วันเวลาปัจจุบัน 23 มิ.ย. 2025, 19:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 22  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1147609706.jpg
1147609706.jpg [ 43.89 KiB | เปิดดู 3947 ครั้ง ]
ชีวิตคนเราอาจเปรียบได้กับไม้ขีดไฟ

ก้านไม้ขีด..ก็เหมือนกันเวลาชีวิตของเรา

เวลาชีวิตของเรา..หากมองจริงๆ ก็แสนจะสั้นเหลือเกิน
เมื่อเรามีบางสิ่งบางอย่างทำ

บางคน..อาจมองว่าชีวิตของเรา ทำไมมันช่างแสนจะยาวนานนัก

เพราะนั่น..คือการที่เรายังไม่ได้จุดไม้ขีดไฟ

เมื่อเกิดการเสียดสีกับกล่องไม้ขีด ไฟก็จะลุกโชน

ในช่วงเวลาที่เราเริ่มจุดไม้ขีดนั้น

ไม้ขีดบางอัน ก็อาจจะลุกติดในทันที แต่บางอัน
ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะติด

ไฟ..ก็เปรียบเสมือนงาน หรือจุดมุ่งหมายของเรา

บางคน...กว่าจะค้นหาเป้าหมายของตัวเองเจอ
ก็ช่างนานแสนนาน

และเมื่อจะเริ่มทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ..
หัวไม้ขีดก็เก่าเสียแล้ว

จะจุดไม้ขีดก็ต้องยากเป็นธรรมดา

เมื่อไฟลุกติด..เมื่อเราเริ่มทำความฝันให้เป็นความจริง

ไฟก็จะมอดก้านไม้ขีด..เวลาแห่งชีวิต เวลาแห่งอิสระ
ก็เริ่มจะสั้นลงๆ

ขณะที่ไฟลามไปยังก้านไม้ขีด

บางอันอาจจะช้า บางอันอาจจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ

ตอนที่ไฟลุกอยู่...อาจจะมีลมแรงพัดผ่านเข้ามา
อาจจะมีฝนตก ไฟก็อาจจะดับได้

เมื่อลุกมาถึงกลางก้านไม้ขีดแล้ว
ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไฟจะกลับมาลุกโชนอีกครั้งได้ง่ายๆ

ก็จำเป็นต้องพึ่งไม้ขีดอีกอัน พึ่งเพื่อนรักของเรา
มาประคองไฟให้ลุกใหม่ได้อีกครั้ง

เมื่อจุดหมายของเราใกล้จะประสบความสำเร็จ
ก้านไม้ขีดที่เหลือก็มีอยู่น้อยเต็มทีแล้ว

แต่เมื่อใดที่ไฟสุดท้ายของไม้ขีดดับมอดลง
เมื่อวาระสุดท้ายของคนเรามาถึงก็จำเป็นที่จะต้องจากไป

แต่ประโยชน์ที่เราสร้างไว้ จุดหมายที่ประสบความสำเร็จ
ไฟที่สร้างความสว่างไสวเอาไว้

แม้จะเป็นแค่เพียงไฟดวงเล็กๆ แต่ก็ได้สร้างประโยชน์เอาไว้
ให้แก่คนรอบข้าง

และบางที

ก้านไม้ขีดไฟอันนี้…ก็อาจนำไปเพื่อจุดกองไฟกองโต
เพื่อความสว่างไสวและอบอุ่นของคนมากมาย..ตลอดคืน

ในทางกลับกัน..บางคนอาจกล่าวว่า
ถ้าเราไม่จุดไฟ..เราก็มีก้านไม้ขีดที่เหลืออีกมากมายเหลือเฟือ

แต่ถ้าหากเราปล่อยก้านไม้ขีดเอาไว้อย่างนั้น
นานวันเข้า..นานวันเข้า
ก้านไม้ขีดก็จะจุดติดยาก หรืออาจจะจุดไม่ติด

พอถึงวันนั้น..
คนที่จะใช้ไม้ขีดก็คงจะทำอะไรไปไม่ได้...
นอกจากจะต้องทิ้งไม้ขีดไฟก้านนั้นทิ้งไป...

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 01:50, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อมิตาพุทธ เขียน:
โพสต์ ต่อไปเถอะครับ คุณ ปลายฟ้า...ค่ะคนที่เข้ามาเว็บธรรมะ ก็มีหลากหลายกันไป
บางคนสนใจศึกษาธรรม บางคนมีทุกข์เรื่องความรัก ฯลฯ
เชื่อว่ากระทู้นี้ ก็ยังช่วยปลอบใจ หรือ ให้กำลังใจ
คนอีกหลายๆคนได้
ครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ :b8:

จริงไหมครับ ท่าน แมวขาวมณี :b12:


จริงค่ะ คุณอมิตาพุทธ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




m121555.jpg
m121555.jpg [ 28.23 KiB | เปิดดู 4257 ครั้ง ]
เต็มหรือยัง?

ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสำนักบนเขาเป็นเวลาหลายปี

เช้าวันหนึ่ง
เขาได้เข้าไปหาอาจารย์ในห้องแล้วกล่าวว่า

"อาจารย์ครับ ผมมาศึกษาอยู่ที่นี่ก็นานแล้ว วิชาต่างๆ ผมก็ได้เรียนรู้จนครบถ้วนหมดแล้ว
ผมคิดว่าผมน่าจะสามารถลงเขาไปได้แล้วกระมังครับ"

"อะไรที่เจ้าเรียกว่าครบถ้วนหมดแล้ว?" อาจารย์ถาม

"ก็คือเต็มแล้ว ใส่อะไรไม่ลงอีกแล้วครับ"

"ถ้าเช่นนั้น ช่วยเอาชามใบนี้ไปใส่ก้อนหินมาให้อาจารย์สักชามสิ"

ลูกศิษย์ทำตามที่อาจารย์สั่ง "เต็มแล้วหรือยัง?" อาจารย์ถาม

"เต็มแล้วครับ"

อาจารย์หยิบทราบขึ้นมาหนึ่งกำใส่ลงไปในชาม แต่ทรายไม่ล้นออกมา

"เต็มหรือยัง?" อาจารย์ถามต่อ

"เต็มแล้วครับ"

อาจารย์จึงได้หยิบขี้เถ้าขึ้นมาอีกหนึ่งกำ แล้วโรยใส่ลงไปในชาม แต่ขี้เถ้าก็ยังไม่ล้นออกมา

"เต็มหรือยัง?" อาจารย์ถามอีก

"เต็มแล้วครับ"

คราวนี้อาจารย์เทน้ำลงไปชามอีกหนึ่งถ้วย แต่น้ำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะล้นออกมา

"เต็มหรือยัง?"

"................."

ขวดที่ใส่น้ำจนเต็มไม่อาจเขย่าให้มีเสียงได้ฉันใด
ผู้ที่ทะนงในความรู้ของตนว่ามีเพียงพอแล้ว
ก็ไม่อาจใช้ความรู้ที่มีอยู่ให้บังเกิดคุณประโยชน์สูงสุด ได้ฉันนั้น

ขอบคุณบทความจากทำดีดอทเน็ต(จั่นเจา)

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




11.ft1.jpg
11.ft1.jpg [ 30.56 KiB | เปิดดู 4360 ครั้ง ]
สิ่งที่แข็งที่สุด เอาชนะได้ด้วยสิ่งที่อ่อนที่สุด
เมื่อประตูบานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งก็เปิด
แต่บ่อยครั้งที่เรามัวแต่จ้อง ประตูบานที่ปิดจนไม่ทันเห็นว่ามีอีกบานที่เปิดอยู่
อย่ามัวค้นหาความผิดพลาด จงมองหาหนทางแก้ไข

อารมณ์ขันเป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดที่ช่วยรักษาสิ่งอื่นได้
เพราะทันทีที่เกิดอารมณ์ขัน
ความรำคาญและความขุ่นข้องหมองใจจะมลายไป
กลับกลายเป็นความเบิกบานแจ่มใสของจิตใจเข้ามาแทนที่

อย่ากลัวที่จะนั่งหยุดพักเพื่อคิด
1 นาทีที่คุณโกรธเท่ากับคุณได้สูญเสีย 60 วินาทีแห่งความสงบในจิตใจไปแล้ว
หนทางเดียวที่จะรักษาภาพพจน์ได้คือการซื่อสัตย์ตลอดเวลา

ผู้ชนะไม่เคยลาออก และผู้ลาออกก็ไม่เคยชนะ
ออกซิเจนสำคัญต่อปอดเช่นไร ความหวังก็เป็นเช่นนั้นต่อความหมายของชีวิต

การมีชีวิตอยู่นานเท่าใดมิใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือ มีชีวิตอยู่อย่างไร
เราเข้าใจชีวิตเมื่อมองย้อนหลังเท่านั้น แต่เราต้องดำเนินชีวิตไปข้างหน้า

เราไม่อาจล้างมือที่แปดเปื้อนซ้ำได้เป็นครั้งที่ 2 ในสายน้ำไหล(สุภาษิต ทิเบต)
ไม่มีสิ่งใดช่วยให้คุณได้เปรียบคนอื่นมากเท่ากับการควบคุมอารมณ์
ให้สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาในทุกสถานการณ์

ความอดทนคือเพื่อนสนิทของสติปัญญา
พรสวรรค์ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ คือ การที่เราสามารถเอาใจเขามาใส่ใจเราได้
ในธรรมชาติไม่มีสิ่งใดดีพร้อม แต่ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง
ต้นไม้อาจบิดเบี้ยวโค้งงออย่างประหลาด แต่ก็ยังคงความงดงาม

มักพูดกันว่ากาลเวลาเปลี่ยนทุกสิ่ง
แต่จริงๆแล้ว คุณต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตนเอง

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 24 มิ.ย. 2009, 20:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 04:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




51-1.gif
51-1.gif [ 36.33 KiB | เปิดดู 4241 ครั้ง ]
:b48: สาธุ คุณปลายฟ้า...ค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




61.jpg
61.jpg [ 26.93 KiB | เปิดดู 4238 ครั้ง ]
สิ่งที่ ต้องทำ สิ่งที่ น่าทำ

วันหนึ่งก็จบสิ้นลงแล้วด้วยความรวดเร็ว..
แต่ละวันดูสั้นลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่อยากทำมีมากขึ้นทุกวัน
ยี่สิบสี่ชั่วโมงดูจะน้อยไป หากมีมากกว่านั้นในแต่ละวัน...ก็คงจะดี
แล้วก็อดถามไม่ได้ว่า...เวลาน้อยลงหรือมีอะไรทำมากขึ้น?...

คำตอบก็คงหาได้ไม่ยาก...
สิ่งที่เป็นหน้าที่ประจำ ที่สอดแทรกเข้ามาตามสถานการณ์ ที่เสนอตัวเข้ามา..
เหล่านี้แหละตัวปริมาณของงานที่ทะลักเข้ามา..จนอยากจะมีสักสิบมือ..
ในเมื่อเวลาดูจะน้อย..และสิ่งที่ต้องทำมีมาก ก็คงต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้..
ในแต่ละวัน...วันไหนทำได้มาก..ก็รู้สึกว่าวันนั้นคุ้มค่า
วันไหนทำได้น้อย..ก็อดหดหู่ใจไม่ได้..
ก็เลยเกิดความกดดัน..
หนักเข้าก็เลยกลายเป็นความเครียดลึก...
แล้วก็รู้สึกพาลไม่พอใจตัวเองเอาดื้อ ๆ ..
ที่สุดก็ต้องสรุปเอาง่าย ๆ ว่า..

แม้จะมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง...แต่บางอย่างสำคัญมากกว่าอย่างอื่น ๆ ..
บางอย่างก็เป็นหน้าที่ที่ ต้องรับผิดชอบ...ไม่ทำไม่ได้..
อีกหลาย ๆ อย่าง...ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ก็ดี..ไม่ทำก็ไม่เป็นไร..
จะพูดให้ง่ายขึ้น...แต่ละวันมีสิ่งที่ " ต้อง" ทำ..และมีสิ่งที่ "น่า" ทำ..
และสิ่งที่น่าทำดูจะมีมากมายก่ายกอง...

เพราะเหตุนี้เอง แต่ละวันจึงดูสั้นเกินไป สำหรับสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่น่าทำ
แถมสิ่งที่ " น่า" ทำดูจะน่าสนใจกว่าสิ่งที่ "ต้อง" ทำเสียอีก
จนบ่อยครั้งมัวแต่เพลินกับสิ่งที่ " น่า" ทำ จนแทบไม่ได้ทำสิ่งที่ "ต้อง" ทำ
หรือใช้เวลามากกับสิ่งที่น่าทำ...จนสิ่งที่ต้องทำพลอยทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ที่ร้ายไปกว่านั้น เอาแต่สิ่งที่น่าทำ แล้วทิ้งสิ่งที่ต้องทำไปอย่างไร้ซึ่งความรับผิดชอบ
จริง ๆ แล้ว ยี่สิบสี่ชั่วโมงในแต่ละวัน..ดูเหมือนจะเพียงพอสำหรับสิ่งที่ "ต้อง" ทำ
มีเพียงพอแม้สำหรับบางสิ่งที่ " น่า" ทำด้วย
มันจึงเป็นเรื่องของการเลือกลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง...
ไม่เช่นนั้นแล้ว..ก็เป็นการทำทุกอย่างที่ขวางหน้า..เห็นอะไรเป็นต้องทำหมด
ต่อเมื่อมีการเลือกที่ถูกต้อง ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี
แม้จะทำได้ไม่หมดทุกอย่าง...

การบริหารเวลาจึงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรเวลาให้สิ่งต่าง ๆ เท่านั้น
แต่เป็นเรื่องของการแยกแยะระหว่างสิ่งที่ " ต้องทำ" กับสิ่งที่ "น่าทำ" ด้วย...
"เวลา...ไม่มีชีวิต...แต่กลืนกินกระทั่งชีวิต...แล้วเธอผู้ใช้ชีวิตเล่า
...ระหว่างทางของกาลเวลา..จะมีระยะทางของตัวเธออยู่บ้างไหม ?.."

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 02:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0d01d01-11.jpg
0d01d01-11.jpg [ 165.32 KiB | เปิดดู 4248 ครั้ง ]
หากเปรียบความสุขเหมือนสี..
เราอาจจะให้นิยามสีแห่งความสุขของเราได้แตกต่างกัน..

มีหลายคนที่บอกว่า..
สีความสุขของเราเป็นสีขาว..เพราะเป็นความสุขที่บริสุทธิ์ใจ..

อาจจะมีบางคนที่บอกว่า..สีความสุขของเราเป็นสีแดง..
เพราะเป็นความสุขที่ต้องดิ้นรนต่อสู้..

แต่ก็มีอีกหลายคนที่บอกว่า..สีความสุขของเราเป็นสีดำ..
เพราะความสุขที่ได้รับ..แลกมาด้วยความยากลำบาก..

และเกือบทุกคนที่มักจะบอกว่า..สีความสุขของเราเป็นสีชมพู..
เพราะเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากความรัก..ความเอาใจใส่..

หากนิยามให้ครบทุก ๆ สีแห่งความสุข..เราคงได้รับนิยามแห่งความสุขอย่างมากมาย..
แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า..หากเราเอาทุกสีที่มีอยู่บนโลกนี้..มาผสมรวมกัน..
เราจะได้สีแห่งความสุขเป็นสีอะไร ?

ลองทดสอบดู..เราจะรู้ว่า..สีแห่งความสุข..เมื่อนำมาผสมรวมกัน..
จะเป็นสีแห่งความสมดุลของธรรมชาติ..ที่วางเปล่า..แบบไม่น่าเชื่อ..

สีแห่งความสุขของเราก็เช่นเดียวกัน..
หากเราลองรวบรวมประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต..เหมือนกับการนำสีมาผสมรวมกัน..
สีแห่งประสบการณ์ชีวิตของคนเรา..ก็มีทั้งสุขและทุกข์..คละเคล้าปะปนกันไป..

สีแห่งความสุข..คือ..บทพิสูจน์ที่ว่า..
ความสุข..ความทุกข์..เกิดจากการแต่งเติมสีภายในจิตใจของเรา..
เราจะปรุงแต่งอารมณ์..ความรู้สึกแบบใด..ลงไปในจิตใจ..
ใจของเรานั่นแหละ..ที่จะบอกเราได้ว่า..

เรามีความสุขหรือความทุกข์..

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 02:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 01:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0d1d10.jpg
0d1d10.jpg [ 44.76 KiB | เปิดดู 4257 ครั้ง ]
คันฉ่องส่องสะท้อนภาพคืนย้อนสู่สายตา
มองตนเพื่อค้นหารูปรอยจริงสิ่งซ่อนตน

เพียงพบสบแสงเงามิอาจเข้าถึงกมล
แว่นธรรมจึงนำคนเห็นจิตใจในเลวดี

ผลกรรมที่ผันผกคือกระจกส่องชีวี
ถึงเหตุที่เคยมีทั้งฝ่ายดีและเลวทราม

เลนส์แว่นเห็นแก่นแท้ก่อนผันแปรผลล้นหลาม
หยุดใจไม่ไหลตามกิเลสร้อนรอนชีวี

สงบพบจุดนิ่งไม่ไหวติงในร้าย-ดี
ตามมรรคสามัคคีถึงจุดหมายที่ปลายทาง..

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Secret_Garden__004.jpg
Secret_Garden__004.jpg [ 44.23 KiB | เปิดดู 3939 ครั้ง ]
ในตัวตนทุกวันเหมือนมีหมอก เป็นละลอกพลางตาพาคนหลง
จิตใจใครอ่อนไหวไม่มั่นคง มักจะหลงทางไปใฝ่สิ่งทราม

ทั้งรอบนอกรอบในมีไอหมอก คนเล่นเนตโดนหลอกกรอกคำถาม
อย่ามัวหลงอวิชชาตัณหากาม มันจะนำ ทุกท่าน...พบอันตราย

เก็บดวงจินต์เข้าถ้ำพบธรรมะ ฟังคำพระ...ท่านเทศน์ กิเลศหาย
แล้วจงหมั่น สำรวม ทั้งใจกาย จับหายใจ เข้า-ออก..บอก พุท-โธ

วิปัสนา น้อมนำ ธรรมล้ำเลิศ ระงับเกิด สิ่งต่างต่าง จางโทโส
ท่องคาถา...ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อโต สวดนะโม ชินบัญชร ...วอนคุ้มภัย

กายสะอาด...จิตสว่าง...ทางสงบ ท่านจะพบ ศีลธรรม นำนิสัย
อัตตาหิ-อัตตโน-นาโถ ไง ฝึกทำใจ ใฝ่กุศล.. พึ่งตนเอง

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 02:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 22:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




299120_1197382533_submedium.jpg
299120_1197382533_submedium.jpg [ 68.46 KiB | เปิดดู 4242 ครั้ง ]
โอ้.......เดือนหงายกลางนภา
สาดแสงส่องมาอาบเงื้อมผาเด่นไกล สง่าอยู่เหนือพงไพร
มั่นคงแกร่งไกร....ทายท้าทะนง
เสียงเรไรแว่วหวานดังเพลงขับขานกล่อมแคว้นแดนดง
น้ำค้างหยาดเผาะผลอยย้อยลงต้องใบไม้พรายแสงเย็นตา

ป่าขุนเขาดั่งเพื่อนเกลอ
แมกไม้ดั่งเรือนอุ่นไอรักหนักหนา
จิตเปี่ยมล้นศรัทธางามยิ่งภูผาอาบแสงเดือนผ่อง
แสนเดือนดาวเคลื่อนคล้อย
เหมือนดั่งเราร้อยร่วมใจปรองดอง
เนื้อและเลือดหลั่งล้นเนืองนอง
อาบดินทองซาบซึ้งความเป็นไทย

เสียงก้องป่าปานพายุโหม ฟ้า....เฟือนดินไหว
ประกาศความมั่นใจเชิดหน้าสดใสหยัดเย้ยภัยพาล
ม่านหมอกแม้มืดมัว...มิเคยหวั่นกลัวยื้อเยื้อยาวนาน
แสงศรัทธาตระการ
โลมใจชื่นเหมือน......เดือนหงายกลางไพรกว้าง

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2009, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอบคุณบทความดีดี...ภาพสวยสวย
ความพยายามที่หมั่นมาเติมความสุขให้กัน...น่ารักน่ารักนะคะ

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2009, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอบคุณ ที่นำบทความดีๆ กลอนเพราะๆมาให้อ่าน มาให้กำลังใจกัน

และมาให้กำลังใจในการโพสบทความต่อไปค่ะ

ถึงคนอ่านจะน้อย แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลย
ข้อความสั้นๆเพียงประโยคเดียว อาจช่วยเรียกสติของผู้ที่กำลังทุกข์ใจให้คลายความทุกข์เบาบางลงได้
ถึงจะแค่คนเดียวที่มารับเอาธรรมะไป ก็น่าชื่นใจแล้วค่ะ


แทนขวัญก็คนหนึ่งค่ะที่แวะเวียนได้มาอ่านเรื่อยๆ
บางครั้งอาจจะไม่ได้แสดงตัว หรือมาโพสข้อความอะไร
แต่ก็แอบอนุโมทนา และชื่นชมในการเสียสละเวลา
และความพยายามที่จะหาบทความดีๆภาพสวยๆมาให้อ่านให้ชมกันค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2009, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1220866408.jpg
1220866408.jpg [ 45.43 KiB | เปิดดู 4228 ครั้ง ]
สาธุ..ค่ะ..สาธุ..
ขอบคุณ..คุณลูกโป่ง...คุณแทนขวัญ..คุณแมวขาวมณี
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ...มากๆ ค่ะ
ไม่ท้อหรือน้อยใจ ..แค่คิดว่า..ตนเองนำอะไรที่ไร้สาระมานำเสนอหรือเปล่า
ปลายฟ้า..เป็นคนศาสนาพรามณ์...แต่ก็ศรัทธาพุทธศาสนาค่ะ...
ก็เลยไม่มีความมั่นใจในการนำเสนอ
จึงคาดเดากับสถิติการอ่าน...และคิดเอาเอง...
กลัวจะผิดหลักของพุทธศาสนาไป...เท่านั้นเอง...

แต่อย่างนึ่งที่ปลายฟ้า..เชื่อก็คือ...
ทุกศาสนาต้องการให้ทุกคนมีชีวิตที่ถูกที่ควรเหมือนกัน

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2009, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0101535.jpg
0101535.jpg [ 37.67 KiB | เปิดดู 4409 ครั้ง ]
ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เดินท่ามกลางป่าเขา
ดูเหมือนชีวิตได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกไป
ธรรมชาติ ธรรมะ ช่างเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อหลอมจิตใจ
ให้เรามีความนิ่งสงบมากขึ้น
ปล่อยวางมากขึ้นและกล้าที่จะฟันฝ่าอุปสรรค

ทางเดินข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
ล้วนอยู่ที่การมองดูตัวเราเอง
สร้างตัวเราอย่างที่เราอยากเป็น
สร้างตัวเราอย่างที่เราใฝ่ฝันเอาไว้

เวลาไม่อาจมากีดขวางความตั้งใจต่าง ๆ ของเราได้
มั่นใจ-เชื่อมั่นและลงมือทำ
ไม่กลัวล้มเหลว ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
สภาพการณ์ต่าง ๆ ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
เป็นเรื่องภายนอก
แต่เรื่องภายในของเรานี่สิ
เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ในยามนี้มีแต่รักษากำลังใจ กำลังความคิดให้มั่น
มีเพื่อนที่รู้ใจคอยย้ำเตือนอยู่เคียงข้าง
หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
ขอแต่เรารู้ว่าวันนี้เราอยู่ ณ จุดใดและจะไปที่ใด
นั่นแหละคือความหมายที่ดีที่สุดของชีวิต...

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




4ac4d4d495.jpg
4ac4d4d495.jpg [ 156.22 KiB | เปิดดู 4202 ครั้ง ]
สังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยแรงกดดันรอบตัว
คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้สถาบันครอบครัวไทย
ต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จงทำให้ครอบครัวเป็นสวรรค์ที่มีอยู่ในบ้านของเรา
อย่าเรียกร้องอีกฝ่ายมากเกินไป
หากรู้สึกฝืนมาก ๆ และเป็นเรื่องยากที่จะอยู่ด้วยกัน
ก็ต้องใช้วิจารณญานในการตัดสินใจเลือกทางเดิน

สวรรค์หรือนรก
อยู่ที่ใจของเราเป็นคนกำหนด
เมื่อประสบการณ์บทหนึ่งผ่านไป
ชีวิตของเราก็ได้เริ่มบทใหม่ของชีวิต
ที่จะต้องก้าวเดินต่อไป
ท่ามกลางความท้าทายและการแสวงหา
ความหวังและความจริงของชีวิตในห้วงเวลาต่อไป

เราจะต้องมุ่งหน้าไป
ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในการที่จะมีชีวิตต่อไป
ในวันพรุ่งนี้

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 22  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร