มีค่ะ มีหลายที่ น้ำเคยทานก็เหมือนซูชิทั่วๆน่ะแหละค่ะ เพียงแต่ไม่ใช้เนื้อสัตว์

พอดีน้ำเคยไปเฝ้าไข้คนไข้ญี่ปุ่น เขาเป็นอาจารย์สอนทำอาหารญี่ปุ่น แล้วจากการพูดคุยกัน เขารู้ว่าน้ำชอบทำอาหาร ก็เลยได้แลกวิชากัน วันนั้นพอดีเขาอยากได้สูตรน้ำก๋วยเตี๋ยว เขาเลยสอนน้ำทำข้าวปั้น ส่วนตัวน้ำก็สาธิตวิธีทำน้ำก๋วยเตี๋ยวให้เขาดู สนใจข้าวปั้นไม๊คะ ทำไม่ยากอย่างที่คิด อร่อยมากๆค่ะ น้ำน่ะซัดไปสองลูกอิ่มตื้อเลย ไส้บ๊วย กับ ไส้คล้ายๆสาหร่ายแต่มันจะสีคล้ำออกเค็มๆปะแร่มๆ จำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร แล้วก็มีอีกแบบ ปั้นแล้ว นำสาหร่ายแผ่นมาห่ออีกที สนใจไม๊คะ แต่บอกก่อนว่า ต้องไปค้นดูก่อน คิดว่าคงหาไม่ยาก เพราะน้ำจะชอบจดบันทึกอาหารเก็บเอาไว้ค่ะ ข้าวปั้นนี่ต้องใช้ข้าวญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะ ใช้ข้าวสารแบบที่เมืองไทยไม่ได้ค่ะ

จัดให้ 1 รายการก่อนค่ะ ซูชิ

ข้าวห่อสาหร่าย ไส้ผักดองเจ ( โอชิงโกะ มากิ )

เครื่องปรุง

ข้าวซูชิ 1 ถ้วยตวง หัวไชเท้าดอง-แตงกวาดองญี่ปุ่น 1/4 หัว ซีอิ๊วขาว สูตร 1 3 ช้อนโต๊ะ วาซาบิ 2 ช้อนโต๊ะ ขิงดอง 1 ช้อนโต๊ะ งาขาว ( คั่วสุก ) 2 ช้อนโต๊ะ สาหร่ายทะเลญี่ปุ่น 1 แผ่นใหญ่ เสื่อม้วนข้าว 1 อัน

ส่วนผสมข้าวเปรี้ยวสำหรับทำ ข้าวห่อสาหร่ย ( SUSHI NOGOHAN )

ข้าวหอมมะลิเก่า 5 ส่วน (หรือ 5 ถ้วยตวง ) ข้าวเหนียว 1 ส่วน ( หรือ 1 ถ้วยตวง ) น้ำส้มปรุงรส 1 ถ้วยตวง

ส่วนผสมน้ำส้มปรุงรส

น้ำส้มสายชูกลั่น 5% 1 ขวดใญ่ เกลือป่น 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ( 1 ถ้วยตวง ) ประมาณ 15 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำสาหร่ายมาวางบนเสื่อ ( สำหรับม้วนข้าว ) แล้วปั้นข้าวซูชิมาวางบนสาหร่าย เกลี่ยให้ทั่วแผ่น โรยงาวางผักดอง แล้วม้วนให้ผักดองอยู่ตรงกลาง ม้วนเป็นรูปสี่เหลี่ยม

2. ทำแบบข้อ 1 จนหมดสาหร่าย แล้วนำมาตัดชิ้นพอคำ จัดแต่งใส่จานให้สวยงามด้วยขิงดองและใบตอง

3.ทานกับวาซาบิและซีอิ๊วขาวตามชอบ

วิธีทำข้าวเปรี้ยวสำหรับทำข้าวห่อสาหร่าย

1. นำข้าวหอมมะลิเก่ากับข้าวเหนียวตามอัตราส่วนมาผสมกัน

2. นำมาซาวน้ำให้สะอาด

3. นำใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้าตามปกติ ( ใส่น้ำน้อยกว่าปกติที่เคยหุงข้าว เพราะมีส่วนผสมของข้าวเหนียว )

4. หลังจากข้าวสุกรอให้ระอุประมาณ 15 นาที ให้นำมาเทใส่ถาดสแตนเลสหรือถาดไม้ แล้วนำน้ำส้มปรุงรส คลุกเคล้าให้ทั่ว ผึ่งลมไว้ให้เย็น แล้วจึงนำข้าวมาห่อสาหร่ายได้

วิธีทำน้ำส้มปรุงรส

1. นำอัตราส่วนต่างๆเทลงในหม้อสแตนเลส

2.ตั้งไฟอ่อนๆเคี่ยวจนเกลือและน้ำตาลทรายละลาย เคี่ยวให้เข้มข้นเล็กน้อย เป็นใช้ได้ค่ะ

สนใจค่ะข้าวปั้นญี่ปุ่น....แต่ก่อนเราจะใช้กุ้งกับไข่กุ้ง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่นึกอยากจะทานเนื้อสัตว์
ก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาอะไรแทนเนื้อสัตว์ดี
สาหร่ายที่เป็นสีดำเค็มๆนั่นเราใส่จนลูกๆเบื่อแล้วค่ะ
เราก็เลยไม่รู้จะใส่อะไรใส่เต้าหู้ก็ไม่อร่อย
ข้าวปั้นญี่ปุ่นนี่ทานแค่2-3ลูกก็อิ่มมากแล้วค่ะ(ประหยัดดี)

เราว่าข้าวปั้นญี่ปุ่น....ใช้ข้าวใหม่ที่เมืองไทยของจ.บุรีรัมย์
จะอร่อยกว่าข้าวญี่ปุ่นค่ะจะหอมกว่าแล้วก็นุ่มกว่าค่ะ

พอดีเป็นคนทานง่ายค่ะ อะไรๆก็เลยอร่อยกับเขาไปหมด แม้แต่ข้าวปั้น ที่ใครๆอาจจะมองว่าธรรมดาๆ จริงๆแล้วไม่ธรรมดา ตั้งแต่เริ่มลงมือปั้นข้าวแล้วแหละค่ะ ต้องล้างมือให้สะอาด เกลือที่ใช้โรยในฝ่ามือก่อนที่จะปั้นข้าวก็ต้องใช้จำนวนพอเหมาะ เวลาปั้นต้องใช้สมาธิ ไม่งั้นข้าวจะออกมารูปร่างบูดเบี้ยว แต่ถ้าใส่ความตั้งใจลงไป ข้าวจะออกมาลูกสี่เหลี่ยมสวยงาม สรชาติเมื่อได้ทาน จะออกหวานผสมเค็มประแร่มๆ พอกัดไปโดนไส้ที่ออกเค็มๆเปรี้ยวๆนิดๆของสาหร่าย ยิ่งเพิ่มรสชาติมากขึ้น

หลายๆคนคิดว่าเกลือนี่มีความเค็มอย่างเดียว จริงๆแล้ว ถ้าใช้จำนวนพอเหมาะ จะมีรสชาติหวานประแร่มๆผสมอยู่ค่ะ เป็นคนชอบใช้เกลือทำอาหาร โดยเฉพาะพวกแกงต่างๆ จะใช้แต่เกลือ จะไม่ใช้น้ำปลาหรือซอสอะไรเลย

เต้าหู้ต้มซีอิ๊ว สอดไส้ข้าวซูชิ ( ฮินาริ ซูชิ )

เครื่องปรุง

ข้าวซูชิ 1 ถ้วยตวง เห็ดหอม ( แช่น้ำ ) 3 ดอก ซีอิ๊วขาว สูตร 1 3 ช้อนโต๊ะ งาขาว ( คั่วสุก ) 2 ช้อนโต๊ะ วาซาบิ 1 ช้อนโต๊ะ ขิงดอง 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเต้าหู้ทอด

เต้าหู้ทอด 3 แผ่น ซีอิ๊วขาว สูตร 1 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมข้าวเปรี้ยวหรือข้าวซูชิ

ข้าวหอมมะลิเก่า 5 ส่วน (หรือ 5 ถ้วยตวง ) ข้าวเหนียว 1 ส่วน ( หรือ 1 ถ้วยตวง ) น้ำส้มปรุงรส 1 ถ้วยตวง ( ประมาณ 240 ซีซี )

ส่วนผสมของน้ำส้มปรุงรส

น้ำส้มสายชูกลั่น 5% 1 ขวดใญ่ เกลือป่น 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ( 1 ถ้วยตวง ) ประมาณ 15 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำเต้าหู้ที่ต้มแล้วมาตัดข้างนอกออกนิดหนึ่ง แล้วค่อยๆแกะให้มีช่องตรงกลาง ( เพื่อจะใส่ข้าวซูชิ ) บีบน้ำออกใส่จานพักไว้ นำข้าวซูชิใส่ถ้วยโรยงาและเห็ดหอมสับคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำมาสอดไส้เต้าหู้ชิ้นพอคำจนหมด ใส่จานให้สวยงาม แต่งจานด้วยใบตอง วาซาบิที่ผสมน้ำและขิงดอง เสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วขาว สูตร 1 ( ถ้าชอบเผ็ดก็ใส่พริกชี้ฟ้าแดง )

วิธีต้มเต้าหู้ทอด

นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อพร้อมเต้าหู้ทอด ต้มจนน้ำงวด ปิดไฟ ปล่อยให้เย็นใช้ได้

วิธีทำข้าวเปรี้ยวสำหรับทำข้าวห่อสาหร่าย

1. นำข้าวหอมมะลิเก่ากับข้าวเหนียวตามอัตราส่วนมาผสมกัน

2. นำมาซาวน้ำให้สะอาด

3. นำใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้าตามปกติ ( ใส่น้ำน้อยกว่าปกติที่เคยหุงข้าว เพราะมีส่วนผสมของข้าวเหนียว )

4. หลังจากข้าวสุกรอให้ระอุประมาณ 15 นาที ให้นำมาเทใส่ถาดสแตนเลสหรือถาดไม้ แล้วนำน้ำส้มปรุงรส คลุกเคล้าให้ทั่ว ผึ่งลมไว้ให้เย็น แล้วจึงนำข้าวมาห่อสาหร่ายได้

วิธีทำน้ำส้มปรุงรส

1. นำอัตราส่วนต่างๆเทลงในหม้อสแตนเลส

2.ตั้งไฟอ่อนๆเคี่ยวจนเกลือและน้ำตาลทรายละลาย เคี่ยวให้เข้มข้นเล็กน้อย เป็นใช้ได้ค่ะ

ยังไม่ได้ไปหาซื้อถ้วยตวงเลยครับ พรุ่งนี้กะว่าจะไปเดินดูที่ห้างสักหน่อย

ภาพหายาก...
ฝากรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมให้คุณเต้ ครับ
ภาพนี้ถ่ายเมื่อตอนปี พ.ศ. 2501 ที่ไต้หวัน
ขณะนั้นที่ไต้หวันที่เมืองหนึ่ง กำลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่
ฝนตกหนัก ไม่หยุด น้ำท่วมสูงจนต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านเลยทีเดียว
ชาวบ้านจึงพากันสวดมนต์ขอพระโพธิสัตว์เมตตา จากนั้นไม่นานฝนก็เริ่มหยุดตก
ช่างภาพคนหนึ่งมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นกลุ่มเมฆประหลาด ก็เลยหยิบกล้องถ่ายรูป
ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ พอล้างรูปภาพออกมา ก็กลายเป็นภาพพระโพธิสัตว์กวนอิม ภาพนี้.
(หลังภาพที่เป็นสีดำ คือท้องฟ้าสีคราม แต่สมัยก่อนกล้องมีแต่ขาวดำ)

ช่วงนี้อาจจะห่างๆไปนิดนะคะ ในการนำเมนูต่างๆมานำเสนอ กระซิบๆๆ แบบว่า เวลาโพสอาหารแล้วหิวค่ะ พอหิวก็ไปทานอาหาร ผลรับคือ ตอนนี้ นน.ขึ้นมา 2-3 กิโลค่ะ กำลังจำกัดการทานอยู่

เมื่อวานก็เล่นสลัดไปชามโต ก็มีแต่ผักค่ะ กับไข่ไก่อีก 3 ฟอง อร่อยมากๆ อดไม่ได้ค่ะ หิวมากๆเลย

เอาไว้จะมาโพสให้เวลาที่กำลังอิ่มๆอยู่นะคะ นี่กำลังอิ่ม เพราะทานมะม่วงเข้าไปเยอะ

คุณน้ำ มะม่วงสุก กินเยอะ ทำให้น้ำหนักขึ้นได้นะครับ

ช่วงนี้แย่มากๆค่ะ ยอมรับเลย เป็นโรคแพ้อาหารค่ะ แบบประมาณว่า เห็นอะไรเป็นหิวไปหมด ทานอะไรก็เป็นอร่อยไปหมด

เค้กนี่ ปกติไม่เคยทานมานานแล้ว แต่วันนั้นดันเผลอใจไปทานชิฟฟ่อนเข้า เพราะมันถูกเหลือใจ ทานไปทานมา ผลที่ตามมาก็คือ น้ำหนักขึ้นนี่แหละค่ะ ส่วนมะม่วงนั้น ชอบทานมะม่วงดิบค่ะโดยเฉพาะเขียวเสวย นั่งทานได้เป็นกิโล อร่อยมากๆ ตอนนี้เลยรู้สึกว่า ต่อมลิ้มรสของตัวเองคงจะพิการไปชั่วคราว เลยต้องหันมาเจริญสติใหม่อีกครั้ง ในเรื่องการทานอาหาร ขอเวลาสัก 1 เดือนค่ะ คงจะกลับมาสู่สภาพปกติได้

กรรมน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ฮ่าๆๆๆ คือ จะให้คนๆหนึ่งเขาทานอาหารให้อ้วนๆ กรรมมันเลยย้อนกลับมาหาตัวเองค่ะ เลิกแล้วค่ะ เล่นแบบนี้ แกล้งเขา เราเลยเป็นเอง เดี๋ยวจะไปขอโทษเขาค่ะ

คุณอมิตาพุทธค่ะคุณไปได้ภาพนี้มาจากที่ไหนค่ะ
เมื่อประมาณเดือนกว่าๆ.......เราฟัง vcd ของพระใต้หวันท่านเทศน์
ท่านมีพูดถึงเรื่องนี้แหละค่ะ
ท่านบอกว่า...มีคนมีหลายคนเห็นท่านโพธิสัตว์กวนอิมบนท้องฟ้า่
ท่านมาช่วยแล้วมีคนถ่ายภาพไว้ได้....แต่ท่านไม่มีภาพมาให้ดูหรอกค่ะ
เราก็คิดว่าภาพเป็นยังไงนะ่
แล้ววันนี้คุณก็ส่งรูปมาให้เราดู
เรางงไปหมดเลยค่ะเราไม่รู้ว่า
ท่านโพธิสัตว์กวนอิมท่านต้องการสื่ออะไรให้กับเรา

ถ้าใครพอจะรู้ช่วยแนะนำเราบ้างนะค่ะ

ทำไมเวลาที่เราอยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับท่าน
เหมือนท่านจะให้ใครนำอะไรมาให้เราทุกครั้ง
ต้องขอบคุณคุณมากเลยน่ะค่ะที่นำมาให้ดู
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ยังมีอีกภาพหนึ่งค่ะเป็นภาพที่
ผู้หญิงไทยในมาเลย์.....เป็นคนวาดโดยที่ตัวเค้าเอง...ก็ไม่รู้ว่าเค้าวาดได้ยังไง
คือเพื่อนของผู้หญิงไทยคนมาเลย์เค้าทานเจ
แต่ผู้หญิงไทยไม่ได้ทานเจ
แล้ววันหนึ่งผู้หญิงไทยก็ไปที่ฝอถังกับเพื่อนเค้าที่ทานเจ
แล้วเพื่อนของเค้าก็ไปคุยกับพวกเพื่อนของเค้าที่รับอนุตตรธรรม(อี๋ก้วนเต้า)
ในระหว่างที่ผู้หญิงไทยคนนี้นั่งรอเค้าก็ไปหยิบกระดาษA4
มานั่งวาดรูป พอวาดเสร็จแล้วเค้าก็เดินไปที่กลุ่มของเพื่อนเค้านั่งคุยกัน
แล้วผู้หญิงไทยก็ส่งภาพวาดให้พวกเค้า
แล้วพูดว่า"ภาพนี้เป็นภาพที่คนทานเจเวลาเสียชีวิตแล้วพวกเธอจะไปอยู่ในสถานที่นี้แหละ"

พวกคนที่ทานเจเค้าก็งง...ว่าเป็นภาพอะไร...เค้าก็รับไปดู
พวกเค้าก็ยิ่งงงอีก...ว่าทำไมผู้หญิงไทยคนนี้ถึงวาดภาพได้สวย
แล้วก็รู้อะไรได้ดีกว่าพวกเค้า
แล้วพอซักพัก...เพื่อนเค้าที่เป็นคนมาเลย์ถามเค้าว่า
เค้ารู้ได้ยังไงแล้วทำไมเค้าถึงวาดภาพ
อมิธอฝอ+เทวดา+นางฟ้าได้สวย
ผู้หญิงไทยคนนี้เค้าก็งงเช่นกัน.....เพราะเค้าวาดรูปอะไรก็ไม่เป็นแล้วก็ไม่เคยวาดด้วย

มีใครเคยเห็นรูปนี้บ้างหรือปล่าวค่ะ...เพราะเค้าจะก๊อปปี้แจกตามสถานที่ทานเจค่ะ

วันนี้เราก็ไปเจอเรื่องแปลกอีกค่ะ...เกี่ยวกับพระที่เมืองไทย
แล้วพรุ่งนี้....เราจะเล่าให้ฟังค่ะ...เพราะวันนี้เราไปเป็นล่ามแปลไทยกับจีนให้พระไทยนี่แหละค่ะ
เลยรู้สึกเพลียขอนอนก่อนค่ะ

ที่พระท่านพูดถึง ก็คงเป็นภาพนี้แหล่ะครับ เหตุการณ์นี้ มีชาวบ้านเห็นหลายคน และพูดถึงกันกว้างขวางมาก พระโพธิสัตว์กวนอิม ประทับยืนบนหัวมังกร เพื่อห้ามฝน และช่วยบรรเทาทุกข์ภัยให้เวไนยสัตว์

ท่านพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านคงอยากให้คุณเต้ มั่นคงในธรรม มีศัทธาปทาสะ น่ะครับ ท่านคงจะต้องการสื่อประมาณนี้ (อันนี้คิดเองน่ะครับ )

รูปนี้ผมมีอยู่นานแล้วครับได้มาหลายปีแล้ว เก็บไว้บูชาบนโต๊ะพระที่บ้าน

เรื่องนี้ขอไปถาม อาวุโส ที่สถานธรรมก่อนนะครับ เพราะอนุตตรธรรม (อี้กวนเต้า) ก็มีหลายสาย
ไม่รุ้ว่าอาวุโส ในสายที่ผมรู้จัก เขาจะมีข่าวนี้กันหรือเปล่า ได้ข่าวยังไงเดี๋ยวมาแจ้งครับ.

สถานที่ที่ผู้หญิงคนนั้นพูดถึง ผมคิดว่าน่าจะเป็นพุทธาลัย พุทธาลัยอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตเป็นที่บำเพ็ญธรรม อยู่ในความดูแลของพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ คนที่ได้รับอนุตตรธรรมแล้ว เมื่อตายไปก็จะได้ไปบำเพ็ญต่อกันบนสถานที่แห่งนี้(ละกิเลสยังไม่หมด) ยกเว้นแต่บางคนที่ได้รับอนุตตรธรรมแล้ว แต่ไม่ได้บำเพ็ญธรรม กลับประกอบ แต่กรรมชั่ว หรือได้ทำอนันตริยกรรม ก็จะตกลงนรก ไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้นมาพุทธาลัย แต่สำหรับผู้ที่ปฏิบัติดี ละได้แล้วซึ่งกิเลส เมื่อได้รับอนุตตรธรรมแล้ว ก็เข้านิพพานโดยตรง.

แต่สำหรับผู้บำเพ็ญในศาสนาพุทธ ท่านอาจารย์บอกว่า จะอยู่ในความดูแลของสวรรค์ชั้นกลาง คือ พระอินทร์(เง๊กเซียนฮ่องเต้) คนที่บำเพ็ญดี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระอินทร์ จะบัญชา ให้เหล่าเทพเทวา มาช่วยคุ้มครอง ปกปักรักษาผู้บำเพ็ญเหล่านี้ เหมือนคำกล่าวที่ว่า "ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม" ผู้ปฏิบัติดี ก็จะมีเทพเทวา คอยอารักขา ตามคำสั่งของพระอินทร์.

อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณเองนะครับ

เมื่อก่อนผมก็เหนื่อยเหมือนกันครับ ไปช่วยงานสถานธรรม เสร็จแล้วก็ไปช่วยงานที่วัด ต่ออีก เหนื่อยมากๆแต่ก็รู้สึกดีน่ะครับ เหนื่อยแต่อยากทำ.....ช่วงนี้มาอยุ่ กทม. เลยไม่ได้ไปช่วยงานวัดแล้ว ก็ไปช่วยงานสถานธรรมบ้างตามแต่โอกาสแล้วแต่อาวุโสจะเรียกมา ส่วนใหญ่จะไปช่วยเวลามีประชุมธรรมน่ะครับ ไปอำนวยความสะดวกให้ญาติธรรม.

แสดงว่ายังติดเนื้อสัตว์กันอยู่ นี่เท่ากับเป็นการหลอกตัวเอง สู้ผมก็ไม่ได้ ผมไม่ยึดติดกับรูปของอาหาร
แต่ก็เป็นกำลังใจให้นะ ฝึกต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ทำอย่างผมได้