วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 00:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2012, 18:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าง พระอัมพปาลีเถรี เกิดโคนต้นมะม่วง แล้วก็โตเลย ไม่จำเป็นต้องไปเกิดในครรภ์ พ่อ-แม่
จากนั้นก็สำเร็จอรหันต์ สบายเลย

บางคนก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ในดอกบัว แล้วก็โตเลย ไม่จำเป็นต้องพึ่ง พ่อ แม่ ภาระทางโลกแทบน้อยมากเลย

ถ้าใช้ครรภ์ พ่อ แม่ เกิดมาเป็นทารก กว่าจะโต กว่าจะเจริญวัย กว่าจะถึงวัยปฎิบัติธรรม บางทีก็ม่องเท่งก่อน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2012, 21:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากทำได้มั้ยละ?.....

ถ้าอยาก......ก็ทำมหาบุญต่อไปเรื่อย ๆ ดูซิ... :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรัทธาพาหลงทาง
เรื่องไหนนิทานเรื่องไหนเรื่องจริงแยกไม่ออกหรือ
ทำมหาบุญขนาดไหนมันก็ต้องอาศัยมดลูกอยู่ดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 17:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่มีอายุแสนปี....อาจมีคุณภาพของเซลที่ต่างกับคนยุคมีอายุได้แค่100 ปี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 19:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
ศรัทธาพาหลงทาง
เรื่องไหนนิทานเรื่องไหนเรื่องจริงแยกไม่ออกหรือ
ทำมหาบุญขนาดไหนมันก็ต้องอาศัยมดลูกอยู่ดี

แสดงว่า พระไตรปิฎก โกหก เรื่องนี้ละสิ

ขอหลักฐานว่าเป็นนิทานด้วย

แล้วขอหลักฐาน การเกิดว่าอาศัย มดลูกอย่างเ้ดียว

ช่วยหามาด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 21:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


การเกิด...พระพุทธองค์ตรัสใว้ว่ามีอยู่ด้วยกัน 4 อย่างครับ

เกิดในไข่...เกิดในครรภ์....เกิดในน้ำคร่ำ...เกิดแบบโอปาติกะ

เกิดในไข่...ในครรภ์....เราเห็นกันด้วยตาเปล่าได้

พอเกิดในน้ำคร่ำ...อย่างไวรัส..แบตทีเรีย..เราเริ่มมองไม่เห็นแล้ว...(บ้างว่าพวกหนอนพวกแมลงวันเกิดแบบนี้..ผมไม่เห็นด้วย....น่าจะจัดอยู่ในพวกเกิดในไข่...ซะมากกว่านะ)

เกิดแบบโอปาติกะ....ตาเรามองไม่เห็นเลย...พวกนี้ไม่มีพ่อไม่มีแม่...คืออุบัติขึ้นเลยตามกำลังบุญกำลังกรรม...แต่ก็มีพ่อมีแม่ได้ด้วยความมีอุปาทานซึ่งเป็นธรรมดาในวัฎสงสาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 21:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างสัตว์นรก...ก็เกิดแบบโอปาติกะ....แล้วก็มีความรู้สึก....คือรู้สึก...เย็น..ร้อน..อ่อน..แข็ง...รู้สึกสุข...รู้สึกทุกข์....ซึ่งดูแล้ว...ก็ไม่เห็นต่างจากคนบนโลกเลย....แสดงว่า...ก็เป็นสิ่งมีชีวิต...(มีนามและรูป)....

หากจะคิดไปไกลอีกนิด....สัตว์นรกก็น่าจะมีเซลเป็นองค์ประกอบของร่างกาย....เพียงแต่ว่า...มันเกิดด้วยกรรมบันดาล....(หากเป็นเทวดา..หรือพรหม...ก็ว่าเกิดด้วยบุญฤทธิ์...ซึ่งก็คือกรรมด้านดีนั้นเอง)

ดังนั้น....เซลล์เกิดได้ด้วยกรรมบันดาล....ได้

เมื่อเซลล์เกิดด้วยกรรมบันดาลได้....เซลล์ตัวอ่อนของคนหากจะเกิดได้ด้วยวิธีนี้บ้าง....ก็ไม่เห็นจะแปลก...

อีกด้านหนึ่ง...ของการเกิดในน้ำคร่ำ..ในที่ชื้นแชะ...มีบางคนว่าเป็นน้ำสกปรกก็มี....ความจริงความสกปรกมันไม่มีอยู่หรอก(มีแต่เรื่องของความชอบและไม่ชอบของคน)....มันมีแต่ความเป็นกรดเป็นด่าง...เมื่ออยู่ในภาวะความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสม...แล้วมีปฏิสนธิจิต(อันมาด้วยกรรมเกี่ยวพัน)...มาเกิดที่ตรงนั้น(กรรมชักนำ)...เกิดการรวมตัวกันของธาตุต่างๆ ในน้ำเกิดเป็นสารประกอบโปรตีน...(ฝาหรั่งว่าเกิดปฏิกิริยาเคมีกัน...แต่เขาไม่รู้เรื่องจิต...เรื่องกรรมนำจิตมาเกิด...) แล้วเกิดเป็น..ไวรัส..แบตทีเรีย...เชื้อรา..ฯลฯ....หากเกิดในร่างกายคน....ก็เป็นเหตุของการเกิดโรคได้...(ฝ่าหรั่งเขาถึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโรคที่เกิดแบบไม่มีพาหะดีเท่าไร...เขาจึงมีแต่ข้อสัญนิฐาน...เพราะเขาไม่รู้เรื่องการเกิดแบบที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนนั้นเอง)

นี้เป็นการกำเนิดของเซลล์นะ.....แล้วหากเซลล์ตัวอ่อนของคนจะเกิดแบบนี้ดูบ้าง(ด้วยความมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันมากับสิ่งนั้น)...ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร

:b12: :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 23 ก.ค. 2012, 21:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2012, 21:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทีนี้.....ก็มาที่กระทู้..ดูนะ
อ้างคำพูด:
ทำไมเราไม่อธิฐานให้เกิดมาเป็นมนุษย์ โดยไม่ต้องพึ่งพ่อ-แม่

แล้วใครเขาจะมาหาเลี้ยงเรา...ตอนเรายังเล็กช่วยตัวเองไม่ได้ละท่าน? :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2012, 01:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
แกงได เขียน:
ศรัทธาพาหลงทาง
เรื่องไหนนิทานเรื่องไหนเรื่องจริงแยกไม่ออกหรือ
ทำมหาบุญขนาดไหนมันก็ต้องอาศัยมดลูกอยู่ดี

แสดงว่า พระไตรปิฎก โกหก เรื่องนี้ละสิ

ขอหลักฐานว่าเป็นนิทานด้วย

แล้วขอหลักฐาน การเกิดว่าอาศัย มดลูกอย่างเ้ดียว

ช่วยหามาด้วยครับ

นิทาน เรื่องที่ไม่เป็นจริงตามธรรมชาติ

คุณคือหลักฐาน หรือคุณเกิดจากสิ่งอื่น

คนไม่ว่ามันจะผสมด้วยวิธีอย่างไรมันก็ต้องยัดกลับเข้าไปในมดลูก
ตลอดระยะเวลาเก้าเดือนมันต้องการอาหารอากาศน้ำและความอบอุ่นจากแม่
หลังจากนั้นแม่มันจะให้ใครเลี้ยงก็แล้วเวรกรรมของแต่ละคน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2012, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อย่างสัตว์นรก...ก็เกิดแบบโอปาติกะ....แล้วก็มีความรู้สึก....คือรู้สึก...เย็น..ร้อน..อ่อน..แข็ง...รู้สึกสุข...รู้สึกทุกข์....ซึ่งดูแล้ว...ก็ไม่เห็นต่างจากคนบนโลกเลย....แสดงว่า...ก็เป็นสิ่งมีชีวิต...(มีนามและรูป)....

หากจะคิดไปไกลอีกนิด....สัตว์นรกก็น่าจะมีเซลเป็นองค์ประกอบของร่างกาย....เพียงแต่ว่า...มันเกิดด้วยกรรมบันดาล....(หากเป็นเทวดา..หรือพรหม...ก็ว่าเกิดด้วยบุญฤทธิ์...ซึ่งก็คือกรรมด้านดีนั้นเอง)

ดังนั้น....เซลล์เกิดได้ด้วยกรรมบันดาล....ได้

เมื่อเซลล์เกิดด้วยกรรมบันดาลได้....เซลล์ตัวอ่อนของคนหากจะเกิดได้ด้วยวิธีนี้บ้าง....ก็ไม่เห็นจะแปลก...

อีกด้านหนึ่ง...ของการเกิดในน้ำคร่ำ..ในที่ชื้นแชะ...มีบางคนว่าเป็นน้ำสกปรกก็มี....ความจริงความสกปรกมันไม่มีอยู่หรอก(มีแต่เรื่องของความชอบและไม่ชอบของคน)....มันมีแต่ความเป็นกรดเป็นด่าง...เมื่ออยู่ในภาวะความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสม...แล้วมีปฏิสนธิจิต(อันมาด้วยกรรมเกี่ยวพัน)...มาเกิดที่ตรงนั้น(กรรมชักนำ)...เกิดการรวมตัวกันของธาตุต่างๆ ในน้ำเกิดเป็นสารประกอบโปรตีน...(ฝาหรั่งว่าเกิดปฏิกิริยาเคมีกัน...แต่เขาไม่รู้เรื่องจิต...เรื่องกรรมนำจิตมาเกิด...) แล้วเกิดเป็น..ไวรัส..แบตทีเรีย...เชื้อรา..ฯลฯ....หากเกิดในร่างกายคน....ก็เป็นเหตุของการเกิดโรคได้...(ฝ่าหรั่งเขาถึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโรคที่เกิดแบบไม่มีพาหะดีเท่าไร...เขาจึงมีแต่ข้อสัญนิฐาน...เพราะเขาไม่รู้เรื่องการเกิดแบบที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนนั้นเอง)

นี้เป็นการกำเนิดของเซลล์นะ.....แล้วหากเซลล์ตัวอ่อนของคนจะเกิดแบบนี้ดูบ้าง(ด้วยความมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันมากับสิ่งนั้น)...ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร

:b12: :b12: :b12:


ท่านน่าจะหาหนังสือชีววิทยามาอ่านเพิ่มเติมเสียหน่อยจะได้เข้าใจความจริงของธรรมชาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2012, 07:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมกำลังสนใจเรื่องการเกิดแบบ...สังเสทชะ ..และ...โอปปาติกะ...

ซึ่ง...วิชาชีวะของฝ่าหรั่ง....ไม่มีให้อ่าน

หรือเรา....จะเชื่อแค่ฝ่าหรั่งดี...ละ?

เมื่อ..พันปีที่แล้ว..ฝ่าหรั่งมันยังคิดว่า...หนู..แมลงสาป...เกิดจากผ้าสกปรกอยู่เลย

วันนี้...ก็เปลี่ยนไปแล้ว...เปลี่ยนมาเป็น...สารโปรตีนจากเพศผู้เพศเมียมาผสมกัน..เท่านั้น...ในแมลงสาปผสมแล้วฝากใว้ภายนอก...ในหนูผสมแล้วฝั่งใว้ในตัว...นี้คือ..เกิดในไข่...เกิดในครรภ์

แล้ว....อนาคต...จะเปลี่ยนไปอีกมั้ย?

แต่...พระพุทธองค์...ตรัสใว้ตั้งแต่ 2560 ปีมาแล้วว่า...สัตว์โลกเกิดได้มี 4 แบบ...จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขคำสอนเลย...

หากไม่เชื่อ.....ก็ลองมาศึกษาดู...หรือแม้แต่...เชื่อแล้วก็ตาม...ก็ต้องศึกษา...หากไม่ศึกษาแล้ว...ความไม่เชื่อหรือความเชื่อนั้น..ก็ล้วนแต่เป็นความงมงาย..ได้เหมือนกัน
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2012, 23:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเข้าใจว่าเราคุยเรื่องการเกิดของคนแล้วกลายเป็นการเกิดของสัตว์ต่างๆไปได้อย่างไร
ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องว่ากันต่อ

การเกิดของสัตว์นั้นเกิดได้ 2 แบบคือ
การเกิดแบบมีพ่อแม่และการเกิดแบบไม่มีพ่อแม่
1.การเกิดแบบมีพ่อแม่คือการเกิดแบบอาศัยเพศ
แบบออกไข่..ตัวอ่อนจะอาศัยอาหารภายในไข่เลี้ยงตัวจนมีสภาพสมบูรณ์
แบบออกลูกเป็นตัว..ตัวอ่อนต้องอาศัยอาหารภายในท้องแม่
แต่สัตว์พวกมีกระเป๋าหน้าท้อง..ตัวอ่อนจะเติบโตในท้องแม่จนมีแขนขาแล้วต้องออกจากช่องคลอดไต่ไปอาศัยในกระเป๋าหน้าท้องจนมีสภาพสมบูรณ์
2.การเกิดแบบไม่มีพ่อแม่คือเกิดแบบไม่อาศัยเพศ
สัตว์พวกนี้จะค่อยๆงอกออกจากตัวเดิมจนมีรูปร่างสมบูรณ์เหมือนต้นแบบแล้วจึงหลุดออกจากตัวเดิม
โดยมากสัตว์พวกนี้เป็นสัตว์ชั้นต่ำ. วิวัฒนาการต่ำ.ใกล้เคียงกับสัตว์ยุคแรกที่เกิดขึ้นบนโลก
ผมก็ไม่ทราบว่าสัตว์พวกนี้มันอยากจะบรรลุกันหรือไม่

ส่วนเรื่องคนในโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก..ผมว่ามันไม่มีใครฉลาดกว่าใคร
วิทยาการหลายอย่างเกิดครั้งแรกในโลกตะวันออกแต่คนที่คิดค้นได้มักจะเก็บเป็นความลับแล้วหาผลประโยชน์เพื่อตนเองเมื่อขาดการสืบทอดก็จะสูญหายไป
ส่วนโลกตะวันตกเมื่อใครคิดค้นอะไรได้ก็จะจดบันทึกแล้วเผยแพร่สู่สาธารณะก็จะเกิดการต่อยอดกันต่อๆมาทำให้วิทยาการต่างๆเจริญกว่าโลกตะวันออก

ส่วนเรื่องผีสาง.เทวดา.ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง.มันฝังอยู่ในหัวของคนที่เชื่อ.วันดีคืนดีมันก็หลอกตัวเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2012, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
อย่าง พระอัมพปาลีเถรี เกิดโคนต้นมะม่วง แล้วก็โตเลย ไม่จำเป็นต้องไปเกิดในครรภ์ พ่อ-แม่
จากนั้นก็สำเร็จอรหันต์ สบายเลย

บางคนก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ในดอกบัว แล้วก็โตเลย ไม่จำเป็นต้องพึ่ง พ่อ แม่ ภาระทางโลกแทบน้อยมากเลย

ถ้าใช้ครรภ์ พ่อ แม่ เกิดมาเป็นทารก กว่าจะโต กว่าจะเจริญวัย กว่าจะถึงวัยปฎิบัติธรรม บางทีก็ม่องเท่งก่อน



สำเร็จอรหันต์ ไม่สบายเลยนะครับ แต่ท่านสงบ สงบจากความเห็นผิดว่า ขันธ์5นั้น เป็นเราเป็นเขา มีสาระ แต่ขันธ์5 ยังตกอยู่ภายใต้ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ยังเจ็บไข้ได้ป่วย ยังต้องดับขันธ์นิพพาน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2012, 06:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ส่วนเรื่องผีสาง.เทวดา.ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง.มันฝังอยู่ในหัวของคนที่เชื่อ.วันดีคืนดีมันก็หลอกตัวเอง

แล้วเรื่อง เวียนว่ายตายเกิด เชื่อหรือไม่ครับ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2012, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อ้างคำพูด:
ส่วนเรื่องผีสาง.เทวดา.ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง.มันฝังอยู่ในหัวของคนที่เชื่อ.วันดีคืนดีมันก็หลอกตัวเอง

แล้วเรื่อง เวียนว่ายตายเกิด เชื่อหรือไม่ครับ


ผมเชื่อแต่เรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เส้นทางเดินของชีวิตผมควบคุมทิศทางได้ไม่ต้องรอกรรมเก่า


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร