วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2012, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


... เราตัดสินจว่า "หากพระพุทธศาสนาและหลักธรรมที่เราได้บรรลุมรรคผล จะสามารถกู้
ชีวิตจิตใจประชาราษฎร์ กู้ชาติ กู้แผ่นดิน ให้กลับคืนสู่ความร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่ประดิษฐาน
พระพุทธศาสนา ให้เจริญสืบไป จะขอฉันยารักษาธาตุขันธ์ เพียงอีกครั้งเดียว ถ้าไม่สามารถ
รักษาธาตุขันธ์ไว้ได้ ก็จะปล่อยวางให้เป็นไปตามกรรมของโลกต่อไป ถ้าถูกก็ถูก ไม่ถูกปัดเลย
หยูกยาเราไม่เอา"


ยาหมอเติ้งใส่ปุ๊บหยุดปุ๊บเลย เทิดตัวขึ้น นั่นละถึงได้ช่วยชาติมาจนกระทั้งทุกวันนี้ ยานี้เป็นยา
อัศจรรย์ เราเองก็รู้สึกเป็นงง ๆ เหมือนกัน เป็นโรคมะเร็งลำไส้ หมอเขาบอกว่าไม่หาย มัน
พลิกได้อย่างไรก็ไม่รู้ ได้ยาเทวดามา นับว่าหมอจีนชาวไต้หวันคนนี้มีบุญคุณต่อชาติไทยมาก
เหมือนกัน จากนั้นแล้วเป็นปกติเรื่อยมา นี่ก็แปลกอยู่เหมือนกัน

ต้นปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ก่อนที่จะเริ่มโครงการช่วยชาติ พระหลวงตามหาบัวท่านเล่านิมิตถึงชาติ
ไทยให้พระลูกศิษย์ฟังว่า ...


"ปกติทุก ๆ คืนเราเข้าสมาธิภาวนาเพื่อเป็นวิหารธรรมแผ่เมตตาจิตแก่สรรพ
สัตว์ทั้งมวล อำนาจของจิตนี้แผ่ไปไพศาล ไม่มีประมาณ ทะลุแผ่นดินแผ่นฟ้าได้หมดไม่มี
อะไรขวางกั้นจิตอิสระบริสุทธิ์ได้ในสามโลกธาตุนี้

แต่ในคืนนั้นจิตนี้ประหวัดถึงประเทศชาติบ้านเมืองที่อาศัยเกิดอยู่มาเป็นเวลานานกำลังวิกฤติ
ด้วยหนี้สินเป็นแสนล้าน เกิดความห่วงโลก ห่วงสงสาร ย่นเข้ามาถึงจุดเมืองไทย ติดหนี้ติดสิน
เมืองนอกเมืองไทยจะจม


ในนิมิตภาวนานั้นปรากฎว่า ประเทศชาติบ้านเมืองมืดครึ้มประหนึ่งว่า อุ้งหัตถ์แห่งพญา
มารที่กางเล็บไว้รอบปฐพีมณฑลไทย คอยแต่จะบีบรัดผู้ที่อยู่ภายใต้ให้ตายได้ในเร็วพลัน ใช้
จิตดวงอ่อนนิ่มพิจารณาแผ่เมตตาไปทางใด มีแต่ความมืดดำปกคลุม หุ้มห่อประหนึ่งว่าจะ
หมดหวังในแสงสว่าง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีอะไรขวางกั้นทางเดินแห่งจิตที่มีเมตตา
ครอบโลกธาตุนี้ได้


เลยแผ่เมตตาครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ตรั้งที่ ๓ พญามารัวมืดบอดจ้องที่จะทำลายสรพสัตว์บนพื้น
โลกก็หายอมรับเมตตาและอรรถธรรมอันนั้นไม่ กำหนดจิตหาใครหรือผู้ใด ที่จะมาช่วยแบ่ง
เบาภาระและจุดประกายให้แสงสว่างแก่ประเทศชาติ ที่ดำมืดครื้มนั้นก็ไม่เห็นมี ประหนึงว่า
"หมดหวังแล้วหนอ ชาติบ้านเมืองคราวนี้ถึงคราวที่จะสูญสลายสิ้นชาติและพระพุทธศาสนา
ที่ให้ความร่มเย็นแก่โลกมาเป็นเวลานาน มองไปช่องใดก็มีแต่ความมืดมิดปิดตา เมื่อไม่เห็นผู้
ใดที่พอจะช่วยได้แล้ว จึงกำหนดจิตย้อนเข้ามาภายในตน ..ปรากฎว่า เห็นเป็นแสงสว่างเพียง
หิ่งห้อย"


จึงกำหนดจิตเข้าไปตามลำแสงอันน้อยนิดนั้น ลำแสงนั้นรูเล็กคับแคบตีบตันก็จริง แต่เมื่อ
กำหนดจิตตามลำแสงนั้นออกไปจนสุดทางแห่งความมืดที่อุ้งหัตถ์แห่งมารปกคลุม ปรากฎว่า
แสงสว่างจ้า โล่ง โปร่ง สดใสเบิกบาน เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ หลวงตาท่านเล่าว่า "แสง
เพียงหิ่งห้อยนั้น คือตัวท่านเอง"


ท่านให้อุบายว่า งานช่วยชาติของท่านคราวนี้ จะมีอยู่ ๒ ทาง คือ

๑. จะเป็นทางบุญนำหมู่มหาชนเพิ่มพูนแนวทางไปสู่สวรรค์ พรหมโลกและนิพพาน
๒. จะเป็นทางไปนรกสำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย ไม่โมทนาแต่คิดจ้องที่จะทำลาย ลบหลู่ดูหมิ่น
เหยียบย่ำทำลาย สกัดกั้นแนวทางเพิ่มพูนความดี ...


จากหนังสือ หนึ่งในพระไตรรัตน์ โดยคณะศิษยานุศิษย์
วัดป่าภูสังโฆ ๑ มกราคม ๒๕๕๔

:b8: :b8: :b8:

ขอให้คิดพิจารณาจะเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละทานเอง ..

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2012, 21:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ ช่างบังเอิญ

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2012, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันตรายนะครับ การยกข้อความขึ้นมาแบบนี้เป็นการไม่เพิ่มศรัทธาแก่ผู้ที่ไม่ศรัทธา ซ้ำยังเป็นการเพิ่มโทษต่อผู้มีจิตอาฆาตริษยา ไม่ได้เป็นการบรรเทาโทษพวกเขาเลย

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง
การได้ฟังธรรมอันควรแก่เวลาเป็นมงคลอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.พ. 2012, 03:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
อันตรายนะครับ การยกข้อความขึ้นมาแบบนี้เป็นการไม่เพิ่มศรัทธาแก่ผู้ที่ไม่ศรัทธา ซ้ำยังเป็นการเพิ่มโทษต่อผู้มีจิตอาฆาตริษยา ไม่ได้เป็นการบรรเทาโทษพวกเขาเลย

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง
การได้ฟังธรรมอันควรแก่เวลาเป็นมงคลอย่างยิ่ง

เห็นด้วยครับ ผมว่าจขกทไม่รู้จักกาละเทศะครับ
แต่ก็อย่าไปถือสาเลยครับ

จะว่าไปแล้วก็พอๆกันกับคุณประเภทขนมจีนผสมน้ำยานั้นแหล่ะครับ
ในกระทู้โน้นเขาคุยกันเรื่องพระวินัยห้ามพระรับเงินใช้เงิน
แต่คุณดันไปเปรียบเทียบกับเงินสลึงหนึ่ง แบบนี้ก็ไม่มีกาละเทศะเช่นกันครับ
หรือจะพูดอีกอย่างว่าไปไหนมาสามวาสองศอกครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.พ. 2012, 08:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 18:22
โพสต์: 70


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเคยไปถวายทองคำและเงินให้หลวงตาฯ ผมไม่เห็นท่านรับกับมือนะครับ แม้แต่ผ้าปูลาดท่านก็ไม่จับ
มีแต่ลูกศิษย์ท่านแหละครับจัดการเองทั้งหมด ท่านก็ฉันหมากของท่านไปเรื่อยๆ บางครั้งท่านก็พูดว่า
พอใจ ๆ คนเขาก็สาธุกันทั้งศาลาแล้วครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่นำมาให้อ่าน สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2012, 08:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


... สมัยหนึ่ง หลวงปู่ขาวฯ (หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล)ท่านไปธุดงคกับพระภิกษุรูปหนึ่ง
เมื่อบินฑบาตกลับ ท่านก็ลงมือฉัน พระรูปนั้นกล่าวขึ้นว่า "ท่านขาว..ทำไมท่านฉันสองมือ
พรรษาก็เยอะ พระวินัยก็เรียนมา" ท่านก็ว่า "มีสองมือก็ช่วยกันแหละ"

ท่านก็โต้กัน เรื่องธุดงควัตร
องค์หนึ่งว่า "ฉันมือเดียวเป็นวัตร"
ท่านก็ว่า "ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร"

ท่านว่าธุดงค์ครั้งแทบไม่ได้อะไรเลย
เพราะโต้กันเรื่อง "ฉันมือเดียว" กับ "ฉันมื้อเดียว"

แหะ .. จำไม่ได้ว่ามาจากหนังสือเล่มใด ..

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2012, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


... ส่วนท่านพระอาจารย์มั่น เคยพบและสนทนาธรรมกับพระครูบาศรีวิชัย หลังจากที่พระครูบาศรีวิชัยถูกอธิกรณ์แล้ว ท่านพระอาจารย์มั่น เคยออกปากชวนพระครูบาศรีวิชัย ออกมาปฏิบัติกัมมัฏฐานด้วยกัน แต่พระครูศรีวิชัยปฏิเสธ โดยกล่าว่า "ท่านได้บำเพ็ญบารมีมาทางโพธิสัตว์และได้รับพยากรณ์แล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้"

ต่อมาพระเดชพระคุณพระอุบาลีฯ สนใจใคร่รู้ถึงภูมิธรรมและปฏิปทาตามวิถีทางที่พระครูบาศรีวิชัยดำเนินอยู่
จึงได้สอบถามจากพระอาจารย์มั่น ซึ่งท่านได้กราบเรียนพระเดชพระคุณพระอุบาลีฯ ให้ทราบว่า
"พระศรีวิชัยองค์นี้เป็นพระโพธิ์สัตว์ ปรารถนาพระโพธิญาณ ขณะนี้กำลังบำเพ็ญเพียรสร้างสม
บารมีธรรมอยู่ซึ่งต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกนาน จนกว่าการสั่งสมบารมีธรรมจะบริบูรณ์" ...


หนังสือ บูรพาจารย์ หน้า ๓๘๖-๓๘๗

:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2012, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




A8.jpg
A8.jpg [ 20.76 KiB | เปิดดู 5082 ครั้ง ]
... สมัยที่ท่านท่องเทียวภาวนาอยู่ทางอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บรรยากาศตามท้อง
ทุ่ง มีนกกระเรียนและนกเขียนลงมาหากินอยู่นั้น เหตุการณืน่าสลดสังเวชก็เกิดขึ้นจากน้ำมือนาย
พรานผู้ใจบาปดังนี้ ...

"ตัวผู้ถูกนายพรานยิง พอตัวผู้ถูกยิงตัวเมียบินร่อนขึ้นข้างบน ร่อนดูผัวตัวเอง
ถูกปีนกำลังดิ้นทุรนทุรายตายอยู่ต่อหน้า มันเสียใจมาก จึงฆ่าตัวตายตามโดยบินดิ่งหัวปักลง
พื้นดินคอหักตายทันที ตายลงตรงซากศพผัวมันนั่นเอง"


ท่านให้ข้อคิดคติธรรม จากเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า มนุษย์เราต่างก็มีความจำเป็นและหวังความช่วย
เหลือระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็หวังพึ่งกัน หากมนุษย์อยู่ด้วยกันพึ่งกันไม่ได้ย่อมไม่มีความ
หมายสู้สัตว์เขายังช่วยกัน ท่านยกเอาเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า

"แม้สัตว์เขายังรักกัน เขายังช่วยกันถึงขั้นสละชีวิตยอมตายด้วยกัน ส่วน
นายพรานนั้นก็คงดีใจที่ได้นกเอาไปกินทั้งสองตัว มันดีใจจะได้ไปตกนรกนะสิ นกสองผัวเมียนั้น
เขาตายด้วยความเสียใจสุดขีดถีงชีวิตสละได้เลย ส่วนตัวนายพรานนี้ก็ดีใจสุดขีดว่า ยิงนัด
เดียวได้นกสองตัว ป่านนี้ไอ้คนที่ฆ่าไปจมอยู่ในนรกนั่นแหละ ...


ญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์ .. :b20: :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2012, 09:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


โมทนาสาธุ....ที่เอาของดี...ๆ...มาให้อ่าน...ด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




deer2_banner.gif
deer2_banner.gif [ 18.97 KiB | เปิดดู 5027 ครั้ง ]
... พวกเราอาจนึกไม่ถึงว่าสัตว์ทั้งหลายเขาก็มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคน
ที่เรียกว่าสัตว์แสนรู้ สัตว์ต่างๆ ในวักหลวงตามหาบัวฯ ก็เช่นเดียวกัน แม้จะเป็น
สัตว์ต่างชนิดกัน เขาก็ยังช่วยเหลือกัน

เพราะเคยได้ยินอาสาสมัครชาวต่างชาติเล่าให้ฟัง เมื่อหลายปีก่อนว่า
ตอนช่วงใกล้เที่ยงวันหนึ่ง ท่านพระอาจารย์จันทร์ได้นั่งอยู่ที่บริเวณลาน
ตอนนั้นมีชุดเก้าอี้ม้าหินตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ อาสาสมัครคนนี้เขาก็เห็นท่าน
ก็เลยเข้าไปทำความเคารพท่านและกำลังจะพูดคุยทักทายท่าน

แต่มีกวางเขายาวตัวหนึ่งอยู่ใกล้กับตัวท่านอยู่แล้ว มันหันควับกลับมาหา
อาสาสมัครคนนี้ทันทีและจะเอาหัวชนเหมือนกับไล่ให้ออกไป พระอาจารย์
จึงรีบบอกให้เขาถอยออกไปก่อน อาสาสมัครตกใจรีบถอยไป แต่เขาก็เห็น
กวางหันกลับไปหาท่านพระอาจารย์

พอกวางเดินออกไป ท่านพระอาจารย์จึงอธิบายว่า เมื่อกี้นี้กวางกับเรากำลังคุยกับ
เรา มันมาฟ้องเราว่า ท่านไม่รู้หรือว่าไก่ที่บริเวณกำแพงวัดด้านในแถวใกล้ด้านหน้า
กำแพงวัดกำลังจะโดนคนจับไปหมดแล้วและตอนนี้มีไก่อยู่ตัวหนึ่งโดนกับดักที่
ขากำลังร้องขอให้ช่วย ถ้าไม่รีบไปประเดี๋ยวก็คงโดนจับไปอีก กวางจึงรีบมาบอก
ท่านและบอกว่าไก่โดนจับทุกวันมาหลายวันแล้ว ขอให้ท่านช่วยด้วย


ขณะที่กวางกำลังเล่าให้ท่านฟัง แต่ยังเล่าไม่จบดี อาสาสมัครก็เดินเข้ามาทักทาย
ท่าน เพราะไม่รู้ว่ากวางกำลังคุยกับท่านอยู่ มันกลัวท่านจะไม่สนใจเรื่องที่มันกำลัง
เล่า มันจึงหันหัวหันเขามาไล่อาสาสมัครให้ออกไปก่อน

จากนั้นท่านพระอาจารย์ก็รีบให้คนไปตามดูที่กำแพงวัด ก็ได้เจอไก่กำลังติดกับ
เหมือนที่กวางบอก ท่านก็ได้ให้นำไก่ไปรักษาขาและคาดโทษพวกหัวขโมยที่ชอบ
เข้ามาดักสัตว์ เพราะที่นี่เป็นเขตอภัยทาน ...

http://tigertemple.org/tigertemple_new/ ... cle_ID=352

:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 21:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss Kiss

อะไรเป็นอายตนะ....และผัสสะได้แบบไหน....

มหาเปรียญ...นักธรรมเอก...โท..ตรี...คงเอาไปคิดได้ทั้งปี

แต่..ป. 4 เข้าใจได้สบาย..ไม่ปวดหัวดี :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




chop1.jpg
chop1.jpg [ 22.75 KiB | เปิดดู 4998 ครั้ง ]
... วันหนึ่งระหว่างที่หลวงปู่กำลังวิเวกอยู่ที่เชียงใหม่
ตอนกลางคืน ท่านก็เข้าที่ภาวนาตามปกติ ปรากฏภาพนิมิต มีแม่ไก่ตัวหนึ่งมาหาท่าน

กิริยาอาการนั้นนอบน้อมอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง มาถึงก็ใช้ปีกจับต้องกายท่าน
จูบท่าน ท่านรู้สึกประหลาดใจ ที่สัตว์ตัวเมียมาแสดงกิริยาอันไม่สมควรต่อพระเช่นนั้น
จึงได้ดุว่าเอา แต่แม่ไก่ตัวนั้นก็อ้างว่า

เคยเกิดเป็นภรรยาของท่านมาแต่ชาติก่อนและเคยเป็นภรรยาของท่านมาถึง ๗ ชาติแล้ว
ความผูกพันยังมีอยู่ ไม่อาจลืมเลือนได้ แม้จะรู้อยู่ว่า ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์
ไม่บังควรที่จะแสดงความอาวรณ์ผูกพันเช่นนี้ ตนมีกรรม
ต้องมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต่ำต้อยวาสนา ก็ได้แต่นึกสมเพชตัวเองอยู่มาก
อย่างไรก็ดี เมื่อพระคุณเจ้าผู้เคยเป็นคู่ชีวิตมาอยู่ในถิ่นที่ใกล้ตัวเช่นนี้
อดใจไม่ได้ จึงมาขอกราบ ขอส่วนบุญบารมี


ในนิมิตนั้น หลวงปู่ได้เอ็ดอึงเอาว่า เราเป็นมนุษย์ เจ้าเป็นสัตว์
จะมาเคยเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร เราไม่เชื่อเจ้า
แม่ไก่ก็เถียงว่า ถ้าเช่นนั้นคอยดู..พรุ่งนี้เช้า ตอนท่านออกไปบิณฑบาต
ข้าน้อยจะไปจิกจีวรท่านให้ดู

ตกเช้าหลวงปู่ก็ครองผ้าออกไปบิณฑบาตตามปกติ ท่านเล่าว่า
ท่านไม่ได้นึกอะไรมาก ด้วยคิดว่าเป็นนิมิตที่เหลว
ไหลไร้สาระ แต่เมื่อท่านเดินเข้าไปบิณฑบาตเข้าไปในหมู่บ้านยาง
ที่ชื่อบ้านป่าพัวะ อำเภอจอมทอง
ก็มีแม่ไก่ตัวเมียตัวหนึ่ง ตรงรี่เข้ามาจิกจีวรท่านข้างหลัง หมู่เพื่อนที่ไปด้วยกันก็ตกใจ
ด้วยเป็นสัตว์ตัวเมีย ท่านจะต้องอาบัติ จึงช่วยกันไล่ แต่แม่ไก่ตัวนั้น
แม้ถูกไล่ออกไป ก็ยังพยายามวิ่งเข้ามาอีก


คืนนั้นหลวงปู่พิจารณาซ้ำ ก็รู้ชัดว่า
ไก่ตัวนั้นเคยเกิดเป็นภรรยาของท่านมาแล้วถึง ๗ ชาติจริง ๆ เป็นที่น่าเวทนา
สงสารเป็นอย่างยิ่ง...ที่นางทำกรรมไม่ดีไว้ ไม่มีศีลจึงต้องตกไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเช่นนั้น


เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่หลวงปู่เคยยกเป็นขึ้นมาตักเตือนบรรดาพระผู้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด
ให้เห็นชัดถึงผลของกรรม
...


viewtopic.php?f=13&t=24649

:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2012, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




_16_177.jpg
_16_177.jpg [ 68.77 KiB | เปิดดู 4982 ครั้ง ]
หนังห่อขี้

... ในวันต่อมาเป็นวันวิสาขบูชา พวกญาติโยมชาวบ้านหนองผือและบ้านใกล้เคียงในแถวนั้น
พากันรวมทำบุญในวันวิสาขบูชา ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่นพาภิกษุสามาเณรรับบิณฑบาตร
ในวัด พวกญาติโยมพากันใส่บาตด้วยความเคารพ

ในขณะที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่นเป็นหัวหน้านำรับบิณฑบาตรอยู่นั้น พระเณรทั้งแก่ทั้งหนุ่ม
รับบิณฑบาตรตามหลังท่าน ไม่ทราบองค์ไหนไปคิดชอบหญิงสาวที่เขากำลังใส่บาตรอยู่นั้น

อยู่ ๆ ท่านก็หันหน้ามองกลับมาข้างหลัง พร้อมกับพูดขึ้นว่า "ประสาหนังห่อขี้" แล้วท่านก็
เดินรับบิณฑบาตรต่อไป หลวงปู่อยู่กับท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่นไม่กี่วัน
ก็เดินทางกลับมาบ้านจำปา ...


บูรพาจารย์ อาจาริยธรรม หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล หน้า ๓๗๕


:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2012, 16:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2012, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
:b1:

:b6: เอาแต่ยิ้ม ..ไม่พูดไม่จา เจ็บคออ่ะป่าว .. :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 57 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร