วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 02:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 10:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของเรื่องก็คือเราดันไปมีกิ๊ก เราก็เป็นกิ๊กเขาเหมือนกัน รู้สึกผิดตลอดเวลา
เพียงแต่ยังไม่ทำผิดศิลธรรม เคยนัดกันแต่ก็มีอุปสรรค ตอนนั้นคิดว่าเป็นผลบุญเก่า
ทำให้ทำผิดศิลไม่สำเร็จ ตอนนี้อยากเลิกแต่มันอาลัยอาวรณ์ คิดเลิกทีไรมันรู้สึกทุกข์
คิดว่าปล่อยไปแบบนี้ก็ทุกข์อีก ใจว้าวุ้นกระวนกระวายเหลือเกิน รู้สึกตัวเองเลวมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


มีความละอายต่อบาปก็ดีแล้ว จงใช้ความละอายนั่นแหละทำลายความชั่ว แล้วหาทางออกให้ได้

แล้วก็เลิกเสียให้สิ้น เพราะถ้าชายใกล้กับหญิงแล้วเดี๋ยวมันก็เกิดเรื่อง แต่เวลาเลิกกันก็จากกันด้วยดี พูดถนอมน้ำใจกัน ต่อไปจะอยู่ในฐานะอะไรก็แล้วแต่ ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


ผลของการเป็นชู้มันเผาตัวเองก่อนเผาใครเลย แค่คิดก็ร้อนในอกแบบนี้แล้ว ถ้าครอบครัวของสองฝ่ายรู้ก็คือ เท่ากับเผาคนอื่นต่ออีก

คนเราอย่าเอาใจตัวเองเป็นมาตรฐานค่ะ ใจเรามันก็ตามกิเลสตามความชอบของมันอ่ะ พาเราไปผิดบ้างถูกบ้างสะเปะสะปะ

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 18:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกวันนี้ไม่อยากคิดถึงเขาเลย แค่คิดว่าจะเลิกละนะความรู้สึกเหมือนอกหักเลย
พยามไม่โทรแต่ก็คิดถึงตลอด เป็นเพราะอะไร นอนก็ไม่หลับ กินไม่ลง วันๆเอาแต่ซึมเศร้า
แนะนำหน่อยเถอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2011, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


jkik เขียน:
เรื่องของเรื่องก็คือเราดันไปมีกิ๊ก เราก็เป็นกิ๊กเขาเหมือนกัน


แค่อ่านก็ดูยุ่งเหยิงไม่รู้จุดจบแล้วล่ะค่ะ s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2011, 15:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ตัวค่ะว่ามันต้องจบสักวัน อยู่ที่จบแบบไหน กำลังใจและคำแนะนำจากกัลยาณมิตร
สามารถชี้นำได้เป็นอย่างดีค่ะโชคดีที่พบแต่กลัยานมิตรที่ไม่คอยซ้ำเติมค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 15:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 10:20
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


จงมีศีลเป็นที่พึ่งเถิด อย่าได้มีกิ๊กเป็นที่พึ่งเลย ศีลเป็นเยี่ยมในโลก แค่คิดทุศีลคุณก็ยังเป็นทุกข์มากถึงเพียงนี้ ถ้าคุณทำผิดศีลธรรมคุณจะได้รับผลกรรมชั่วอีกยาวนาน อย่าทำบาปเพราะเห็นแก่กิ๊ก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 22:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งใจว่าจะเลิกเดือนกว่าแล้วยังเลิกไม่ได้เลย ยังติดต่อ
กันทุกวัน ตัดใจไม่ลง
วันนี้ตั้งใจว่าจะเลิกติดต่อให้เด็ดขาด
ครั้งที่เท่าไรไม่รู้ แต่ลึกๆก็รอโทรศัพท์จากเค้า
ไม่โทรมามันเศร้าจัง หดหู่หม่นหมอง
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ให้ความตั้งใจครั้งนี้สำเร็จด้วย
ก่อนจะเผลอใจทำผิดศีล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2011, 11:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


คราวนี้ต้องตัดใจให้ลง ตัดสินใจเด็ดขาดโดยคิดว่าตัวเราแน่รักได้ก็เลิกรักได้
แต่พอบอกเลิกกับกิ๊กเค้ากลับเฉยๆ ไม่แสดงทั้งท่าทางและคำพูด
มันเหมือนถูกตบหน้า นี้เราคิดไปเองฝ่ายเดียวแท้ๆ ใจเค้าเลิกกับเรานานแล้ว
เรายังหลงละเมอคิดว่าเค้าจะอาลัยอาวรณ์ ยังหวังคำพูดบางคำจากเค้า
ที่จะเหนี่ยวรั้งเราไว้ หรือว่านี้มันคืออาการเสียหน้า จากคนที่บอกเลิก ตอนนี้กลับรู้สึก
เป็นฝ่ายถูกทิ้ง ความรู้สึกตอนนี้มันหน่วงในอก มันหมดแรง มันเศร้าซึม เบื่ออาหาร
อาการนี้มันจะเป็นอีกนานมั้ย ทำไงดี ช่วยด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2011, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


jkik เขียน:
คราวนี้ต้องตัดใจให้ลง ตัดสินใจเด็ดขาดโดยคิดว่าตัวเราแน่รักได้ก็เลิกรักได้
แต่พอบอกเลิกกับกิ๊กเค้ากลับเฉยๆ ไม่แสดงทั้งท่าทางและคำพูด
มันเหมือนถูกตบหน้า นี้เราคิดไปเองฝ่ายเดียวแท้ๆ ใจเค้าเลิกกับเรานานแล้ว
เรายังหลงละเมอคิดว่าเค้าจะอาลัยอาวรณ์ ยังหวังคำพูดบางคำจากเค้า
ที่จะเหนี่ยวรั้งเราไว้ หรือว่านี้มันคืออาการเสียหน้า จากคนที่บอกเลิก ตอนนี้กลับรู้สึก
เป็นฝ่ายถูกทิ้ง ความรู้สึกตอนนี้มันหน่วงในอก มันหมดแรง มันเศร้าซึม เบื่ออาหาร
อาการนี้มันจะเป็นอีกนานมั้ย ทำไงดี ช่วยด้วย

ไม่รู้ได้ผ่านไปกระทู้ มันมาอีกแล้วครับอารมณ์สับสนรึเปล่า
คือความรักนี้มันไม่ผิดนะ มันไม่รู้อีโน่อีเน ที่ต้องทุกข์ต้อง
เสียใจเนี้ยเพราะ รักคนผิด อันนี้ไม่ได้แปลว่ามีคนหนึ่งดีอีกคน
หนึ่งเลวอะไรนะ แต่ผิดในที่นี้คือ มาเจอกันพอให้รู้ว่า ยังมีใคร
กะเขาบ้าง เวลาเจอแบบนี้ มันสุขสมสั้นๆ แล้วจบลงด้วยร้าว-
นิรันด์ยังไงไม่รู้ เริ่มต้นมันร้อนแรงแต่หลังๆ ก็จะยิ่งเหินห่าง
ไม่หลงเหลือความอบอุ่นความผูกพันใดๆ เลย แม้แต่มิตรภาพ

นี้เพาะเราเอาอารมณ์เหวี่ยงๆ ไป ไม่ก็กางอารมณ์เหมือนแหดัก
ปลาดักใครสักคน เปรียบเทียบนะ

คือในเวลา ในสถานการณ์ ในจังหวะที่คลุมเครือสับสนตั้งแต่ต้น
อยู่แล้ว มันเลยได้ปลาที่ไม่มีคุณภาพ เพราะแต่ละครั้งที่เจอก็จะได้
มาง่ายๆ เหมือนๆ แหดักปลา ผิดกับการใช่เหตุผล ใช่สติไม่ใช่อารมณ์
ค่อยๆ ดึงค่อยๆ ผ่อน ดูใจตัวเอง ดูใจเขาดีๆ รักใครก็รักได้ แต่ไม่ต้อง
ไปยกหมดใจยึดไว้หนักหนาทุกครั้ง

ก็หากว่าแค่กิ๊ก ที่เหมือนปลาในแห จะมางอแงทำไมในเมื่อวันหน้า
โอกาสหน้า เมื่อเราชัดเจนไม่คลุมเครือ มีเหตุมีผลในการเลือกในการ
พิจารณาคนที่เขามาหรือคนที่เราจะเข้าไป ทุกความสัมพันธ์นะ ตั้งแต่
เพื่อน พี่น้อง จนพัฒนาไปถึงคนรัก เหมือนใช้เบ็ดใช้ความสามารถ ใช้
วิจารณ์ญาณที่เติบโตพร้อมๆ กับประสบการณ์ที่ผิดหวังเสียใจนี้แหละ

หนูจะเหวี่ยงแหดักแหเองอีกไหม ถ้าสามารถคัดสรรปลาที่มีคุณภาพ
เพราะเราใช่คุณค่าและคุณภาพในตัวเราในการ คบหาในการพัฒนา
ความสัมพันธ์ หรือจะเสียดาย ปลาพันธ์กิ๊ก!

ที่มีอยู่มากมายเต็มทะเล เอ๊หรือช่วงน้ำท่วมก็ลอยมาหน้าบ้าน 55
อะก็เอาเป็นว่า สติสตางค์สติปัญญานะ เหตุผล คุณภาพจิตใจที่ดี
คิดดี ทำดี พูดดี เราก็จะได้ เครื่องมือที่ดี ในการ หาปลา เปรียบเทียบ
อะนะอาจไม่สมควรไม่สวยเท่าไหร่ แต่จะได้เห็นภาพว่า แท้จริงแล้ว
ที่เราต้องมาทุกข์ เพราะปลาพันธ์กระจอกๆ นั่นเพราะเรา "กระจอก
เสี่ยว" ไม่พิธีพิถันในการเลือกใช้ คัดสรรอุปกรณ์

แล้วแถมตลกอีกต่างหาก ดันชอบดันรักปลาเน่าที่ติดแห หรือไปดักมาได้
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีค่ามีราคาอะไร

เมื่อไหร่ที่เรามีคุณภาพจิตใจ คิดดีทำดีพูดดี มีวิจารณ์ญาณที่ดีกว่านี้
ไม่วู้วาม ใจเย็น รักใครเป็นจริงๆ มากกว่านี้ เราไม่ดูถูกตัวเอง เพราะเรา
มีเครื่องมือ (จิตใจที่ดีพร้อม) ในการหาปลา หลวงพี่เชื่อว่า ครั้งหน้า
ก็ไม่ต้องเสียใจเป็นบ้าเป็นหลัง ก็เพราะปลาที่ด้อยคุณภาพไม่มีคนกิน
ทั้งมีกลิ่นกินไปก็ปวดท้อง จะกินจะยืดเยื้อไว้ไหม?

พักผ่อนให้สบายใจ ให้เวลาตัวเอง ให้เวลาพ่อแม่ กลับมารู้เนื้อรู้ตัว
รักษาเครื่องมือ(จิตใจ)ให้ใช้การได้เหมือนเดิม แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่
จะดีกว่าไหม ถ้ามีคนมาขายปลาให้เรา เราจะเลือกปลาที่โหลๆ หว่าน
แหได้ หรือว่า เลือกปลาที่ตกได้ใช้ศิลปะ ใช้เวลาใช้จิตใจให้ได้มา
เป็นหนู หนูจะเลือกซื้อเลือกหาปลาแบบไหน ฉันใดก็ฉันนั้น ปลาเน่า
(เค้าไม่มีใจแล้ว) ยังจะทนทานทนกินประทังชีวิต

จนขนาดนั้นเลยหรือ? ไม่เชื่อหรอก มีตังเล่นเน็ตเล่นคอม ไม่น่าจะจน
ขนาดนั้นนะ 55 สู้ๆ เริ่มต้นใหม่ ไม่ต้องพยายามลืม ไม่คิดไม่แค้น
ให้อภัย ก็เราเองไปหวานไปดักเองเชือ่เถอะ!

มันเน่าแล้วก็ทิ้งสิ จะปลุกเสกให้ปลาเน่าหอมอร่อย หลวงพี่คิดว่า
มันไม่มีคาถานะ มันเป็นไสยศาสตร์ที่ คนๆนั้น มีไว้หลอกตัวเองแท้ๆ
ตื่นๆ ไปกอดพ่อกอดแม่ไป บอกว่ารักพ่อรักแม่ เดียวก็ดีขึ้น ไม่ต้อง
คิดมาก ไม่โทษใครไม่ตำหนิตัวเอง เอาใจช่วย ขอเจริญพร

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2011, 13:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณหลวงพี่ค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆ
ใจหนูมันง่าย โลภมาก ทั้งที่มีสามีอยู่แล้ว
ยังปันใจให้ชายอื่น เพียงเพราะมันแปลกใหม่ ตื่นเต้น
จริงด้วยค่ะมันสุขแค่วูบเดียวแต่ทุกข์นาน
กรรมครั้งนี้จะส่งผลนานมั้ย
แค่คุยกันทางโทรศัพท์
ส่งข้อความถึงกัน (สารภาพค่ะว่าบางครั้งติดเรทเอ็กซ์)
มีนก็ผิดศิลข้อสามแล้วใช้มั้ยคะ แก้ไขได้อย่างไรคะ
หนูอยากลืมกิ๊กได้ไวๆ
หนูอยากมีความสุข กับชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2011, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


jkik เขียน:
จริงด้วยค่ะมันสุขแค่วูบเดียวแต่ทุกข์นาน
กรรมครั้งนี้จะส่งผลนานมั้ย
แค่คุยกันทางโทรศัพท์
ส่งข้อความถึงกัน (สารภาพค่ะว่าบางครั้งติดเรทเอ็กซ์)
มีนก็ผิดศิลข้อสามแล้วใช้มั้ยคะ แก้ไขได้อย่างไรคะ
หนูอยากลืมกิ๊กได้ไวๆ
หนูอยากมีความสุข กับชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม


รับยาเอาไปอาบไปกิน แรงหน่อยนะ

1. กิ๊กเหมือนท่อนกระดูกไม่มีเนื้อ
- น้องหมาคนเข้าใจผิดว่าชอบกระดูก เราเองยังชอบเนื้อ
เพราะคนไม่เหลือเนื้อให้ เหลือแต่กระดูก อยากแค่ไหนก็ได้
แ่ต่แทะเอา กินเนื้อกินเลือดที่เหลืออยู่น้อย ก็แค่แทะๆ เพลินๆ
สุขๆ มันๆ แป๊ปเดียว กิ๊กก็เหมือนกระดูกที่น้องหมาชอบแทะ
สุดท้ายก็ไม่ได้อิ่มและหาแก่นสารอะไรไม่ได้ ^^

2. กิ๊กเหมือนเนื้อที่ฝูงแร้งฝูงกาชอบโชบเอาไปกิน
- ยิ่งดูดียิ่งเท่ห์ยิ่งใช่ยิ่งโดน ก็ิยิ่งต้องโอดโอยเวลาที่จะมีใคร
ต่อใครมาเอากิ๊ก เนื้ออร่อยๆ ของเราไป มากภัยมากศัตรู

3. กิ๊กเหมือนคนถือคบไฟแล้วเดินทวนลม
- เอาแค่ว่าแฟนตัวจริงก็ยังเหมือนคนเดินทวนไฟทวนลม ที่ถือไปข้างหน้า
มีแต่ควันมีแต่ความร้อน ที่ทำให้ทรมานร้อนเจ็บแสบ แล้วนี้ดันถือสองอัน
สองคบเพลิง ถือทำไมงั้น ราดน้ำมันเผาตัวเองดีกว่า เร็วดี (พูดเล่นนะ)
ที่ทำอยู่ก็เหมือนเผาตัวเองแท้ๆ แล้ว^^

4. กิ๊กเหมือนหลุมถ่านติดไฟ
- คือตกหลงไปหลงใหลเสียท่าเสียทียิ่งกว่านี้ ก็ยิ่งร้อนยิ่งทุกข์ทรมาน

5. กิ๊กเหมือนความฝัน
- ความสุขที่ได้รับเหมือนฝันแสนหวานชั่วคราวเล็กน้อย พอตื่นขึ้นมา
ต้องพบความจริง ขนาดคนตัวจริงยังต้องแยกทาง นับประสาอะไรกับฝัน

6. กิ๊กเหมือนของมีค่าที่ยืมเขามา
- แฟนเราเองก็เหมือนกัน เป็นคนดีหรือคนไม่ดี วันดีคืนดีก็ต้องพลัดพราก
ทั้งจากเป็นจากตาย เหมือนต้องคืนของยืม ขนาดแฟนพ่อแม่คนรักตัวเราเอง
ก็ต้องคืนให้ความตาย นับประสาอะไรกับกิ๊ก จะยึดไว้ไม่ยอมคืน เมื่อมันถึงเวลา

7. กิ๊กเหมือนต้นไม้มีผลเยอะอยู่ในป่า
- ใครกำลังตาลาย หิวๆ หลงป่าเข้าไปเจอต้นไม้มีผลรสอร่อยก็ต้องอยากได้
เป็นธรรมดา เมื่อเราอยากได้ คนอื่นๆ ก็จ้องก็จ้องก็ต้องการอยากไ้ด้เหมือนๆ
กันกับเรา ดังนั้น ยิ่งเป็นที่ต้องการ ถูกอกถูกใจใครต่อใคร มีแต่จะต้องตบตี
ด่าว่า ทำร้ายกันและกันไม่เว้น วุ่นวายหาความสงบสุขไม่ได้

8. กิ๊กเหมือนเขียงสับเนื้อ
- ชีวิตใครเข้าไปเกี่ยวไปข้อง กับกาม กับกิ๊กชีวิตก็เหมือน นำพาตนเองไป
นอนอยู่บนเขียง ได้รับความทุกข์ทรมาน เห็นเขียงเป็นเตียงนอน

9. กิ๊กเหมือนหอกและหลาว
- ครอบครองไว้ มีไว้ มีแต่จะทิ่มแทงตัวเอง ให้เจ็บให้ทรมาน

10. กิ๊กหมือนงูพิษ
- ที่สุดแล้วก็มีแต่จะทำอันตรายให้กับคนมีกิ๊ก ขึ้นชื่่อว่าอสรพิษไม่กัดไม่มีพิษ
เห็นที่จะไม่มี ความรักความหลง ความอยาก ความไม่พึ่งพอใจ ก็ล้วนเป็น
ผู้บัญชาการ ผู้กำกับให้หนูทำอะไร ไปโดยไม่ได้ยั้งคิด จริงๆ หนูก็เหมือน
โดนครบไปทุกข้อเลยแล้วละนะ

jkik เขียน:
มีนก็ผิดศิลข้อสามแล้วใช้มั้ยคะ แก้ไขได้อย่างไรคะ
หนูอยากลืมกิ๊กได้ไวๆ
หนูอยากมีความสุข กับชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม

วัตถุอันไม่ควรถึง ๑ = หมายถึงว่า เขาไม่ใช่แฟนหรือสามีเรา อันนี้หักไป ๒๕ %
จิตคิดจะเสพในวัตถุอันไม่ควรถึงนั้น ๑ = หมายถึง ส่งข้อความรวมถึง SP อันนี้หัก ๒๕%
ความพยายามในอันเสพ ๑ = หมายถึง ยกโทรศัพท์ เจตนาส่งเจตนาพูดคุย คนที่ไม่ใช่สามี(และเกินเพื่อน) หัก ๒๕ %
ยังมรรคให้ถึงมรรคหยุดอยู่ ๑. = หมายถึง รุนแรงลับตา เสียหายไม่งามแล้ว ไม่ถึง ไม่โดนหัก

รวม (-๗๕) ผิดศีลข้อ ๓ จ๊ะ
ด่างพร้อยมาก แต่ยังไม่ขาดไม่ทะลุ จะแก้ตัวไหม? หมายถึงไม่เอาอีกแล้ว 55

วิธีลืมก็ ขั้นแรก สำรวมมีสติไม่โทรไม่พูดไ่ม่คุยไม่ส่งข้อความ รวมถึงไม่รับข้อความ
ใดๆ ทั้งสิ้นจำ ๑๐ ข้อโทษของกิ๊กไว้ ยังกลับตัวกลับใจทัน ยมบาลยังอนุโลมให้^^

พอหนูมีศีลมีสัจจะ ที่จะรักษา ความประพฤติทางกายวาจา สองอย่างนี้ การกระทำ
และคำพูดต่างๆ ของเรา ระวังรักษาปกป้องให้ดี ไม่ทำผิดซ้ำๆ ซากๆ อีก ฯลฯ
แบบนี้ พอกิ๊กที่เหมือนปลาเน่า เต็มไปด้้วยโทษต่างๆ หนูไม่เอาละเลิกละพอละ
จิตใจหนูก็จะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ใจมีงอแงบ้าง เป็นธรรมดา นั่นแปลว่า ศีล นั้น
รักษากายวาจา เราเท่านั้น กระบวนการ เยียวยาบำบัดรักษา หักดิบกิ๊ก ต่อไปก็คือ

ต้องมีการอบรมสติ ทำสมาธิให้ตั้งมั่นเป็นอารมณ์เดียว เช่นสวดมนต์ไหว้พระแทนที่
จะเอาเวลาแอบแฟนเราเอง ไปส่งข้อความหรือโทรหา ทูลหัว Noๆ เลิกมีศีลๆ

เรื่องต้องทำความเข้าใจกันก่อนคือ โอเค ใครจะว่าเราหรือเราจะว่าตัวเองก็ช่างเถอะ
ขอแค่ตั้งใจ ขอแค่ชั่วโมงต่อไปนี้สมมติ ตอนค่ำๆ ก่อนนอน หนูพิจารณาดูว่า วันนี้
เราเองมีศีลไหม ได้โทรได้พูดคุย ได้อ่านได้รับข้อความกิ๊กไหม ถ้าไม่ได้รับไม่ได้อ่าน
ไม่ได้ทำอะไรเลย ให้แบ่งเป็น ๓ คาบๆ ละ ๘ ชั่วโมง ถ้าก่อนหน้าคาบแรก เราไม่ได้
รับไม่ได้คุยไม่ได้ดูไม่รู้ไม่เ็ห็น นี้แปลว่า เรามีศีลสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งที่แล้วก็ยังไม่ขาด
ไม่ทะลุ ก็ให้ภูมิใจพอใจในตนเองว่า เราหายได้ มาอดกิ๊กที่ ถ้ำ(ลาน)ธรรมจักร 55

คือมันมีเรื่องของอานิสงส์ของศีล ยาวมากเอาเป็นว่า ตายไปไม่ตกนรกอะนะถ้ารักษา
ศีลอย่างตั้งใจจริง แค่ครึ่งวันก็มีผลมีอานิสสงค์มากมาย นี้เรา แบ่ง ๓ คาบ แล้วหากทำ
ได้สองคาบ หรือครบทั้งสามคาบ หนึ่งวันเลยแบบนี้ ก็ยิ่งมีอานิสสงค์ มีความสงบร่ม
เย็นของศีลที่คุ้มครอง กายวาจาของเราให้ปราศจาก ทุกข์จากโศกเพราะโรคมีกิ๊ก

ที่นี้หลังจากมีศีลเป็นบาทฐาน พอจะทำให้จิตใจเรากลับมาเป็นปกติ ที่ปกติแน่ๆ เมื่อ
รักษาศีลได้ ยาวหน่อยนะ ค่อยๆ อ่าน เมื่อเรารักษาศีลได้ การกระทำของเรา คำพูดของ
เรานี้เอง ถูกศีล ถูกสติสำรวม ขจัดความหยาบกระ้ด้างเลวทราม ทางกาย วาจาด้วยศีล
ทำให้เราไม่ทำผิดซ้ำๆ ซากๆ นี้คือคุณลักษณะของศีลก่อน กำจัดความชั่วหยาบให้เรา

หลังจากนั้น ที่บอกว่า มันยังดีดดิ้น ไอ้ใจเราเนี้ยยังเกเร ยังงอแง หลวงพี่ว่ามันเป็นธรรมดา
ที่นี้ก็ให้ เอาศีลที่หนูรักษาดีแล้วนั่นแหละ มาเป็นบาทฐานของสมาธิต่อไป คือ

เมื่อกายวาจาเราเรียบร้อยดีแล้ว ภูมิใจในตัวเองได้แล้ว ความผิดไม่มี เรื่องที่ต้องทำความ
เข้าใจก็คือ บาปกรรมผลของมันก็ส่งผลเป็นระยะๆ นะ ถ้าหนูยิ่งย่ำยี ตัวเองทำซ้ำ แถมด้วย
การย้ำคิด ต่อสิ่งที่ไม่ควรทำที่ผ่านไปแล้ว นั่นก็จะทำให้หนู ไม่สามารถรักษาศีลได้
กายวาจาหนูก็จะถูก ความหลงผิด ชักจูงกับไปทำอย่างนั้นๆ อีก

ที่นี้เมื่อเราไ่ม่ทำซ้ำ ไม่ย้ำคิด ประกอบพร้อมแล้วด้วย ศีลที่รักษาครบทุกคาบเวลา
หนูก็จะมีความสงบสุข ไม่เดือดร้อน ไม่เ้ร้าร้อน ชั่วระยะเวลานึง พอใจแกว่ง ที่นี้ละต้อง
อาศัยกำลังของสมาธิ อาศัยฟังธรรม สนทนาธรรม เข้ามาศึกษาปัญหา เนื้อหาที่ดีพอ
ที่จะทำไม่ให้หนูฟุ้งซ่าน หน้าที่ของสมาธิ มีข้อเดียวคือ ทำให้หนูได้รับความสุขที่
นอกเหนือจาก สุขจากรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่หนูแสวงหา หนูอยากได้ยิน หนู-
อยากมี เหล่านี้ เทียบไม่ได้สู้ไม่ได้เลยกับ สมาธิที่ว่า เพราะสุขอื่นยิ่งไปกว่าความสงบ
พระท่านว่าไม่มี เป็นพุทธพจน์ วิธีการ ก็คือเอาสติ มากำหนด ทำใจให้เกิดสมาธิโดย
อาศัย อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง เลือกขึ้นมาให้ใจเราจดจ่อ อยู่แต่สิ่งนั้นสิ่งเดียว

เช่นหลวงพี่ก็จะใช้ลมหายใจ บางคนพุทโธ บางคนกำหนดดวงจันทร์ใสๆ กลางใจ
กลางลำตัวอะไรอย่างนี้ ก็สุดแท้ แ่ต่เอาให้ใจไม่ซัดส่ายไปมา มันจะเกเรอะไรยังไง
ห้าม ให้หยุด ให้มันหยุดเป็น เฉยเป็น นิ่งเป็น จนเข้าที่เข้าทาง

จดจ่อจับจิตจับใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ได้ ไม่นาน ใจที่เกเรก็จะค่อยๆ สงบลง เย็นลง
แล้วก็ได้พบกับอารมณ์ที่ผ่องใส ผุดขึ้นมา ไม่มีอะไรในใจในความคิด มีแต่เรากับ
อารมณ์นั้นๆ อารมณ์(ที่หนูเลือก)เดียว ฯลฯ

สรุปอีกทีก็คือ มีศีลนะ ศีลจะสำรวมกายวาจา ทำให้เราได้รับความสงบเป็นบาทฐาน
ของการอบรมสมาธิต่อไป ลองกายวาจา สงบก่อน ใจก็สงบได้ นี้เราปล่อยกายวาจา
มันไปทำเรื่อง ซุ้มเสี่ยงต่อ อบายความไม่เจริญ ต่อนรก ต่อวิบัติ ดังนั้นใจมันก็ทุกข์
ก็ร้อน เป็นเหตุเป็นผลกันไปอย่างนี้ พอมีศีลแล้ว กายวาจา สงบเดี๋ยวใจก็สงบง่าย
นิ่งเป็น เย็นรู้ หยุดอยู่ก็รู้ สุขอย่าบอกใครเชียว ลืมไ้ด้เลยกิ๊กคอยดู สู้ๆ เจริญพร

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2011, 13:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณหลวงพี่มากค่ะหนูจะพยายาม
1 วันผ่านมาแล้วค่ะ วันที่ 2 กำลังจะพ้นไป
อ่านปัญหาของคนอื่นแล้วแต่ละท่านใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี
บางท่านก็ยังไม่หายขาดเลย
แต่หนูจะพยายาม ถึงแม้จะต้องคอยนับไปทีละวัน
เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วปัญหาของหนูมันเล็กน้อยเหลือเกิน
ปัญหาชีวิตหนักหนาที่เคยผ่านทำมัยมันไม่รู้สึกทุกข์เท่าปัญหาความรักครั้งนี้นะ
หรือมันคือนรกบนดิน นรกจริงคงทุกข์ทรมาณกว่านี้หลายเท่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2011, 18:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


นรกหรือนิรยะ แปลว่าไม่เจริญ ปราศจากความเจริญหรือความสุข
ได้รับทุกข์โดยส่วนเดียวล้วนๆ เหมือนห้องสีเหลี่ยมที่ร้อนด้วยไฟเผา
ไ่ม่มีความสุขเข้ามาคั้น เขาว่ากันว่าสัตว์นรกนั้นมีอาหาร คือกรรมชนิด
นั้นๆ ของตนเองพอได้รับความทุกข์ทรมานจนตาย ลมก็ซัดให้ฟื้นคืน
ชีวิตเหมือนต่ออายุได้ แต่ก็ติดอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ทรมาน ไม่เจือ
ปนด้วยความสุขหรือหาความสุขสงบไม่ได้เลย

ช่วงนี้อารมณ์ความรู้สึกก็น้องๆ อบายภูมิ คือแดนเขตที่หาความสุข
ความเจริญจิตเจริญใจไม่ได้ ทุกข์ของใคร ก็เหมือนๆ กันมีตัวเราเองคล้าย
เป็นศูนย์กลางของความทุกข์ความเศร้า

อย่างที่ได้แนะนำไปในความเห็นก่อนๆ นะครับถ้าเรามีศีลเป็นปกติ
สะสมมาเป็นนิสัย กายวาจาเราจะสำรวมเป็นปกติ เรื่องที่จะนอกลู่นอกทาง
ก็คงไม่เกิดขึ้น ศีลเป็นเหตุ ความปกติสุขเป็นผล ศีลมีในช่่วงต้น ความปกติสุข
ติดตามให้ผลในช่วงกลางและปลาย ฯลฯ

ในทางกลับกันเมื่อเราไม่มีศีลเป็นเหตุ เราเลยขาดความเป็นปกติสุข ใจโหยหา
นอกลู่นอกทาง ก็เลยมีความทุกข์ความเดือดร้อนตามมา

ถ้าวันนั้นควบคุมตัวเองได้แบบวันสองวันนี้ นรกมีหรือ อบายจะมีหรือ?
อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด จะจ่อมจมอยู่อย่างนี้หรือ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุมีผล
มีเหตุและปัจจัย มีเงื่อนไขที่เป็นกฏตายตัว ว่าทำสิ่งนี้ จะได้รับสิ่งนี้ เมื่อทำดี
คิดดี พูดดี มีศีลเป็นเหตุ ก็ต้องได้รับความสุขกายสุขใจเป็นผล ฯลฯ

การเปลี่ยนแปลง (พฤติ)กรรมที่ได้ผล เขาว่าให้ทำอะไรให้คุ้นเคยให้ชินใน
๓ สัปดาห์ หรือ ๒๑ วันขึ้นไป เมื่อทำได้พฤติกรรมต่างๆ ที่เคยไม่ดีก็จะเปลี่ยน
ไปตามโปรแกรมที่เราตั้งไว้ หรือให้สัจจะอธิษฐานกับตัวเราเอง หากจะยุติ
เรื่องราวที่จะพาเราเดินไปสู่ความทุกข์ ความเดือดร้อน การที่ได้รับความทุกข์
อยู่นั่นก็น่าจะเพียงพอให้ รู้จักความสลดสังเวช ต่อ กิเลสตัณหาที่บงการ
ชีวิตจิตใจของเรา ให้เดินไปในทางต่ำ ก่อทุกข์ก่อโศกให้เจ้าของไม่มีที่สิ้นสุด

เหมือนสัตว์ทั่วไปที่ไม่ต้องสนว่าอะไร ถูกต้องดีงาม อารมณ์ดำๆ คล้ำๆ อำนาจ
ทางต่ำแบบนี้ มันมีอยู่ซ่อนอยู่ในตัวแต่ละบุคคล พอคนไม่มีศีลมาเจอกันอะไร
จะเกิดขึ้น ก็คือการนำเอา ร่างกายนี้มาเป็นทาสของกิเลส เป็นหุ่นเชิดของตัณหา
เข้าหากันอย่างหลงลืมขาดสติ ทั้งที่การเกิดมาได้อัตภาพของมนุษย์ มาเป็นคน
เป็นของยาก การได้พบพระพุทธศาสนาก็ยาก การได้ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา
ก็เป็นของยาก ทำยาก เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี สร้างคุณความดี อาศัยร่างกาย
นี้ ทำในสิ่งดีๆ ขาดทุนมากนะครับ มาตัวเปล่าไปตัวเปล่าๆ

บุญบาปนี้ตามให้ผลตลอดจนกว่าจะ เบื่อหน่ายในทุกข์อย่างแท้จริง พูดง่ายๆ ขี้เกียจ
เกิดมา มานั่งสงสัยงงๆ กะชีวิต ว่าอะไรทำไม ต้องมีความทุกข์เป็นศูนย์กลางของเรา!
เรื่องความรัก เรื่องราคะตัณหา ยิ่งปรากฏทุกข์เท่าไหร่ นั่นแหละ ขาดทุนไปเยอะเคย
ปล่อยให้ กิเลสตัณหาครอบครองจิตใจ นำพากายใจนี้ไปทำไม่ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี
ร่างกายนี้ ไม่เกินร้อยปีก็ เน่าสลายหาสวยหาประโยชน์อะไรไม่ได้

บุญบาป สุขทุกข์นี้ก็เป็นของจริงมีจริงอยู่คู่โลก ติดตามต่อหมู่สัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏฏ์
ไม่เว้นตัวตนบุคคลเลย จนกว่าจะ ตัดสินใจออกจากทุกข์ มีน้อยคนจริงๆ ที่จะอยู่ในโลก
แล้วพบความรักความสุข มีบุญมีวาสนาในเรื่องคู่ครองคนรัก เพื่อที่จะเกื้อกูลช่วยเหลือกัน
ไปตราบจนเข้าสู่นิพพาน พ้นโลก พ้นวังวนวัฏฏจักรสงสาร

อันนี้เปรียบเทียบนะ ชาวฟ้าชาวสวรรค์มีสุขโดยส่วนเดียว แต่แท้จริงแล้วก็ยังมีความพลัด
พรากความอาลัยอาวรณ์เหมือนๆ กันกับคนเรา บางคนเห็นคนอื่น คู่อื่นเดินจับมือควงแขน
เห็นยิ้มเห็นหัวเราะ ก็นึกว่าคนอื่นช่างมีความสุขมากมายกว่าตัวเรานัก

นี้กิเลสตัณหาค่อยๆ กระซิบหรอก บอกให้อยากได้อยากมีอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง ผลเป็นไง
รู้ไหม ก็โดนเลย มันหลอกจิตหลอกใจเราไปทุกๆ วันนับจากอดีตชาติก็เรียกว่า ไม่รู้สะสม
มาแค่ไหน นับเอาปัจจุบันชาติก็ตั้งแต่อยากเป็นเจ้าหญิงน้อยๆ ที่มีเจ้าชาย ฯลฯ จริงไม่จริง
จำความพอได้ไหม นั่นแหละสะสมมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ว่าสักวันต้องมีเจ้าชายที่แสนดี
อะไรก็ว่ากันไป ยิ่งอินหนังอินละคร นี้แหละ ศีล ๘ ที่เข้มกว่าศีล ๕ คือไม่ให้มัวเมา
เพลินหลงในสมมติว่าเขาว่าเรา จินตนาการไปตามเพลงตามภาพที่ได้ดูได้ชม ฯลฯ

เพราะ...อันนี้ก็เปรียบเทียบนะ พวกอมนุษย์ เปรต ยักษ์ อสูรกายเนี้ย ก็ขี้อิจฉานะ บางตน
บางเหล่าอิจฉาตาร้อนปุดๆ เลยทนไม่ได้ ทรมานจิตใจสุดๆ ปรี๊ดเลยทนไม่ได้ บางตน
บางเหล่าก็ น้ำตาล่วงโหยหาอยากได้ความสุขที่ รู้ที่เห็นเอาข้างเดียว เห็นเหรียญด้าน
เดียวแบบนั้นบ้าง แต่ไม่รุนแรงแบบยักษ์หรือสูรกาย ก็น้อยเนื้อต่ำใจ จะได้รับความสุข
พระท่านเปรียบว่าเปรตนี้จะมีสุขตามข้างขึ้นข้่างแรมเท่านั้น ดูๆ ไป เปรตนี้จะเยอะไม่น้อย

ต้องเป็นน้อย เป็นลับ ได้รับความสุขแค่ บางครั้งบางคราว ดูภายนอกก็สวยดีเหมือนเทวดา
เหมือนคนปกติทุกอย่าง คนมีปัญญา มีตาใน เขารู้ว่าพวกนี้มีอัตภาพเป็นเปรต! ซ่อนอยู่
ข้างในกายเนื้อกายหยาบ

ดังนั้นเราอย่าไปเข้าใจผิดนะครับ เทวดานางฟ้าก็ยังเศร้าโศกเสียใจ ยังร้องไห้ยังรักสุข
เกลียดทุกข์เหมือนๆ กันกับคนแต่เพลิดเพลินกว่า สุขสบายกว่า มีความสุขที่ละเอียดกว่า
แต่ทั้งหมดก็ ไม่เที่ยงแท้ ก็เรียกว่า เปลี่ยนจากคำว่า กิ๊กเป็น(กาม) เป็นตัณหา เป็นความรัก
ก็มีโทษ๑๐ ข้อเหมือนๆ ที่ได้แนะนำไปแล้ว จะไม่มีทุกข์ไม่มีความเสียใจใดๆ เลยมีแต่ต้องอบรม
ศีล สมาธิ ปัญญาจนเข้าใจอริยสัจ ๔ เข้าใจความทุกข์ความยึดถือ ความมีเราเป็นศูนย์
กลางทั้งสุขและทุกข์อย่างไม่รู้(ความจริง!)โดยถ่องแท้ นั่นแหละถึงจะพ้นโลกพ้นรักพ้นกาม

ถ้าศีลยังน้อย สมาธิยังไ่ม่รู้จัก ปัญญายังไม่เกิด ก็ต้องสุขทุกข์เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
ตามกรรม ตามวิบากกรรม สุดแท้แต่ว่าจะเป็นข้างขึ้นข้างแรม(เปรียบเทียบ) ไม่ได้มาตำหนิ
หรือซ้ำเติมอะไรนะครับ มาเล่าสู่กันฟัง และเอาใจช่วยขอเจริญพร

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2011, 20:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ฟุ้งซ่านมากๆเลย ว่างมากไปหรือเปล่าหนอ
เมื่อไรจะเหมือนเดิม ไม่ร่าเริงเหมือนก่อนเลย
รู้สึกบรรยากาศในบ้านมันเครียด เงียบ เหงา เบื่อ
อยากรู้สึกเหมือนเดิม รักและมีความสุขเวลาอยู่กับสามีเหมือนก่อน
ก่อนที่จะรู้จักกับคำว่า กิ๊ก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร