วันเวลาปัจจุบัน 23 มิ.ย. 2025, 14:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 22  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




01-aa-5404339.jpg
01-aa-5404339.jpg [ 123.16 KiB | เปิดดู 4821 ครั้ง ]
เสี้ยวหนึ่งแห่งอารมณ์จุดไฟฝัน
ท่ามคืนวันวุ่นวายในโลกกว้าง
สงบเงียบเยี่ยบเย็นบนเส้นทาง
ทุกก้าวย่างฟันฝ่าท้ารอยกรรม

จะมีพรหมองค์ใดลิขิตได้
มาเติมไฟใส่เชื้อเมื่อถลำ
มาซับรอยระทมยามระกำ
ยามเพลี่ยงพล้ำชะตาล้าโรยแรง

คงเปล่าดายมิได้ในลิขิต
ธรรมชาติลิลิตจิตโชนแสง
ปฏิสนธิกาลตามแสดง
ผลวิบากจำแลงจึงแปลงมา

ธรรมชาติรูปจิตและเจตสิก
ผู้ลิขิตรูปนามสืบพรรษา
ทวารทั้งหกหยิบยกจิตวิญญาญ์
จึงเกิดมาเวียนว่ายในบ่วงกรรม

จึงร่ายเสกอักษรเป็นกลอนกานท์
ตามชีวิตที่ผ่านทุกเช้าค่ำ
ผ่อนระกำลำบากความชอกช้ำ
เพื่อลำนำบทกานท์จารบรรเทา

ด้วยน้ำทิพย์รินไหลได้ผ่อนเย็น
ใจที่เร้นร้อนรุ่มคลุมแผดเผา
มีสรณะกำบังเป็นร่มเงา
คอยขัดเกลาเงาดำกล่ำครอบคุ้ม

อันเรื่องราวเร้าจิตให้คิดร้อน
ดั่งมีฟอนกองไฟความร้อนสุม
ดวงจิตกุมกิเลสเฝ้ากลุ้มรุม
ดังเหมือนเราซ่องสุมทุกข์ภายใน

ชีวิตนี้ไม่มีเครื่องต้านทาน
คงไม่ผ่านกองทุกข์พ้นไปได้
ล้วนตกในอำนาจอันตราย
ธรรมสัมมารัตนตรัยคุ้มครองตน

เราทุกคนสะสมตัวกิเลส
อันเป็นเหตุแห่งทุกข์จิตสับสน
ขันธ์ทั้งห้ารวมกลุ่มเกราะกมล
นาฬิกาเจตสิกดลเป็นตัวเฟือง

อาศัยกรรมก่อเกิดเป็นชีวิต
จักขุพิศมองเห็นทิศต่อเนือง
โสตวิญญาณการฟังอยู่ทุกเรื่อง
ฆานวิญญาญ์ประเทืองกลิ่นโชยมา

ทั้งชิวหาลองลิ้มชิมสัมผัส
จิตวิญญาณเร่งรัดมโนทั้งห้า
จิตอารมณ์เร่งเร้าในกามา
ขันธ์ทั้งห้ารวมหมู่ขึ้นเป็นกอง

กุศลจิตฝ่ายดีอำอาจเหนือ
จึงก่อเกื้อโลภะมาสนอง
เข้ายึดติดรูปสวยเย้าเรืองรอง
ตามสนองไพเราะเสนาะใจ

ฝ่ายโมหะรากเหง้าอกุศล
ชวนชี้ยลโทสะให้หลงไหล
ให้หลงผิดแตกต่างมรรคาไป
จึงก่อให้เกิดกรรมตามก่อกวน

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2009, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0ee487f48613a7f40-1.jpg
0ee487f48613a7f40-1.jpg [ 106.41 KiB | เปิดดู 4804 ครั้ง ]
ธรรมชาติสดใสให้ชวนชื่น
ยามสะอื้นอาทิตย์ลับอับแสง
ธรรมชาติธรรมะมาแสดง
ให้เราแกร่งสู้ทนหนทางไกล

ในทุกนามยามคลุกทุกข์ขมขื่น
จิตระทมซมซึมมิผ่องใส
พึ่งพนาไพรพฤกษ์มวลไม้ใบ
ได้ผ่อนคลายผายโศกโลกวกวน

เห็นใบไม้ร่วงหล่นบนทางลาด
ปราศจากปนเปือนเตือนฉงน
ใบไม้ปลิดปลิวไปไร้กังวล
ใบร่วงหล่นตามกาลอันควรเป็น

อันชีวิตคิดไปให้ได้คิด
ยามชีพปลีดปลงไปใจว่างเว้น
ไม่ยึดติดปัญหาคราลำเค็ญ
ปลงให้เป็นวางไว้ไร้อาวรณ์

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1ee487f48613a7f542-1.jpg
1ee487f48613a7f542-1.jpg [ 170.41 KiB | เปิดดู 4799 ครั้ง ]
ขอเพียงมีจิตมุ่งมั่น

หากรังสรรค์บทกวีเพราะมีรัก
ย่อมประจักษ์ถ้อยความซึ่งหวามหวาน
ดั่งผกาตูมเต่งเริ่มเบ่งบาน
ประดับลานหทัยให้เริงรมย์

หากรังสรรค์บทกวีเพราะมีสุข
ย่อมสรรทุกถ้อยความซึ่งงามสม
ด้วยสุนทรียภาพอาบอารมณ์
เสพคารมคมคำอิ่มหนำทรวง

หากรังสรรค์บทกวีเพราะมีธรรม
ย่อมดื่มด่ำอรรถรสให้หมดห่วง
ดั่งน้ำทิพย์สดชื่นแท้ทั้งแดดวง
จากแดนสรวงดั่งมหาสุธาธาร

หากรังสรรค์บทกวีเพราะไม่มีธรรม
ย่อมถ้อยคำกระด้างนักพร้อมหักหาญ
ความอ่อนโยนร้างไร้ฤๅได้การ
สร้างผลงานกองสุมมินุ่มนวล

หากรังสรรค์บทกวีเพราะมีทุกข์
ย่อมจมขลุกดวงจิตเฝ้าคิดหวน
สะท้อนถึงความช้ำภาพคร่ำครวญ
ด้วยกระบวนโศกาเฝ้าจาบัลย์

หากรังสรรค์บทกวีเพราะมีมุก....ตลก
ย่อมปลอบปลุกความช้ำด้วยขำขัน
บรรจงร้อยแอบอำถ้อยจำนรรจ์
เพื่อสร้างสรรค์เฮฮาถ้อยวาทะ

หากรังสรรค์บทกวีเพราะโกรธแค้น
ย่อมอัดแน่นเขื่องโขเพลิงโทสะ
ไร้เนื้อความในบทพจน
และยากจะคงไว้มิตรไมตรี

หากรังสรรค์บทกวีด้วยใจผ่อง
ทุกทำนองใคร่ครวญตรองถ้วนถี่
แม้นยังห่างต่างชั้นวรรณกวี
ขอเพียงมีจิตมุ่งมั่นพ้นจัณฑาล

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 08 ก.ค. 2009, 10:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




01-aa-54053.jpg
01-aa-54053.jpg [ 178.28 KiB | เปิดดู 4714 ครั้ง ]
เห็นพวงดวงดอกตะแบกบาน
หวานเศร้าละมุนริมถนน
ราวแบกทุกข์ทดท้อสู้ทน
รอสายฝนพร่างกลางกลีบใบ

เดินเดียวดายเงียบงามยามเย็นย่ำ
ฟ้าใกล้ค่ำสวยโศกโลกรานไหว
ในลำพังกับธรรมชาติงามเหลือใจ
ใบไม้ไหวกระซิบว่าอย่าระทม

ดูฟ้าสิยังแปรสียังเปลี่ยนผัน
ชีพเรานั้นมีบ้างต้องขื่นขม
กับวิบากกรรมเก่าพาเราตรม
ให้สายลมพัดผ่านรานรักลา

แลเห็นว่างเปล่าในเงาฝัน
นิรันดร์ใดเล่าเจ้าปรารถนา
ใดเที่ยงใดแท้แค่มายา
ผ่านมาเฝ้าดูรู้ปล่อยวาง..!

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 08 ก.ค. 2009, 10:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




181557.jpg
181557.jpg [ 19.98 KiB | เปิดดู 4716 ครั้ง ]
จากธุลีสู่ธุลีผู้ดีไพร่
เหลือสิ่งใดให้เห็นเป็นแก่นสาร
ทิ้งลาภยศทรัพย์สินสิ้นลมปราณ
ซากสังขารคืนให้ผู้ใดกัน

จากดินน้ำลมไฟให้ชีวิต
เนื้อหนังติดกระดูกถูกไปฝัน
น้ำที่ไหลในร่างต่างผูกพัน
ลมเปลี่ยนผันเข้าออกบอกอะไร

ความอบอุ่นเยือกเย็นเป็นผัสสะ
ไฟพันธะถูกปักเกินผลักใส
หลงนิยมชมชอบตอบอันใด
เลือนหายไปในครรลองของเวลา

เมื่อดินน้ำลมไฟใกล้มอดดับ
กายก็กลับเสื่อมทรามเริ่มลามล้า
เนื้อที่แน่นหนังที่ตึงซึ่งผ่านมา
กลับโรยราแห้งเหี่ยวเหนี่ยวทวี

ทิ้งสิ่งใดไว้เล่าเหล่ามนุษย์
ยังหลงฉุดดึงไว้ทำไมนี่
เก็บอัตตาต่อเติมเพิ่มราคี
ทุกสิ่งมีทุกสิ่งพรากยากประวิง

เกิดจากเถ้าสู่เถ้าที่เล่าขาน
กับตำนานเกิดตายแห่งชายหญิง
เหลือสิ่งใดให้เห็นเป็นเรื่องจริง
ได้แต่ทิ้งถ่านเถ้าไม่เข้าใจ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 00:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




20071118203540.jpg
20071118203540.jpg [ 54.73 KiB | เปิดดู 4499 ครั้ง ]
อย่าทำ…..เป็นคนดีที่สู่รู้
อย่าทำ…..เป็นนกมีหูหนูมีปีก
อย่าทำ…..เป็นคนหลายลิ้นดิ้นสับหลีก
อย่าทำ…..เป็นคนชอบปลีกฉีกสังคม
อย่าทำ…..ตัวอวดอ้างอย่างข้าแน่
อย่าทำ…..ตัวอย่างตุ๊กแกแท้ชอบข่ม
อย่าทำ…..ตัวเหมือนจิ้งจอกหลอกชื่นชม
อย่าทำ…..ตัวดั่งเหวหล่มจมหลุมโคลน
อย่าทำ…..เหมือนโลกนี้มีแต่ทุกข์
อย่าทำ…..เหมือนสุขทั้งชีวิตติดหัวโขน
อย่าทำ…..เหมือนมอบจิตใจนิสัยโจร
อย่าทำ…..เหมือนนักโล้นโยนแบ่งบุญ
อย่าทำ…..ผิดซ้ำซากยากแปลงเปลี่ยน
อย่าทำ…..ผิดหมุนเวียนว่ายกายสถุล
อย่าทำ…..ผิดเพื่อเกลื่อนกลบลบเนรคุณ
อย่าทำ…..ผิดนำหนุนเสริมทุนกรรม
อย่าทำ…..นะ นะอย่าใช่ท้าแข่ง
อย่าทำ…..นะ นะใจแย้งใช่แต่งขำ
อย่าทำ…..นะ นะเปิดใจให้แสงธรรม
อย่าทำ…..นะ นะจดจำคำเตือนตน.

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 01:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




rpst.0142.jpg
rpst.0142.jpg [ 143.4 KiB | เปิดดู 4714 ครั้ง ]
รักชีวิตเรียบง่ายงามสงบ
เพียรค้นพบอัญมณีใจดวงใสหวาน
ทิ้งทุกข์สุขมากมายเรื่องร้าวราน
ทิวาวารแค่อดีตฝันลืมวันวน

ลมหายใจนาทีนี้ที่จริงแท้
ธรรมชาติให้งามแน่ทุกแห่งหน
ใต้ร่มฟ้าเมตตาบันดาลดล
ให้ผองชนซึ้งค่ากรุณาใจ

จึ่งพบสุขในทุกที่ธุลีหล้า
ทุกทิวาในราตรีดาวไสว
ในเรียวรุ้งแสงตะวันพาฝันไกล
ในละไมแห่งโลกฝันสวรรค์รจนา

ได้ระบายรักถักร้อยเป็นสร้อยศรี
ดั่งมณีคล้องใจงามเลอค่า
ภาษาธรรมภาษาทองคล้องวิญญาญ์
ด้วยศรัทธาอักษราขวัญนิรันดร....!

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




r-shadow.jpg
r-shadow.jpg [ 107.8 KiB | เปิดดู 4722 ครั้ง ]
...ที่ของเงา...

"อดีตก็เป็นเหมือนเงา..มันมีที่ซึ่งมันควรอยู่

ที่สำหรับเงา..คือข้างหลัง

และการจะทำได้เช่นนั้น...เราจำเป็นต้องหันหน้าเข้าหาแสงสว่าง

อย่ากลัวว่าเงาจะหายไป..ไม่มีทางจะเป็นไปได้อย่างนั้น

บางเวลามันอาจจะลางเลือน..จนเราเกือบมองไม่เห็น

แต่มันก็ยังคงอยู่ในแบบของมัน

และเราก็ไม่ควรพยายามลบลืมมัน..ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันนั้น

เราจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างถูกทางได้อย่างไร

ถ้าสายตาและหัวใจเรา..ยังมองอยู่ข้างหลัง?

อันที่จริง..เราก็ควรมองดูข้างหลังบ้างนะ..แต่ไม่ใช่เพราะพะวักพะวงกับเงา

เราควรเหลียวมองเพื่อทบทวนว่า เส้นทางที่ผ่านมานั้น..

เราได้หลงลืมอะไรไปบ้าง?

ซึ่งมีประโยชน์และควรเก็บเกี่ยวเอาไว้

แต่ก็ไม่ใช่เพื่อให้เราหาทางกลับไปไขว่คว้าอีกนั่นแหละ..

เพราะนั่นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน

บางทีสิ่งที่เราควรทำและทำได้..

คงเป็นการมองหาสิ่งที่เคยผิดพลาดคราวก่อน..ในเวลาปัจจุบัน

เพราะเมื่อเราไม่พลั้งพลาดในเวลาปัจจุบันแล้ว..

ในเวลาที่วันพรุ่งนี้เดินทางมาถึง..วันนี้ของเราก็คงกลายเป็นอดีตที่สวยงาม

ที่มองกลับไปครั้งใด..ก็สมบูรณ์และน่าชื่นชม"


หมายเหตุ ..สี่บรรทัดแรกจาก ลุงวินทร์ เลียววาริณ
...............................................................................................................

ขอบคุณบทความดีๆ
จากอสัญแดหวา

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคุณ "ปลายฟ้า...ค่ะ" ด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2009, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




13Maysa_004.jpg
13Maysa_004.jpg [ 55.95 KiB | เปิดดู 4720 ครั้ง ]
จิตยิ้ม.....นั้นคืออะไร
อยากรู้ถามไถ่ เป็นอย่างไร
ที่ว่าจิตยิ้มนั้นหนา ยิ้มได้เมื่อไหร่

หรือยิ้มได้ตลอดเวลา หรือยังต้องกำหนดด้วยเลขผานาที
อธิบายไว้ในตำรา จะเข้าใจหรือไม่หนา ก็ว่าไปตามตำรา

งงไปงงมา ไม่สิ้นสงกากันสักที จิตยิ้มแน่หรือ
ฤาว่าอุปทานถือมาจากตำรา จำมาได้จากสัญญา

อ่านตามตำราก็ว่ากันไป บ้างก็ว่าเข้าใจแล้วหนา
อธิบายดุจว่าดวงตาเห็นธรรม แต่แตกต่างกันตรงจิตยิ้มของกูนั้น

เป็นยิ้มในเมืองแท้จริงกว่านอกเมืองเหนืออื่นใด
เออก็ว่า ยังแบ่งแยก แล้วจะยิ้มจากจิตแท้จริงได้อย่างไร

ติเตียนคนอื่นอยู่ร่ำไป จิตยิ้มนี้ไซร้ ไม่อุปทานหรือพ่อดอกมะลิลา
จิตยิ้ม แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เบิกบานมาจากจิตใจ

มิได้หัวเราะฮ่า..ฮ่า..ฮ่า จิตยิ้มได้เพราะเมตตา
ดับทุกข์ สุข เวทนา แยกแล้วขันธ์ 5 ไม่ยินดีปรีดา ก็ยิ้มได้อย่างไฉไล

ไม่ได้ยิ้มที่ปากเปิดกว้าง แสยะยิ้มปากบาง ให้เห็นแต่ไกล
หากแต่งดงามอยู่ ณ หทัย สดชื่นแจ่มใสที่กึ่งกลางแห่งดวงจิตรา

ไม่ว่าหญิง ไม่ว่าชาย จิตยิ้มปรากฏได้ เมื่อจบสิ้นแห่งรากตัณหา
พ้นวิเศษจากฤทธิ์นานา สิ้นสงสัยในโลกา อยู่อย่างธรรมดา ธรรมดา เท่านั้นเอง

ธรรมะสวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา
(verygood)

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2900034.jpg
2900034.jpg [ 24.54 KiB | เปิดดู 4719 ครั้ง ]
บนเส้นทางชีวิตที่คิดหวัง
มองภาพหลังตนบ้างอย่างสงสัย
ใครหนอชี้ชะตาพาเป็นไป
หนทางไกลฝ่าฟันอันตราย

ลุ่มหลงใจใฝ่ฝันแย่งกันสูง
ต่างลากจูงลาภยศกำหนดหมาย
หลงติดยึดสมบัติในรูปกาย
ผลสุดท้ายลับหายตายทุกคน

บ้างชังกันหันหลังยังเบือนหนี
จะร้ายดีกระทำลงย่อมส่งผล
ช้าหรือเร็วไม่ต่างต้องผจญ
สุขทุกข์ทนรับกรรมต้องจำใจ

ชีวิตนี้น้อยนักนะเพื่อนเอ๋ย
หากเปรียบเปรยพยับแดดระยิบไหว
เปรียบน้ำค้างรุ่งรางจางเร็วไว
ฟองน้ำไหลลอยไปในธารา

เปรียบครรลองชีวิตคิดวาดฝัน
ดุจเดินกันบนเส้นด้ายคลายปัญหา
แม้พลาดพลั้งอาจพลัดตกอกช้ำมา
เกินเยียวยาแก้ไขได้ทันการณ์

พึงระวังตั้งใจไม่ประมาท
อย่าได้ขาดสติตรองมองพื้นฐาน
ดีและชั่วคิดก่อนรู้ประมาณ
รู้จักกาลพอดีมีสุขเอย

ขอบคุณ...ป้ากันนา

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




83-14.jpg
83-14.jpg [ 24.86 KiB | เปิดดู 4718 ครั้ง ]
๐ เรียนธรรมะ อย่าตะกละ ให้เกินเหตุ
จะเป็นเปรต หิวปราชญ์ เกินคาดหวัง
อย่าเรียนอย่าง ปรัชญา มัวบ้าดัง
เรียนกระทั่ง ตายเปล่า ไม่เข้ารอย

๐ เรียนธรรมะ ต้องเรียน อย่างธรรมะ
เรียนเพื่อละ ทุกข์ใหญ่ ไม่ท้อถอย
เรียนที่ทุกข์ ที่มีจริง ยิ่งเข้ารอย
ไม่เลื่อนลอย มองให้เห็น ตามเป็นจริง

๐ ต้องตั้งต้น การเรียน ที่หู,ตา ฯลฯ
สัมผัสแล้ว เกิดเวทนา ตัณหาวิ่ง-
ขึ้นมาอยาก เกิดผู้อยาก เป็นปากปลิง
" เรียนรู้ยิง ตัณหาดับ นับว่าพอ " ฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 08 ก.ค. 2009, 10:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2009, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




b463b70117b39314728da578.jpg
b463b70117b39314728da578.jpg [ 108.3 KiB | เปิดดู 4718 ครั้ง ]
ขอปิดทองเบื้องหลังพระปฏิมา
น้อมวันทาแด่องค์พระทรงศรี
ขอจารกลอนส่งเสริมพระบารมี
หวังเพียงมีกุศลผลสืบไป

แม้นชีวิตปลิดปลงลงตรงหน้า
ความศรัทธาแด่องค์วิเศษไฉไฉ
พระไตรปิฎกหนุนเกื้อเอื้อวิไล
กระจ่างไว้ในปัญญาวิสุทธิคุณ

วิสุทธิมรรคสรรค์สร้างทางพิสุทธิ์
ผลบริสุทธิ์ผุดผาดมาเกื้อหนุน
อริยสัจจ์สี่นำพามาค้ำจุน
อีกการุนด้วยฌานประสานกาย

พิจารณาตรองเหตุและมวลผล
เพื่อจะดลใจจิตไว้มิให้สลาย
ถึงขันธ์ห้ามาแยกแตกทำลาย
เพื่อกระจายออกดูสู่ทางเดิน

สิ่งใดเล่าทำให้กายเกิดดับ
วนเวียนกับสังขารที่สรรเสริญ
อันประกอบด้วยธาตุมาเจริญ
แยกดำเนินเข้าห้วงช่วงพิจารณา

มวลโลกกายในนี้ที่ขันธ์ห้า
จะนำพาให้เกิดดับตามวาสนา
ด้วยผลบุญเวรกรรมที่ทำมา
จะชักหาสู่ห้วงบ่วงกระจาย

หากดับลงตรงสังขารที่แต่ง
มิให้แกร่งปรุงแต่งสิ่งทั้งหลาย
ดุจดั่งไฟขาดน้ำมันมาทำลาย
โลกในกายก็จะหยุดเกิดดับเอง

นี่แหละหนอคือประตูนิพพานแท้
ไม่ผันแปรใจจิตต้องกระฉับกระเฉง
ประกอบด้วยศีลสมาธิปัญญาบรรเลง
ต้องให้เคร่งอย่าให้ขาดแม้ข้อเดียว

สาธุชนคนพุทธหยุดสักหน่อย
เพียงเล็กน้อยพิจารณาสักประเดี๋ยว
เมื่อทราบแล้วอย่ารู้เพียงผู้เดียว
แม้เพียงเสี้ยวฝากไว้ได้กุศลมา

สัมพุทธะวาจาทรงว่าไว้
อย่าหลงใหลเชื่อคำนั้นเถิดหนา
จงปฏิบัติดูของธรรมที่นำมา
จะรู้ว่าถูกต้องหรืออย่างไร.

๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 01:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




20071118203521.jpg
20071118203521.jpg [ 42.15 KiB | เปิดดู 4500 ครั้ง ]
พระคัมภีร์ ยังมิใช่ องค์พระธรรม
มีไว้เพียง อ่านจำ เมื่อศึกษา
ครั้นนานเข้า คัดลอก กันสืบมา
เพียงแต่เขียน อักขรา ให้คล้ายกัน

คิดพลาง ฉงนพลาง ช่างอึดอัด
ตัวไม่ชัด เดาไป คล้ายในฝัน
ยิ่งเป็นปราชญ์ ยิ่งแก้ไป ได้ไกลครัน
ยิ่งแก้มัน ก็ยิ่งเลอะ ไม่เจอะจริง

ส่วนพระธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐแท้
ไม่มีใคร อาจแก้ ให้ยิ่งขิง
ธรรมของใคร ใครเห็น ตามเป็นจริง
มิใช่สิ่ง คิดลอก หรือบอกกัน

ทั้งมิอาจ ถ่ายทอด วิธีใด
มีแต่การ จัดใจ ให้สบสันติ์
ไม่มีทาง ซื้อขาย หรือให้ปัน
หรือลอกกัน ให้เลอะไป ไม่หยุดเอยฯ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 01:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




12c4110cf3e3310.jpg
12c4110cf3e3310.jpg [ 55.13 KiB | เปิดดู 4503 ครั้ง ]
ชีวิตคนเรา ช่างมืดมนเสียนี่กระไร
หลงและหลบซ่อนชีวิตอยู่ในวังวนแห่งมายา ที่รายรอบไปด้วยกิเลส กรรม และวิบาก

ความร้อยรัดแห่งตัณหาช่างรัดมัดแน่นยิ่งกว่าเส้นเชือกใดๆทั้งปวง ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ถักเย็บชาติต่อชาติ ไว้ได้อย่างลงตัวแนบเนียนเกินที่เราท่านจะรู้เองได้

วงเวียนกรรม ได้ถูกแก้ปมให้หลุดได้แน่นอนด้วยตัวของท่านเอง.. เพียงอาศัยวิปัสสนาญาณ เป็นคมมีดที่แหลมกล้า ฝาดฟันโมหะอวิชชาที่นอนเนื่องภายในจิตให้ขาดสะบั่นไปด้วย ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิและปัญญา เท่านี้ท่านก็จะพ้นจากวังวนแห่งสังสารวัฏฏ์ได้อย่างแน่นอน

ด้วยความปรารถนาดี
พี่ดอกแก้ว

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 01:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 22  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร