วันเวลาปัจจุบัน 21 มิ.ย. 2025, 17:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปวดหลัง…ขับรถจะปรับเบาะอย่างไรดี
ดร.คีรินท์ เมฆโหรา
คณะกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวประยุกต์ มหาวิทยาลัยมหิดล


มีผู้ป่วยหลายคนบ่นถึงอาการของตนเองว่า ถ้าขับรถแล้วจะมีอาการปวดหลังมากขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถเป็นเวลานานๆ ดังนั้น หากต้องขับรถ ผู้ป่วยหลายๆ คนจะกลัว
และมีความรู้สึกไม่อยากขับเอาเสียเลย แต่ยังมีผู้ป่วยอีกหลายคนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ป่วยแต่จำเป็นต้องขับรถทางไกล แล้วจะทำอย่างไรดี

ข้อคำถามเหล่านี้ผู้เขียนได้ตอบให้กับผู้ป่วยบ่อยมาก
ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าการขับรถเป็นเรื่องที่สำคัญมีผลต่อร่างกายและอาการปวดหลัง
จึงต้องมาเขียนเล่าเรื่องแทรกเข้ามาในฉบับนี้
หลังจากที่หลายๆ ฉบับที่ผ่านมาผู้เขียน เขียนเรื่องโรคกับการทำงานติดต่อกัน

ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนกับอาการปวดหลังเมื่อขับรถ
ผู้เขียนเคยมีอาการปวดหลัง ที่เป็นเนื่องจากการเรียนในหลักสูตรที่ต้องดัด ดึง ข้อต่อ
เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่เรียนนั้นเป็นช่วงที่มีการ "หักหลัง" ฟังดูแล้วน่ากลัว
ใช้คำว่า "ก๊อกหลัง" ดีกว่า คือการบิดตัวเพื่อให้มีเสียงดัง ก๊อก ในข้อที่เราต้องการ
เหมือนอย่างหมอนวดไทย หรือแพทย์ทางเวชศาสตร์โครงสร้างทำกันบ่อยๆ
หลัง จากการฝึกหนักทำให้หลังระบม และไปเล่นแบดมินตันต่อ
ขณะที่เล่นนั้นมีอยู่จังหวะหนึ่งที่ต้องกระโดดแล้วบิดตัวเพื่อตีลูกอย่างแรง
(เป็นท่าที่หลังไม่ชอบเอามากๆ เลย) ทำให้เกิดอาการปวดหลังขึ้นมาทันที

ผู้เขียนเจ็บอยู่ประมาณ ๒ สัปดาห์ ทำให้ทราบว่าอาการปวดหลังเป็นอาการที่ทรมานมาก
เพราะเดินไม่ได้ ใส่เสื้อผ้ายังต้องนอนใส่ หากขับรถแม้ระยะทางสั้นๆ จะมีอาการปวดมาก
โดยเฉพาะขณะที่ออกจากรถ ต้องใช้วิธีพิเศษคือนำขาออกก่อน ๑ ข้าง
หมุนตัวโดยไม่ให้ตัวบิดและก้ม นั่นคือต้องใช้มือซ้ายเอื้อมมาทางขวา
และใช้มือทั้งสองข้างเท้าที่เบาะ และผลคือต้องลงไปคุกเข่า
แล้วค่อยๆ เอามือไต่รถขึ้นมายืน

จากประสบการณ์นั้นและความรู้ที่ได้เรียนมา
ทำให้ได้ข้อคิดและวิธีปฏิบัติไม่มากก็น้อยที่เป็นประโยชน์ กับผู้ที่ขับรถ
และผู้ป่วยปวดหลังหรือบริเวณอื่นๆ ที่จำเป็นต้องขับรถ

ข้อเท็จจริงที่ต้องรู้ก่อนการปรับเบาะ
ก่อนที่จะปรับเบาะควรพิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้
เพื่อนำไปใช้ประยุกต์ ก่อนที่จะทำการปรับ

๑. ร่างกายไม่ชอบที่จะอยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ หากจำเป็นต้องอยู่นานๆ
ท่านั้นต้องเป็นท่าที่สบายที่สุด

๒. หลัง ไม่ชอบที่จะอยู่ในท่าโค้งหรือมีการบิดตัว
เพราะในท่าเหล่านั้น กล้ามเนื้อและเอ็นด้านหลังจะถูกยืดนานๆ
หมอนรองกระดูกสันหลังจะมีแรงกดมากกว่าในท่านั่งหลังตรงหรือท่ายืนตรง

๓. บ่า และไหล่ ไม่ชอบให้ศีรษะอยู่ในท่าก้มหรือเงยมากไป
เพราะเขาจะทำงานหนักขึ้น เช่นเดียวกันกับถ้าต้องยกแขนสูงๆ
โดยสังเกตได้ว่า กล้ามเนื้อบ่าและไหล่ต้องเกร็งตัวขึ้น

๔. เส้นประสาทหลัง และขา ไม่ชอบอยู่ในท่าที่ตึงๆ นานๆ
ท่าที่ทำให้เส้นประสาทตึงคือท่าที่นั่งเป็นรูปตัวแอล (L) หรือยืนก้มตัวโดยให้ขาตรง

๕. ความเมื่อยล้าของสายตา และความเครียดมีผลต่ออาการเกร็งของกล้ามเนื้อ

เมื่อต้องปรับเบาะ...อย่างปลอดภัย
เมื่อต้องขับรถ มีอุปกรณ์หลายอย่างที่สามารถปรับได้ เช่น กระจกมองข้าง
กระจกส่องหลัง เบาะและพวงมาลัย อุปกรณ์เหล่านี้
อาจไม่ต้องมีการปรับบ่อยหากรถนั้นใช้เพียงคนเดียว
แต่อย่างไรก็ตามควรปรับให้เหมาะสมและตรวจดูความเหมาะสมของอุปกรณ์เหล่านี้
ทุกครั้งก่อนขับรถ โดยอาศัยหลักการดังต่อไปนี้

๑. ปรับระยะนั่งใกล้ ไกล ก่อนเป็นอันดับแรก
โดยให้ขาเหยียบคันเร่งพอดีและสามารถขยับเท้ามาเหยียบเบรกได้ง่ายและรวดเร็ว
และระยะห่างนี้ต้องไม่ทำให้เข่าและสะโพกงอมากนัก เพราะการงอมากของเข่า
และสะโพกจะทำให้กระดกข้อเท้าได้ลำบากทำให้ต้องยกขาเมื่อต้องขยับเท้าไปมา
ขณะเดียวกันการเหยียดขามากไปจะทำให้ตัวและขาอยู่ในรูปคล้ายตัวแอล
ซึ่งมีผลต่อการเหยียบเบรกและคันเร่งเช่นกัน คือแรงจะลดลง
เพราะสามารถใช้ปลายเท้าเหยียบได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้แรงจากเข่าและสะโพกได้
ร่างกายที่อยู่ในรูปตัวแอล จะมีผลทำให้หลังส่วนล่างโค้งมาก
และเส้นประสาทสันหลังและขาตึงตัวมาก จะมีผลเสียคือ กล้ามเนื้อล้าง่าย
ด้านหน้าของหมอนรองกระดูกมีแรงกดมาก
ทำให้หมอนรองกระดูกมีโอกาสปลิ้นไปด้านหลังสูง
ท่านั่งนี้จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงท่านั่งนี้
ที่เราอาจพบได้บ่อยในผู้ที่ใช้เก๋งเตี้ยๆ

๒. การปรับความเอียงของเบาะพิงหลัง
จะมีความสัมพันธ์กับการปรับใกล้ไกล มุมการมอง และการจับพวงมาลัย
คือเมื่อปรับขาให้พอดี ตัวอาจจะห่างไป ทำให้ต้องปรับเบาะพิงชันขึ้นมา
แต่การปรับเบาะชันขึ้นมาอาจมีผลทำให้หลังและขาเป็นรูปคล้ายตัวแอลดังข้อ ๑
แต่ก็มีข้อดีเมื่อตัวตั้งตรงคือ ทำให้ไม่ต้องงอคอมากนัก บ่าและคอจึงไม่เมื่อย
ดังนั้นความเอียงของเบาะควรอยู่ในระดับที่เมื่อขับรถแล้ว
ไม่มีความรู้สึกว่าต้องใช้แรงในการยกคอและศีรษะขึ้นมาตั้งตรง

๓. ปรับการเอียงของเบาะนั่ง
มีความจำเป็นอีกเช่นกัน เพราะหากเบาะนั่งให้มีการชันตัวมาก
จะมีผลทำให้เกิดการกดของด้านหน้าของเบาะต่อด้านหลังเข่าของผู้ขับขี่
ซึ่งด้านหลังเข่านี้ มีหลอดเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก
หากมีการกดทับจะทำให้เกิดอาการชา และอ่อนแรงของขาได้
ดังนั้นควรปรับให้เบาะด้านหน้าสูงพอที่ระรับน้ำหนักขาได้
โดยที่ขาไม่ลอยสูงจากเบาะ (ลักษณะเข่าชัน)
และเมื่อขับรถและมีการกดคันเร่งค้างนานๆ ด้านหน้าของเบาะต้องไม่กดหลังเข่า

๔. ปรับความสูงต่ำของเบาะ
โดยเฉพาะรถใหม่ๆ มักจะสามารถปรับได้ หลายๆ คนอาจมองว่าไม่เกิดประโยชน์
เพราะตัวสูงอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ตัวสูงก็ต้องใช้
เพราะถ้าเบาะเตี้ยจะทำให้ต้องปรับเบาะรถห่างจากพวงมาลัยมากขึ้นส่งผล
ต่อการงอของหลัง การปรับเบาะรถให้สูงขึ้นจะมีผลทำให้ท่านั่งขับรถ
คล้ายกับการนั่งเก้าอี้มากขึ้น ดังเห็นได้จากรถตู้หรือรถ MPV
ที่มักต้องนั่งขับในท่าหลังตรงๆ และแน่นอนท่านี้ศีรษะและคอก็จะอยู่ในแนวตรง
ไม่จำเป็นต้องงอคอขึ้นมา และในผู้ที่ตัวไม่สูง
ก็สามารถปรับความสูงของเบาะเพื่อให้เหยียบถนัดขึ้น

๕. ปรับมุมของพวงมาลัย จะขึ้นอยู่กับการปรับเบาะต่างๆ ด้วย
ให้ปรับทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยมาปรับพวงมาลัย
แต่ถ้าปรับพวงมาลัยสุดแล้วยังรู้สึกไม่พอดี ต้องปรับจากข้อ ๑ ถึง ๔ ใหม่อีกครั้ง
ตำแหน่งและระยะการจับพวงมาลัยมีความสำคัญมาก
เพราะมีผลต่อการควบคุมพวงมาลัยของรถทำให้บังคับรถได้ง่ายหรือยากได้
ระยะและระดับที่เหมาะสมคือ ระยะที่เมื่อวางมือแล้ว
สามารถหมุนพวงมาลัยได้คล่อง ไม่มีการติดขัดหรือมีความรู้สึกว่าต้องเอื้อม
ขณะเดียวกัน กล้ามเนื้อบ่าและไหล่ต้องไม่เกร็ง
เพื่อที่จะถือแขนให้อยู่กับพวงมาลัยนานๆ

๖. การปรับระยะพวงมาลัยเข้าใกล้หรือไกล
รถรุ่นใหม่ๆ อาจสามารถปรับระยะใกล้ หรือไกลของพวงมาลัยได้
คือเราสามารถดึงพวงมาลัยเข้าใกล้หรือผลักออกไปไกลได้
การปรับนี้มีข้อดี ที่เมื่อปรับระยะใกล้ ไกล และปรับพนักพิงแล้ว
อาจทำให้แขนต้องเอื้อมจับหรือแขนอยู่ชิดพวงมาลัยมากเกินไป
การปรับนี้จะช่วยให้เราสามารถจับพวงมาลัยได้ถนัดขึ้น

๗. ปรับกระจกส่องข้างและหลัง
จะเป็นการปรับหลังสุด หลังจากปรับส่วนอื่นๆ เสร็จแล้ว โดยยึดหลักการที่ว่า
เมื่อนั่งโดยไม่ต้องขยับศีรษะหรือโยกตัว เราสามารถมองเห็นในจุดที่เราต้องการได้
หากการมองยังมีจุดบอดแสดงว่าอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม
เช่น ติดกระจกส่องหลังบานใหญ่ขึ้น หรือกระจกโค้ง เพื่อให้เห็นได้ครอบคลุมขึ้น
แต่อาจมีผลเรื่องการกะระยะบ้างเพราะภาพจากประจกโค้งจะหลอกตา

หลักการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ต้องอยู่ภายใต้คำว่า ความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย
หากปรับให้สบายตัว แต่ไม่ปลอดภัยก็ไม่ถือว่าเป็นการปรับที่ดี
ทั้งนี้ขอให้ปรับเมื่อรถอยู่นิ่ง ไม่ควรปรับเมื่อรถวิ่งอยู่
โดยเฉพาะการเลื่อนเบาะและปรับมุมพนักพิง
ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้
และดังที่กล่าวไว้ว่าร่างกายไม่ชอบอยู่ในท่าทางที่นานๆ
แม้ว่าท่านจะได้ท่านั่งที่ดีและเบาะนั่งที่เหมาะกับตัวท่านแล้ว
ร่างกายยังต้องการการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ

ดังนั้น ให้หยุดพักบ่อยๆ เมื่อขับรถทางไกล ให้ลงจากรถมายืดเส้นยืดสาย
ล้างหน้า จะได้หายจากความเมื่อยล้า และความเครียด
หากทำได้เช่นนี้ท่านจะมีความสนุกกับการขับรถ


คัดลอกจาก...มูลนิธิหมอชาวบ้าน
http://www.doctor.or.th/node/1190

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2009, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2015, 10:18 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2542

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ ค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร