้าคุณพาลูกมาช้าไปอีกวันเดียว ลูกสาวแม่จะไม่อยู่

ในโลกนี้แล้ว เพราะไวรัสกำลังจะขึ้นสมอง

ส่วนลูกชายเมื่อถึงเวลาจะต้องเข้าเรียนอนุบาล ก็ร้องไห้งอแงว่าแม่ใจร้าย

พรากยายพรากหลานออกจากกัน ลูกชายติดคุณยายมากนอนกับคุณยายทุกคืน

ไม่ยอมไป รร. ถ้าคุณยายไม่ไปเรียนด้วย คุณยายต้องไป รร ด้วย ขออนุญาตคุณครู

นั่งอยู่หลังห้องเพื่อเป็นกำลังใจให้หลานสักระยะหนึ่ง

ตอนนี้ลูกของแม่โตแล้วเรียนจบมีงานดีๆทำ หลังจากผ่านเหตูการณที่ดีและไม่ดีมาพอสมควร

เช่นลุกทำตัวเหลวไหลติดเพื่อน ติดเที่ยวกลางคืน ไปอยู่กับเพื่อน ไม่ยอมกลับบ้าน

จนมาวันหนึ่งเพื่อนๆเค้าสอบเอนกันแต่แม่ได้ข่าวว่าลุกแม่ไม่ไปสอบ แม่ต้องสืบว่าลูกแม่

อยู่กับเพื่อนคนไหนและไปตามกลับมาด้วยคำถามเดียว ว่าลูกอยากเรียนหนังสือหรือเปล่า

ถ้าอยากเรียนเราก็กลับบ้านด้วยกัน พร้อมกับข้อตกลงเล็กน้อย ว่าลูกต้องเชื่อฟังแม่ ลูกต้องดู

หนังสือเพื่อไปสอบเอนรอบสองให้ได้ ในที่สุดลูกก็สามารถสอบเข้าไปได้

ลูกๆเรียนจบมีงานทำ แม่ดีใจมาก อย่างน้อยลูกๆก็ไม่เป็นภาระกับสังคม พร้อมกับมีคำพูด

ที่ทำให้พ่อแม่ปลื้มใจ ลูกจะเลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีความสุขเท่าที่ลูกจะทำได้

แล้วก็มาถึงวันหนึ่งที่ลูกชายแม่พบรักกับเธอคนหนึ่ง คนที่ลูกรักเธอมากกว่าแม่ เชื่อฟังเธอ

มากกว่าแม่ และเธอกับพ่อของเธอบังคับให้ลูกต้องเลือก ระหว่างแม่กับเธอ

แม่ไม่เคยคิดว่าจะพบกับเรื่องแบบนี้ในชีวิตครอบครัวธรรมดาๆอย่างเรา

แต่แม่อยากจะบอกให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหนๆ บนโลกใบนี้ ลูกก็ยังเป็นลูกของแม่เสมอ

ขอเพียงแค่เธอคนนั้นรักลูกได้เพียงครึ่งของที่แม่รัก

:b47: :b47: :b47:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2011, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่จริงเรื่องนี้ก็ผ่านมาพอสมควรแล้ว พอทำใจได้พยายามไม่ยึดมั่นว่าลูกเราของเรา เมื่อเขาเลือกแล้ว

ชีวิตเป็นของเค้า เราแค่ให้ชีวิตและเลี้ยงดูเท่าที่แม่ธรรมดาๆคนหนึ่งพอจะทำได้ ก็ไม่อยากเป็นแม่ใน

ตำนานแม่สามีและลูกสะใภ้หรอกนะคะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อเธอและเธอคนนั้นต้องบังคับให้ลูกเรา

ต้องเลือก ในความคิดของแม่นั้นก็คือลูกรักใครก็ได้แม่พร้อมจะยอมรับ ไม่เคยคิดจะไปบังคับลูกคนไหน

เลยในการเลือกคู่ครอง เลือกแล้วดีหรือร้ายลูกต้องยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง เราแค่ภาวนา

ขอให้ลูกได้พบคนที่ดีๆและรักกันจริงดูแลครอบครัวไปให้ตลอดรอดฝั่งก็พอแล้ว

แต่ในบางช่วงของความรู้สึกในความเป็นแม่ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้


ขอบคุณอีกครั้งนะคะ รู้สึกอบอุ่นที่คุณตะเกียงแก้วเข้ามาโพส

:b8: :b20: :b8:

:b45: :b41: :b45:

ถ้าคุณแม่ท่านใดอยากจะเข้ามาแชรความรู้สึกของความเป็นแม่ก้อเข้ามาโพสนะคะ

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2011, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แล้วก็มาถึงวันหนึ่งที่ลูกชายแม่พบรักกับเธอคนหนึ่ง คนที่ลูกรักเธอมากกว่าแม่ เชื่อฟังเธอ
มากกว่าแม่


เราไม่อยากให้คุณbluebirdไปยึดหรือไปคิดตรงนี้ค่ะ
เราคิดว่า ถ้าคุณปล่อยวางเฉยๆ ไม่คิดอะไรทั้งนั้น
คือเราขอใช้คำว่า ถ้าลูกทำให้แม่เสียใจ ถึงกับต้องน้ำตาตก
กรรมนั้นจะตามไป เหมือนตัวเราเจอด้วยตัวเราเองค่ะ

ตอนเราอายุได้10-11ขวบ เราจะชอบโขมยข้าวสาร-น้ำมัน-อาหารในบ้าน
ไปให้คนที่เค้าจน จนมากๆน่ะนะ บางคนก็อยู่กันเอง ไม่มีพ่อแม่ดูแล
รุ่นๆเรานี่แหละค่ะ ซึ่งที่บ้านเราก็ไม่ได้รวยอะไร คุณแม่ขายผักที่ตลาด

พอตอนหลังคุณแม่ก็ผิดสังเกตุ ทำไมของในบ้านถึงหมดเร็ว ตอนหลังท่านก็รู้ว่า
เราให้คนอื่นกิน คือตอนนั้นเรายังเด็ก เราไม่รู้ว่าของเหล่านี้
กว่าท่านจะได้มาท่านต้องลำบาก

ท่านก็ว่าเรา เราก็เถียงท่าน ว่าท่านเห็นแก่ตัวไม่สงสารคนอื่นบ้างเลย
ตอนนั้นเรามีความคิดว่า ท่านใจดำเห็นแก่ตัว
พอเราเถียงท่าน ท่านน้ำตาไหลเรารู้สึกเฉยๆ

พอเราโตแล้ว เราก็รู้ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นเราผิด
แต่เราไม่รู้ว่า กรรมในครั้งนั้นน่ะตามเราตลอด

เมื่อปีที่แล้วค่ะ มีวันหนึ่งเราจะให้ลูกสาวช่วยไปซื้อของให้ แต่วันนั้นเราไม่มีแบ๊งค์ย่อย
เรากลัวว่าให้ตังค์เค้าไปเยอะ เค้าจะนับตังค์ทอนไม่ถูก
เราก็พูดกับลูกว่า เอาเงินมาให้แม่2เหรียญก่อนน่ะ แล้วไปซื้อของให้แม่หน่อย
ลูกสาวเราก็พูดว่าหนูจ ะมีเงินได้ไง หนูไม่มีเงินเลยเราฟังก็ตกใจ

เพราะทุกครั้งที่เราให้เงิน10เหรียญ เค้าไปซื้อของแค่1-2เหรียญ
เค้าไม่เคยเอาเงินทอนมาคืนให้ เราก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเค้ารู้จักเก็บเงิน

เราก็ถามว่า แล้วเงินที่ไม่เคยทอนให้แม่ เงินนั้นไปไหนหมด
ลูกสาวบอกว่า "เงินทอนเหรอหนูไม่เคยเก็บเลย หนูเอาไปซื้อขนมปังให้หมากิน"
เราก็คิดว่าซื้อขนมปังมาให้หมาที่บ้านกิน

เราก็พูดว่า " ซื้อมาทำไมของกินของbobby แม่ก็ซื้อมาเยอะแยะแล้ว
แม่ก็ไม่เคยเห็นมีขนมปังอะไรเลย "

ลูกสาวเราก็พูดว่า " โอ๊ย!หนูไม่สนใจเรื่องของกินของbobbyหรอก
แม่น่ะใจดำ เห็นแก่ตัว ซื้อแต่ของมาให้bobbyกิน
จนbobbyอ้วนเป็นหมู แม่ไม่เคยสนใจกับหมาที่อยู่ข้างถนนเลย
หมาที่อยู่ข้างถนนน่ะ ผอมๆทั้งนั้นเลย น่าสงสาร เงินทอนเหลือเท่าไหร่
หนูซื้อขนมปังให้หมากินหมด แม่ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ เงินในกระเป๋าแม่
บางครั้ง หนูก็หยิบเอาไปซื้อขนมปังให้หมากิน แม่น่ะใจดำ
ไม่เคยซื้อของมาให้หมาข้างนอกกิน "

แล้วเค้าก็ทำท่าทาง แบบเดียวกับที่เราทำกับคุณแม่ของเรา
คือท่าทางที่ คนเป็นลูกไม่สมควรที่ทำกับคุณแม่ของตัวเอง

ตอนนั้นเรารู้สึกตกใจค่ะ ทำไมเหตุการน์ที่เราทำกับคุณแม่ ถึงย้อนกับมาที่เรา
กรรมนั้นตามเรามาจริงๆ พอเราหายตกใจ เราก็เลยกลัวว่ากรรมนั้นจะไปตกที่ลูกเราอีก

เราก็เลยบอกว่า " เออๆดีๆลูก ทำแบบนี้น่ะดี ถ้าอยากจะซื้อขนมให้หมากิน
ก็หยิบเงินไปแม่ไม่ว่าอะไร"

กรรมที่ลูกทำให้แม่ต้องเสียใจนั้น กรรมนั้นจะตามไปตกที่ลูก แล้วลูกก็จะทำอย่างนั้นอีก
เราคิดว่าจะทำให้ตกทอดกันไปเรื่อยๆ

เพราะฉนั้น เราคิดว่า คุณbluebirdปล่อยวางให้เป็นเรื่องของเค้า2คนดีกว่าค่ะ
ไม่อย่างนั้น แล้วความรักความหวังดี ที่คุณมีให้ลูก จะกลายเป็นสิ่งที่เหมือนเราเจอ

ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าไปยึดติดค่ะ ปล่อยวางไปเถอะ เอาเวลาที่คิดแล้วทำให้ตัวเราต้องทุกข์
เอาเวลานั้น มาทำบุญ-สวดมนต์ ให้สิ่งศักสิทธ์ท่านครุ้มครอง
ลูกดีกว่าค่ะ ชีวิตของพวกเค้าจะได้เจอแต่สิ่งที่ดีๆค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 02:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่จริงในชีวิตก็ผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมาย บางทีก็ท้อเสียจนไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ก็ได้ธรรมะนี่แหละค่ะที่พยุงจิตใจ กับการได้เข้ามาอ่านข้อความดีๆ

เรื่องลูกนี่ก้อกำลังพยายามแต่ไม่รู้เป็นอย่างไร ในบางช่วงเวลาที่นึกถึง ก็จะน้ำตาไหลไม่หยุด

รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่กล้าคุยกับใครในบ้านเกรงเขาจะไม่สบายใจ เพราะเห็นอาการหมองเศร้าของเรา

อาการภายนอกก็คือไม่เป็นไรทำใจได้แล้ว แต่ในบางช่วงเวลาก็เป็นอย่างที่บอกแหละค่ะ

พยายามอยู่ค่ะ พยายามที่จะปล่อยวางให้ได้เหมือนเรื่องอื่นๆ


bbby เขียน:
ทำบุญ-สวดมนต์ ให้สิ่งศักสิทธ์ท่านครุ้มครอง
ลูกดีกว่าค่ะ ชีวิตของพวกเค้าจะได้เจอแต่สิ่งที่ดีๆค่ะ


ทุกวันนี้ก็ทำนะคะ ทำบุญ สวดมนต์ขอให้พระคุ้มครองลูกๆ และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรา

ขอบคุณนะคะกับข้อความดีๆและน้ำใจไม่ตรีที่มีมาให้

:b8: :b8: :b20: :b20: :b8: :b8:
:b45: :b45: :b45:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณbluebirdค่ะ คุณคิดเหมือนเรามั๊ย! ชีวิตของผู้หญิงน่ะค่ะ
พอเริ่มตัดสินใจมีสามีปัญหาจะค่อยๆเกิดทันที บางคนก็เจอปัญหาแม่ของสามี
บางคนก็เจอกับสามีที่เจ้าชู้ ไม่รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย
บางคนก็เจอปัญหาเรื่องลูก ตอนลูกเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
ผู้หญิง98% เราคิดว่าต้องเจอปัญหาข้อใดข้อหนึ่งแน่นอน
ผู้หญิงบางคนนี่หนักหน่อยเจอทั้ง3ข้อเลย :b12:




อ้างคำพูด:
เรื่องลูกนี่ก้อกำลังพยายามแต่ไม่รู้เป็นอย่างไร ในบางช่วงเวลาที่นึกถึง ก็จะน้ำตาไหลไม่หยุด



คุณbluebirdค่ะ มีแม่หลายคนค่ะ ที่เป็นเหมือนคุณตอนนี้
เพื่อนๆที่เป็นรุ่นพี่ของเราก็มีปัญหาแบบนี้เยอะค่ะ

แต่ทุกๆคน เวลามาคุยกัน จะพูดคำว่า
" โฮ๊ย!คิดมากก็ปวดหัว ปัญหานี้แก้ไม่ได้ปล่อยดีกว่า
คิดมากก็ทำให้ปวดตรงโน้นปวดตรงนี้ เดี๋ยวความดันกำเริบซวยอีก"
เราฟังแล้วก็ตลกๆดี นั่งขำอย่างเดียวค่ะ :b32:

อ้างคำพูด:
รู้สึกโดดเดี่ยว


ตอนนี้เราก็เป็นค่ะ ขนาดลูกยังไม่โต ลูกๆของเราไม่สนใจอะไรกับเราแล้วค่ะ
กลับจากโรงเรียนก็นั่งหน้าจอคอมพ์ เวลาถามอะไร
คำตอบที่ได้ก็คือ " อืมๆๆ อาๆๆ "
เราก็เลยไม่รู้ว่า สิ่งที่เราพูดนี่ เค้าเข้าใจหรือปล่าว
เวลาสอนอะไรมากๆก็ " แม่พวกหนูโตแล้วน่ะพวกหนูไม่ใช่เด็กๆแล้ว"
ตัวเราเองก็ต้องทำใจค่ะ

แต่เรามีเลี้ยงหมากับไก่ค่ะ :b12: เลยไม่ค่อยเหงา
ได้เห็นความน่ารักของพวกเค้า คุยกับเพื่อนเรื่องธรรมะบ้าง.
คุยเรื่องตลกๆบ้าง
ถ้าว่างๆก็นั่งสมาธิ-สวดมนต์ผลบุญนั้นจะได้คุ้มครองพวกลูกๆค่ะ

ถ้าคุณbluebirdไม่คิดว่า ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณมาก
ทำไม! คุณถึงน้อยใจเรื่องแฟนของลูกชายคุณมากค่ะ

เผื่อว่าคุณ จะได้ระบายสิ่งที่อึดอัดใจออกมาได้บ้าง เพราะบางสิ่ง
เราก็ไม่สามารถที่จะเล่าให้คนใกล้ชิดฟังได้

เพราะบางที่เล่าไป กลายเป็นต่อความยาวสาวความยืด
จากแค่1กลายเป็น10เรื่องใหญ่เข้าไปอีก

ดีใจค่ะ ที่ได้รู้จักกับคุณ ได้คุยได้แลกเปลี่ยนความคิดกันเรื่องลูกค่ะ :b41: :b48: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2011, 04:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขอโทษด้วยนะคะที่อาจไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณบลูเบิร์ดอย่างลึกซึ้งนักเพราะฮานาโกะเคยเป็นแต่ลูกสาวเท่านั้น ยังไม่เคยเป็นภรรยาและไม่เคยเป็นแม่คน

แต่เคยฟังเทศนาธรรมของท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านพูดถึงเรื่องจาคะบารมี
ฟังเสียงอ่านได้ที่นี่ค่ะ เลือกหัวข้อ จาคะบารมี http://www.fungdham.com/sound/lee.html

จาคะ คือ การสละออกใช่ไหมคะ การสละนั้น คือ สละความยึดมั่นถือมั่นภายในใจเรา
ลูกนั้นก็ไม่ใช่ของเรา ดีไม่ดีเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราอีก (ขอโทษที่พูดอย่างนี้นะคะ)
เราสละความรู้สึกรักอย่างยิ่งในตัวลูกเสีย เราก็จะสุขขึ้นทันที เพราะแม้เราสละความยึดว่านี่ลูกเรา เขาก็ยังเป็นลูกของเราวันยันค่ำน่ะล่ะค่ะ ใช่ว่าการสละคือการตัดขาด เรายังคงรักเขาแต่เราไม่ยึดในตัวเขา แค่นี้เราก็เบาขึ้นแล้ว เออ เราทำหน้าที่ของเราดีแล้ว ที่ควรทำเราทำแล้ว แต่มันเกิดเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมของเรา เราต้องปล่อยวางทางใจ ทำใจว่า ไว้วันไหนเขาเข้าใจ เขาคิดได้ เราก็เมตตาเขาเสมอเหมือนเดิม(ก็เขาเป็นลูกนี่นา)

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2011, 05:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 18:05
โพสต์: 136


 ข้อมูลส่วนตัว


"ความปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ไม่ได้ "
"ความพรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก"
"ความที่ต้องประสพกับสิ่งที่ไม่เป็นที่ปรารถนา"


ไม่ว่าจะได้ชื่อว่า แม่หรือพ่อ หรือลูก หรือสะใภ้ หรือใครๆ
หากเกิดความดั่งสามบรรทัดข้างต้น
ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับความคับแค้นโศกทุกข์ใจเหมือนกันหมด....

ยาที่จะช่วยถอนพิษไม่มียาใดที่จะดีเท่าธรรมโอสถ
"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ"
"สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"


สังสารวัฏ
เมื่อก่อนคุณbluebird ก็เคยเป็นสะใภ้มาก่อน
แม่สามีของคุณbluebird ก็อาจที่จะเคยเกิดความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณในตอนนี้
แต่ท่านก็อาจจะไม่แสดงออกให้ลูกชายหรือสะใภ้หรือใครๆทราบก็ได้...


ไม่มีผู้ใดหรือใครๆมาทำให้เราเป็นทุกข์
ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจของเราเองนั้นแหล่ครับ ที่นำความทุกข์มาสู่ใจของเราเอง
เมื่อยังไม่คิด ก็ยังไม่ทุกข์
เมื่อยังไม่ผัสสะ ก็ยังไม่ทุกข์

การให้อภัย คือยาที่ดีที่สุด ครับ
อยู่กับพระพุทธเจ้าเถิดครับ
อยู่กับลมหายใจเข้าออก
ศึกษาธรรมจากท่านอ.พุทธธทาส นั้นเป็นหนทางเริ่มต้นที่ดีแล้ว ครับ

:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2011, 05:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงของคุณ bbby ค่ะ ปัญหาที่ว่า แต่มันมีมากกว่า 3 ข้อ ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง

ปัญหากับคนในครอบครัว กับลูก ที่ทำงาน ญาติพี่น้อง บุคคลที่อยู่รอบๆตัวเรา

รวมทั้งต้องพิจารณาที่ตัวเราเองด้วยว่าเป็นปัญหากับคนรอบข้างบ้างหรือเปล่า

หมาก็เคยเลี้ยงนะคะ รักมันมาก ช่วงหลังนี้ตั้งแต่เค้าตายไปก็ไม่หามาเลี้ยงอีกแล้วค่ะ

เพราะอายุก็มากขึ้นทุกที กลัวว่าเราตายไปก่อนเค้าแล้วจะไม่มีใครดูแลเค้า

เพราะว่าเลี้ยงแล้วก็ผูกพันอะค่ะ เคยมีตัวหนึ่งถูกรถชนแถวๆบ้าน อาการสาหัส

เข้าใจเอาว่าเค้าคงจะมารอช่วงเย็นที่เราจะเลิกงานกลับบ้าน กลับมาถึงเราก็เข้ามา

ประคองเค้าเอาหัววางไว้บนตักบอกสามีว่าพาไปหาหมอเถอะ แต่ไม่ทันแล้วค่ะ

ช่วงที่เราประคองหัวเค้าไว้บนตักเค้าลิมตามองดูเราเหมือนกับว่าคอยพบเราก่อนค่อยไป

เค้าหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วก็ไปเลย เลี้ยงเค้ามาแต่อายุ2เดือนอะค่ะ ตอนเค้าตายก้อประมาณ

อายุ 6 ขวบ ก็ผูกพันกะเค้ามากมาย หลังจากนั้นระยะหนึ่งก๋หามาเลี้ยงอีก

หลังจากตัวสุดท้ายตายไปก็ไม่หาแล้วค่ะตอนนี้ อย่างที่บอกข้างต้น


สำหรับลูกชายคอนแรกก็คิดว่าเค้าคงจะโอเคกับแฟนคนที่เค้าคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปี1

ไปกิน ไปเที่ยว ไปดูหนัง ตอนจะสอบก็เหนช่วยกันติวหนังสือสอบด้วยกัน จนเรียนจบ

ต่างคนต่างทำงานก็ยังคบกันอยู่ เห็นเค้าแปลนกันว่าอีกประมาณ 3-4 ปี ค่อยแต่งงาน

ขอทำงานเกบตังก่อนว่างั้น แต่ไปๆมาๆ มีสาวอีกคนโผล่มา แล้วลูกชายก็โอเคกับสาว

คนหลังนี้ ก็ไม่คุ้นกับเค้าเท่าไรเพราะคบกันไม่ถึงปี เจอหน้าเค้าไม่กี่ครั้ง แต่ในเมื่อลูกชาย

เรารักเค้าที่บ้านก็ต้องยอมรับ สรุปก็คือลูกแต่งงานกับสาวคนหลังนี้ สาวคนเดิมสงสัยจะ

คบกันนานไปคงไม่ใช่บุพเพที่จะได้ครองคู่กัน {นานกว่า 7 ปีค่ะ }

ก็อย่างที่บอกอะค่ะเค้าบังคับให้ลูกชายเราต้องเลือก โทรมาตามบอกให้ไปหาเดี๋ยวนี้

พ่อกับแม่ก็บอกว่ามันดึกแล้วลูกบอกเค้าค่อยไปพรุ่งนี้เช้าละกันนะ สักพักโทรมาอีก

บอกว่าถ้าไม่มาก็ไม่ต้องมาเลยจะเลือกแม่หรือเค้า ลูกชายก็อึ้งๆ มองหน้าพ่อแม่

สักพักลูกสาวก็บอกว่าลูกชายไปแล้ว {เค้าในที่นี้หมายถึงพ่อเธอและเธอคนนั้นค่ะ}

ก็เปนอะไรที่พูดไม่ออก ลูกเค้าตัดสินใจแล้ว ทุกคนในบ้านรับรู้ ญาติพี่น้องลุงป้าน้าอา

รับรู้กันหมด เหมือนหลุดไปจากวงโคจรของเราและทุกคนที่เป็นญาติพี่น้อง

พ่อแม่พี่น้อง ยาย พี่ป้าน้าอา คือญาติพี่น้องติดต่อไปก็ไม่รับสาย ทั้งเบอรลูกชายและเบอร์แฟนเค้า

จนเดี๋ยวนี้ เวลานี้ เค้าทั้ง 2 คน เปลี่ยนเบอรใหม่แล้ว

ทุกคนในบ้านรับรู้ว่าแม่เสียใจมากมาย ลูกสาวรู้ดีกว่าใคร เพราะเคยได้ยินแม่คุยกับเธอ

และเธอคนนั้นพูดจาไม่ดีกับแม่ ลูกสาวก็จะบอกว่าจะอะไรนักหนาเนี่ยแม่ก็ยอมให้ทุกอย่างแล้ว

ยอมในที่นี้คือลูกชายอยากแต่งงานกะสาวคนนี้แม่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร พูดไม่ดีกับแม่ๆก็อืมๆ

ช่างเค้าๆอาจจะดีกับลูกเรารักลูกเราก็พอแล้ว

หลังจากนั้นทุกคนในครอบครัวและญาติพี่น้องก็จะไม่พูดถึงลูกชายอีกเลย เพราะกลัวว่าจะ

กระทบกระเทือนจิตใจเราอะค่ะ

ก็คือแบบว่าลูกลืมหมดทุกอย่างเลยหรือแม้แต่ญาติพี่น้องที่เคยช่วยเหลืออุ้มชูลูกมา คือทุกคน

ก็รักเค้ามากนะคะ ตอนเค้าเล็กๆก้อช่วยกันเลี้ยงช่วยกันดูแล แล้วเค้าก็เป็นเด็กน่ารักมีน้ำใจ

พอมีความรู้เรื่องคอมบ้าง พี่ป้าน้าอามีญหาเรื่องคอมก็ไปช่วยทำให้ ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนเอกคอม

เลย แต่สนใจค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติมเอาเอง พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา ทุกคนก็แปลกใจมากว่า ทำไม

ลูกหลานถึงเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้




หรือว่าลูกหมดเยื่อใยหมดความผูกพันกับญาตืพี่น้องทุกคนไปหมดแล้ว




ทุกวันนี้ก็สวดมนต์ขอให้พระคุ้มครองลูกและครอบครัว ขอให้เค้ารักลูกให้มากๆ

พยายามทำใจ ตัดใจ แต่มันก็ยังมีนิวรณ์อยุ่ ขอเวลาอีกนิดนึงค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาโพสเข้ามาคุย ดีใจมากค่ะ เหมือนว่ามีใครบางคนมาช่วยดูแลจิตใจกันและกัน

ทุกข้อความที่ทุกท่านเข้ามาโพสมีค่าต่อจิตใจ bluebird มากค่ะ

รับรู้ถึงความปรารถนาดีที่มีอยู่ในตัวหนังสือเหล่านั้น


:b8: :b8: :b20: :b20: :b8: :b8:

:b45: :b45: :b41: :b45: :b45:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2011, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณปล่อยรู้เขียน


"ความพรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก"



ความพรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักตรงนี้ล่ะค่ะ เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับชีวิตคนเรา
โดยเฉพาะคนที่เป็นลูก ต้องพลัดพรากจากแม่ไป
ไม่ว่าจะอยู่หรือเสียชีวิต เป็นทุกข์ที่สุดของคนเป็นแม่เลยน่ะค่ะ



ตอนนี้เราเข้าใจคุณbluebirdมากขึ้นแล้วค่ะ

ถ้าเราต้องอยู่ในสภาพแบบคุณตอนนี้ เราก็คงไม่แตกต่างจากคุณน่ะค่ะ
ถ้าได้เห็นหน้า ได้ยินเสียงบ้างคงไม่ทุกข์เท่าไหร่

ทำอย่างไงล่ะค่ะทีนี้ ปัญหาแบบนี้จะแก้แบบไหน :b10:

ตอนแรกที่เราให้คุณปล่อยวาง อย่าไปยึด เราเข้าใจว่าลูกชายคุณอยู่ที่บ้าน
หรือว่ายังกลับมาบ้านบ้าง แต่คุณไม่ชอบลูกสะไภ้
ก็เลยให้คุณปล่อยวางไป เราเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ :b8:

ตอนนี้ ถ้ามีคนที่เคยเข้าใจคุณแม่ผิด แล้วออกจากบ้านไป
โดยไม่รู้ว่าคุณแม่จะทุกข์แค่ไหน
มาเล่าให้ฟังบ้าง ว่าเพราะอะไรหรือน้อยใจอะไร ใจเค้าคิดอะไร
ถึงโกรธแม่มาก มาเล่าให้ฟังบ้างก็ดีน่ะค่ะ
คุณแม่หลายๆท่าน จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วลูกต้องการอะไร


เราเคยอ่านกระทู้หนึ่งค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากๆเลยค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าชื่อกระทู้อะไร
อยากจะให้คุณbluebird ได้อ่านจริงๆเลย

คือคนเป็นลูกไม่เข้าใจ ว่าทำไมแม่จะต้องคอยสอน
หรือตำหนิเค้าบ่อยๆ (ถ้าจำผิดขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยน่ะค่ะ)
แล้วเค้าต้องเถียงแม่ หรือว่าแม่ แต่พอเค้าทำไปแล้ว
เค้ารู้สึกไม่สบายใจสงสารแม่


กระทู้นี้แหละค่ะ ทำให้เราเข้าใจความรู้สึก ของคนที่เป็นลูกมากขึ้น
ตอนนี้เราเลยสอนน้อยหน่อย บ่นแทบจะไม่มีเลย
เวลาสอนเค้า จะสอนเค้าตอนอยู่ในรถค่ะ
เพราะเค้าออกไปทางไหนไม่ได้ :b32:
ต้องฟังเราพูดอย่างเดียว ก็คุยเรื่องตลกๆกับเค้าไปด้วย

แล้วเราจะค่อยๆหา มาให้คุณbluebirdอ่านน่ะค่ะ
รู้สึกว่าจะอยู่ในกระทู้สนทนาธรรมค่ะ :b41: :b43: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2011, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เจอแล้วค่ะ ขอยกมาวางให้อ่านเลยน่ะค่ะ
เผื่อว่าบางท่านยังไม่ได้อ่าน



Quote Tipitaka:
คุณ Nameless029 เขียน


คือบางทีเวลาที่ผมคุยกับแม่ของผม ปกติ ผมก็คุยดี ๆ นะครับ

แต่บางทีท่าน ก็ จู้จี้จุกจิกผม บ่น ด่า ผม ตลอด

ส่วนใหญ่ผมจะเงียบฟัง ถึงผมเป็นฝ่ายถูกผมก็จะเงียบ มีแค่บางครั้งเท่านั้นที่ ปล่อยอารมโมโห ออกมา

บางครั้ง มันเก็บอารมโมโห ไม่ได้น่ะครับ บางทีถ้าแม่ผม มาถามอะไรซ้ำ ๆ บ่นเรื่อง เดิม ๆ ผมก็คุยกับแม่แบบ ไม่อยากคุยด้วย แค่บางทีนะครับ ที่สำคัญผมไม่เคยด่าท่าน ไม่เคยขึ้นเสียง มากสุดก็แค่แสดงท่าทางไม่พอใจ หรือท่านถามอะไรก็ไม่อยากตอบ คือผมโมโหมากน่ะครับ เลยทำไปแบบนั้น

พอผมทำลงไปแล้ว ผมก็ไม่สบายใจเลยครับ ผมสงสารท่านมาก ผมรู้สึกว่าผมเลวจิง ๆ

ถ้าอารมปกติ ผมก็คิดได้นะครับ แต่พอมีโทสะ ผมก็เผลอทำไปตามความโกรธของผม ผมจะต้องทำยังไงครับ ผมไม่อยากแสดงอารมแบบนั้นใส่พ่อแม่ผมเลย ถึงจะไม่ถึงขั้นด่า ขึ้นเสียง ผมก็ไม่่สบายใจอยู่ดีครับ

สงสารท่านมาก ๆ



viewtopic.php?f=1&t=38220


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2011, 04:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่อาจไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณบลูเบิร์ดอย่างลึกซึ้งนักเพราะฮานาโกะเคยเป็นแต่ลูกสาวเท่านั้น ยังไม่เคยเป็นภรรยาและไม่เคยเป็นแม่คน

แต่เคยฟังเทศนาธรรมของท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านพูดถึงเรื่องจาคะบารมี
ฟังเสียงอ่านได้ที่นี่ค่ะ เลือกหัวข้อ จาคะบารมี http://www.fungdham.com/sound/lee.html

จาคะ คือ การสละออกใช่ไหมคะ การสละนั้น คือ สละความยึดมั่นถือมั่นภายในใจเรา
ลูกนั้นก็ไม่ใช่ของเรา ดีไม่ดีเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราอีก (ขอโทษที่พูดอย่างนี้นะคะ)
เราสละความรู้สึกรักอย่างยิ่งในตัวลูกเสีย เราก็จะสุขขึ้นทันที เพราะแม้เราสละความยึดว่านี่ลูกเรา เขาก็ยังเป็นลูกของเราวันยันค่ำน่ะล่ะค่ะ ใช่ว่าการสละคือการตัดขาด เรายังคงรักเขาแต่เราไม่ยึดในตัวเขา แค่นี้เราก็เบาขึ้นแล้ว เออ เราทำหน้าที่ของเราดีแล้ว ที่ควรทำเราทำแล้ว แต่มันเกิดเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมของเรา เราต้องปล่อยวางทางใจ ทำใจว่า ไว้วันไหนเขาเข้าใจ เขาคิดได้ เราก็เมตตาเขาเสมอเหมือนเดิม(ก็เขาเป็นลูกนี่นา)


ขอบคุณ คุณฮานาโกะมากค่ะ คลิกเข้าไปฟังจาคะบารมีแล้วนะคะ เสียงชัดดีค่ะ

หัวข้ออื่นๆ ก็จะเข้าไปฟังด้วย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและข้อความดีๆ ขอบคุณค่ะ

:b8: :b8: :b20: :b20: :b8: :b8:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2011, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีผู้ใดหรือใครๆมาทำให้เราเป็นทุกข์
ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจของเราเองนั้นแหล่ครับ ที่นำความทุกข์มาสู่ใจของเราเอง
เมื่อยังไม่คิด ก็ยังไม่ทุกข์
เมื่อยังไม่ผัสสะ ก็ยังไม่ทุกข์

:b48: :b48: :b48

ขอบคุณนะคะ คุณปล่อยรู้ เข้ามาอ่านแล้วก็มีข้อความดีๆมาฝากด้วย

ไม่มีใครทำให้เราสุขหรือทุกข์ได้ตลอดเวลาถ้าใจเราไม่ยินยอม

ทุกอย่างอยู่ที่ใจจริงๆ

ขอเวลาอีกสักหน่อย

:b8: :b8: :b20: :b20: :b8: :b8:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2011, 04:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
เจอแล้วค่ะ ขอยกมาวางให้อ่านเลยน่ะค่ะ
เผื่อว่าบางท่านยังไม่ได้อ่าน



Quote Tipitaka:
คุณ Nameless029 เขียน


คือบางทีเวลาที่ผมคุยกับแม่ของผม ปกติ ผมก็คุยดี ๆ นะครับ

แต่บางทีท่าน ก็ จู้จี้จุกจิกผม บ่น ด่า ผม ตลอด

ส่วนใหญ่ผมจะเงียบฟัง ถึงผมเป็นฝ่ายถูกผมก็จะเงียบ มีแค่บางครั้งเท่านั้นที่ ปล่อยอารมโมโห ออกมา

บางครั้ง มันเก็บอารมโมโห ไม่ได้น่ะครับ บางทีถ้าแม่ผม มาถามอะไรซ้ำ ๆ บ่นเรื่อง เดิม ๆ ผมก็คุยกับแม่แบบ ไม่อยากคุยด้วย แค่บางทีนะครับ ที่สำคัญผมไม่เคยด่าท่าน ไม่เคยขึ้นเสียง มากสุดก็แค่แสดงท่าทางไม่พอใจ หรือท่านถามอะไรก็ไม่อยากตอบ คือผมโมโหมากน่ะครับ เลยทำไปแบบนั้น

พอผมทำลงไปแล้ว ผมก็ไม่สบายใจเลยครับ ผมสงสารท่านมาก ผมรู้สึกว่าผมเลวจิง ๆ

ถ้าอารมปกติ ผมก็คิดได้นะครับ แต่พอมีโทสะ ผมก็เผลอทำไปตามความโกรธของผม ผมจะต้องทำยังไงครับ ผมไม่อยากแสดงอารมแบบนั้นใส่พ่อแม่ผมเลย ถึงจะไม่ถึงขั้นด่า ขึ้นเสียง ผมก็ไม่่สบายใจอยู่ดีครับ

สงสารท่านมาก ๆ



viewtopic.php?f=1&t=38220


ขอบคุณ คุณbbby ที่กรุณาหามาให้ ขอบคุณเจ้าของข้อความด้วย

อยากให้คุณแม่ท่านอื่นๆได้อ่านข้อความนี้ด้วยเผื่อว่าจะสื่อได้จากใจถึงใจ ลูกถึงแม่ แม่ถึงลูก

อยากให้ลูกๆทุกคนทำใจอภัยให้ท่านด้วย ด้วยว่าแม่ที่มีอายุมากขึ้นบางทีท่านก้อย้ำคิดย้ำทำบ่นว่าแต่

เรื่องเดิมๆ

ซึ่งบางทีท่านก็ไม่รู้ตัวหรอกนะคะ แต่จากใจลึกๆของแม่แล้วก็เต็มไปด้วยความรัก


:b45: :b45: :b45:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2011, 04:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
:b8:

ภาษาธรรม ให้อยู่อย่าง มีเหมือนไม่มี มีบุตรให้เหมือนไม่มีบุตร
ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องวางทั้งนั้น ทรัพย์สินเงินทอง บุตรภรรยาสามี
ไปยึดถือไว้ มีแต่จะขบกัดจิตใจตัวเอง ทำให้ทุกข์กันทั้งแม่ทั้งลูก


:b8:

ทุกปรากฏการณ์ คือสังขาร วิญญาณขันธ์
หากยึดมั่น ก็มีฉัน อยู่ในนั้น
ไม่ยึดถือ ขันธ์ก็คือ แค่เหตุการณ์
ไม่ถือขันธ์ ฉันไม่มี ที่ใดๆ

ชีวิตนี้ ที่เหลืออยู่ เพียงครู่ยาม
หมดคำถาม หมดสงสัย ตายไปไหน
ไม่มีฉัน ก็หมดเรื่อง กังวลใจ
ชีวิตนี้ อยู่หรือไป ไม่ห่วงเลย

:b8:

:b8: :b20: :b8:

:b45: :b45: :b45:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2011, 05:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 18:05
โพสต์: 136


 ข้อมูลส่วนตัว


:b45: อยู่นิ่งๆ :b45:

:b45: อยู่นิ่งๆ สิ่งต่างๆ จะว่างเอง
ความรีบเร่ง เหตุปัจจัย ทำใจร้อน
ทุกสิ่งๆ มองให้เห็น เป็นละคร
ไว้คอยสอน ย้อนเตือนจิต คิดปล่อยวาง

ไม่อยู่นิ่ง สิ่งต่างๆ ขัดขวางหมด
แม้นแต่มด ยังมั่วเห็น เป็นตัวช้าง
อะไรหรือ ที่ทำให้ ไม่เห็นทาง
เพราะมีฉัน ที่ชอบอ้าง เข้าข้างตัว

อยู่นิ่งๆ คือของจริง ไม่กลิ้งกลอก
โลกภายใน โลกภายนอก พอกดีชั่ว
โลกจะหมุน ไปอย่างใด ใจอย่ากลัว
วางดีชั่ว หมดตัวฉัน นิพพานเอง :b45:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร