วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 21:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 02:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ เพิ่งจะสมัครเป็นสมาชิกใหม่ของลาน แต่ติดตามกระทู้ของที่นี่มาหลายเดือนแล้วค่ะ แต่ไม่ได้เข้าประจำเท่าไหร่ พักหลัง ๆ เข้ามาอ่านบ่อยขึ้น เกือบทุกวัน เพราะเจอปัญหาโลกแตกเหมือนหลาย ๆ ท่านที่นี่ และพบข้อคิดดี ๆ หลายอย่างจากที่นี่ พยายามนำไปรักษาดูแลใจตัวเอง แต่ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้หรอกนะคะ แค่พออยู่ได้ อยากได้กำลังใจจากที่นี่บ้าง เลยขอระบายความอัดอั้นที่ไม่รู้จะไปพูดกับใคร คุณแม่ก็เสียไปตั้งแต่เราอยู่ ม.5 คุณพ่อมีครอบครัวใหม่ น้องชายก็มีครอบครัวไปแล้ว เคสของเราเป็นแบบนี้ค่ะ เราคบกับสามีตั้งแต่อยู่มหาลัย เรียนจบมีงานทำ หลังจากนั้น 1 ปี ก็แต่งงาน จนถึงปัจจุบัน แต่งงานมา 17 ปีแล้ว รวมคบกันที่มหาลัย อีก 3 ปี ก็เข้าปีที่ 21 แล้ว ตอนนี้เราอายุ 39 สามี 41 ครอบครัวมีความสุขดีมาตลอด ปัจจุบันเรามีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 14 ปี กับ 6 ปี หล่อเหลาเอาการทีเดียว :b16:

ชีวิตคู่ที่ผ่านมา พูดได้เต็มปากว่ามีความสุขมาก ไปไหนไปกันตลอด ผูกพันกันมาก เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ครอบครัวเล็ก ๆ ประสาพ่อแม่ลูกที่สมุทรปราการ สามีทำงานเป็นวิศวกร ระดับบริหาร ส่วนเราก็ทำงานตำแหน่ง IMPORT-EXPORT บริษัทเอกชนทั้งคู่ แต่คนละบริษัทนะคะ บ้านเราไม่มีปัญหาเรื่องการเงินใดๆ เรียบง่ายเหมือนครอบครัวทั่วๆไป ผ่อนโน่น ผ่อนนี่บ้างตามประสา เรื่องเริ่มเมื่อสามีได้งานใหม่ที่มหาชัย สมุทรสาคร หลังจากตกงานอยู่ 1 ปี ตอนแรกเราถามเขาว่าเดินทางไหวมั๊ย แบบไป-กลับ ถ้าไม่ไหวก็รอไปก่อน เพราะเราอยากให้เขากลับบ้านทุกวัน ไม่อยากแยกกัน เขาบอกว่าไหว ขึ้นทางด่วนแป๊บเดียว เราก็ตามใจ เพราะเห็นว่าเขาเครียดที่ตกงาน คงอยากทำงานเต็มที ทำไปสัก 5-6 เดือน เริ่มบ่นเหนื่อย ขอนอนที่โรงงานสัก 2-3 คืน เราก็โอเค สงสารเขาต้องเดินทาง

จน 1 ปีถัดมาเราจำได้ เดือน พ.ย. 53 ขอกลับบ้านเฉพาะคืนวันพฤหัส และเช้าวันอาทิตย์ (วันหยุด) กลายเป็นค้างที่บ้านแค่ สัปดาห์ละ 2 คืน โดยเขาบอกว่า งานยุ่งมาก และคืนวันเสาร์ต้องเฝ้าโรงงาน ไอ้เราก็ยังเชื่อใจ โอเค ไม่ระแคะระคายใด ๆ เลย ผ่านมา 2 เดือน เริ่มรู้สึกแปลก ๆ เวลาคุยหรือถามเรื่องงาน หรือเรื่องการอยู่กินหลับนอนที่ทำงาน จะไม่ค่อยตอบ คอยหลบตา บางวันก็หว๊าน หวาน บางวันก็เฉยกับเรามาก และยังเรื่องบนเตียง (ขอโทษที่เรทนะคะ) ตั้งแต่มีลูก ปกติจะยุ่งกับเราสัปดาห์ละครั้ง หรือถ้าเราเหนื่อยจริง ๆ จะขอบอกปัด แต่เขาก็จะกระเง้ากระงอดจนได้ แต่ ตั้งแต่ พ.ย. ที่ว่า เรื่องนี้หายไปเลย เราเริ่มรู้สึกแปลกมากขึ้นเรื่อย ๆ คงเป็นเซ้นส์ของคนที่เป็นเมีย จนวันนึง กลับบ้านมาบ่ายวันอาทิตย์ ซึ่งเราว่ามันเกินไป แกล้งอำเขาว่ามีคนโทรมาบอกว่าเขามีผญอยู่ที่มหาชัย แค่เนี้ย อาการออกเลยค่ะ หน้าซีด เข้ามากอดเรา บอกรักต่างๆ นาๆ ในที่สุดก็สารภาพว่าเจอ ผญ คนนี้ตั้งแต่ พ.ย. จริง ๆ ตามเวลาที่เราสงสัยเป๊ะเลย

โอ้โห..เหมือนเขาเอามีดมาเฉือนหัวใจทีละชิ้น หัวใจสลายเป็นยังไง รับรู้ได้เลย ร้องไห้จนปวดหัวไปหมด ไม่เคยนึกเลยจริง ๆ ว่าจะเจอกับตัวเอง ถ้าร้องไห้แล้วตายได้ คงตายไปแล้ว เจ็บปวดมาก เคว้งไปหมดเลยค่ะ เขายอมรับทุกอย่าง บอกว่าผิดไปแล้ว เป็นเพราะเขาเหงา ผญ คนนี้มาทำให้เขาหายเหงา ผญ เป็นแม่ม่ายค่ะ ลูกติด 1 คน ให้น้องสาวเลี้ยงอยู่ที่วังน้ำเขียว สามีเป็นเอามากถึงกับบอกเราว่าจะหุ้นกันทำรีสอร์ท์ที่วังน้ำเขียว แล้วครอบครัวเราจะเป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น รวยขึ้น มีความสุขขึ้นอะไรต่าง ๆ มากมาย ตอนนั้น เราไม่เอาอะไรแล้ว ไม่อยากฟัง สามีเล่าให้ฟังว่า เขาเช่าห้องอยู่ด้วยกันที่มหาชัย ผญ เพิ่งเลิกกับสามีคนที่ 2 เพราะสามีมีเมียน้อยแล้วไล่เธอออกจากบ้าน เธอเสียใจมาก อยู่ที่เดิมไม่ได้ เลยมาอยู่กับเพื่อนที่มหาชัย จนไปเจอกับสามีที่ผับแห่งหนึ่ง แล้วเดินมาขอเบอร์สามีเราเลย ต่อหน้าลูกน้องเขาตั้งหลายคน หลังจากนั้นก็โทรมาขอเจอตอนเย็น บอกว่าอยู่กับเพื่อนไม่สบายใจ อยากหาหอพักอยู่เอง ให้สามีเราช่วยพาไปหา เพราะสามีเรามีรถ และเลยมีอะไรกันครั้งแรก ตอนเจอกันครั้งที่ 3 ตามโรงแรมแถวนั้น จนในที่สุดก็ชวนกันมาอยู่หอ ผญ ได้งานทำเป็นธุรการร้านแก็สแถว ๆ นั้น

หลังจากวันนั้นที่เรารู้เรื่อง เรากับสามีก็กระท่อนกระแท่นมาเรื่อย ๆ หาความสุขในครอบครัวไม่ได้อีกเลย เรากลายเป็นภรรยาที่มีข้อเสียซะแล้ว จากที่ผ่านมาเราเป็นคนดีของเขามาตลอด
ปัจจุบัน สามีเปลี่ยนงานอีกแล้ว มาทำที่บางปู ได้สัก 2 เดือนแล้ว มาขอโทษขอโพยเรา ขอเริ่มต้นใหม่ บอกว่าผิดไปแล้วหลงทาง หลงผิดไป ไม่มีใครดีเท่าเรา เขาบอกเขารู้ความจริงหลายอย่าง เช่น ผญ เคยเป็นเด็กนั่งดริ๊งมาก่อน เป็นโคโยตี้ ผ่านผู้ชายมาเยอะมาก และยังติดต่อกับสามีเก่าอยู่ ขอให้เราอภัยให้ เราดีใจมาก น้ำตาไหลเลย ฟ้าสว่างแล้วใช่มั๊ย แต่...เราคิดผิดค่ะ คาดหวังในตัวสามีเรามากเกินไป เราเพิ่งรู้ว่า ผญ ลาออกจากงานและย้ายมาเช่าหอที่สมุทรปราการ อึ้งค่ะ โดนหลอกแบบว่า เราโง่มากที่เชื่อคำพูดเขา เรารู้เพราะว่าเขากลับบ้าน 2-3 ทุ่มทุกวัน บอกว่าเพิ่งเริ่มงานอยากโชว์ความสามารถ

เรื่องแตกเพราะคืนหนึ่งออกไปจากบ้านตอนเที่ยงคืน เราตกใจตื่นเพราะเสียงประตูบ้าน นึกว่าขโมยเข้า ที่ไหนได้ สามีออกไปเฉยเลย เราโทรตาม เขาขอโทษอีกแล้ว ให้เรานอนซะ เขาขอไปหา ผญ สงสารเขาเพราะเขาอยู่คนเดียว ส่วนเรามีลูกเป็นเพื่อน เรารู้ทันทีเลยว่า ผญ คนนี้มาอยู่ใกล้ๆ เราแล้วแน่ๆ เพราะสามีไม่ใช่คนขยันเดินทางขนาดนี้หรอก เย็นวันรุ่งขึ้นเขากลับบ้านเราเลยถาม เขาก็ยอมรับว่าใช่ ผญ ลาออกจากงานตามมาอยู่แถวนี้ กำลังหางานทำแถวนี้ ตอนเย็น ๆ ต้องไปกินข้าวกับ ผญ ก่อน แล้วถึงกลับบ้าน ตอนนี้เขาบอกกับเราว่าเขาสงสาร เท่านั้น อยากให้ ผญ มีคนใหม่ หรือกลับบ้านไปเลี้ยงลูก ยังไงเขาก็ไม่เลิกกับเราแน่ เพราะเราและลูกคือชีวิตของเขา คือครอบครัวที่แท้จริงของเขา วันนึงครอบครัวเราจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ผญ ไม่ยอมท่าเดียวจะอยู่ที่นี่ ยอมอยู่อย่างนี้ ยอมเป็นเมียน้อย ขอให้สามีเราอย่าทิ้งเท่านั้น เขายอมทุกอย่าง แต่เราไม่เชื่อที่สามีพูดแล้วค่ะ เพราะเราเคยเชื่อมาแล้ว และมันไม่เป็นความจริง

ตอนนี้เราพยายามทำใจ (ยากมาก) และอดทนเพื่อลูก ลูกคนโตรู้เรื่อง และเป็นกำลังใจให้เราตลอด แต่ขอไม่ให้เราแยกทาง ขอให้เราอดทนเพื่อเขาและน้อง เขาอยากให้น้องได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น เหมือนอย่างที่เขาเคยได้รับ เราเลยต้องอดทน แต่ขอบอกว่าเหนื่อยและท้อมาก สามีบอกว่าให้เราทำใจ ความรักเป็นสิ่งดี ไม่จำเป็นต้องรักคนเพียงคนเดียว รักหลาย ๆ คนก็ได้ ให้เราเปิดใจรับความจริง เราจะได้ไม่ทุกข์ เราฟังก็ได้แต่ถอนใจ เพราะคนที่มีความสุขคือเขา 2 คน ไม่ใช่เรา ตกลงเลยกลายเป็นว่าทุกเย็น เราจะกินข้าวเย็นกัน 3 คนแม่ลูก เขากลับมาก็อาบน้ำ ดูทีวี เจอกันในห้องนอนลูกชายคนโต ปกติดูทีวีกันที่นั่น แล้วเข้านอน เรายังนอนห้องเดียวกับเขาอยู่และลูกชายคนเล็ก เพราะลูกติดเรามาก และใน 1 สัปดาห์ เขาจะไปค้างกับ ผญ 2-3 คืน ออกไปตอน 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ให้ลูกหลับก่อน กลับอีกทีก็เย็นวันถัดไป แต่วันนี้เริ่มจะแย่ค่ะ โทรมาบอกว่าไม่กลับ จะขอกลับพรุ่งนี้เช้า เขาไม่รับรู้เลยว่าเราจะเสียใจแค่ไหน

เล่ามาซะยาว ขอโทษด้วยนะคะ แค่อยากจะระบาย มันอัดอั้นมาก เหมือนที่นี่ไม่ใช่ที่ของเราแล้ว จะไปก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ทรมาน อยากได้ความคิดเห็นจากหลาย ๆ ท่าน อยากออกไปจากที่ตรงนี้ อยากหายจากความรู้สึกนี้ ตอนนี้พยายามเข้าวัดถวายสังฆทานบ่อยมาก ไปกับลูก ๆ เพราะตั้งแต่แต่งงานเราห่างวัดมากเลยค่ะ แต่ต้องแอบไปทำ เพราะสามีจะบ่นตลอดถ้ารู้ว่าเราไปวัด ก่อนนอนก็สวดมนต์ทุกคืน หลังจากที่ห่างมานานเหมือนกัน ซึ่งก็มีมารคอยผจญเหมือนกัน คือสามีเราเอง หนักสุดคือเมื่อคืนวาน ดึงแขนเราลงในขณะที่เรากำลังสวดมนต์ก่อนนอน เราตกใจเลย เขาบอกเราว่าให้เลิกสวดได้แล้ว ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ศาสนาเป็นแค่เรื่องสมมุติ พระพุทธเจ้าไม่มีจริง เขาเอาไว้หลอกคนที่ไม่มีทางไปเท่านั้น ดูเขาพูดทั้งๆ ที่เขาก็เคยบวชเป็นพระมาแล้ว เขากลายเป็นคนบาปไปแล้ว เราได้แต่สวดแผ่เมตตาไปให้ ที่บ้านเราบอกว่าให้คิดว่าเขาป่วย

ถ้ามีพ่อบ้านหรือสามีบ้านไหนมาเปิดอ่าน ช่วยบอกเราทีว่าผู้ชายเขาคิดเรื่องนี้กันยังไง คนเป็นเมียต้องทนอย่างเดียวใช่มั๊ย และถ้าเรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น รักภรรยาและลูกของคุณให้มาก ๆ กรุณาอย่าทำอย่างสามีเราเลยค่ะ มันเหมือนเอาถ่านไฟร้อน ๆ มาจี้ใส่หัวใจกัน ทรมานอย่างแสนสาหัส ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 03:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 03:39
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Be strong.

Your family was right- thinking of your husband as he is sick. If you think he is curable, stay put , be clam for your boys. If no chance, prepare to leave and take care your sons.

In the meantime, besides praying, protect yourself from STD and AIDS. There is a good chance that he might get them from that woman. Don't mean to sound too blunt, just being realistic.

TIME will heal you.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 04:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณ fatcat ค่ะ ตอนนี้จะตี 5 แล้ว ยังข่มตาหลับไม่ได้เลย วันนี้รู้สึกอ่อนแอมาก คิดถึงแม่ ไม่เข้มแข็งเอาซะเลย

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 11:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ชายกับผู้หญิงก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ ก็คือคนมันมีตัณหามากได้แล้วไม่รู้จักพอไม่ว่าชายหรือหญิง
แต่ผู้หญิงคนนั้นผิดศีลข้อที่สามอย่างแน่นอน ในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน เรามีความตายเป็นธรรมดา เรามีความแก่เป็นธรรมดา เรามีความพลัดพรากจากของรักเป็นธรรมดา นี่คือเรื่องจริงที่ควรคิดทุกวัน ถ้ารับเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ก็แปลว่าคุณยอมรับความจริงไม่ได้ เมื่อยอมรับความจริงไม่ได้ก็เป็นทุกข์แล้วประเด็นคือว่าเราจะออกจากทุกข์นั้นได้อย่างไร .................

เราห่างวัดไม่เป็นไรแต่อย่าห่างจากพระธรรมคำสั่งสอน มีตั้ง 84000 ศึกษาดูได้ อย่าห่างจากการปฏิบัติต่อไปนี้อะไรที่เป็นความดีก็ทำต่อไปอย่าไปคิดอะไรมาก อยู่กับใครก็ตามเราก็ทำความดีได้ เราเกิดมาคนเดียวตายแค่คนเดียว เรามีกรรมเป็นของตน เรามีกรรมเป็นที่พึ่งพิงอาศัย เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ใครทำดีก็ตามชั่วก็ตามย่อมได้รับผลของกรรมนั้น

ส่วนในเรื่องของสามีที่ให้เลิกสวดมนต์นั้นก็ไม่ต้องสวดให้เขาเห็นก็ได้ ให้เราใช้ใจไปหาท่านคือ ให้เรากราบท่านในใจว่า....ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย และชีวิตนี้จะขอยึดท่านเป็นที่พึ่งตราบเข้านิพพาน เพราะข้าพเจ้าไม่รู้จะพึ่งสิ่งใดแล้ว ท่านโปรดเป็นที่พึ่งให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด...ฯลฯไม่ต้อง
กลัวว่าสามีจะเป็นบาปปล่อยเขาไปอย่าไปสนใจจริยาของผู้อื่นเดี๋ยวจะเป็นทุกข์หนัก

ตั้งแต่นี้ต่อใปให้เราคิดว่า เราจะปฏิบัติตนเพื่อออกจากทุกข์ จะไม่ปฏิบัติตนเพื่อเข้าหาทุกข์ เราจะดับความทุกข์ทั้งปวงให้หมดสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนโดยมากทุกวันนี้ จะขาดพลังการหักห้ามกิเลส อย่างยิ่ง และยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
เพราะการห่างไกลธรรมะ จึงขาดแคลนธรรมะ ชนิดที่จะมีพลังพอในการควบคุมตัวเอง

ธรรมะก็ขาดแคลน กระแสโลกก็ร้อนแรง เอื้้อต่อการสนองตนอยู่แทบในทุกช่องทาง
เข้าถึงการตามใจตัวเองได้ง่าย และทุกสิ่งรอบตัวก็พาให้ตื่นตาติดใจได้เรื่อยๆ จนไม่อิ่มพอในสิ่งที่มี


เพราะกระแสโลกแรง ธรรมะในใจคนกลับอ่อน กิเลสของคนจึงไม่มีเครื่องต้านทาน
เหมือนคนป่วยที่ไม่มีภูมิต้านทานอยู่ในตัว เจออะไรยั่วเข้าสักหน่อยก็ห้ามใจไว้ไม่อยู่

มีปราชญ์บางท่าน กล่าวว่า ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้ามีโอกาส และอยู่ในที่ลับ
เขาก็พร้อมจะมีจิตคิดล่วงกามและนอกใจ

คู่หญิงชาย แต่ก่อนเก่าไม่ค่อยมีปัญหามากเหมือนเดี๋ยวนี้
เพราะสตรีเมื่อก่อนเก่ายังมี ความรักนวลสงวนตัว สูง
การที่บุรุษจะล่วงกระทำการ ที่ไม่บังควรก็ยังเป็นความยากลำบากอยู่

แต่ปัจจุบัน สตรีคงเกิดมามากจนกลัวจะไม่ทันการ
จึงไม่ค่อยมีทีท่าในการรักนวลสงวนตัว เหมือนเมื่อเก่าก่อน

เมื่อสตรีไม่สงวน บุรุษก็สบโอกาส
กิเลสก็พอๆกัน ธรรมะก็ไม่มีจะหักห้าม

จึงมีสตรีมากมาย ที่ต้องได้รับความยากลำบากยิ่งกว่าบุรุษ
เพราะบุรุษโดยมาก เกิดมาแล้วไม่สามารถตั้งท้องได้

นี่หละหนา .................ในยามที่ซึ่งธรรมะขาดแคลน โลกที่อาศัยก็จะเป็นดังไฟแผดเผา

:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 18:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญหามันก็มีมาทางภายนอกมาสู่ภายใน ภายนอกรอบตัวเรานี้คือสามีของคุณเป็นต้นเหตุของปัญหา ก่อปัญหาขึ้นด้วยอำนาจครอบงำของกิเลสราคะ โดยไม่หวั่นเกรงต่อบาปกรรมเลยทั้งที่ตนเองนั้นก็เคยบวชศึกษาพระธรรมวินัยมาก่อน ย่อมรู้ดีว่า การประพฤตินอกใจโดยล่วงละเมิดต่อหญิงอื่นนั้นเป็นการกระทำผิดศีลธรรม แต่ก็ทำลงไป นี้ก็เป็นอำนาจกิเลสที่ครอบงำใจให้หลงเชื่อไปตาม ผิดถูกอย่างไรไม่อาจยับยั้งได้เพราะว่า เขานั้นอยาก อยากจะทำสนองความต้องการ กิเลสมันทำให้เห็นแก่ตัวแล้วถ้าไม่ทำเดี๋ยวจะเกิดอะไรมาแย้ง กลัวใจจะทรมาน นี่เห็นแก่ตัว แต่ความจริงถ้าหากมีสติรู้ดีรู้ชั่วมันยับยั้งได้ มันไม่ตายหรอกต่อต้านความชั่วเป็นอาจิณก็ระงับได้ ท่านที่ผ่านการฝึกขัดเกลามานี้หลายๆท่านไม่เห็นท่านจะทรมานตายเพราะเหตุว่า ไม่ได้ทำอะไรที่ขัดใจอันเป็นความชั่ว นี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่จะวัดได้ว่า มีกำลังใจต่อต้านกับความชั่วแค่ไหน เป็นเรื่องของศีลที่จะทำให้คนมีปกติในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ นี่ก็เป็นเรื่องภายนอกที่มาเกี่ยวข้องกับคุณ ส่วนภายในของของคุณคือจิตใจนี้ ก็เป็นเป็นปัญหาเช่นกัน เกิดปัญหาขึ้นที่ใจนั้น เพราะอะไร เพราะไปรู้มาจากอายตนะมีตาเป็นต้นอันมีอยู่กับคนทั่วไปนี้แหละ ไปรู้เรื่องมาจากภายนอก จากสามีของคุณ คนรักของคุณ ความรักความผูกพันทำให้มีความเกี่ยวข้องกัน รู้สึกชอบไม่ชอบแล้วแต่ช่วงเวลาของอารมณ์ที่มากระทบ การแก้ไขปัญหาที่เกิดเฉพาะนี้ จึงอยู่ที่ว่า จะปล่อยวางความยึดถือว่า เป็นของๆเราได้มากน้อยแค่ไหน ยึดน้อยก็มีความทุกข์น้อย ปล่อยวางเรื่องภายนอกแล้วให้สติคอยควบคุมมองพิจารณาถึงความจริงตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุ ให้เห็นว่า ภายนอกนั้นก็เป็นแต่เกิดมีแล้วไม่มี มีกระแสเสียง กระแสนินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์อย่างไร ให้เขาเป็นอย่างนั้น เฝ้าพิจารณาความจริงนั้น เอาใจของเราก่อน ให้แยกออกจากความยึดถือภายนอกนั้นก่อน ก็คนละอย่างคนละเรื่องกันมิใช่หรือ ทีนี้ฝึกได้แล้วมีใจสบายไม่สุขไม่ทุกข์ตามภายนอกที่สามีคุณกระทำแล้ว จึงควรมาตกลงเปิดเผยความรู้สึกให้ชัดเจนต่อกันและกันว่า จะหยุดกระทำสิ่งผิดศีลธรรมต่อไปหรือไม่ หากไม่หยุดก็ควรหมดความข้องเกี่ยวกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 08:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านที่มาให้ความสว่าง ให้แนวคิดที่ดีและมีประโยชน์มาก ช่วงนี้ดิฉันเองก็พยายามอย่างมากที่จะต้องทำใจและอยู่ให้ได้ เวลาน้อยใจ เสียใจก็ต้องสร้างลูกฮึด แต่ยอมรับว่ามันก็ยากมาก บางทีทำกับข้าวให้ลูก ก็ร้องไห้ ร้องมาก ๆ เข้า ค่อยมาคิดได้ว่าเราจะร้องเพื่ออะไร เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายอยู่อย่างนี้ตลอด พยายามเอาลูกเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้มากที่สุด แต่พอถึงเวลาเข้านอนก็อดทอดถอนใจไม่ได้ เราไม่เคยทำอะไรนอกลู่นอกทางเลย ดูแลครอบครัวมาอย่างดีตลอด ทำไมเขาทำกับเราอย่างนี้ อย่างกับว่าเราเคยทำร้ายเขามาก่อน

เมื่อวานสามีกลับเข้าบ้านตอน 11 โมง ตามที่นัดกันว่าจะพาลูกไปหาที่เรียนพิเศษทีห้างซีคอน ก็พากันไป 4 คน พ่อแม่ลูก แต่บรรยากาศไม่ดีเลย เพราะดูเขาเดินเหมือนไม่มีแก่ใจ เดินนำลูกเมียเป็นโยชน์ ๆ เหมือนมาคนเดียว ตอนเข้าไปสมัคร เขาก็ไม่เข้าไปด้วย แทนที่จะปรึกษากันว่าจะให้ลูกเรียนยังไง วิชาไหน วันไหน กลับกลายเป็นเราต้องปรึกษากับลูกกันเอง สมัครกันเอง ตอนเดินเล่น หรือซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ก็นำไปไกล ไม่สนใจคนที่อยู่ข้างหลังเลย เราก็ได้แต่ถอนใจ ดูครอบครัวอื่นเขากลมเกลียวกันดี หันมาดูของตัวเอง นี่มันอะไรกันเนี่ย สงสารไอ้ตัวเล็กเดี๋ยววิ่งหาพ่อ เดี๋ยววิ่งหาแม่อยู่อย่างนั้น กลับบ้านเขาก็อาบน้ำขึ้นห้องดูทีวีคนเดียว แต่พอเราเอาลูกอาบน้ำขึ้นตามไปก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้น คคุยเรื่องข่าว เรื่องโน่นนี่ เราก็งงค่ะ เฮ้อ..เหนื่อยหัวใจจังเลยค่ะ ไม่รู้ต้องไปตามกระแสเขาอีกนานมั๊ย

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านกระทู้ของคุณแล้ว ต้องถอนหายใจดังๆ
ช่างคล้ายอะไรกันขนาดนี้ ปัญหาแบบนี้ต้องใช้เวลา
เป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ ของดิฉันผ่านมาประมาณ 8 ปีกว่าแล้ว
มีอะไรดีขึ้นไหม ต้องตอบว่า "ดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน" และไม่ได้
มีอะไรเลวร้ายมากกว่าเดิม

แรกๆ ดิฉันเครียดมาก รู้สึกผิดหวัง รู้สึกเสียใจอย่างแรง
เวลาผ่านไป ดิฉันเริ่มไม่สนใจว่าสามีจะไปไหน ไปกับใคร
จะกลับบ้านวันไหน ปล่อยค่ะ ปล่อยไปเลย
เอาเวลาทุกสิ่งทุกอย่างมาสนใจลูก แต่กิจกรรมวันหยุด
ไปไหว้พระ ไปซื้อของยังเหมือนเดิม
จากเมื่อก่อนทะเลาะทุกครั้ง เมื่อเริ่มคุย
ตอนนี้ไม่ทะเลาะกัน เพราะดิฉันจะไม่คุยเรื่องนั้นเลย
แม้กระทั่งการเช็คโทรศัพท์ หรือจะจับผิดเรื่องอะไร
ทั้งๆ ที่ดิฉันก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าเค้า 2 คนยังคบกันอยู่

แต่ที่ประสบการณ์เคยคุยกับผู้หญิงคนนั้น ก็รู้เพียงว่า
ผู้หญิงคนนั้น ก็กลัวที่สามีดิฉันจะไปมีผู้หญิงคนใหม่
เหมือนที่เค้าทำกับดิฉัน เค้าไม่มีความสุขเพราะสามี
ดิฉันไปมาหาสู่กับเค้าไม่เหมือนกับสามีภรรยาอื่นที่เค้าปฏิบัติกัน
เค้าต้องโกหกกับคนรอบข้างเรื่องสามีของดิฉัน
กลัวคนอื่นจะรู้ว่าเค้าเป็นเมียน้อย

ดิฉันก็กลับมาคิดว่า แล้วเราจะไปทุกข์เหมือนเค้าทำไม
ทำไมไม่ทำตัวเองให้มีความสุข ในเมื่อเค้า 2 คนอยากจะเป็น
แบบนี้ ก็ปล่อยให้เค้าเป็นไป กรรมที่เค้าก่อขึ้น เค้าก็ต้องชดใช้
กันเอง และดิฉันเชื่อว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีความสุขเลย
แต่กลับกัน ดิฉันปลง และเหลือความทุกข์ในเรื่องนี้น้อยมาก

อยากให้คุณเข้มแข็ง เวลาเท่านั้นที่จะรักษาจิตใจของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 11:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านค่ะ ที่แนะนำสิ่งที่ดี ๆ ทางสว่างให้ ตอนนี้ดิฉันอยากออกจากทุกข์นี้มาก อยากเลิกรัก เลิกผูกพัน อยากรู้สึกกับเขาแค่เพื่อน แต่มันทำยากเหลือเกิน 20 กว่าปีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา มีกันและกันเสมอ มันนานมาก จนทำให้รู้สึกผูกพันมาก เมือถึงเวลาที่เขาเปลี่ยนไป ดิฉันจึงอ่อนแอขนาดนี้ และที่ผ่านมาเขาดีมาตลอดจนเราชะล่าใจ และให้ใจเขาไปหมด ถึงเจ็บปวดขนาดนี้

ตอนนี้อยากออกจากโลกมืดนี้มาก บางทีอยู่บ้าน ลูก ๆ หลับหมด แล้วเขาไม่อยู่บ้าน เหงาจับใจเลยค่ะ
บางครั้งเราก็เหมือนทำใจได้ สั่งตัวเองให้เข้มแข็ง ฝืนยิ้ม แต่พอเขาโทรมาบอกว่าคืนนี้ไม่กลับ โอยใจเรา เอาอีกแล้ว เจ็บอีกแล้ว ใจสั่งให้โทรไปหา โทรไปถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่า โทรไปเขาก็ไม่กลับมา วางสายแล้วก็ร้องไห้เหมือนเคย 8 เดือนแล้วที่เป็นอย่างนี้ ทรมานเหลือเกิน ดิฉันพยายามสวดมนต์ขอพรพระ ขอพรพ่อกับแม่ ให้ความเข้มแข็งกับลูกด้วย ไปทำบุญก็มององค์พระพุทธรูป ขอความเข้มแข็งกับท่าน ขอให้เราผ่านความทุกข์อันแสนสาหัสนี้ไปให้ได้ ท้องฟ้าในวันนั้นคงงดงามและสดใสมากมาย และดิฉันคงกลับมายิ้มได้อย่างไม่ต้องฝืนอีกครั้ง

อยากได้คำแนะนำจากท่านที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้ ต้องทำใจยังไง อยู่ยังไง นานแค่ไหนถึงจะผ่านมันไปได้คะ ไม่อยากปรึกษาคุณพ่อ กลัวท่านเป็นห่วง ส่วนน้องชายไม่ต้องพูดถึง รายนั้นใจร้อนมาก คงเกิดเรื่อง และให้ดิฉันเลิกแน่ๆ แต่ดิฉันเป็นห่วงลูก ๆ ไม่อยากให้ขาด อยากให้เติบโตในครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนที่ดิฉันมี อีกอย่างสามีก็รักและยังดูแลลูกดี ในจุดนี้ดิฉันก็ยังชื่นชมเขาอยู่เสมอ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ หรือทางสว่างในการทำใจให้อยู่กับสถานการณ์นี้ให้ได้ ขอบพระคุณมากค่ะ

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดเป็นผู้หญิงนี่ก็ลำบากจัง แล้วยิ่งถ้ามีลูกด้วยกันอีก เสียใจให้เค้าเพราะผชที่เป็นสามีเราเกิดกิเลส ไม่ยับยั้งชั่งใจ เราๆทั้งหลายก็ต้องมาทุกข์อย่างนี้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดไม่ตก เห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกันจังเลยค่ะ คนเราพอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็ไปไม่เป็น หาทางออกไม่ได้

ทางเดียวก็คงต้องดับทุกข์ในใจเราก่อนอะค่ะ ทำยังงัยให้เราเศร้าน้อยที่สุด ถ้ามีลูกก็ต้องคิดถึงลูกมากๆ วิธีที่คุณทำก็ถูกแล้วค่ะ เพื่อรักษาชีวิตครอบครัว บางครั้งเราก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ สำหรับดิฉันแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรจากคุณมากค่ะ แต่ปัญหาอาจจะต่างกันไปในแต่ละบุคคล ก็ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ คิดแค่วันนี้ค่ะ อย่าไปคิดอะไรที่มันยังมาไม่ถึง คิดแค่ว่าวันนี้เราจะกินอะไร จะทำอะไรก็พอ อะไรมันจะเกิดเราก็คงไปห้ามไม่ได้หรอกค่ะ แต่ดิฉันเชื่ออยู่อย่างหนึ่งค่ะ ว่ามันต้องมีวันที่เราจะไม่เสียใจอีก หรือเสียใจก็คงจะน้อยลงมากๆ คิดซะว่าเรากำลังอยู่ในช่วงทดสอบความรักและชีวิตอยู่ก็ได้ค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 17:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากค่ะ คุณสุธินา ตอนนี้เรียกได้ว่าใช้ความพยายามอย่างมากในการผ่านไปแต่ละวันให้ได้ คิดอย่างคุณสุธินาว่ามาก็ดีค่ะ คิดแค่วันนี้เท่านั้น ใครจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไป เฮ้อ.. :b26:

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เราพ้นทุกข์ไปได้
เพราะติดอยู่ตรงคำว่า "ของเรา"

ทุกอย่างจะคลายไปได้เอง ถ้าคำว่าของเราไม่มี

ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เมื่อยิ่สิบกว่าปีที่แล้ว เขาอยู่ที่ไหน? ทำไมเรามีชีวิตอยู่ได้
ตอนนี้ถ้าจะไม่มีเขาเหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ทำไมเราถึงอยู่ไม่ได้

ใจที่เจ็บปวด ใจที่ทุกข์ร้อน เพราะคิดว่า "สามีของเรา" ไปหาคนอื่น
แต่ถ้าคิดว่า "คนอื่น" ไปหาคนอื่น เราจะยังคงเจ็บปวดอยุ่ไหม?
แกะความเป็นเจ้าของออกให้ได้...ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่มีอยู่
ก็จะหลุดออกไปได้เอง....

ผ่านไปให้ได้นะค่ะ เป็นกำลังใจให้อีกหนึ่ง :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 10:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณทักทายค่ะ และเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจค่ะ

เมื่อวานเย็นเขากลับมากินข้าวเย็นด้วย แต่จบลงที่ขอไปค้างที่หอกับ ผญ แต่จะรอให้ลูก ๆ หลับก่อน ก็ออกไปประมาณเที่ยงคืน ระหว่างนั้นก็คุยกัน เขาบอกว่าให้เราคิดซะว่า เราช่วยคน ๆ หนึ่งด้วยกัน ช่วยให้ ผญ คนนั้นอยู่ได้ ดิฉันก็ถามว่าจะอีกนานแค่ไหน เขาตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่คงอีกไม่นาน เพราะ ผญ ก็ไม่มีงานทำ ยังหางานไม่ได้ เงินเก็บก็ต้องร่อยหรอ ไหนจะลูกที่ ตจว อีก และสามีก็ไม่สามารถจะจุนเจือเรื่องเงินได้ เพราะเงินเดือนเขาดิฉันเป็นคนเก็บทั้งหมด เขาบอกว่าสักวัน ผญ คนนั้นก็ต้องมี ผช ใหม่ หรือกลับไปคืนดีกับสามีเก่า ที่ให้เวลาเขาได้เต็มที่ ไม่ขยักขย่อนเหมือนสามีคนอื่นอย่างเขา ดิฉันลองใจเขาว่าคืนนี้ไม่ไปได้มั๊ย ไปวันหลังได้มั๊ย เขาบอกว่านัดไว้แล้ว ไม่อยากให้เสียคำพูด ใจจริงก็คงอยากไปแหละค่ะ

ดิฉันพยายามพูดคุยอย่างใจเย็น และทำความเข้าใจเขาทั้ง 2 คน ให้มากที่สุด (แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่า ผญ ที่ดี ที่สามีบอกว่าดีมาก ๆ เหมือนเจอหีบสมบัติ คนดีเขาทำแบบนี้ด้วยเหรอ :b34: ) ยื้อกันไปยื้อกันมา จนสามีบอกว่า ให้เขาไปเถอะคืนนี้จะได้จบ ๆ ไป แล้วพรุ่งนี้เราก็อยู่ด้วยกัน ไม่มีทางอื่นแล้ว จึงต้องปล่อยเขาไป เดินลงไปส่งเขาอีกต่างหาก กลับขึ้นห้อง ก็สวดมนต์ แต่แปลกที่คืนนี้ไม่ร้องไห้เลย แถมหลับเป็นตายด้วย อาจเพราะดึกมากแล้ว

วันนี้ได้อ่านความเห็นของคุณทักทายแต่เช้า ดีใจมากค่ะที่คุณทักทายเข้ามาตอบ เพราะอ่านในหลาย ๆ กระทู้ คุณทักทายให้คำแนะนำและกำลังใจได้ตรงใจมาก ดิฉันจะเตือนตัวเองว่า เขาไม่ใช่ของเรา เขาไม่ใช่ของเรา จะท่องไว้ให้ขึ้นใจ เวลาเขาไปจะได้ไม่เจ็บ และจะต้องดีขึ้นค่ะ

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำพูดของพี่ทักทายนี่อ่านแล้วก็อืมม..จริงเนอะ คำว่า"ของเรา" นี่มันมีอิทธิพลกับความรู้สึกนึกคิดของเราได้มากมายมหาศาล ตรงประเด็นมากๆค่ะ ถ้าเรามองว่าเค้าคนนั้นไม่ใช่ของเรา เราก็จะไม่เสียใจอะไรมาก เป็นการคิดที่จะทำให้เราพ้นทุกข์โดยเร็ว จะลองทำดูค่ะ

ถ้าในเมื่อเค้าคือคนอื่นสำหรับเรา จะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราก็อยู่ของเราไป ตื่นมา คุยกับลูก ไปทำงาน เจอเพื่อนๆ กลับมาบ้านก็ทำนู่นทำนี่ เดี๋ยวก็ง่วงหลับไปแล้ว เชื่ออยู่อย่างนึงว่า ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คงเป็นสิ่งที่เค้าลิขิตมา ไม่เราก็เค้ามี่คงทำกรรมดีกรรมเลวต่อกันมา ในชาตินึง ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้กรรมต่อกัน คิดได้อย่างนี้ อาจจะสบายใจขึ้นนะคะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 15:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เจอเรื่องแบบนี้ ขอชื่นชมในความเป็นแม่ที่ดีมาก เวลาจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 68 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร