ปุจฉา
ชีวิตหนึ่งที่เกิดมา อยู่อย่างไรให้คุ้มค่า และให้มีความสุข
เมื่อไม่รู้ว่าลมหายใจจะหยุดเมื่อไร จะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่
เกิดเป็นมนุษย์ได้แล้ว ชาติหน้าไม่รู็จะมีโอกาศอีกหรือไม่

วิสัชนา
ดำรงตนอยู่ใน ศีลห้า หยุด โลภ โกรธ หลง อิจฉา ริษยา
ดำรงตนอยู่บนทางสายกลาง มีความพอเพียงเป็นที่ตั้ง
เรียนธรรมะปัจจุบัน ทุกวันเวลา มีความสุขด้วยปัญญา
ปัญญา...?

ปฏิบัติให้รู้แจ้ง รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง
สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง รูปไม่ใช่ตัวตน เวทนาไม่
ใช่ตัวตน สัญญาไม่ใช่ตัวตน สังขารไม่ใช่ตัวตน วิญญาณ
ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งหลาย ทั้งปวงไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน.
หลงยึดติดย่อมนำ ทุกข์ มาให้

เป็นลูกศิษย์พุทธทาสกระมัง

ไม่ค่อยเข้าใจ ว่างจากอะไร ว่างยังไงครับ ที่ว่าว่างอยางยิ่ง

ถามแบบนี้แสดงว่าเป็นผู้มีความรู้มาก ดิฉันได้เจอผู้ทรงภูมิซะแล้วซิ โชคดีจังเลยวันนี้

งั้นดิฉันขอถามเลยนะคะ เผื่อได้ความรู้เพิ่ม

คุณกรัชกายคิดว่าว่ามีกี่แบบคะ แต่ละแบบเป็นยังไงบ้าง มีคุณลักษณะอย่างไร แล้วอย่างไรจึงจะ
เรียกว่าว่าง ยังไงเรียกว่าว่างอย่างยิ่ง

คุณ ปรมนุตตรสุญญตา เป็นคนพูดว่าอย่างนั้นๆ กรัชกายไม่เข้าใจจึงถามว่า ว่างจากอะไร ที่ว่าว่างอย่างยิ่ง

ถ้าถามกรัชกาย ไม่รู้เลยครับ (เคยแต่ว่างงาน ตกงาน ) เคยได้ยินเขาพูดๆ กัน แต่ไม่เคยถามใคร

ดิฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นคุณกรัชกายงง ก็เลยนึกว่าคุณกรัชกายมีความรู้กว้างไกล มีวิศัยทัศน์และเป็นคนใจกว้างอยากให้ความรู้ จึงไม่เข้าใจคำว่าว่าง ซึ่งเป็นคำพื้นๆ ดูปุ๊บเข้าใจปั๊บ ส่วนมากผู้ที่เป็นระดับปรมาจารย์หรือด๊อกเตอร์เขาจะสงสัยกัน เพราะในสมองเต็มไปด้วยความรู้คำพูดเล็กๆ น้อยๆ อาจมีความหมายลึกซึ้งแตกแขนงซับซ้อนหลายแง่หลายมุมจนดิฉันคาดไม่ถึง ดิฉันนึกว่าคุณกรัชกายเป็นผู้มีความรู้แบบนั้นก็ดีใจ นึกว่ารู้จึงขอความรู้ เพราะดิฉันนึกว่าคำว่า ว่าง ของคุณกรัชกายมีความหมายลึกซึ้งและซับซ้อนจึงไม่เข้าใจคำพื้นๆ แบบนี้

ตกลงจะรู้มั้ยครับเนี่ยว่างจากอะไร

เวรกรรม ดิฉันก็บอกไปแล้วว่าไม่รู้ คนไม่รู้ถามคนไม่รู้เดี๋ยวก็คงรู้มั้งคะ แปลกจังคุณกรัชกาย

อย่าไปใส่ใจกับอิตากรัชกายเขาเลยครับ ที่เขาถามเขาไม่ต้องการคำตอบหรอกครับ
ถ้าคุณตอบไป เขาก็จะเอาคำตอบของคุณ มาถามคุณต่อไปอีกเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด

ตากรัชกายมีแค่นี้แหล่ะครับ
ชอบถามโดยไม่รู้ว่าตัวเองถามอะไร
และอีกอย่าง ชอบก็อปปี้บทความคนอื่นมาโพส

ถ้าคุณทนรำคาญได้ อิตากรัชกายก็ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไรหรอกครับ
ถ้าไม่ชอบความรำคาญ ก็อย่าไปยุ่งกับแกครับ

ไม่ทราบเหมือนกันครับ สุญญตา เป็นสภาวะที่มีธรรมใดเป็นเหตุ? อริยสัจ4 เป็นแนวทาง หรือ มรรคมีองค์8 เป็นแนวทาง หรือ ปฎิจจสมุปบาทเป็นแนวทาง หรือ ญาณสมาธิเป็นแนวทาง?

ตามที่ผมเข้าใจ น่าจะว่างจากความ มีตัวตน

มองให้เห็นว่าแท้จริงตัวเราประกอบจากการประชุมของธาตุเพียงชั่วคราว

เมื่อมองแล้วพิจารณา มันไม่มีอะไรที่จะยึดมั่น ว่าเป็นของเราเลย

มีแต่ความว่างเปล่า ประมาณนี้ละครับ

เมื่อคลายความยึดมั่นได้บ้าง ทุกข์ก็จะน้อยลงครับ

ผิดอะไร รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ให้ด้วยครับผม

ลอกของคุณ choochu ได้ไหม
กายกับใจ
กาย แยกออก เป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม
ใจ ก็แยกออก เป็น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ดิน น้ำ ไฟ ลม ก็ไม่เที่ยงเกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ไม่เที่ยงเกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
เป็นของที่นำมารวมๆกันเพียงชั่วคราว

เห็นหัวข้อ ปุจฉา-วิสัชนาเรื่องสุญญตา จึงเข้าใจว่ารู้นะครับ จึงถาม คือปุจฉา ถ้างั้นขออภัยนะครับ

ในเมื่อไม่รู้ตั้งหัวข้อยังงั้น คงไม่เกิดประโยชน์อะไรมากมายนัก เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ เป็นการสร้างหรือพอกพูนสัญญาผิดๆด้วย

เอาหัวข้อง่ายๆ น่าจะดีกว่า เดือนหน้าก็จะออกพรรษาแล้ว ปุจฉา-วิสัชชนาเรื่องทอดกฐินกันไหม โฮฮับด้วย

มีคนรู้ตั้งเยอะแยะเพียงแต่เขายังไม่พูด จขกทเข้าชวนปุจฉา-วิสัชนาเรื่องสุญญยตา
เราเข้าใจอย่างไรต่อสุญญตา อย่างไรเราก็บอกเขาไป คนที่ตั้งกระทู้เขาจะได้
แสดงความเห็นปุจฉาและวิสัชชนากลับมา

ในความเห็นแรกของจขกทนั้น ก็เป็นลักษณะของวิสัชนาอยู่แล้ว
เรามีความเห็นอย่างไรต่อวิสัชชนานั้น ก็แสดงความเห็นไป จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
เมื่อแสดงความเห็นแล้วจึงก็ค่อยปุจฉากลับไป

ไม่ใช่เขาชวนปุจฉา-วิสัชชนา กรัชกายไม่รู้เหนือรู้ใต้ เข้ามาก็จะวิสัชนาอย่างเดียว
แบบนี้จขกทเขาก็ไปไม่ถูกน่ะซิ .......กรัชกายตะบี้ตะบันถามจนติดนิสัย

คำว่า..สุญญตาหมายถึงความว่าง มันเป็นผลจากการทำฌาน

การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

ส่วนปรมนุตตรสุญญตา เป็นความว่างที่สูงกว่าฌาน๘ เป็นความว่างจาก ราคะทั้งปวง
เรียกความว่างจากราคะนี้ว่า......เจโตวิมุตติ

การจะได้ปรมนุตตรสุญญตา จะต้องปฏิบัติ สุญญตานุปัสสนาให้ได้เสียก่อน