ภู มิ เ พี้ ย น !!!

ภูมิเพี้ยน เป็นภาษาชาวบ้าน
เรียกกลุ่มอาการที่ ภูมิต้านทานของร่างกายทำร้ายตัวเราเอง

ซึ่งโดยทั่วไป ระบบภูมิต้านทานมีไว้เพื่อทำลายเชื้อโรค
และสิ่งแปลกปลอมที่อาจเข้ามาระราน ร่างกายของเรา

แต่เมื่อใดที่ภูมิต้านทานของเราเองจำแนกไม่ออกว่า
อะไรคือสิ่งแปลกปลอม อะไรคือเซลล์ของเราเอง
มันก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อได้เกือบทั่วร่างกาย

ตัวอย่างของกลุ่มอาการของภูมิเพี้ยนได้แก่

โรคข้อรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบเรื้อรังที่ไม่ใช่รูมาตอยด์
เบาหวานชนิดปฐมภูมิ หรือเบาหวานชนิดที่ต้องพึ่งอินซูลิน
มัลติเปิล สเคอโรซีส (ฉนวนหุ้มเส้นประสาทถูกทำลาย)
ลูปัส SLE อัลคาโลสซิ่ง สปอนไดไลตีส
(Alkalosing spondylitis -มีอาการอักเสบของกระดูกสันหลังทุกข้อ
จนกระดูกเชื่อมต ิดกันจนหลังแข็งเป็น ไม้ไผ่ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า bamboo spine)
กล้ามเนื้ออักเสบหลายแห่ง (polymyositis)
โรคผิวหนังหลายชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
pemphigus (มีตุ่มน้ำใสพองที่ผิวหนัง มีหลายชนิด ขนาดของตุ่มน้ำเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง)
lichen planus (ผื่นผิวหนังสีม่วงแดง) เป็นต้น
และโรคไตบางชนิด (glomerulonephritis)

นอกจากนี้ที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่น

เม็ด เลือดแดงแตกจากภูมิเพี้ยน(autoimmune hemolytic anemia)
ITP (idiopathic thrombocytopenic purpura
เกล็ดเลือดลดจำนวนลงทำให้เกิดจ้ำเลือดที่ผิวหนัง)
Goodpasture's syndrome (มีอาการไตอักเสบ ร่วมกับเลือดออกในปอด)
myasthenia gravis เส้นเลือดอักเสบ (vasculitis) ไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น

ทุกวันนี้การรักษาโรคภูมิเพี้ยนคือใช้ยากลุ่มสตีรอยด์กด ภูมิต้านทานเอาไว้
ไม่ให้มันหันมาทำร้ายเนื้อเยื่อของเราเอง
และหมอมักจะบอกผู้ป่วยว่า ต้องกินยาไปตลอด ไม่มีทางรักษาหายขาด

แต่ นพ.แอนดรูว์ ไวลด์
แพทย์ผู้นิยมชมชอบการรักษาด้วยวิธีการธรรมชาติ กล่าวไว้ว่า

ใครที่เป็นภูมิเพี้ยนไม่ว่าแบบไหนก็ตาม
อย่าหลงยึดติดกับการรักษาทางการแพทย์แบบแผน
ให้ตระหนักเสมอว่าโรคภูมิเพี้ยนจะมีระยะกำเริบและระยะสงบสลับกันไปเสมอ
และ ต้องเสริมความเข้าใจว่า

ร่างกายของเรามีความสามารถ มีพลังที่จะสยบโรคให้สงบได้
หากหลงใช้แต่ยากดภูมิต้านทาน
เท่ากับว่าคุณตัดโอกาสร่างกายที่จะเยียวยาตัวเองให้หายขาด

สำหรับการรักษาโรคภูมิเพี้ยน นพ.แอนดรูว์ ไวล์ด แนะนำเอาไว้ว่า

1. กินอาหารโปรตีนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางที่ดีกินมังสวิรัติไปเลยสักระยะจนอาการสงบเสียก่อน
งดนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิดอย่างเด็ดขาด
กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้มาก

2. เลี่ยงน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
ส่วนน้ำมันที่ควรใช้คือ monounsat. ได้แก่ น้ำมันมะกอก และน้ำมันชา

3. ออกกำลังกายด้วยวิธีแอโรบิก

4. ฝึกผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ
เช่น autosuggestion หรือโปรแกรมจิต

5. เสริมภูมิต้านทานของเราเองให้แข็งแกร่งโดยใช้หลาย ๆ วิธี

สำหรับการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดตามตำรับบัลวี
เราเริ่มด้วยวิธีอดล้างพิษ จากนั้นจึงปรับอาหารในชีวิตประจำวันให้เหมาะสม
กับแต่ระยะของอาการ
เปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่โดยการออกกำลังกาย

โยคะ ชี่กง ฝึกจิตสงบ ทำสมาธิ
ใช้โปรแกรมจิตในบางราย
พร้อมกับใช้ความร้อนในการปรับภูมิต้านทาน
โดยการอบสมุนไพร ซาวน่า หรือการอาบแดด
ใช้วิตามินและสมุนไพรเป็นอาหารเสริม
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปรับภูมิต้านทานให้เข้าที่เข้าทางไม่ให้หันไปทำร้ายตัวเอง

หากใครมีอาการของภูมิเพี้ยน และกินยารักษาตัวอยู่
อย่าเพิ่งงดยาโดยพละการ ให้กินยาเดิม
แต่ให้หันมากินมังสวิรัติสักระยะ
งดนมและผลิตภัณฑ์จากนมอย่างเด็ดขาด งดน้ำตาล
และอาหารขยะทั้งหมดสักระยะ
แล้วสังเกตอาการของตัวเองดูจะพบว่าอาการที่เคยเป็นอยู่่จะบรรเทาลงกว่าเดิม

ถ้าต้องการรักษาตัวอย่างจริงจังตามแนวธรรมชาติบำบัด
ควรต้องปรึกษาให้เป็นเรื่องเป็นราว จึงจะสามารถหยุดยาได้



ขอบคุณบทความจากขวัญเรือน
http://healthyguide.exteen.com/20090812/entry

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ
คนที่ผู้น้อยรู้จักคนนึง ก็เป็นโรคประมาณนี้อยู่ครับ
อ่านบทความนี้แล้ว ก็กะว่าจะไปแนะนำเขาด้วยน่ะครับ

ขอบคุณและอนุโมทนานะยายมัทฯ

อนุโมทนาท่านอมิตาพุทธด้วยขอรับ

...แล้วแบบว่า เป็นโรค"ภูมิไหล"ล่ะยายมัทฯ มีเคล็ดแก้มั้ย ครือมันไหลไปกับมานะ ทิฏฐิ ตัณหาน่ะจ้ะ...

แหม....แบบว่าถามเรื่องโรคภูมิไหล....จนหลงภูมิตัวเองน่ะหรือจ๊ะ
(เอ...กำลังทดสอบภูมิยายมัทอยู่อะปล่าวเนี่ยะ!!!
ยายมัทว่า ตาเองก็กะลังถามในสิ่งที่ตะเองก็รู้อยู่แล้วมะใช่เหรอ!?!?)

ตอบไปก็เหมือนสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำนะ ตา-dd-

(จระเข้แถวๆนี้ก็มีเยอะซะด้วยสิ....
ไม่รู้ว่าว่ายๆไปแล้วจะหงายท้องก่อนถึงฝั่งไปบ้างอะเปล่า เป็นห่วงน่ะ!!!)



มานะของตาหมายถึง “มานะมมังการ” หรือปล่าวเอ่ย?

ถ้าหมายถึงมานะมมังการก็ต้องระดับพระอรหันต์ถึงจะละได้เด็ดขาดเนาะ!!!

.....สำหรับตัวเอง

ยายมัทรู้ตัวเองดีเลยว่ายังเป็นผู้ต้องศึกษาและปฏิบัติอีกมากนะ
กว่าจะหมดเจ้าสังโยชน์ตัวเนี้ยะ คงอีกหลายภพชาติ
(เอ...หรือเอาอย่างน้อยอีก ๗ ชาติดี)
รู้ว่าที่จริงแล้วก็ยังมีอยู่ไม่น้อย
เท่าที่ทำได้อยู่ตอนนี้ก็พยายามรู้เท่าทันมัน
ไม่ให้เผยอหน้าออกมาทำร้ายใครเค้าน่ะ...
(ข่มไว้ด้วยศีลน่ะ)



เคล็ดลับน่ะหรือ....ก็ระลึกและสำเหนียกตัวเองเสมอว่า
เรานี้ยัง “โง่” อยู่อีกมากไง !!!
แล้วเพียรเรียนรู้ศึกษาทั้งจากตำรา ครูบาอาจารย์ กัลยาณมิตร
และที่สำคัญมากๆ ต้องฝึกฝนศึกษาปฏิบัติจาก “กาย-ใจ” ของตนนี่แหละ
เพื่อจะได้ "ฉลาดในจิต" ขึ้นอีกเรื่อยๆ
แบบว่าไม่ทำตัวเป็นชาล้นถ้วยน่ะ

และฝึกปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น
ฝึกไปเรื่อยๆ ให้จิตมันคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้
ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง...ก็ฝึกไปเรื่อย...ไม่พัก ไม่เพียร

แล้วเคล็ดเรื่องนี้ของตาล่ะ เล่าสู่กันฟังบ้างสิ
เป็นธรรมวิทยาทานแก่ผู้ปรารถนาฝึกตนบ้างไงล่ะ

(เออ…วันนี้เราคุยอะไรเป็นแก่นสารกันดีจังเนอะ...ว่ามั้ย!!!)

โธ่ นี่ยายมัทฯเห็นฉันเป็น"ภูมิ-มิเตอร์"(Pum Meter! )หรืออย่างไร จึงเที่ยวได้ทดสอบใครๆเช่นนี้ ..ที่ถามก็เพื่อให้ได้ฟามรู้เพิ่มเติม จะได้เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า"พาหุสัจจัญจะ "[เป็นพหุสูตร]อันเป็นมงคลข้อนึง...อีกทั้งตัวเองพ่ายแพ้กิเลสเหล่านี้อยู่แบบ on and off น่ะจ้ะเลยหากัลยาณมิตรช่วยสงเคราะห์..และเพื่อประโยชน์ในชุมชนเหล่าอื่นที่แวะเวียนมาน่ะจ้ะ ยายจงเข้าใจฉันตามนี้นะ..



ฉันมีแต่กระเป๋าหนัง"จรเข้"เก่าๆ..ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปีมะโว้เท่านั้นจ้ะ..เห็นก็แต่ตะเข้อื่นๆ อาจเป็นตัวเดียวกันกับที่ยายมัทฯเห็นก้อได้จ้ะ ก็ได้แต่ชื่นชมเขาอยู่..ที่ว่ายน้ำได้เก่ง ส่วนฉันเองต้องใส่ห่วงยางชูชีพเสมอเวลาลงน้ำจ้า.. ..



แม่นแล่วจ้า..



โอ ฉันก็"ปกติ"สินะ..อนิจจังวตสังขารา..me!



ขออนุโมทนาด้วยความชื่นชมมาก( )...ฉันขอนำไปapply บ้างนะจ๊ะ..
เพิ่มความชื่นชมด้วยการ ขอโขกศีรษะคำนับด้วยความนับถือยิ่งจ้ะยาย.Poke one, Poke two and Poke three...



นั่นไง โชคดีที่ถามยายมัทฯ ได้เคล็ดลับดีๆอย่างที่หมายตาไว้เทียว ขอบคุณมากๆนะยายมัทฯ..
ขอปลื้มตัวเองที่มีบุญมีกัลยาณมิตรเช่นนี้...



ว่ากันตามจริงฉันก็ใช้วิธีคล้ายๆยายน่ะแหละจ้ะ แต่อาจไม่แยบคายเท่า แต่จะพยายามจะเดินตามแบบอย่างอันดีของยายจ้ะ....

ขอให้ยายจำเริญยิ่งๆขึ้นไปที่ช่วยสงเคราะห์เพื่อนๆเช่นนี้ สาธุจ้ะ




ยายมัทฯทักแบบนี้ ชักเขิลล. .ขอตัวไปกวาดหิมะก่อนนะจ๊ะ เวลานี้วิบากที่เคยแช่แข็งใครมากำลังมาส่งดอกจ้ะ...

คล้ายกันอีกแล้วคุณตาย่าทวดเป็นโรค "ภูมิลด"

[i]คือมันลดลง ลดลง ตามความท้อแท้ เหนื่อยหน่าย
จนตอนนี้แทบไม่เหลือแล้วค่ะ...ทำไงดีค่ะ?
คุณตา...ยายฮูก....มีวิธีเติมพลังอย่างไรดี?...

แว้บ เข้ามาอ่านตอนดึกๆครับ
ว่าท่านจอมยุทธ ทั้งหลาย กำลังสนทนา เรื่องอะไรกันอยู่

taktay :



หา! ภูมิลด .. ... บ้านผมเวลานี้ (อุณห)ภูมิลดเหลือ-10C ..โกยหิมะจนมือจะหงิกแล้ว..

อ้อ! สงสัยพูดกันคนละ"ภูมิ"..เอ้านี่จ้าย่าทักฯยาหมอดีดี..

จงอยู่กับปัจจุบันด้วยสติ ยอมรับ แล้วก็ปล่อยไป ทำดีที่สุด แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเอง..ส่วนเรานั้น จงดำรงชีวิตด้วยสติเข้าไว้..
อีกไม่นานทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดี เพราะเหตุที่เราเพียรทำกรรมใหม่ที่ดีอยู่นั่นเอง....

อมิตาพุทธ :



สวัสดียามดึกมากขอรับท่าน อมิตาพุทธ :
ยังไม่เข้านอนหรือครับ ..อ้อ เข้ามาตรวจตรา"ชาวหยุด"นี่เอง..

สวัสดียามดึกมากมาก ครับ ท่าน -dd-
อีกสักครู่ คงจะเข้านอนแล้วครับ
มาเป็น ยาม กะดึกน่ะครับ

ผู้น้อยเป็นคนชอบอ่านกระทู้ครับ
หลายๆ กระทู้ อ่านแล้วก็ได้แง่คิด
อ่านแล้วเกิดปัญญา ได้เหมือนกันครับ

บางครั้งในชีวิตเรา ไปเจอคนที่มีทุกข์มาปรึกษา
ก็ใช้เรื่องราวที่ได้อ่านในกระทู้ ที่ญาติธรรมทุกท่านได้โพสต์ไว้
ืัที่มีลักษณะเหตุการณ์คล้ายๆ กัน ไปให้คำแนะนำเขาได้อีกต่อหนึ่งครับ

ปล.อากาศหนาวติดลบขนาดนั้น
ก็ขอให้ท่าน -dd- รักษาสุขภาพด้วยครับ

สวัสดียามดึกมากมากมาก ครับ คุณ taktay
คุณ taktay ก็นอนดึก (แต่..อืม หรือว่าตอนนี้ที่อเมริกาเป็นกลางวัน)
แสดงว่ากำลังเข้าฌาณอยู่
ดั้งนั้น คุณ taktay ก็ต้องเป็นฤาษี แน่ ๆ

อมิตาพุทธ:



มิน่าเล่า เห็นท่านอมิตาพุทธที่ไร อบอุ่นใจทุกที ..

อมิตาพุทธ:



ขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งยวดขอรับ..... ท่านช่างน่านับถือยิ่งนัก เพราะนอกจากทำประโยชน์ตนแล้วยังคิดเกื้อกูลประโยชน์แก่คนอื่นด้วย..ขอชื่นชม..ชื่นชม..และชื่นชมด้วยใจที่เบิกบานยิ่งขอรับ.. ..



น้อมรับคำเตือนด้วยความขอบคุณยิ่งขอรับ ... อากาศปีนี้คล้ายกับจะลองดีกับคำท้าทายของกระผมขอรับครือว่าเมื่อ Novemberที่ผ่านมา อากาศมันไม่หนาวมาก ฝนชุกจนน่าเบื่อ กระผมเลยทะลึ่งคิดว่า ขอให้ปีนี้หนาวสุดๆ มัน work เลยครับ ผมแค่อยากพิสูจน์ว่าไอ้หน้าเหลืองอย่างผมจะทนสภาพติดลบได้หรือเปล่า.. แค่ใหน ..ครับ ความอยากก็ได้สมใจเพราะมันลดลงถึง -20C แฮ่ะๆ ขนาดคนหน้าขาวที่นี่ยัง บ่นอู้เลยครับ..แล้วผมจะไม่บ่นบ้างก็คงเสียธรรมเนียมอะคับ..งือออ ใครก็ได้ แถวนั้นน่ะ ช่วยปิดเครื่องปั่นหิมะหน่อย..นี่ก็เพิ่งออกไปกวาดหิมะตอน๖โมงเช้า แล้วเขวี้ยงเกลือละลายหิมะน่ะครับ ไม่หนุกเลย .. ..

ท่านอมิตาฯก็รักษาสุขภาพเช่นกันนะขอรับ

สวัสดียามค่ำค่า...ท่านอมิตาพุทธ
เพิ่งทราบว่าท่านอมิตาพุทธเป็นยามกะดึกนะคะเนี่ยะ
แต่ก็อุ่นใจจริงๆ ที่มาช่วย "ชาวหยุด" กันดูช่วยกันแล
เหมือนที่ ตา-dd- บอก...ขอบคุณมากนะคะ



ยังไงอย่านอนดึกบ่อยมากนักนะ..เพื่อนฝูงเป็นห่วง
(บอกตัวเองเหมือนกัลล์)

อยากให้มาเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ
ว่างๆ จะขอความรู้และคำปรึกษาทางมหายานบ้างนะคะ
(ตอนนี้กะลังสนใจและหาข้อมูลเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งอยู่น่ะเจ้าค่ะ)

ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ