วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 20:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2010, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 188

ขาดสติ


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เดิน 60/35

ตอนเดินก็รู้เท้า ใจอยากเปิดแอร์ แต่ดูกายแล้วกายไม่ร้อน กายเฉยๆ แต่ใจอยากเปิดแอร์ก็ไม่เปิด
ดูใจไป มันก็ไม่พอใจ อยากสบาย แล้วมันก็ไม่อยากปฎิบัติ ก็ดูๆไป อารมณ์ที่เกิดมันดิ้นไม่มาก
มันมาจุกตื้อที่อกถึงลิ้นปี่ เราก็ดูมันไป

สักพักมันก็เปลี่ยนไป ไปเป็นเรื่องอื่นๆอีก ก็รอบนี้ก็เห็นทุกข์นะ เห็นความ "มี" ว่าเกิดจากอะไร
เกิดจากจิตทั้งนั้นเลยที่ปรุงแต่งจนมันมีอารมณ์โน่นั้นเรื่องราวขึ้นมา กายมันเดินของมันเฉยๆ
แต่จิตวุ่นวาย คว้าโน่นคว้านี่ จนมันมีอะไรรุงรัง แล้วมันก็ห้ามไม่ได้ ก็เห็นจิตมันอยากตลอด
อยากมีความสุข อยากหาอะไรสนุกๆ มันเลยไปคิดปรุง เพื่อให้มี "อะไร"ๆ ขึ้นมา ตอนนี้เข้าใจแบบนี้
แต่วันหน้าไม่รู้จะเปลี่ยนอีกไหม ก็ดูไปก่อนแล้วกัน

นั่งไม่ค่อยจับกายไปหลับใน สลับกะออกมาคิดๆ แต่ก็รู้ว่ายังนั่งอยู่ ก็บางทีเอาจิตมาจับท้องได้บ้าง
แต่ไม่ต่อเนื่องส่วนใหญ่ไปหลับใน แล้วหลุดออกมาคิดๆ โดยที่รู้ว่ายังนั่ง

60/30 ค่ะ
ก็วันนี้ทำกรรมหนักมาค่ะ นวดให้แม่แล้วคือคุยกันว่าตอนเด็กๆแม่ไม่ค่อยดุเลยเถียงแม่ไปว่าตอนเด็กๆ
แม่ตี หรือดุเราขนาดไหน กำเลย พอออกจากห้องแม่มา ก็สวดมนต์จะไหว้พระ ก็ไม่สบายใจ
ก็คิดถึงคำกลอนของจีนที่บอกว่าอกตัญญู สวดมนต์ทำไม ทำไม่ดีกะแม่ ปฎิบัติธรรมเพื่ออะไร
ก็ลุกขึ้นมาไปกราบเท้าขอโทษท่าน ขออโหสิ ท่านก็โกดน่ะค่ะก็ว่าเรา เราก็ขอโทษท่าน
แล้วขอให้ท่านอโหสิ ก็สักพัก ท่านพูดเออ แล้วก็เลยขออีกว่าช่วยพูดอโหสิให้หน่อยสิแม่
ท่านก็เลยพูดแบบเร็วๆว่าเอออโหสิ

พอออกจากห้องมาก็เลยยังใจหมอง รู้สึกไม่ค่อยดี ก็เดินๆไปดูใจไป ก็เห็นตัวไม่พอใจ
กะความหมองหรือความรู้สึกไม่ดีมันยืนพื้น หลังๆก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่องอื่นแล้วก็วกมาใหม่

มีเจ็บขาจี๊ดขึ้นมาถึงท้องสองสามครั้งแล้วหายไป ก็รู้เท้าตอนเดินเหมือนเดิมค่ะ
เพียงแต่ใจมันหมองและวนแต่คิดเรื่องที่ผ่านมา

แล้วก็พอมานั่งก็รู้กายได้ คือรู้ลมบ้างรู้ท้องขยับบ้าง รู้อกขยับบ้าง มีเห็นจิตมันคิดเป็ภาพบ้าง
แล้วเราก็ยังไม่เข้าไปในภาพนั้นคือเห็นแล้วรู้ว่ามันฉายเป็นภาพแล้วเด๋วมันก็เปลี่ยนเป็น
เป็นความคิดเห็นบ้าง ก็ยังรู้ว่านั่งอยู่แต่ตอนนั้นจะไม่ได้ไปดูว่ากายเคื่อนไหวแต่รู้ว่านั่งอยู่

แล้วก็มีหลงไปในความคิดบ้างแต่ยังรู้ตัวอยู่เพียงแต่มันเข้าไปแล้วมันก็หยุดหลุดจากเรื่องนั้น
แล้วก็เปลี่ยนอีก ก็มีความคิดอกุศลจะปรามาส ก็กำหนดรู้หนอ แล้วมันก็หายไป ยังไม่ขึ้นมาชัดเจน

แล้วก็มีมดกัดตามมาหลังจากเกิดสภาวะจะไปปรามาส กัด 1 ครั้งแล้วหายไปเลย
แล้วก็มาจับกายต่อ พยายามดูลมบ้าง ท้องบ้าง อกบ้างต่อค่ะ แล้วก็ไปคิดๆก็พยายามรู้ตัวค่ะ
แล้วก็ลืมตาก่อน 2 นาทีก็หลับไปใหม่ จนครบเวลา หมดเวลาตอนหลงไปคิดพอดีก็เลยสะดุ้ง
จบแล้วค่ะ ระหว่างวันก็มีความอยากค่ะ อยากก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แค่นี้ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ก็ดีแล้ว ที่ขออโหสิกรรมต่อแม่ ถูกแล้วที่คิดแบบนั้น สวดมนต์ไปทำไม
ปฏิบัติไปทำไม กับแม่เรายังทำดีๆกับท่านยังไม่ได้เลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ มันก้ยังหมองอยู่น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ รู้สึกเสียใจ ใจมันเสียไปด้วยว่า เราไม่น่าทำแบบนั้นกับแม่
พี่ดีใจนะ และขออนุโมทนากับหมูด้วยในเรื่องของแม่
เพราะถ้าหมูไม่ได้มาเจริญสติก็อาจจะยังก่อกรรมหนักไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ นี่ขนาดทำทุกวันยังเผลอ แต่ก่อนยอมไม่ได้เลยค่ะ อยู่บ้านไม่ได้ร้อนเป็นไฟ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ มันจะรำคาญ ไม่ชอบใจ ใจมันก้จะคิด ทำไมแม่เราถึงเป็นแบบนี้ แต่จริงๆแล้ว ผิดที่เรา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าของหมูจะโดนกระทบมากกว่าค่ะ แบบโดนว่า น่ะค่ะโดยเราก็งง

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ใกล้กันมาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใกล้ พี่น้ำก็เคยเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่เองเด๋วนี้เวลาเห็นแม่ พี่ก็ดูจิตตัวเองนะ มันดีขึ้น มันนิ่งๆ หนักเลยแหละเมื่อก่อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่เคยเถียงไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

เถียงหรือไม่เถียง คิดดูละกัน ตอนนั้นอายุสิบกว่าปีเอง กินยาแอสไพริน เป็นกำมือเลย
กะฆ่าตัวตาย โกรธแม่ น้อยใจแม่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้โห อึ้งไปเลย หมูดูรอบตัว เพื่อนหมูส่วนใหญ่ มีแต่คนมีปัญหากะพ่อแม่ หนักๆกันทั้งนั้น
อย่างน้อยก็สามคน

สุsays:ขที่แท้จริง

ค่ะ เหตุนี้พี่เลยกลัวการฆ่าตัวตายมากๆๆๆ อาเจียนไม่หยุดเลยนะ จนมีแต่น้ำดีออกมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วตอนนั้นใครมาพบคะ

สุขที่แท้จริง says:

เปล่า ไม่มีใครรู้ แอบกิน เขาหลับกันหมดทั้งบ้าน ฝนก็ตกหนัก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่อาเจียรออกมา โชคดีจัง พี่น้ำเจอแต่ละอย่างหนักๆทั้งนั้นเลยนะคะ
หมูแค่เคยจะเอามีดกรีดแขน แต่กลัวเจ็บ เลยเปลี่ยนใจดีกว่า

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พออาเจียนเสร็จ ไม่มีใครรู้เลย ดึกมากๆ สุดท้ายง่วงนอนก็เดินขึ้นบ้านหลับสนิท

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เฮ้อ ชีวิตคนเรา

สุขที่แท้จริง says:

กับแม่นี่เยอะมากๆ วันที่ขอขมากับแม่ แม่ถึงร้องไห้ เราก็ร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่สาวหมูเล่าให้ฟัง มีผู้หญิงคนหนึ่ง ทุกอย่างดีหมด แฟนดี ลูกดี งานดี แต่ว่าโดนแม่ตัวเอง
ฟ้องศาลเรียกค่าเลี้ยงดูเดือนละ แปดหมื่นคนมีปัญหากะพ่อแม่ตัวเองเยอะมากเลย

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างมันมีเหตุน่ะหมู เหมือนกรณีพ่อข่มขืนลูกแท้ๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อันนี้สุดๆน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

คนเรานะหมู ไม่เคยมีใครไม่มาเกิดร่วมกันหรอก เป้นพ่อ แม่ สามี ภรรยา สารพัดน่ะ
นี่แหละ ความพยาบาท เคยอ่านนะ ลูกคิดฆ่าพ่อ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ รันทดจัง

สุขที่แท้จริง says:

เป็นเพื่อนที่พ่อฆ่าตัวแล้วกลับมาเกิดเป็นลูก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห น่ากลัวมาก แล้วสุดท้ายเขาเป็นไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็ตอนนั้นเขาเป้นเพื่อนกัน พอดีวันนั้นเมา พูดไม่เข้าหู อีกคนจะเอามีดแทง อีกคนป้องกันตัว
แล้วมันพลาดน่ะ มีดเลยแทงเพื่อนทีเดียวตาย พอเด็กจำความได้ นั่งลับมีดทุกวัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห เหมือนคุ้นๆว่าเคยได้อ่าน แล้วพ่อเขาก็ขอขมาใช่ไหมคะ จนเขาใจอ่อน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พี่อ่านเจอในคนเหนือกรรม
ก็พ่อสงสัย เลยพาไปหาพระที่ปฏิบัติ ปล่อยให้คุยกับพระ ส่วนตัวเองรอข้างนอก
ก็เลยรู้ความว่า นี่คือเพื่อนมาเกิด ก็เสียใจมากๆ เพราะจริงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเพื่อน
ก็เลยขออยู่วัดปฏิบัติ หรือบวชให้พี่ก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนหลังมีการขออโหสิกรรมต่อกัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คุ้นๆว่าเด็กยอมใจอ่อนน่ะค่ะ หมูก็ แอบยืนอ่าน แล้วก็มีเรื่องหมาที่เคยเป็นคนด้วย
เป็นถึงทหารยศใหญ่โตมาก

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ได้อ่านค่ะ อันนี้คุณท.เลียงพิบูลย์เล่ามังคะ ไม่แน่ใจ
พี่ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ เพราะคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้ดี ก็เกิดกับพี่มาตั้งแต่จำความได้นี่นะ
เล่นกับผี ยังไม่รู้เลยว่าผี คิดดูละกัน ไม่เคยเล่าให้หมูฟังเหรอ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่เคยค่ะ เคยเล่าแต่คุยกะปลา แต่เล่นกะผีนี่ไม่เคย ตอนเด็กหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

เด็กค่ะ ที่หน้าปากซอย เขามีตึกสำหรับฝากครรภ์และทำคลอดด้วย เพื่อนพี่เขามีอาเป้นเจ้าหน้าที่
อยู่ที่นั้น ตึกสูง 4 ชั้น ก็ไปหาเพื่อน ทีนี้ไม่เจอชั้นล่าง ก็ไล่ขึ้นไปทีละชั้น ชอบชั้น 4
เขาจะปลูกต้นไม้ไว้เยอะมากๆ ก็กำลังจะผ่านชั้น 3 ได้ยินเสียงเด็กเล่นกันลั่นเลย
พี่ก็เลยเข้าไปดู โหมีแต่เด็กเต็มห้องเลย วิ่งเล่นไล่จับกัน พี่ก็เลยขอเล่นด้วย เขาเหมือนกับเรานี่แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆค่ะเขาว่าไงคะ พี่น้ำจับตัวเขาได้เหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

เขาก้ให้เล่นดิ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่แวบหาย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เลย เล่นจนเกือบมืดทุกวัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห ตัวเขาเหมือนเราเลยเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

เหมือนค่ะ อาก็ไม่เคยถาม เพราะคิดว่าไปหาเพื่อนข้างบน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เย้ย ไม่เหมือนในหนัง ค่ะแล้วไงต่อคะ

สุขที่แท้จริง says:

หนังน่ะ พี่ว่าแล้วแต่จิตของคนนะหมู พี่เจอแต่ผีสวยๆ เละๆไม่เคยเจอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วพี่น้ำมารู้เมื่อ

สุขที่แท้จริง says:

ก็ตอนเพื่อนมันตามหาน่ะ พี่ก็เลยบอกว่าไปเล่นที่ชั้น 3 มา เขาก็ถามว่าเข้าไปได้ไง
ประตูใส่กุญแจ พี่บอกว่าเล่นทุกวัน ก็เลยขึ้นไปดูกัน ประตูใส่กุญแจจริงๆ
ตั้งแต่นั้นมา เลิกไปตึกนั้น พ่อไม่ให้ไป พ่อบอกว่าที่นั่นเขาทำแท้ง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พี่น้ำกลัวไหมคะหรือเฉยๆ

สุขที่แท้จริง says:

เฉยๆค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แปลกดีนะคะ ทำแท้งนึกว่าพวกเขาจะทุกข์กลับเล่นกัน

สุขที่แท้จริง says:

วิญญาณไปไหนไม่ได้ไงหมู เขาไม่รู้หรอกว่าเขาตายแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้าว พี่น้ำคะ เวลาเราเอาอาหารไปไหว้พวก ทางสามแพร่ง
เขาได้กินกันเหรอคะ พี่น้ำพอจะทราบไหม

สุขที่แท้จริง says:

ได้ค่ะ วางแล้วเรียกเขาค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กินได้ยังไงหว่า

สุขที่แท้จริง says:

อธิบายยากนะหมู เขามีแค่จิต ไม่มีสังขารให้มองเห็น เขาก็กินเหมือนกับเรานี่แหละ
เพราะเขายังปรุงแต่งอยู่ เด๋ว พี่จะให้หนังสือครูบาฯนิรนามไปอ่าน อ่านเป้นเล่มได้ใจกว่า


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไกระต่ายขนฟ ม่คิดจะเป็นsays:

ขอบคุณค่ะ อายเหมือนกันนะคะ เรื่องสภาวะ
ทีนี้ คือมันเป็นของจริง เขาจะได้รู้ว่า เนี่ยของจริง เขาจะได้เจออะไร

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พี่ถึงบอกกับหมูว่า ให้ดูตามความเป็นจริง สภาวะจะได้ตรง ถ้าไปสร้างภาพ สภาวะจะบิดเบือน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็พยายามขุดหมดน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือตัวหมูเอง
เมื่อก่อนพี่อายมากๆนะ ที่มีคนเอาบล็อกพี่ไปยำซะแบบคนบ้าน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะ แหม มันส่วนตัวของเรา เล่นซะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่หมู เอาไปวิจารณ์เสียๆหายๆ ทั้งๆที่เขาไม่เข้าใจเรื่องสภาวะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่มีใครทำให้โทสะ โมหะ หายไปได้สักหน่อย ด้วยการ ทำ จะมาคิดๆให้มันหายไปได้ไง

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เพราะเขาไม่เข้าใจ ขนาดกิเลสของตัวเขาเอง เขายังดูมันไม่ออกเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ดีกแล้วหมูกราบลาก่อนค่ะคืนนี้ ไว้พรุ่งนี้มาใหม่ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พี่ก้ว่าสักพักจะนอนแล้ว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 27 ก.พ. 2010, 20:14, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ใดหมิ่นธรรม ผู้นั้นยากที่จะพบสัจธรรม


มีบางคนเข้ามาอ่านผลของการเจริญสติปัฏฐาน ๔ อ่านแล้ว แทนที่จิตจะเกิดกุศล
กลับเกิดอกุศล เกิดความคิดปรุงแต่ง นำการเจริญสติปัฏฐานที่อ่านๆกันอยู่นี้
นำไปเปรียบเทียบกับสัตว์เดรัจฉาน โดยการมาตั้งฉายาว่า การเจริญสติปัฏฐานที่โยคีกำลังทำอยู่นี้
เป็นพวก
" งูเหลือม "
และมาตั้งฉายาเราว่าเป็น" เจ้าแม่สำนักงูเหลือม "
บางคนตั้งฉายาว่า" โรงงานผลิตน้ำปลาปรุงรส " เหตุมี ผลย่อมมี


ท่านทั้งหลายเอ๋ย การเกิดเป็นคนได้ก็แสนจะยากเย็นยิ่งนัก ตกตายไปแล้ว
จะได้เกิดเป็นคนอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แทนที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างรู้คุณค่าของชีวิต
หมั่นสร้างแต่เหตุที่เป็นกุศล ไม่ใช่มุ่งคิดสร้างเหตุที่เป็นอกุศล มีจิตอกุศลปรุงแต่งตามกิเลสที่มีอยู่
ในใจตน กิเลสน่ะมองเห็นกันบ้างไหม ไม่ใช่สักแต่พูดเรื่องกิเลส แต่มองไม่เห็นกิเลส

อย่าทะนงตัวว่าเรียนรู้มามาก อย่าทะนงตัวว่าเก่งกว่าคนอื่นๆ
เรา เขา ทุกรูปทุกนามไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่สักนิดเดียว

กายนี้เป็นของเราไหม ยึดมันไว้ได้ไหม สักวันกายนี้ก็ต้องเสื่อมสลายไปเมื่อถึงวาระ
เฉกเช่นเดียวกับทุกๆสรรพสิ่งที่ต้องเสื่อมสลายลงไปเหมือนๆกันหมด ตามวาระของสิ่งๆนั้น

สติ สัมปชัญญะน่ะมีไหม หิริ โอตัปปะน่ะมีไหม เคยย้อนกลับมาพิจรณาตรงนี้กันบ้างไหม
คิดได้ยังไง ที่นำการเจริญสติปัฏฐานไปเปรียบเทียบกับสัตว์เดรัจฉาน

กายสกปรกยังไม่พอ ใจยังสกปรกยิ่งกว่า
กายสกปรก เรายังขัดสี ขัดถูมันได้ ใจสกปรก เคยคิดขัดกันบ้างไหม

เรามาเจริญสติกันเพื่ออะไร เพื่อขัดล้างทำความสะอาดใจเราให้สะอาด เพราะใจเรามันสกปรกยิ่งนัก
จะใช้วิธีทำความสะอาดแบบกายไม่ได้ เพราะใจเป็นเรื่องของความละเอียด ส่วนกายน่ะแค่หยาบๆ

ใจเรานี้มันสกปรกยิ่งนัก เต็มไปด้วยกิเลสหมักหมมมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว
เราสอนให้คนงมงาย เราก็จะได้รับผลตรงนั้นคือ งมงาย

เราสอนคนให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน เพื่อเขาจะได้มีสติ สัมปชัญญะเป็นที่พึ่ง
เราก็จะได้อานิสงส์จากตรงนั้น ทำให้ไม่ไปตกอยู่ในภพภูมิที่ต่ำหรือไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
หรือไม่ไปตกอยู่ในนรกหมกไหม้

สร้างเหตุอย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น จะช้าหรือเร็วต้องได้รับผลอย่างแน่นอน ตามวาระของคนๆนั้น
การปฏิบัติจะได้ผลหรือไม่ ให้ดูที่กิเลสและสติ สัมปชัญญะ ไม่ใช่ไปดูอย่างอื่น

ทำแล้วสงบ ทำไมถึงสงบ เพราะมันนิ่ง ทำไมถึงนิ่ง เพราะมันหลง ทำไมถึงหลง เพราะสติยังไม่ทัน
ทำแล้วสบาย ทำไมถึงสบาย เพราะใจมันอิ่มเอิบ ทำไถงอิ่มเอิบ เพราะมันเกิดปีติ ทำไมถึงเกิดปีติ
เพราะสติยังไม่ทัน

การปฏิบัติ เมื่อสติดี สมาธิดี ปัญญามันจะเกิด จิตมันจะพิจรณาออกมาเป็นขั้นเป็นตอน
ทำให้กลับมารู้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ปล่อยจิตไหลไปกับกิเลส รู้อยู่กับปัจจุบันคืออะไร
คือมีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่กับสิ่งที่กำลังทำ หากกำลังนั่งอยู่ จิตก็จะกลับมารู้ที่กาย ไม่ออกไปรู้นอกกาย
เมื่อไม่ออกไปรู้นอกกาย การปรุงแต่งย่อมดับไป กิเลสตัวใหม่มาแล้ว นี่มันจะเห็นแบบนี้นะ
ไม่ใช่ไปเห็นอย่างอื่น สติดี สมธิดี มันจะรู้อยู่ในกายและจิต

ไม่ต้องไปยกตัวอย่างอื่นไกล ดูจากโยคีรูปนี้ ปฏิบัติโดยไม่รู้อะไรเลย ลองทำมาหลายอย่าง
สุดท้ายเลิกทำ เพราะทำแล้วไม่เข้าใจ ทำแล้วยังติดอยู่สภาวะเดิมๆ ไม่มีใครให้คำตอบกับเขาได้

ผลของความเพียรของโยคี ที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง สติ สัมปชัญญะ นับวันเข้มแข็งมากขึ้น
เริ่มแยกแยะ ถูก ผิด ตามความเป็นจริงได้ โดยมีตัวของโยคีหรือความคิดปรุงแต่งเข้าไปเกี่ยวข้องน้อยลง

ยอมรับทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่มากระทบตามความเป็นจริงมากขึ้น
ตัวเองเป็นยังไง รู้สึกยังไง ยอมรับตามนั้น ไม่ปฏิเสธหรือหลบหนีในสิ่งที่ตัวเองนั้นเป็นอยู่

ไม่มีมาเขียนส่งสภาวะสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ทั้งๆที่โยคีสามารถทำได้
เพราะอะไร เพราะยิ่งสติ สัมปชัญญะมากขึ้นเท่าไหร่ หิริ โอตัปปะ ยิ่งมีมากขึ้นตามนั้น

เราปฏิบัติเพราะเอาออกนะ เอาสิ่งสกปรกที่อยู่ในใจของเราออกไป ขัดล้างทำความสะอาด
ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ไม่ใช่ไปเหาะเหินเดินอากาศ ไปรู้โน่นรู้นี่นอกตัวนะ นั่นไม่ใช่ทาง

ส่วนใครเชื่อใคร หรือไม่เชื่อใคร นั่นอยู่ที่เหตุที่เคยกระทำมาร่วมกัน
ส่วนใครมาอ่านแล้วไม่เชื่อเรานะ ก็ไม่ได้ให้มาเชื่อ และไม่สนใจด้วยว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

เราเพียงนำมาแบ่งปัน ไม่ได้มีเจตนามาตั้งสำนักหากินทางด้านนี้
ใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่อย่ามาละเมิดกัน โดยเฉพาะมาหมิ่นประมาท
โดยการนำโยคีที่ปฏิบัติเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่ ควรจะรู้นะว่าผลที่ได้รับนั้นเป็นยังไง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2010, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 189


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30 ค่ะ
ก็ตอนเดินมันก็รู้เทาเป็นแบล็กกราวน์ แล้วก็ฟุ้ง มันมีตัวไม่พอใจ ยืนพื้น เป็นอารมณ์ ของรอบนี้น่ค่ะ
เกิดจากจิตมันไปฟุ้งถึงเรื่องที่ ยอมไม่ได้ทั้งนั้น อย่างเรื่องงาน เรื่องปัญหาที่บ้านและมันก็ทุกข์
มันไม่ยอมน่ะค่ะ ทำไมต้อง เป็นฝ่ายเสียสละ แบบทำไมต้องยอมเหนื่อย ยอมชาวบ้าน
มันไม่ได้คิดเรื่องใดเรื่อหนึ่งนาน แต่ เหมือนเจอแต่เรื่องที่ไม่ชอบ เจ็บเท้าด้วยค่ะ ก็เดินจนจบ

แล้วมานั่ง พอมานั่งก็หลับในหลายหน ไม่ค่อยจับกายค่ะ หลังค้อมคอตก ก็ค่อยๆอาขึ้นหลายรอบค่ะ
พยายามจะรู้สึกกาย ก็ไปหลับในอยู่ดีค่ะ หมดแล้วค่ะพี่ ก็มีอยาก จะได้งานที่เหมาะกะการปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:

ธรรมดาค่ะ เราจะเหมือนว่า ทำไมต้องทนๆๆๆๆๆๆๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ กลับบ้าน ยอมแมกะน้องกะพี่ ไปทำงานยอมเพื่อน

สุขที่แท้จริง says:

เพราะเมื่อยังไม่เห็นชัดเจนเลยต้องทนๆๆๆๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กลับห้อง ยอมปลวกกะแมลง เดินยอมร่างกายเจ็บปวด

สุขที่แท้จริง says:

เรื่องปลวก พี่แนะนำไปแล้วนี่คะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเขามาอีกน่ะค่ะ เขาอยู่ข้างในไม้ค่ะคราวนี้ มีโผล่มาบางเวลา ก็ยุบยับน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ฉีดยาหรือยังคะ ที่แนะนำไปน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ได้ฉีดน่ะค่ะ กลัวเขาตายเพราะยังออกไปไม่หมด ออกไปแค่ตรงรังข้างนอก
ข้างในร่องไม้ ขายังอยู่แล้วเราแงะไม่ได เลยกลัวว่าถ้าฉีดไป เขาที่อยู่ข้างในก็ตาย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ต้องแงะค่ะ เชลล์ไดท์จะมีสายยาวๆฉีด เราแค่สอด ได้แค่ไหนแค่นั่น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วพวกที่อยู่ข้างใน เรายังไล่เขาออกมาไม่หมดอะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ต้องไปสนใจค่ะ ฉีดเข้าไปทุกวัน แล้วเขาจะไปเอง ไม่มีอะไรออกมาให้เห็นหรอกค่ะ
เพราะตามตึกน่ะโพรงๆจะเยอะมากๆ เราฉีดเพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ได้เจตนาจะฆ่าเขา
ให้ดูที่เจตนาน่ะ นี่เราแค่ฉีดไล่ที่ พอเขาได้กลิ่นก็ไปหมดแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นเด๋ว ลองเคาะไล่แล้วหามาฉีดวันหยุดนี้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ทุกข์แค่ความคิด ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เด่วมันก็จบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็มีความอยากไม่ยอม อยากอาละวาดน่ะค่ะ ว่ามาทำแบบนี้ได้ไง แต่ก็เห็นแต่ความเสียหาย
มันก็จะอัดอั้น ข้างใน เลยอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเจอใคร แต่อยาก กะไม่อยากแต็มไปหมดเลย

สุขที่แท้จริง says:

เรื่องปกติค่ะ อะไรที่ไม่ชอบ แล้วต้องทำ มันก็เหมือนถูกบังคับ
ลองให้ทำสิ่งที่ชอบสิ เต้นระบำเลย นั่นน่ะกิเลส


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ที่หมูเจอยังไม่เยอะนะคะ เพื่อนหมูน่ะเขายังดี แต่ว่าบางอย่างเราไม่ชอบและมันทนไม่ได้
ขนาดแค่นี้ยังดิ้นเลยค่ะพี่ มันปรุง ตอนกินไงคะ เต็นระบำเลย

สุขที่แท้จริง says:

เห็นไหมล่ะ หมูก็วิเคราะห์เองได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเวลามันผ่านไปแล้ว มันก็พอได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ว่าจะเห็นด้วยตาหรือได้ยินด้วยหูก็ตาม
พิจรณาเป็นธรรม อันนี้ที่พี่น้ำให้อ่านน่ะค่ะ คำว่าพิจารณาเป็นธรรม ของท่าน
หมายถึง ใช้สติดู เหมือนถอดสแคว์รูทที่พี่น้ำบอกหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วแต่อุบายของแต่ละคนค่ะ คำว่า พิจรณาให้เป็นธรรมนั้น หมายถึง ทุกสรรพสิ่งมันไม่เที่ยง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็หมายถึงเรามีสติรู้แล้วก็จะเห็นมันเปลี่ยนไปเอง

สุขที่แท้จริง says:

เสียงที่กระทบมาเที่ยงไหม รูปที่เห็นเที่ยงไหม ฯลฯ
เสียงดังมาน่ะหมู ถามหน่อยเถอะ มันจะดังอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่อะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แค่แว๊บเดียวถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ แวบหาย ขึ้นมาอีก

สุขที่แท้จริง says:

แล้วเราจะไปเอาอะไรกับมันล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เราใช้วิธีคิด ผสม ด้วยเหรือมองมันอย่างเดียวคะ

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อเกิดการกระทบ เอาสติรู้ลงไป รู้แล้วเกิดการปรุงตามสิ่งที่มากระทบ ให้ยกขึ้นพิจรณา
เหมือนพี่หรือไม่เหมือนก็ได้ ที่พี่พิจรณาโดยการถอดออกมาทีละขั้นๆ นั่นเอาเหตุและผลมายันกัน
ถ้าดับแล้ว ดับเลย ไม่มาเกิดอีก คือ พอกระทบ มันแค่รู้ แต่ไม่ไปปรุง

อย่างวันนี้พี่นั่งสมาธิอยู่ ใกล้เลิกงานแล้ว พี่เขาฝากน้ำมะพร้าวแช่ตู้เย็นไว้ เขาเข้ามาเอาของ
เสียงเปิดประตูห้อง เสียงเปิดตู้เย็น เสียงทุกเสียงที่เขาทำน่ะได้ยินหมด แต่ตอนนั้นจิตพี่เป็นสมาธิ
มันก็เป็นสมาธิอยู่อย่างนั้น ท้องยุบรู้ ลมหายใจรู้ อกเคลื่อนไหวรู้ มันจะรู้เองแหละหมู


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เราฝึก ที่จะพิจารณาก็ได้ใช่ไหมคะ อย่างหมูยังพิจารณาไม่เป็น ก็ลองยกมาพิจารณาดู

สุขที่แท้จริง says:

ฝึกค่ะ เมื่อก่อนพี่ก็พิจรณาไม่เป็น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูทำได้แค่รู้มันน่ะค่ะ หลังๆก็เริ่มดูดูว่าทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมทุกข์ ความรู้สึกนี้ทำไมมี
กระทบแล้วทำไมต้องทุกข์ บางทีก็รู้ได้ แต่จะไม่ได้ชัดเจนมากค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ใหม่ๆจะไปเอาอะไรกับมันมาก ไม่ต้องไปคาดหวังอะไร ไม่ต้องไปมองว่ามันจะได้ผลเมื่อไหร่
ก็เหมือนกับการที่หมูมาเจริญสติทุกวันนี้แหละ ก้ต้องมาจากไม่รู้ พอทำบ่อยๆมันก็จะชำนาญมากขึ้น
ทีนี้ล่ะสบายขึ้น อยู่ตรงไหน เสียงดังยังไง สภาพแวดล้อมแย่แค่ไหน เราก็รู้อยู่ของเราได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เด๋วลองดูน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อย่าคาดหวัง อย่าคาดเดา ให้ดูตามความเป้นจริง
เพราะเมื่อคาดหวัง เมื่อเจอความผิดหวัง ไปแล้ว เมื่อคาดเดา พอเดาไม่ถูก ไปแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็ท้อ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ หวังมากทุกข์มาก เดามาก มันก็มั่วตลอด นั่งดูมัน ดูจิตมันดิ้นชักกระแด่วๆๆๆๆ
เหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ พอไม่ได้ดั่งใจ โรคกำเริบเลย โรคเอาแต่ใจตัวเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ชักกะแด่ว ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าเป็นคนไข้ก็คือ มือจะเกร็ง ปากจะจีบ บางคนกระตุกไปทั้งตัว
วิธีแก้คือ เอาถุงกระดาษครอบไปที่ปากกับจมูก แล้วบอกคนไข้ว่า สูดหายใจยาวๆลึกๆนะคะ
แล้วจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นค่ะ หายใจยาวๆๆค่ะ อย่างนั้นแหละค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าเห็นภาพดีจัง

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อก่อนโง่นะพี่น่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำไมคะ

สุขที่แท้จริง says:

คือคิดว่า อ่อ .. เอาถุงกระดาษปิด อากาศหายใจย่อมไม่มี ให้สูดคาร์บอนแทน เขาจะได้รู้สึกตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่นสิคะ ทำไมสุดคาร์บอนแล้วรู้สึกตัวละ มันคาร์บอนจิงๆ

สุขที่แท้จริง says:

มาเจริญสตินี่ ถึงได้รู้ว่า อ่อ .. ทำแบบนั้น สูดหายใจยาวๆลึกๆ มันทำให้เขารู้สึกตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ไม่เห็นต้องเอา ถูงปิดนี่คะ ก็เปิดโล่งไปเลย

สุขที่แท้จริง says:

สัญชาติญาณของคนไงหมู การเอาชีวิตรอด พอถุงครอบลงไป จะหายใจไม่ออก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่ออ เขาก็ต้องสูด ขวนขวาย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ สติมันก็เกิด ลืมหมดแล้วตรงนี้ ไม่ค่อยได้ใช้ วิชาการลืมหมด
คนเรานะ วางไม่เป็น ย่อมเย็นไม่ได้ แต่กว่าจะวางได้จริงๆ เลือดตาแทบกระเด็น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยากนะคะ มันอัดอั้นมาก มันไม่พอใจตัวเองด้วย ว่าทำไมยอมอยู่ได้ ไม่ทำอะไร

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ส่วนมากคือ ไม่พอใจในตัวเราเอง คับแค้นใจตัวเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โง่ ไม่สู้คน แบบนี้น่ค่ะ ยอมใเขาเอาเปรียบ พี่น้ำก็รู้สึกแบบนี้แต่ก่อนใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่ไม่ได้มองเรื่องว่าไม่สู้คน แต่มันคิดว่า โห เราเคยทำร้ายเขาไว้ขนาดนี้เลยหรือ
แต่เรื่องการยอมให้คนอื่นๆเอาเปรียบน่ะ พี่เฉยๆกับมันนะ คือมันมองว่า ไม่เป็นไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ของพี่น้ำดีนะคะ ของหมูมันจะโกด ตัวเองว่าโง่ เขาเอาเปรียบเราเพราะเห็นเรายอมเขาง่าย ๆ
ไม่มีปากมีเสียง สู้ไม่ได้ แบบนี้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ แต่ละคนก็ตามเหตุที่ทำมาแหละหมู อดทนไป สักวันไม่ต้องอดทน แต่อยู่กับมันได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ นี่ก็พยายามน่ะค่ะ มันจะกลับไปกลับมาระหว่าง ตัวไม่ยอม
กะตัวที่คิดถึงว่า เราเคยทำเขาไว้ ยื้อกันสุดฤทธิ์

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าทำได้ง่ายๆ โลกนี้คงสงบจากสงครามไปนานแล้วค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คงเป็นสวรรค์

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สวรรค์บนแดนดิน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.พ. 2010, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 190

วันไหนเครียด แบ่งเป็นสองช่วง


พิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:งไม่ใช่งู

สวัสดีค่ะพี่น้ำ เพิ่งกลับจากทำงานค่ะ สะบักสะบอมเหมือนเดิม เด๋วหมูมานะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เปลี่ยนเวลานิดนึงค่ะ ทำรอบเดียวใช่ป่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คิดว่านะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เป็นเดิน 30 นั่ง 15 สองรอบค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่ เสร็จรอบแรกแล้วค่ะพี่ 30 / 15
ตอนเดินก็รู้เท้า แต่จิตไปปรุงก็มีแต่ความทุกข์ มันก็ขึ้นมาเป็นความไม่ยอม ความโกรธ
ความกังวล ความกลัว อนาคต

ก็ยังรู้เท้าได้อยู่ว่ากำลังเดิน ไม่ได้เข้าไปในความคิดจนลืมตัวแต่มันเด๋วปรุง เด๋วปรุง
ก็กำหนดรู้หนอ แต่ยังเป็นอยู่ แต่ว่าความทุกข์มันฮึดขึ้นมา ฮึดๆ ขึ้นมา
แต่จิตไม่ได้จมลงไป คือความรู้สึกเด่น ขึ้นมา แต่ก็ยังมีความเบาๆ ไม่เข้าไปหนักมาก
แต่ก็โกรธเรื่อยๆแหละค่ะ

พอมานั่ง ก็รู้กาย รู้อกน่ะค่ะ อกเคลื่อนไวตามการหายใจ ก็รู้ตลอดนะคะ
ก็มี ไปปรุงเหมือนกัน แต่มันไม่ได้มากเท่าเดิน ก็มีช่วงที่ห่างจากการปรุงออกไป
มารู้ที่อกเคลื่อนไหวมากกว่า ช่วงนั้นเริ่มเปลียนอารมณ์ พอใกล้หมดเวลา
ก็รู้สึกว่าเริ่มมีแรง มองโลกในแง่ดีขึ้น ก็หมดเวลามีสติอยูค่ะ จบแล้วค่ะ

30/30 ค่ะ แบบว่าเผลอตั้งเวลานั่งเกิน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็รอบนี้เดิน สงบขึ้นกว่ารอบแรก ตอนต้นก็ รู้เท้า มาสนใจเท้ามากกว่าความคิดได้แป๊ปหนึ่
แล้วก็เริ่มเห็นความคิด ก็เป็นความคิดที่ไม่เกี่ยวกะเรื่องที่กำลังโกรธ พอขึ้นมาเราเห็นแล้วก็หายไป
ก็เออนะ ตอนนั้นรู้สึกค่อยยังชัว แล้วสักพักรู้ๆเท้าอยู่

ก็เริ่มแวบคิดเรื่องที่ไม่ชอบ ก็เกิดความไม่พอใจตามมา ก็ดูลงไปเห็นว่ามันไม่คงที่
มันก็หรี่ลงไปแล้วก็เปลี่ยน ก็มีความคิดความรู้สึกถึงที่คุยกะพี่น้ำว่าให้ดูว่ามันเที่ยงไหม

ก็เลยเริ่มพิจารณาดูมัน ก็เห็นว่าแต่ละความรู้สึกมัน ไม่คงที่ แล้วก็เปรียบเทียบ กะตอนที่มันลงไปปรุง
ตอนปรุงแล้วหลงไปโกรธ ตอนนั้นจะไม่สามารถดู ความไม่เที่ยงได้ เพราะมีตัวตนขึ้นมา
ตัวตนจะเห็นแก่ตัว และไม่มอง ความไม่เที่ยง จะคิดแต่เรื่องที่ไม่ถูกใจมัน ก็พอเริ่มชักจะกลายเป็นคิด
ก็กำนดรู้หนอ แล้วก็เลิกพิจารณา ก็มารู้เท้า รู้ความรู้สึกต่อ
ก็มีความทกุข์จากความไม่พอใจขึ้นมาเนื่องๆเหมือนเดิมค่ะ

พอมานั่ง ก็รอบนี้รู้กายได้น้อย รู้ไม่ต่อเนื่อง หลงไปคิดๆ กึ่งๆรู้ กึ่งๆคิด ลอยๆหน่อย
พอลอยมากเข้า ก็มาจงใจรู้อกเคลื่อนไหว ก็จับไม่ชัดก็ คิดๆ ต่อ จนจบค่ะพี่ แต่ไม่ได้หลับในค่ะ

สุขจริง says:ที่แท้

พอแบ่งสองช่วง จิตมันเลยไม่เครียด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็เห็นความแตกต่าง

สุขจริง says:ที่แท้

นั่นแหละ ลองปรับไปมา วันไหนเครียดมาก็เอาวิธีนี้ไปใช้ วันไหนพักผ่อนพอ
ก็ทำแบบเดิม ต้องระวังเรื่องการติดความสบาย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็จะพยายามรักษาความเพียรไว้ค่ะ รอบแรก ตอนกรวดน้ำก็จะขึ้นอีก 2 ครั้งคะ
ก็กำหนดไปก่อนมันขึ้น พี่น้ำ มีอะไรชี้แนะไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่มีอะไรเพิ่ม เพียงแต่ให้หมูดูเอาไว้ว่า สภาวะ ที่พี่เคยบอกว่าหมูปรับได้นะ
คือแบบนี้ แต่หมูไม่เข้าใจ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ค่ะพี่ ไว้หมูจะลองพยายามปรับดูนะคะ วันไหนเครียด แบ่งเป็นช่วงสั้นๆ

สุขที่แท้จริง says:

เวลาเครียด วันไหนทำรอบเดียว ให้แบ่งเวลาออกเป็นสองส่วนแบบนี้
หมูน่ะ มีอะไรจะถามหรือเปล่าคะ ถามได้นะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ทุกอย่างล้วนมีเหตุนะหมู กลัวเอาไว้น่ะแหละดีแล้ว จะได้ไม่ประมาท
เผลอไปทะเลาะกับใครๆเขาเข้า มันไม่คุ้ม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แสนจะยากจริงๆค่ะ เมื่อเรายังเห็นแก่ตัวแบบนี้

สุขที่แท้จริง says:

นี่แหละ ความมีตัวตนแหละหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ความเห็นแก่ตัว ชัดมากเลยค่ะพี่
หมูโกรธ เขาเพราะหมู เห็น-แก่- ตัว ไม่เกี่ยวกะว่า ใครถูกใครผิด

สุขที่แท้จริง says:

คนทั่วๆไปจะเป็นแบบนั้น ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่คนที่กำลังเจริญสติอยู่ เพราะว่า สติยังไม่ทัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ต้องอาศัยสติอย่างมากเลย หมูนึกถึงพี่น้ำนะคะวันนี้ว่า ทำไม พี่น้ำถึงทุกข์มาก
ก่อนหน้านี้น่ะค่ะ ที่ไม่พอใจ เรื่องที่คนมาเข้าบล็ฮกส่วนตัวพี่แล้วเอาไปพูด
หมูรู้สึกว่า เราเจริญสติ แล้วเราจะเจอเรื่องกระทบเหมือนบีบเราทุกทิศทาง
ที่เดียวที่จะเป็นส่วนตัวก็คือบล็ฮก ให้เรา ระบายความเรียด ความคับแค้นใจ
ที่ส่วนตัวของเรา ที่เดียว แต่ก็มีคนล่วงล้ำเข้ามา เพราะเราทำใครไม่ได้ จึงเป็นที่เดียวเท่านั้น

สุขที่แท้จริง says:

เข้ามาอ่านไม่ว่า แต่นี่กลับนำไปปรุงแต่งสาดเสียเทเสียตามกิเลสของตัวคนๆนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ แต่ก่อนก็ รู้ว่ามันน่าไม่พอใจ แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันคับแค้นใจมาก ถ้าเจอ

สุขที่แท้จริง says:
พี่เฉยๆแล้วตอนนี้ ใหม่ๆก็รู้สึกแย่เหมือนกัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำผ่านมาแล้ว ทุกคนจะเจอกับการ บีบคั้นทุกทางเหมือนกันหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:
แล้วแต่เหตุที่แต่ละคนทำมาค่ะ ทำมามากก็เจอมาก ทำมาน้อยก็เจอน้อย
เป็นไปตามเหตุปัจจัยที่เคยกระทำมาน่ะค่ะ กว่าจะเข้าใจ กว่าจะรู้ได้
กว่าจะปล่อยวาง มันจะเป็นไปตามสติ สัมปชัญญะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะ ยังไงคืนนี้หมูกราบลากอนนะคะ พรุ่งนี้มาใหม่ค่ะ





ยิ่งทำ ยิ่งเจอบททดสอบ

บททดสอบมาในรูปแบบต่างๆ แต่มันก็คือกิเลส
อยู่ที่ว่า สติเรานั้นทันไหม เอาเราที่มีอยู่นั้น เข้าไปปรุงแต่งมันไหม
ช่วงนี้เจอหลายๆอย่าง ก็พยายามสงบ เฝ้าดูจิตตัวเอง มันยังมีอคติอยู่
ถึงจะมีน้อยลง แต่มันคือยังมี

แต่เหตุที่เราโพสเรื่อง ที่คนอื่นนำการปฏิบัติไปเปรียบกับงูเหลือมนั้น
เราตั้งใจ เพื่อให้คนๆนั้นรู้ว่า คุณทำไม่ถูก แต่ถ้าบอกแล้ว
เขายังคงทำต่อไป นั่นคือเรื่องของเขาละ เราไม่ไปอะไรกับเขาอีกทั้งสิ้น
เพราะถือว่า นั่นพูดไปแล้ว

ส่วนเราเองตอนนี้ ก็ทำความเพียรต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเจอบททดสอบอะไร
ก็จะเอาสติ สัมปชัญญะ นี่แหละรับมือ ไม่มานั่งท้อเหมือนเมื่อก่อนหรอก
มีแต่เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 26 ก.พ. 2010, 01:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 191

ความอยากกระเด็นเลอะหน้าจอ



งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่พี่ รอบแรก 40/20 ค่ะ
ก็ มีรู้เท้า แต่บางช่วงก็ลืมตัวไปคิดถึงงานแล้วหลงไปไม่อยู่กะการเดิน
แล้วก็ มารู้วึกตัวว่าไม่ได้อยู่กะปัจจุบัน จากนั้นก็มารู้การเดินต่อ
แล้วก็มี ความทุกข์จากความไม่พอใจสภาวะ เหมือนเดิมค่ะ
ก็มีความอยาก อยาก มันอยากเห็นธรรม

ก็ขึ้นมาแล้วเรารู้ก็เปลี่ยนไป แล้วก็มี มานะ มันขึ้นมาจะล่วงเกิน ครูบาอาจาร์ย
ประมาณมันไม่พอใจ ที่มันยังไม่เห็นธรรม เสียที ก็กำหนดรู้หนอไป

พอมันจะเห็นก็กำหนด พอมันจะขึ้น เรารู้ก็กำหนดก็ยังไม่ขึ้นแต่เรารู้แล้ว
ว่ามันคืออะไร แล้วก็มาเดินต่อ ก็มีเห็นว่าเวลามีความทุกข์แล้วมันหนี
มันไม่เผชิญหน้ากะอารมณ์ทุกข์ไม่ดูลงไปด้วยสติ เหมือนมัน แขยง
พอมันแขยงจะหนี มันก็เป็นความไม่ชอบใจ ก็รู้ไป

แล้วมันก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ฟุ้งไป พอเรารู้ว่าฟุ้งก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้งหายใจยาวๆ
เพื่อตั้งต้นรู้สึกตัว เป็นอีกก็ทำอีก แล้วก็ เห็นว่าความคิด มันคิดของมันเอง
แบบมันจะคิดอะไร มันคิดของมันเองน่ะค่ะ เราได้แต่เห็นมันคิดไปแล้ว

ตอนนั้นก็พอเห็นมันคิดไปแล้วก็เห็นว่ามันก็ไม่พอใจ ขึ้นอยู่กะเรื่องที่ไปคิด
แล้วก็จากคิดๆอยู่ มันก้อมารู้เท้าชัดขึ้น เหมือนมาจับความสนใจที่เท้า
ก็ตอนนั้นก็รู้สึกว่ามันมาสนใจเท้าของมันเอง คือเราไม่ได้สั่งมัน แล้วหลังๆก็ฟุ้งๆ มีอยากเลิกเดิน

พอมานั่ง ก็มีรู้กายนั่งช่วงต้นได้ไม่นานก็หายไป มารู้สึกอีกที ก็นั่งมานานมากแล้ว
แล้วเหมือนมันวกมารู้สึกตัวว่ากำลังนั่งอยู่ ก่อนจะรู้สึกตัวก็มีคิดๆเหมือนเวลาเราเดินจงกรมน่ะค่ะ

แล้วมันหลงไป แล้วสุดท้ายค่อยมารู้สึกตัว ก็รู้สึกว่านานมาก
แล้วพอลืมตาดูเวลาก็หมดเวลาพอดีค่ะ จบแล้วค่ะ หมูไปขึ้นรอบสองเลยนะคะ

เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/20
ก็รอบนี้ก็เดินรุ้เท้า ก็มีความทุกข์ ขึ้นมา ไม่ได้เกิดจากเรื่องในชีวิตประจำวัน
ก็ดุไป ก็มันไม่แน่นอน มันขึ้นๆลงๆ เด๋วก็มา แล้วเด๋วก็หายไป ไม่ได้เห็นมันชัดตัวเดียว
เพราะมีอารมหลายอย่างเกิดขึ้น แล้วก็มี หลงไปคิดเรือ่งงาน กังวลก็ทุกข์
เกิดจากความคิดที่มันไปคิด แล้วก้ทุกข์เพราะเป้นเรื่องที่เรากังวล ก็พยายามอยู่กะปัจจุบัน

แล้วเดินต่อก้ดูมัน มันก็ค่อยๆกลับมาที่กายปัจจุบันได้ แบบกึ่งๆจะการอยู่ในอนาคต
แต่เรารู้ว่ากำลังเดินแล้วดูจนมันกลับมาปัจุบันมากขึ้น แล้วก็ มีเวทนา ร้อนผ่าววาบๆที่ขา
อันนี้เป็นตั้งแต่เดินรอบแรกแล้วลืมเล่าค่ะ วับวูบเดียวแล้วก็ไป นานๆทีก็วาบมาอีก
แล้วก้ไป แล้วก็มีจิตไป ฉายเป็นเหตุการณ์ของคนรู้จัก
เป้นพฤติกรรมของเขาที่เรานึกไม่ชอบใจหรือชอบวิาจารย์ ก็เลยเลิกคิดแบบหายใจยาวๆแล้วเลิก

แล้วก็ มีไปทุกข์ เพราะหลงไปคิดถึงการทำงาน แล้วคิดว่าทำงานไม่ดี
คิดถึงสายตาของคนอื่นที่มองเราว่าเราไม่ดีก็ทุกข์มาก มันขึ้นมาทุกข์

ก็ใช้วิธี คิดถึงความตายว่าถ้าเราจะตายแล้ว มันก็ทิ้งหมด ก็ค่อยทุเลาลงไปค่ะความทุกข์ที่เกิดขึ้น
แล้วก็ตั้งใจเดินใหม่

พอมานั่งก็รู้ท้องขยับแต่ไม่จับแนบแน่นที่ท้อง รู้แบบเหมือนมันไม่ค่อยใส่ใจ แล้วก็มีหลงลืมไป
แล้วก้ไปคิดแต่จำไม่ได้ รอบนี้จำตอนนั่งไม่ค่อยได้ค่ะพี่ จบแล้วค่ะพี่

ก็มันมีสะเทือนใจนะคะ ไม่ได้สะเทือนใจ เพราะว่าเขาว่าเรา แต่สะเทือนใจถึงตัวเขา
มันไปคิดถึงวันนั้นที่เดินร้องให้ เพราะเห็นกิเลส อารมณ์ที่ครอบงำจิตน่ะค่ะ
แล้วก็คิดถึงเขาขึ้นมา ก็สงสาร น้ำตาจะไหลเลย

สุขที่แท้จริง says:

พอเราเข้าใจแล้ว เราจะสงสารคนอื่นๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ก็ไม่แน่นอนค่ะ อีกพักก็ไม่พอใจ แล้วก็สับไปสงสาร

สุขที่แท้จริง says:

ความคิดน่ะหมู เรื่องของเรายังมีอคติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นี่ก็สงสารอีกแล้ว ค่ะพี่ วันนี้เพื่อนโทรมา บอกว่ามีงานจะแนะนำ ตาวาวเลย
แต่แหมบอกจะโทรมาบอกตอนเย็น นี่ไม่โทรมา มันก็การเลี้ยงชีพนี่ มันยาก

สุขที่แท้จริง says:

เบื่อนะหมู พี่ไม่ชอบชีวิตแบบนี้ แบบไหนๆก็ไม่ชอบเลยสักแบบเดียว
พี่ถึงมุ่งทำเพราะแบบนี้แหละ เพราะมีทางเดียวที่เราจะไปพ้นในสิ่งที่เราไม่ชอบได้ มีทางเดียวเท่านั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันเป็นภาระจริงๆเลย

สุขที่แท้จริง says:

ตั้งแต่ลืมตาตื่นมาเลย ชีวิตซ้ำซากจำเจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แค่เราเองก็เหนื่อยแล้ว แต่เราก็มีความรับผิดชอบ อื่นๆด้วย
บวชนี่ดีจริงๆ ถ้าเป็นชาย ตัดหมด มุ่งหน้าปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:

เพราะนี่แหละ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเจ้าความไม่รู้นี่แหละ
แหมมม ผู้ชาย บวชแล้วใช่ว่าจะมีใจแบบนี้เสียเมื่อไหร่ มันแล้วแต่เหตุที่ทำมาค่ะ
หญิงหรือชายไม่แตกต่างกันหรอกค่ะ เหตุต่างหากล่ะคะที่ทำกันมาด้วยความไม่รู้ต่างหาก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม มีสำนักปฎิบัติที่ ผู้หญิงไปอยู่กินแบบปฎิบัติแบบเหมือบวชตลอดชีวิตไหมคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

มีเยอะแยะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วเขาเลี้ยงชีพกันยังไงคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

กินข้าววัด ส่วนเงินทองน่ะ ไม่ต้องไปสนใจ เพราะการรักษาพยาบาลน่ะฟรี
ที่พักก็มีให้อยู่ฟรี เหมือนแม่ชีไงหมู บางคนก็เป็นผ้าขาว เพราะช่วยงานวัดได้สะดวก
แม่ชีบางครั้ง ทำแล้วมันไม่งาม แต่ผ้าขาวทำได้ทุกอย่าง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็เหมือนเรา

สุขที่แท้จริง says:

เหมือนเรานี่และ แต่เรายังต้องทำงานแลกเงินเพื่อเลี้ยงชีพ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ชดใช้หนี้สงฆ์ด้วยการ ช่วยงานแล้วมีเวลาปฎิบัติหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

อ้าวววว หมูถามแปลกๆ แสดงว่าไม่เข้าใจ จะยืน เดิน นั่งนอน นี่ปฏิบัติทั้งนั้น
รู้สิ ไม่ใช่เดินทำงานแบบเลื่อนลอย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็มันจะไม่เต็มที่เหมือนมีเวลาทำในรูปแบบ นี่หมูรู้สึกแบบนี้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เพราะหมูไปให้ค่าให้ความหมายกับคำว่า " เต็มรูปแบบ "

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พอดีในระหว่างวันหมูยัง ไม่ค่อยมีสติ พอมาเดินมานั่งมันชัดกว่าน่ะค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

หมูว่าเวลา 2 ชม. นี่พอไหม ไม่พอใช่ไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่พอค่ะพี่ น้อยไป จริงๆควรรู้ตัวตลอด

สุขที่แท้จริง says:

แต่ละคน ความพอใจไม่เท่ากัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ คือถ้าไม่รู้ตัวมันก็กิเลส พอกพูน แล้วเมื่อไร จะหมดทุกข์

สุขที่แท้จริง says:

หมูคาดหวังกับผลมากเกินไป สุดท้าย หมูน่ะจะทุกข์เพราะความคิด พี่ไม่เคยคาดหวังผล
ทำได้แค่ไหน เอาตามความเป้นจริง ผิดทีใครล่ะ ที่ต้องมามีชีวิตแบบนี้
ผดที่เราทั้งนั้น ถูกไหม ฉะนั้น ตอนนี้เรากำลังแก้ที่ต้นเหตุคือ ใจเรา
เรากำลังสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น กว่ามันจะออกอดกออกผลให้กับเรา อย่างน้อยมันต้องใช้เวลา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูก็ยังมีความอยาก กะคาดหวัง อยู่น่ะค่ะ ยังยอมรับอย่างพี่น้ำบอกไม่ได้เลย

สุขที่แท้จริง says:

เห็นแล้ว ความอยากของหมูมันกระเด็นมาเต็มจอตั้งนานแล้ว
หมูรู้สึกทุรนทุรายมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เห็นความอยากของหมูตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เอ หมูพิมพ์อะไรไปน้า พิมพ์ไปว่าเหมือนพี่น้ำบอกเลย
ที่บอกว่าจะรู้สึกเหมือนจะขาดใจ ...อันนั้นเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

จำไม่ได้แล้วค่ะ เพราะอันนั้นพี่ไม่ได้เก็บเอาไว้ พี่จะเอาแต่สภาวะของหมู
หมู ต้องอดทน กิเลสมันกระทบตลอดเวลา รู้สึกยังไงให้รู้แบบนั้น ไม่ต้องไปปฏิเสธ
ยกเว้นอกุศลที่ต้องกำหนด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะ ช่วง 2 วันนี้ สอบตกน่ะค่ะ มีแต่ความเห็นแก่ตัว สร้างเรื่องทั้งนั้นเลย

สุขที่แท้จริง says:

ตกบ้าง ได้บ้าง มันก็แบบนี้แหละค่ะ เราถึงต้องมาเจริญสติกันเพราะเหตุนี้แหละ
ดูมัน แล้วจะชินไปเอง แล้วจะเห็นแต่ความไม่เที่ยงๆ เห็นบ่อยๆจิตมันก็ปล่อยเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ก็ทำไปเรื่อยๆน่ะค่ะ จริงๆ ก็ยังคาดหวัง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังเท่าสมัยก่อน
แต่ก็ยังคาดหวังมาก ในบางอารมณ์ที่พุงขึ้นมา มันอยู่ข้างในเป็นตัวเป็นตนน่ะค่ะ
ก็ดูตัวนี้อยู่ค่ะเวลามันผุดขึ้นมา ก็เห็นเป็นตัวเรา ความคิด เวลาเดิน ก็เป็นตัวเรา เห็นเป็น เกิดเป็นเรา

สุขที่แท้จริง says:

มันจะแบบนั้นแหละค่ะ เดิมๆซ้ำๆ เปลี้ยนตัวมาเล่น จริงๆแล้วกิเลสตัวเดิม
ตราบใที่ยังมีเรา มันก็แบบนี้แหละ แบกเอาไปด้วยก่อน ครูบาฯท่านเปรียบเทียบสภาวะนี้ไว้นะ
อ่านแล้วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ท่านเปรียบเทียบไว้ว่า สภาวะนี้ เหมือนมีซากสุนัขเน่าพันคอเราอยู่ เราอยากจะสลัดทิ้ง
สลัดๆๆๆเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมหลุด เดินไปไหนเท่ากับเอาทรากสุนัขเน่าตัวนี้ติดคอไปด้วย
ตราบใที่ยังมีเรา มันก็แบบนี้แหละ แบกเอาไปด้วยก่อน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่จำไม่ได้ว่าอยู่กะทู้ไหน

สุขที่แท้จริง says:

นี่ท่อนแรก มีที่ไหน พี่ไม่ได้ไปเอามาจากกระทู้ มันอยู่ในหนังสือสอบอารมณื

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จำไม่ได้ว่าอ่านที่ไหนคะ แต่เคยอ่าน แต่ไม่กล้าสนใจมาก เพราะกลัวหลง

สุขที่แท้จริง says:

หมาขี้เรื้อนหรือป่ะที่ว่าเคยอ่านน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อันนี้หมาเน่าเลย ไม่ใช่ขี้เรื้อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ถ้ารับตามตรงแล้ว หมูยังไม่ได้รู้สึกรุนแรง ขนาดนั้น
เหมือนใจมันยังรักกิเลสอยู่ยังสนุกสนานอยู่ ยังไม่เบื่อ ก็เห็นมันแบบนี้
ก็เหนื่อยเหมือนกันที่มันยังเป็นแบบนี้ มันเต็มไปหมดไอ้ตัวพวกนี้

สุขที่แท้จริง says:

เขาเรียกเบื่อๆอยากๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ จะพิมพ์ ก็รู้ว่ามันก็คือความอยาก อีก อยากที่จะ คลายจากิเลส ยิ่งอยากก็ยิ่งอยู่ในอ้อมกอดมัน

สุขที่แท้จริง says:

เอาเถอะหมู สภาวะมันก็แบบนี้แหละ เวลาทุกข์ก็คิดผลักไส เวลาสุขก้วิ่งเข้าหา
หมูนี่ อย่าขาดนะ ทำต่อเนื่องไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แหะๆ ค่ะพี่ เข้าใจค่ะพี่ รู้ละว่าพี่ น้ำจะต้องรู้สึกว่าหมูงมงายอะ

สุขที่แท้จริง says:

เปล่าค่ะ เพียงแต่มองเห็นความอยากของหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ค่ะ เยอะจิงๆ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ก็ดีแล้วค่ะที่รู้มัน ดีกว่าไม่รู้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2010, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 192

เจริญสติ ไม่ต้องมาเป็นขี้ข้าความคิด‏



analai says:

เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ 60/30
ตอนเดินก็วันนี้เห็นความอยากเยอะมากช่วงแรกๆ มันก็เป็นความคิด ไม่พอใจน่ะค่ะ
มาเป็นความคิดเกี่ยวกะการปฎิบัติเหมือนคอยมอง คอยดู แล้วก็ตามมาด้วยความไม่พอใจ
ก็เห็นว่าอืมแต่ก่อน เราจะคอยหาแต่ของดี เวลาเดินจะพยายามหา ว่าเห็นอะไรบ้าง
พอเห็นอะไรแล้วก็ตาโต หรือคิดว่าเห็นก็ดีใจ ก็ดูความรู้สึกอยากเหล่านี้ไปค่ะ

ก็ช่วงแรกๆก็มีความคิดดิบเถือนเป็นภาพขึ้นมหาหลายครั้ง ก็กำนดรู้หนอไป ก็ไม่อยากให้เกิด
พอเกิดก็เศร้าหมองเป็นทุกข์ มันก็เป็นตะกูลปรามาสน่ะค่ะ รับไม่ได้ ไม่อยากบอกพี่น้ำด้วย
ก็ก็หนดรู้หนอๆไป แล้วเดินต่อ

ก็เห็นว่ามันจะวกไปกลัวว่าจะไปคิดภาพดิบเถื่อน หรือ คิดเรื่องไม่ควร พอความกลัวเกิด
ก็เกิดสิ่งเหล่านั้นตามมา แล้วก็เกิดความไม่พอใจตามมา ก็รู้สึกว่าเหมือนมันเป็นการสร้างให้เกิดมาเอง
ก่อนหน้ามันก็ไม่มี พอกลัวทีก็มีมาที แล้วก็ เลยมาดูกายต่อ มันก็ไม่ได้ขึ้นมาอีก

ยกเว้นช่วงท้ายๆเผลอไประลึกขึ้นมาว่าเคยคิดก็กลัวก็ขึ้นอีกก็กนดไปแล้วก็ไม่ขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ก็มีตัวพากษ์ที่มันจะคอยพูดว่าเห็นอย่างนี้ นี้คืออะไรพูดเรื่อยๆ ก็ไม่พอใจเหมือนกัน
มันจะมีความรู้สึกตามมาเสมอ ก็จะไม่สนใจมัน จับที่กายเดิน ก็รู้ที่กายได้ ค่ะแบบยก ก้าว วาง
แต่มันก็ยังพูดอยู่เพียงแต่ไม่ต่อเนื่อง มีมัว แล้วก็หายมัว แล้วก็มัวอีก

มีเวทนาเจ็บเหมือนโดนอะไรแหลมๆตำก็จี๊ดขึ้นมาตามกายขา แขน แล้วก้หายไป มีร้อนวาบแล้วหาย
พอมานั่ง ก็เห็นกายได้ไม่มากมันไปหลับใน แล้วก็มารู้สึกายอีกทีช่วงหลังๆ แล้วก็ไปหลับในคอพับจนจบ

สุขที่แท้จริง says:

ดูหงอยๆ มีไรป่ะคะ

analai says:

อืม มันขี้เกียจ มั้งคะ มันเหนื่อย ก็ช่วงนี้มันจะทุกข์ แบบเห็นแต่จิตมันทุก์และมองหา ความสุชบ่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:

ก็บอกแล้ว ถ้าเหนื่อยอย่าฝืน อย่าไปเสียดายอะไร เอาตามความเป็นจริง ไม่ไหวก็ให้รู้ว่าไม่ไหว
เอาเนื้อๆยีงดีกว่าน้ำๆ แล้วทำให้เหนื่อยไปเปล่าๆน่ะค่ะ รอบต่อไป เดิน 30 นั่ง 15 ค่ะ

พี่น่ะเข้าใจความรู้สึกของปหมูนะ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ อย่าไปเสียดายเวลาอีกนะ มันไปกดดันตัวเองมากไป
เลยทำให้ทุถกข์ไปเปล่าๆ วันไหนร่างกายพร้อม ทำเต็มๆ ถ้าร่างกายหรือจิตใจไม่พร้อม ทำพอประมาณ


analai says:

ได้ค่ะพี่ ใจมันก็ยังอยากอยูน่ะค่ะ คงเหนื่อยเพราะอยาก มันไม่ค่อยยอม

สุขที่แท้จริง says:

พี่เข้าใจค่ะ เห็นแล้วแหละว่าอยากน่ะ ลดวิริยะลง เอาสมาธิช่วย
มันจะได้ลดความอยากลงไปได้ ไปทำต่อเลยค่ะ


analai says:

ค่ะพี่ เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ 30/15
ก็รู้เท้า ใจก็ไปคิด เป็นตัววิพากษ์วิจารณ์ออกความเห็นเรื่องการปฎิบัติ ก็ทุกข์ตามที่มันคิด
ก็พยายามมารู้กาย ไม่สนใจมัน ก้รู้กายได้ แต่ยังไปสนใจมันอยู่ แล้วก็ มีอกุศล
กำหนดรู้หนอไปก่อนขึ้นมาชัดเจน ก็แวบๆ ก็รู้ว่าเป็นอะไรในตอนนนั้น ตอนนี้จำไม่ได้

ก็จริงๆมานะมีตั้งแต่คุยกะพี่น้ำแล้วพี่น้ำบอกอย่าอยาก อย่าคาดหวัง แต่ไม่ได้ขึ้นมาเป้นความล่วงเกิน
แต่มันขึ้นไม่ยอม ตั้งแต่ฟัง แวบๆ

ตอนเดินก็เห็นความอยากเหมือนเดิมก็มีความ ทุกข์เพราะมัน มีการกระทำ ที่จะไปให้พ้นความอยาก
มีคิดอะไรสักอย่างแล้วจิไม่ยอมรับ ปฎิเสธเหมือนไม่อยากให้มันคิดก็ แสดงตัวปฎิเสธปัดทิ้งมีร้อนผ่าว

พอมานั่ง ก็มีรู้กายตอนต้นแล้วก็หลงไปลืมตัว ไปคิดอะไรไม่รู้ แล้วก็มารู้สึกตัวว่าอ้าวหลงไป
แบบนี้สัก 2 ครั้ง ก็จบเวลาค่ะ หมดแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

แบบนี้แหละค่ะ พอเวลาน้อยลงมันก็อึดอัดน้อยลง
ขืนไปเดินมากๆ ฟุ้งตายเลย เหนื่อยกับความคิดของตัวเอง


analai says:

ค่ะพี่ มันก็คิดแล้วก็ทุกข์ เลิกก้ไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ต้องไปพยายามเลิกหรือไปทำอะไรกับมัน รู้ลงไป
ถ้ามันเบื่อ หรือเครียด เอากำหนดช่วย คิดหนอๆๆๆๆจะกดเอาไว้ช่างมัน ดีกว่าเรามานั่งเครียด


analai says:

ค่ะพี่ ก็นำมาใช้หมือนกันค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

พอตัวนี้หาย ตัวใหม่เกิดต่อ

analai says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

มันอยากคิด ให้มันคิด แต่พยายามเอาสติมารู้ที่เท้า

analai says:

มันก็ขาดไปแป๊ปเดียวก้มาใหม่เหมือนเดิม

สุขที่แท้จริง says:

ทำไป อีกหน่อยก็สบายขึ้น ไม่ต้องมาเป็นขี้ข้าความคิด

analai says:

อ้อมีจะขึ้นสบถคำหยาบทั่วไปขึ้นมาก็กำหนดไปค่ะกเลยยังไม่ขึ้นด้วย

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อก่อนน่ะ พี่เองก็ทุกข์มากๆ เพราะความคิด โอ๊ยมันจะคิดอะไรนักหนาก็ไม่รู้
ตอนนั้นไปวัดมหาธาตุ แหมมม พระอาจารย์ท่านรู้หนอน่ะ ท่านมาตอบโต้กับความคิดของพี่
ตอนนั้นเดินจงกรม จำได้ดี


analai says:

เหรอคะ พระอาจารย์ท่านไหนคะพี่ หมูก็เคยไป

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ได้จำชื่อท่านแฮะ แต่จำหน้าได้ พอพี่คิดว่า ... คือ ตอนแรกไม่รู้ว่าท่านรู้หนอน่ะ
พี่คิดแหลกคิดลานเลย พอมันรำคาญตัวเอง ก้คิดนะ เมื่อไหร่จะหยุดคิด
เท้าก็เดินนะ ปากก็ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ใจไปหมดแล่ว


analai says:

ค่ะพี่ ใช่ๆ

สุขที่แท้จริง says:

พระอาจารย์ท่านก็พูดว่า ดับความคิดซะ ตอนแรกพี่ยังไม่สะดุด เพราะคนมันเยอะ พี่ก้คิดอีก
แล้วก็คิด เมื่อไหร่จะหมดเวลาสักที เบื่อมากกกกกกกก


analai says:

แล้วท่านว่าไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

ท่านก็พูดอีก ดับความคิดซะ

analai says:

แล้วพี่น้ำทำไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่ยังไม่สำนึกนะ คิดอีก สุดท้ายบอกตัวเองว่า เซงชิบ+ เมื่อไหร่จะหยุดคิดได้ฟะ
ท่านก็บอกว่า ดับความคิดซะ ทีนี้รู้เลย อ้าวเราเองนี่หว่า


analai says:

แล้วพี่น้ำดับได้ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็นิ่งๆนะทีแรก แล้วมันเริ่มคิดอีก ท่านก็พูดอีก ดับความคิดซะ พี่ตอบในใจเลย โอ๊ยยยย ...
พระอาจารย์ อย่ามาโต้ตอบกับความคิดของนู๋ ถ้าดับมันได้นู๋ดับมันไปนานนนแล้ววค่าาาาาา


analai says:

ท่านว่าไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

ทีนี้ท่านเงียบบ ตอนเลิกปฏิบัติก็เข้าไปขอขมาท่าน
บอกว่าพระอาจารย์ มันหยุดไม่ได้จริงๆค่ะ มันดับไม่ได้ ท่านก้บอกว่า เจริญสติไป ไม้เด็ด


analai says:

พี่น้ำก็เคยเป็นแบบนี้นะเนี่ย โห พี่น้ำก็พูดแบบนี้เนี่ย

สุขที่แท้จริง says:

ใครจะไปรู้ล่ะว่าท่านรู้หนอ

analai says:

ค่ะพี่ เจริญสติไป นี่มันตอบโจทย์หมดเลยเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ตอนหลังเพิ่มระยะเดินจนถึง 6 ระยะ
เมื่อก่อนเดินเป็นซะที่ไหน ไปเดินเป็นที่วัดมหาธาตุนี่แหละ ไปทุกวันอาทิตย์


analai says:

ขยันจัง

สุขที่แท้จริง says:

จุดมุ่งหมายคือ ไปกินข้าววัด กับข้าวอร่อยมากๆขอบอกกก

analai says:

กินแล้วค่ะ อร่อยจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ เขามีพ่อครัว ปลาตะเพียนทอดพี่มากินเป็นที่นี่แหละ

analai says:

แต่บางมื้องด เพราะนั่งแล้วจะหลับ หนูก็ได้กินปลาราดพริกอะไรของเขา

สุขที่แท้จริง says:

พี่นั่งหลับตั้งแต่ต้นสาย จนถึงปลายทาง

analai says:

พี่น้ำก็อดทนมากนะคะ แสวงหาหนทางไม่ท้อถอย

สุขที่แท้จริง says:

ไปมันทุกอาทิตย์นะเมื่อก่อน เสียค่ารถไปกลับไม่กี่บาท ก็ไม่รู้จะหาใครนะ

analai says:

ต้องไปถึงเช้ามากเลยนี่คะ

สุขที่แท้จริง says:

ที่พึ่งไม่มี ก้ต้องพยายามหาเอา พอดีคุณนุ น้องชายคุณกาม ที่พี่เรียกท่านมหาน่ะ

analai says:

ค่ะพี่แต่ก่อนหมูก็เป็นแบบนั้น ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

เขาแนะนำเรื่องวัดมหาธาตุ เขานี่แหละคนสอบอารมณ์พี่ในตอนนั้น เขาบอกว่า เขาดูให้พี่ต่อไม่ได้
ให้ไปหาครูบาฯ ที่วัดนี้ พี่ก็เลยไป ไปแล้วก็ไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

แถมไปเจอพวกดูจิตอีก ขอโทษนะ คำพูดนี่ถอดแบบกันมาเลย ต้มยำน่ะ มันต้องชิมเองถึงจะรู้
ถามใครๆเขาก็บอกว่าของเขารสชาติแบบไหน ตอนนั้นนะหมู แหมมม เมื่อก่อนจิตพี่มันยังหยาบน่ะ
จิตมันคิดนะ ตอบมาได้ อยากตบกระบาลคนพูด


analai says:

โอ้ย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่รู้ก็ตอบว่าไม่รู้ แค่นั้นจบ

analai says:

โอ้ย หยาบ น้อยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละหยาบของพี่ละ แต่ด่านี่ไม่มีนะ มีแต่เมื่อก่อนเคยด่าคนขับรถงี่เง่า

analai says:

ด่าน่ารักจัง งี่เง่า เนี่ย ของหมูดิบเถื่อนเลย

สุขที่แท้จริง says:

เปล่าไม่ได้ด่างี่เง่า ด่าว่า ไอ้ควาย มรึงจะรีบไปตายเหรออออ

analai says:

โอ้ ววววววว

สุขที่แท้จริง says:

เขาไม่ได้ยินหรอกค่ะ เขาปิดกระจกรถ

analai says:

ดีแล้วค่ะ ที่เขาไม่ได้ยิน

สุขที่แท้จริง says:

แต่ด่าแล้วรู้สึกสะใจมั่กๆ จริงๆนะ หยาบคายเห็นไหม เมื่อก่อนน่ะ

analai says:

การเจริญสติ ไม่รู้จะพูดไง คือไอ้กิเลสพวกนี้มันเยอะมาก มันหายได้ ยังไง เยอะจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:

โอ๊ยไวจะตายจิตน่ะ มันเห็นอะไรไม่ถูกใจ เอาละ

analai says:

มันเห็นแต่มันไม่ หมด มันรู้แต่มันไม่เลิกน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ลึกๆน่ะเยอะ อีกหน่อยหมูจะเห็นเจ้าตัวละเอียด
จำไม่ได้นะว่า อ่อ ... นึกออกละว่าทำไมหยุดคิดได้
มันไม่ได้หยุดคิดหรอกหมู ตอนนั้นเดินถึงระยะที่ 6 สติ และสมาธิดีมากๆ


analai says:

ค่ะพี่ แล้วมันก็สนใจกาย มากกว่าความคิดอย่างพี่น้ำบอกใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่นะ พอเดินถึงระยะที่6 ความคิดมันจะแยกออกเป็นส่วนๆ ของใครของมัน

analai says:

ว่าแต่พี่น้ำไปวัดไหมคะ รู้ตารางหรือยังคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไปค่ะ

analai says:

ไป ตั้งกะคืนพรุ่งนี้ใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไปวันอาทิตย์เช้าค่ะ

analai says:

อืมๆ ค่ะพี่ หมูก็จะอัพลงบล็อกเหมือนเดิม

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อกี้เรื่องความคิด พอสติดี สมาธิดี มันจะแยกกันทำงานนะ

analai says:

ค่ะ แบบที่หลายท่านพูด ตอนนั้นพี่น้ำ ตกใจไหมคะ อยู่ๆก็แยก

สุขที่แท้จริง says:

ทำไมต้องตกใจด้วยล่ะคะ

analai says:

ก็จากปนๆ อะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

มันเพียงคิดก็รู้ว่าคิด เท้าที่เดินมันก็รู้ กายเคลื่อนไหวมันก็รู้ ลมหายใจมันก้รู้ มันแยกๆออกจากกัน
ไม่ตกใจนะหมู เพราะสภาวะนี้เกิดกับพี่บ่อย เพียงแต่มันไม่ชัดเท่าครั้งนี้
ต่อมา มันเลยเป้นสภาวะแบบนี้ตลอด แยกออกจากกัน ไม่มาปนกัน


analai says:

อ้อออ แหะๆ เด๋วก้จินตนาการอีก ฮ่วย

สุขที่แท้จริง says:

นั่นสิ ทำไปค่ะ มันจะรู้มันรู้เอง

analai says:

หมูกราบลากก่อนนะคะคืนนี้

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2010, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2009, 09:27
โพสต์: 44


 ข้อมูลส่วนตัว www


โพสได้น่าอ่านจริง ๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 193

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ 60/30 ค่ะ
เดินก็ฟุ้งเรื่องงานค่ะพี่ แต่ก็รู้ว่ากายเดินนะคะ ก็มาคิดว่าที่ผ่านมาเราไม่พอใจและคิดว่า
การเดินที่รู้การเดินจะต้องไม่ฟุ้ง วันนี้ก็เห็นว่าถึงฟุ้งก็รู้นี่ ก็เดินๆไปต่อ แล้วไปคิดๆเรื่องงาน
คือมันจะเกาะเกี่ยวและไปวนเวียนเรื่องนี้ตลอดการเดิน แล้วก็รู้เท้า ยก ก้าว วางไปด้วย
จนจบค่ะ มีร้อนวาบ สักครั้งได้ค่ะ เดินก็มองความทุกข์ เพราะหมูจะทุกข์บ่อยมาก เด๋วทุกข์ใจๆ
ก็ดูมัน บางทีมันก็ขึ้นมาเอง แล้วแวบหายไป แบบที่เรายังไม่เห้นสาเหตุมัน แต่ก็มีที่เห็นแต่ยังไม่ชัด
เกี่ยวกับการมองโลกในแง่ร้าย ว่าคนอื่นจะดูถูก หรือมองเราไม่ได้เรื่อง โง่ ไม่เอาไหน
มันจะทุกข์เพราะความรู้วึกเหล่านี้ขึ้นมาบ่อยๆ

พอมานั่งก็ จิตก็คิดๆอีก แล้วก็รู้อกขยับนิดๆไปด้วย บางทีก็มีหลงไปเหมือนกันแต่ไม่นาน
ก็กลับมารู้อกขยับ + รู้ว่ามันไปคิดด้วยอีก แล้วก็มีเจ็บเหมือนมดกัด 2 ครัง ห่างกันแล้วหายไปที่เท้า
นั่งต่อจนจบเวลาค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกข์เพราะคิด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
มันบางทีไม่ได้เป้นคำพูดเลยค่ะ แล้วก็มี จิตหมองเพราะรู้สึกผิด เสียใจเพราะสติเอาไม่อยู่
ทำกิริยาไม่ดีเลยกะคนอื่น พูดจาไม่ดีเลย และทำในสิ่งไม่ควรทำ คือพูดถึงเพื่อนร่วมงาน
ไม่ได้ว่าตรงๆแต่เป็นการพูดที่เกิดจากอคติ ตอนต้นก็เดินแล้วเลยหมอง มีแค่นี้ค่ะพี่
มันก็มีคิดนะคะ ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวจัง เรียกร้อง ไม่เห็นจะช้วยเหลืออะไรใครรรรรร

สุขที่แท้จริง says:

หมูอ่านบล็อกของพี่ หมูคิดว่าไง ยากมั๊ย กว่าจะเข้าใจในแต่ละสิ่ง
แต่ละอย่าง ยากมั๊ย กว่าจะปล่อยวางแต่ละสภาวะได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คิดว่ายากนะคะ หมูมาอ่านตอนพี่น้ำเจอสภาวะ กะสภาวะถูกกระทบ ก็นานเลย
ของหมูก็คงต้อง พยายามไปจนกว่าจะมีสติมากกว่านี้

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่าง เกิดจากเราทั้งนั้น สร้างเอาไว้ในอดีต ทำไปด้วยความไม่รู้
ถ้าทุกคนรู้ คงไม่มีใครอยากทำไม่ดีหรอกค่ะ เพราะความไม่รู้
เรามาเจริญสติเพื่อจะแก้ที่ต้นเหตุ คือ ใจเรา
เมื่อเรามี สติ สัมปชัญญะมากขึ้น เราจะได้ไม่ทำอะไรที่มันโง่ๆลงไปอีก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูบางทีรู้ทั้งรู้ก็ยังคุมไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:

คุมไม่ได้ ก็กำหนดสิคะ ใช้การกำหนดเข้าช่วยไปก่อน
ไม่ใช่ปล่อยให้มันเลยเถิดไป หมูยิ่งไปครุ่นคิด ยิ่งทุกข์
หมั่นพิจรณาลงไป ว่า นี่นะ เหตุเกิดจากความไม่รู้ทั้งนั้นเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ...ไว้หมูเริ่มใหม่

สุขที่แท้จริง says:

มันก็มีคิดนะคะ ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวจัง
เรียกร้อง ไม่เห็นจะช้วยเหลืออะไรใครรรรรร
........................... เนี่ยหมูก็รู้ไม่ใช่ไม่รู้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็รู้น่ะค่ะ ก็เลยหมอง เห็นวันนี้น่ะค่ะพี่ แต่ก่อนนึกว่าตัวเองดี

สุขที่แท้จริง says:

ไปบีบบังคับมันมาก มันก้ทำให้ทุกข์ ค่อยๆผ่อนปรนไปสิคะ ให้เท่าที่กำลังเราให้ได้
ช่วยเท่าที่กำลังเราช่วยได้ อย่าไปอยากดี หมูกำลังจะติดเจ้าตัวอยากดีนะคะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ ทำไมเป็นแบบนี้ๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ไม่คิดจะเป็นกระต่ายก็ขนฟ

ค่ะพี่ ใช่ค่ะ ตัวอยากดี

สุขที่แท้จริง says:

เพิ่งจะ 6 เดือนเอง จะไปขู่เข็ญอะไรกับจิตมันมากมาย มันหมักหมมกิเลสมากี่ภพกี่ชาติแล้วล่ะ

ถึงไไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:ม่ใช่งูพิษ แต่ก็

ค่ะ ขอบคุณค่ะ อืม แต่ใจหมูก็ทุกข์น้อยลงกว่าแต่ก่อนนะคะพี่น้ำ
ถ้าเป็นแต่ก่อนคิดแบบนี้ ยิ่งทุกข์นอนไม่หลับเลย

สุขที่แท้จริง says:

ลองนึกถึงคนที่ไม่ได้เจริญสติสิ เขามองเห็นทุกข์แบบที่เราเห็นไหม
เขาเห็น แต่แล้วก็ผ่านไป เขาไม่ได้เห็นอย่างที่เราเห็น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ แต่ก่อนเจอกระทบแล้วนอนไม่หลับ
ตอนนี้ก็หมอง และไม่พอใจ แต่ก็เบาลงเยอะค่ะ เยอะจริงๆค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกข์แค่นี้ไม่ตายหรอก ใช้เขาไป เด๋วมันก็หมด
แต่คนที่เขาไม่ได้เจริญสติแบบเรานี่สิ เขาจะต้องทุกข์ไปอีกกี่กัปป์กี่กัลป์ล่ะ
มีคนอีกมากมายที่เขายังแยกแยะถูกผิดตามความเป็นจริงไม่ได้ เอาความคิดของตัวเองทั้งนั้น
ก็เลยทำให้ทำอะไรโง่ๆกันลงไป หมือนที่เรากำลังเจอกับสภาวะนี่ไง เรานี่แหละเคยโง่แบบเขามาก่อน
แต่ตอนนี้เราไม่คิดจะทำโง่ๆแบบนั้นอีกแล้ว เพราะอะไร เพราะเรากลัวการเกิด เกิดแต่ละครั้งมันมีแต่ทุกข์
ให้ร่ำรวยล้นฟ้า เป็นพระราชา ยังไงก็ต้องทุกข์


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จริงๆค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เหมือนที่พี่ถามไง ทุกข์นัก เลิกทำเลยดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องมาทุกข์เวลาปฏิบัติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

วันนี้ก็เลยหมองว่าไปก่อเหตุเพิ่มน่ะค่ะ ไม่อาวววววว

สุขที่แท้จริง says:

เห็นไหม เพราะหมูรู้แล้วไง ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ขืนไม่ทำหมูแย่แน่

สุsays:ขที่แท้จริง

บางทีสติมันไม่ทัน เวลาเกิดการกระทบ ถอยออกมาก่อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ไว้เริ่มต้นใหม่ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

หายใจยาวๆ ตั้งสติ อย่าเอาตัวโง่ออกไป เขาทำโง่ๆนั่นเรื่องของเขา

ถึไม่ใช่กระต่ายขนฟ saysงูพิษ งแต่ก็ไม่คิดจะเป็น:

ยังคิดเลยว่าเด๋วไปทำงาน เดินไปขอโทษ คนที่หมูทำสีน้ำกะน้ำเสียงไม่ดีใส่ดีไหม

สุขที่แท้จริง says:

คือเราในอดีตที่เพราะนั่นเคยไปทำโง่ๆกับเขาเอาไว้ก่อน
ทุกๆการกระทบ มันสะท้อนหมดเลยนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เข้าใจค่ะ แล้วก็กลัวด้วย

สุขที่แท้จริง says:

จริงๆแล้ว อย่างเรื่องหลายๆเรื่อง เราจะทำไม่ดูดำดูดีเลยก็ได้ คือ ไม่สนใจเลยก็ได้
แต่เรายังเป็นคนไง ยังอยู่ร่วมกับสังคม เราไม่ได้อยู่ป่า ตัวคนเดียว ไปทำแบบนั้นไม่ได้
ไม่ต้องไปสนใจว่าจะต้องทำอีกนานแค่ไหน อาจจะตลอดชีวิตของเราเลยก็ได้ ให้ดูกิเลสตัวเอง
กิเลสเรานี่แหละตัวร้าย ที่จะออกไปรบกับข้างนอกอยู่เรื่อย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เฮ้อ ...ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

รบกับตัวเองให้ชนะก่อนเถอะ ข้างนอกน่ะ รบแล้ว เราโง่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไอ้ตัวก่อเหตุ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หมูเห็นความเลวตัวเองเยอะน่ะค่ะ รู้ว่าตัวเองอยู่ในจุดไหน
มันยังแรงอยู่แม้แต่เรื่องเพียงเล็กน้อย หมูก็ต้องพากเพี่ยรไปน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่มีความแตกต่างหรอกหมู เรากำลังขัดเกลากิเลสกัน มันก็แบบนี้แหละ
จะมีมากหรือน้อย ก็อย่างที่บอกไว้ เกิดจากเหตุเราทำไว้ทั้งนั้นเลย ทำไปด้วยความไม่รู้
แล้วไปย้อนแก้ไขไม่ได้ด้วย เลยต้องชดใช้เขาไป ไม่เอาอีกเลยนะ เบื่อมากๆ
เห็นแล้วสังเวช เวลาเห็นคนทำไม่ดีน่ะ มองแล้วเกิดความสังเวช ( เพราะเราเองก็เคยโง่มาก่อน )


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




พหุ ปิ เจ สหิตํ ภาสมาโน

น ตกฺกโร โหติ นโร ปมตฺโต

โคโปว คาโว คณยํ ปเรสํ

น ภาควา สามญฺญสฺส โหติฯ


คนที่ได้แต่ท่องจำตำราได้มาก

แต่มัวประมาท ไม่ปฏิบัติตามคำสอน

ย่อมไม่ได้รับผลที่ควรจะได้จากการบวช

เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคให้คนอื่นเขา


อปฺปมฺปิ เจ สหิตํ ภาสมาโน

ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี

ราคญจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ

สมฺมปฺปชาโน สุวิมุตฺตจิตฺโต

อนุปาทิยาโน อิธ วา หุรํ วา

ส ภาควา สามญฺญสฺส โหติฯ



คนที่ท่องจำตำราได้น้อย แต่ประพฤติตามธรรม

ละราคะ โทสะ โมหะได้

รู้แจ้งเห็นจริง มีจิตหลุดพ้น

ไม่ยึดมั่นทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

เขาย่อมได้รับผลของการบวช.


พหุมฺปิ เจ สหิตํ๒- ภาสมาโน
น ตกฺกโร โหติ นโร ปมตฺโต
โคโปว คาโว คณยํ ปเรสํ
น ภาควา สามญฺญสส โหติ.
อปฺปมฺปิ เจ สหิตํ ภาสมาโน
ธมฺมสฺส โหติ อนุธมฺมจารี
ราคญฺจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ
สมฺมปฺปชาโน สุวิมุตฺตจิตฺโต
อนุปาทิยาโน อิธ วา หุรํ วา
ส ภาควา สามญฺญสฺส โหติ.



“หากว่า นรชนกล่าวพระพุทธพจน์อันมี
ประโยชน์เกื้อกูลแม้มาก (แต่) เป็นผู้ประมาทแล้ว
ไม่ทำ (ตาม) พระพุทธพจน์นั้นไซร้, เขาย่อมไม่
เป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล๓- เหมือนคนเลี้ยงโค
นับโคทั้งหลายของชนเหล่าอื่น ย่อมเป็นผู้ไม่มี
ส่วนแห่งปัญจโครสฉะนั้น, หากว่า นรชนกล่าว
พระพุทธพจน์อันมีประโยชน์เกื้อกูล แม้น้อย
(แต่) เป็นผู้มีปกติประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม
ไซร้, เขาละราคะ โทสะ และโมหะแล้ว รู้ชอบ มี
จิตหลุดพ้นดีแล้ว หมดความยึดถือในโลกนี้หรือ
ในโลกหน้า, เขาย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล”

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 194

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30
วันนีก็เห็นความอยากเยอะค่ะ คืออยากตลอดน่ะค่ะ
ตอนเดินมันรู้เท้า แล้วจิตคิด มีตัวที่วิพากวิจารย์ บางก็เป็นความคิดความเห็น ก็เห็นมันทุกข์
ก็ลงไปสนใจความคิด ก็ยังรู้เท้าอยู่ ก็เห็นความทุกข์ใจ ขมขื่นขึ้นมา ขึ้นมาแล้วก็มีหายไปบ้าง
แล้วก็ไปคิดใหม่อีก ก็มีอารมณ์ไม่พอใจ หรือทุกข์ขึ้นมาอีก ใช้รู้หนอ เวลามัน เริ่มมากขึ้น
แล้วเดินต่อ เด๋วก็มาอีกแล้ว เห็นจิตมันอยากตลอดน่ะค่ะ เด๋วไไม่ชอบ

แล้วก็มีความคิดฉายเป็นภาพการ์ตูนที่เคยชอบอ่านมากตอนเด็ก ฉายตอนที่เราประทับใจหรือติดใจ
ซ้อนมากับการเดินเป็นฉากๆ เราก็รู้เดินด้วยเห็นภาพไปด้วย จนสักพักภาพก็จบ
แล้วก็มีความไม่พอใจ มันก็ไม่ชอบให้หลง ก็แล้วก็ไปคิดเรื่องอื่นอีก แล้วก็ มีจะขึ้นภาพปรามาส
กำหนดรู้หนอไป จะขึ้น 3 ครั้งได้ แล้วก็มีจะคิดปรามาส คิอกุศลอีกสัก 2 ครั้ง ก็กำหนดไปก่อน
กำลังจะไปแล้ว ก็เลยกำหนดก่อน

ก็มีเห็นจิตมันยึดดี คำนวนเหมือนเราทำการค้าน่ะค่ะ
แล้วก็มี เหมือนโดนมดกัดแต่มันไม่ชัด ใจก็ไม่ชอบ รับไม่ค่อยได้ ก็ดูไป แล้วก็อยากเลิกเดิน
หลังๆก็ฟุ้ง พอรู้ตัวก็กลับมาตั้งใจดูกายใหม่ มีช่วงที่ลืมตัวไปด้วย พอรู้ตัวก็ไม่ชอบ แล้วก็ตั้งใจเดินใหม่

พอมานั่งก็รู้กายนั่งไม่จับท้อง แต่รู้ว่ากายนั่งอยู่ จิตไปคิดเหมือนตอนเดิน ก็คิดไป รู้ว่านั่งไป
แล้วจบตอนที่หลงพอดีค่ะ ตอนนั้นลืมตัวไป หมดแล้วค่ะพี่รอบนี้

เสร็จแล้วค่ะ 60/30
ก็รู้เท้าค่ะ เห็นจิตคิดทุกข์ถึงรู้เท้า ตอนนั้นดูไปแล้วถึงรู้เท้าชัดแต่เมื่อจิตคิด มันก็ทุกข์อยู่ดี
มีความอยาก มีความไม่พอใจ มันก็เปลี่ยนไป มันก็มาของมันเรื่อยๆค่ะ กิเลส มากับความคิด

ช่วงต้นจิตหมอง เสียใจ รู้สึกผิดที่วันนี้ทำให้แตงกวาหน้าจ๋อย พูดตำหนิเขาไป
ก็เศร้าและสงสารเขามากตอนเดินมันก็ขึ้นมา แล้วก็ปวดท้องเข้าออกน้ำระหว่างนั้นก็ดูไปด้วย
ออกมาก็เดินต่อก็เริ่มไปฟุ้ง แล้วก็ใช้เดิน 6 จังหวะช่วยก็ช่วยได้

ตอน 1-6 ก็จะเห็นจังหวะว่าจังหวะนี้เป็นกิเลสอะไร อยาก แล้วก็หายไป
จังหวะใหม่ ก็จะไปคิด ความคิดก็ดับไว ขึ้น แล้วก็ หลังๆชักชิน ก็เลยเริ่มฟุ้งใหม่ ก็เริ่มตั้งใจใหม่อีกจนจบ

พอมานั่งก็มีรู้กาย ตั้งใจเอาจิตมารู้ท้องแต่ไม่ชัด รู้แค่ว่ามีการขยับแต่ไม่จับที่การขยับ
รู้นอกๆ แล้วก็มีหลงไป ไปคิด คิดบนเหมือนสมาธิ
หลักๆก็หลงไปกับรู้สึกตัวค่ะ แต่หลงไปนานหน่อย จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

สภาวะ ต้องรู้จักสับเปลี่ยนแบบนี้แหละหมู ทำยังไงก็ได้ ให้กลับมารู้ที่กาย
จะรู้มากหรือน้อย ไม่เป็นไร ขอให้รู้บ้าง รู้บ่อยๆ มันก็จะกลับมารู้ที่กายไวมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ การรู้กาย รู้แล้วก็ยังทุกข์อยู่หรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าถามว่าทุกข์ไหม ทุกอย่าง อยู่ที่เหตุเราทำมาค่ะ แต่การที่กลับมารู้ที่กายได้มากขึ้น
ทำให้เรามีสติ สัมปชัญญะมากขึ้น เมื่อเกิดทุกข์ จิตจะไม่ไปเกาะเกี่ยวนาน
สภาวะทุกสภาวะจะแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นอุเบกขา
พออุเบกขา ก้จะกลับมาทบทวนสภาวะใหม่อีก จะเป็นแบบนี้ตลอดเวลา
แล้วกิเลส จะเบาบางลงไปเรื่อยๆ จิตปล่อยวางมากขึ้น เข้าใจทุกสรรพสิ่งมากขึ้น
จากหยาบๆ ไปหาละเอียด คือ รู้ตามสภาวะน่ะหมู


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่คือปกติ หมูรู้เท้าแล้ว จิตคิดก็จะไม่ทุกข์มาก แต่วันนี้ ไม่สิ 2 วันแล้ว
เท้าก็รู้ จิตมันสะเปะสะปะก็นำความทุกข์มาให้ ไม่ได้มีเรื่องอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มันทุกข์ของมันเอง

สุขที่แท้จริง says:

เพราะสติหมูยังไม่ทันไง หมูนี่ ความอยากรุนแรงมากเลย หมูชอบไปบีบคั้นตัวเองแบบไม่รู้ตัว
หมู กลับไปอ่าน สภาวะของหมูนะ จริงๆแล้ว สภาวะหมูน่ะ ไม่มีอะไรเลย เขาดำเนินไปตามที่จะเป็น
แต่ทุกข์ที่เกิดขึ้น เพราะความคิดของหมูเอง สติ หมูยังไม่ทัน มันเลยเป็นแบบนี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ขอโทษนะคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ดูจากที่หมูถามมาว่า การรู้กาย รู้แล้วก็ยังทุกข์อยู่หรือคะ
ขอโทษทำไมคะ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถามได้ พี่ไม่เคยถืออะไรแบบนั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เหมือนต้องให้พี่น้ำพูดเรื่องเดิมบ่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:

สภาวะมันก็แบบนี้แหละค่ะ พี่เข้าใจนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอบคุณค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ในเมื่อมีคำตอบ หมูเลยไม่ค่อยจำ ในสิ่งที่พูดคุยกัน หมูจะแค่รายงานสภาวะแล้วจบ
แตกต่างกับพี่ พี่ทำด้วยตัวเอง จดบันทึกตลอด มันเลยจำได้เกือบหมด พี่ถึงเข้าใจหมูไง
อีกหน่อยหมูก็จะจำได้เองแหละ ใช้เวลาค่ะ มันก็เรื่องเดิมๆซ้ำๆ กิเลสเรานี่แหละ ไม่ใช่กิเลสใครที่ไหนเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูก็มีจำได้เหมือนกันบางครั้งว่านี่เจอแล้ว แต่จิตมันไม่ได้เหมือนเดิม อันนี้เล่าให้ฟังเฉยๆนะคะ
รู้สึกว่า ถึงจะเจอกะกิเลสแบบเดิม แต่ความรู้สึก ก็ผลกระทบมัน ไม่เหมือนกัน
ก็คงแบบที่พี่น้ำบอกว่า มันจะทดสอบเรา

สุขที่แท้จริง says:

หมู พี่ถามนะ เดินจงกรมน่ะ แต่ละก้าว ที่เดินน่ะ เหมือนเดิมมั๊ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ เหมือนเดิมค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหมคะว่าทำไมถึงบอกว่าเหมือนเดิม พูดแบบไม่ต้องกลัวว่าถูกหรือผิดนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ยกย่างวางเหมือนกัน น่ะค่ะ แต่ถ้าถามว่าจังหวะสั้นยาว เท่ากันไหม ไม่น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เวลาหมูเดิน หมูยืนก่อนที่จะเดิน ถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะพี่น้ำ

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อหมูก้าวเดิน สภาวะเปลี่ยนไป ถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

ขที่แท้จริง says:

เมื่อหมูวางเท้าลง สภาวะเปลี่ยนไปถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกๆย่างก้าว ทุกๆอริยาบท สภาวะเปลี่ยนแปลงตลอดถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วที่เดินผ่านมา เป็นอดีตไปแล้วถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

รู้อยูขณะที่กำลังเดิน เป็นปัจจุบันถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

การจะก้าวไปข้างหน้า เป็นอนาคตถูกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสก็เหมือนกัน กิเลสจะเปลี่ยนแปลงตามสภาวะ มันดูเหมือนเดิมๆ แต่ไม่ได้เดิมๆ
มันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา เพียงแต่หมูยังจับตรงนั้นไม่ได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ยังจับไม่ได้อย่างพี่น้ำบอก รู้แต่มันเหมือนคลื่น

สุขที่แท้จริง says:

เดินจงกรมน่ะ แต่ละก้าว ที่เดินน่ะ เหมือนเดิมมั๊ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ เหมือนเดิมค่ะ ค่ะพี่ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เป็นไรค่ะ เรียนรู้ไป เจริญสติต่อไป แล้วหมู จะได้ทุกคำตอบที่ชัดเจนด้วยตัวเอง
แค่หมูเริ่มแยกแยะ ถูกผิดได้ นี่ก็บุญแล้ววว

ฉะนั้น ถ้าจิตยังชอบไปบีบคั้นจิตตัวเองอีก ก็ให้รู้ไป ว่าโดนอีกแล้ว
ความอยากมันเล่นงานเอา จิตเรามันซับซ้อนน่ะหมู มันซ้อนๆๆๆแล้วก็ซ้อนๆๆๆๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็กำหนดรู้หนอน่ะค่ะเวลาโดนมันเล่น อื้อหือ

สุขที่แท้จริง says:

ต้องเจริญสติเท่านั้นนะ ถึงจะเห็นแบบนี้ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ มันดูยาก

สุขที่แท้จริง says:

พี่ถึงบอกไง พี่เข้าใจหมู เข้าใจคนอื่นๆเพราะอะไร ก็ผ่านมาหมดแล้ว
จะไม่เข้าใจได้ไง เคยเกิดขึ้นกับพี่มาแล้ว แหมๆๆๆ นึกถึงเพลง กว่าจะมาเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูน่ะไม่อยากเชื่อเลย

สุขที่แท้จริง says:

โหๆๆๆ ทุกข์สุดๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ว่าพี่น้ำเคยผ่านจุดนี้มา มันไม่น่าเชื่อเลย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่งั้นพี่จะโพสบ่อยๆหรือ เขา เรา ล้วนไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่แตกต่างกัน
ตรงที่เหตุที่เคยกระทำมากันต่างหาก เขาถึงมีคำพูดว่า ต่างกรรม ต่างวาระ
อะไรที่พี่พอรับได้ก็จะไม่พูด อะไรที่มันเกินไป ก็คงต้องพูด

เหตุน่ะ ขึ้นชื่อว่า อกุศล อย่าไปแตะมันเสียเลยจะดีกว่า ภพชาติไม่จบไม่สิ้น
ไว้คอยอ่าน พี่เขียนเรื่อง ฉันอยากไปนิพพานเพราะอะไร? อ่านแล้วห้ามฮา

เพราะเหตุผลของพี่มันอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านเขา แต่เป็นเหตุผลง่ายๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พี่น้ำบอกว่าไม่อยากทำงานเลี้ยงชีพใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

มันไม่ใช่แค่ตรงนี้นะ พี่ถึงไม่ทุกข์มากแบบหมู เพราะพี่ทำมาไม่ใช่ทำด้วยความอยาก
ต้องบอกว่า เรามีทุกข์คนละแบบดีกว่านะ

ที่พี่ทำ เพราะรู้ว่า ทำแล้ว ชีวิตพี่ดีขึ้น แตกต่างชนิดว่าหน้ามือกับหลังเท้า เรียกว่า
เหมือนตายไปแล้วเกิดใหม่เลยดีกว่า และดีกว่าให้พี่ไปเป็นมหาเศษฐีรวยล้นฟ้ากินไม่รู้จักหมดอีกนะ
ฉะนั้น พี่เลยไม่เคยทุกข์จากการปฏิบัติ หรือจากความคิด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ดีจัง พี่คะ ความอยากเพิ่มขึ้นเพราะอะไร ทำไมคนเรามีไม่เท่ากัน

สุขที่แท้จริง says:

แต่ที่พี่ทุกข์นี่โดนหนักในช่วงหลัง เนื่องจาก สภาวะ เนื่องจากการชดใช้
เหตุไงหมู เหตุที่ละคนกระทำมา หมูทำบุญ สร้างกุศล ด้วยความอยาก

สมมุตินะ หมูไม่ได้ทำเพราะใจอยากที่จะให้ ทำเพราะศรัทธาแต่ทำเพราะเขาบอกต่อๆกันว่า
ทำแล้วจะได้อะไร จะเป็นอะไร นี่แหละความอยาก
มันเลยเหมือนเราได้กุสลด้วย ได้ความอยากแถมมาด้วย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เคยเป็นค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

พี่ไม่มีตรงนี้ หรืออาจจะมีนะ แต่มันคงไม่มีกำลังมากพอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เวลาอยากหมูก้อรู้ไปแบบนี้ก็พอใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูคงสะสมเยอะมาก

สุขที่แท้จริง says:

พี่น่ะมีความอยากเฉพาะเวลาเจอของกินที่ถูกใจ ต้องกำหนด อยากหนอๆๆๆ นี่แหละกิเลสพี่ละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

การที่เรากำหนดอยากหนอนี่ ช่วยลดมันไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

แต่พี่สำทับด้วยรู้หนอนะ ไม่ใช่อยากหนออย่างเดียว มันลดลงนะ
จำกระเป๋าหนังที่พี่เล่าให้ฟังได้ไหม ว่าอยากได้น่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ

ขที่แท้จริง says:

ก็ดูมันทุกวัน ทุกครั้งที่ผ่าน จะควักตังหลายรอบแล้ว ก็อาศัยกำหนด
อยากหนอๆๆๆๆ รู้หนอๆๆๆ สักพักก็เดินผ่านมัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เวลาอยากแล้วไม่รู้ จะเป็นการสะสม แต่ถ้าอยากแล้วรู้จะเป็นการลดมัน ถูกไหมพี่

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ เพราะพอรู้มากขึ้น นั่นคือสติมากขึ้น มันก้จะพิจรณาละ มันจะหาเหตุผลให้กับตัวเองที่จะไม่ต้องซื้อ
มาคิดๆดูแล้ว เออก็จริงนะ กระเป๋าพี่น่ะมีเพียบ เก็บเงินเอาไว้ใช้ในสิ่งที่มีประโยชน์ เอาไว้ไปทำบุญดีกว่า
การกำหนดช่วยได้เยอะนะหมู ไม่งั้นกิเลสมันเพ่นพ่านไปหมด
บางครั้งการรู้ลงไป ถ้าสติไม่ทัน กิเลสมันก็เอาเราไปกินหมด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ หมูสร้างความอยากเยอะมาก ไม่งั้นคงไม่งิ จะลองใช่กำหนดช่วยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ บอกแล้วว่า สามารถพลิกแพลงตามสภาวะได้ตลอดเวลา ทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง
ไม่มีอะไรตายตัวหรอก กิเลสมันมีลูกเล่นเยอะจะตาย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เก่งจิงๆกิเลส

สุขที่แท้จริง says:

มีแต่สตินี่แหละค่ะที่จะทำให้เราอยู่เหนือกิเลสได้ ยิ่งถ้าได้ทั้ง สติและสมาธิด้วย กิเลสเสร็จเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สู้ๆ

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้ว สู้กับกิเลสนี่แหละ ไม่ใช่ไปสู้นอกตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม พระปะแป้งแย็นได้ไหมคะพี่ หมูซื้อของถวายไม่เคยซื้อแป้งกลัวผิดวินัย

สุขที่แท้จริง says:

พระไม่ใช้แป้งค่ะ ยกเว้นเป็นยารักษาผดผื่นคัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ นี่ไปซื้อสบู่เย็นมา แล้วก็พวกมีดโกน พี่น้ำซื้ออะไรถวายหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

รองเท้า พอดีของแอดด้าลดราคา แล้วก็ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เแปรงสีฟัน ของกลิสเตอร์ แอมเวย์น่ะค่ะ
พอดี ท่านพระครูเป็นโรคเหงือก ชุดนี้รักษาหายนะคะ พอดีน้องที่บ้านร่วมทำบุญด้วย
ตกชุดนึงก็พันกว่านิดหน่อยน่ะค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ อนุโมทนาค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

สาธุจ้ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 195


เดิน 60/30

ตอนเดินรู้เท้าเวลามีความคิดรู้แต่ไม่ลงไปยุ่งกะมัน พอเริ่มปรุงมากขึ้นก็หยุดกำหนดรู้หนอ
แล้วเดินต่อ ส่วนใหญ่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนจบ มีมัว มีความ
อยาก รู้ความคิดที่เป็นความอยากแล้วหายไป มีความพอใจเมื่อมันหาย มีตัววิพากษ์วิจาร์ณขึ้นมาเรื่อยๆ
พยายามเกาะที่เท้าเพื่อไม่ลงไปสนใจมัน
นั่งไม่จับกายเคลื่อนไหว แต่รูว่ากายนั่งอยู่แล้วก็เหมือนไปนิ่งอยู่ข้างใน สลับกับรู้ว่ากำลังนั่ง
มีเหมือนมดกัด ขึ้นแลวเบาแล้วขึ้น 1 หน




วันนี้ไม่อยู่ไปวัด น้องเขาเลยบันทึกไว้เอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 196


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ 60/30
รู้เท้าค่ะ แล้วมี อารมณ์กลางอกขึ้นๆลง มันก็คิดความคิดแต่ไม่ลงไปสนใจมัน
ก็เลยเห็นเป็นความรู้สึก ขึ้นๆลงๆ แล้วก็มีความอยากขึ้น แล้วไม่คงที่ 2-3 ครั้งติดกัน แล้วก็หายไป

แล้วก็มี จิตวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่เห็น หรือจะพยายามสอนเรื่อยๆก็รู้โดย ตั้งใจไม่ยุ่งกะมัน
แล้วมันก็เปลี่ยนไป เด๋วก็มาใหม่มาเรื่อยๆ แต่ขาดตอนไม่ต่อเนื่อง

มีจะปรามาส 2-3 ครั้ง ขึ้นเป็นภาพไม่สมควร กำหนดรู้หนอไปแล้ว เกิดความทุกข์ แล้วก็สักพักก็เปลี่ยนไป

พอมานั่ง มีมดกัดหลายครั้ง มีตุ่มด้วยไม่รู้มดจริงหรือเปล่า แล้วก็ไม่จับกายชัดเจน
แต่รู้ว่านั่ง มีเพลินๆ แต่ก็ยังรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ พอจะดูท้องก็ไม่จับท้อง แค่รู้ว่ากำลังนั่ง
แค่นี้ค่ะ จิตปรามาสนี่ 2 - 3 ครั้งนี่รวมตอนนั่งด้วยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สภาวะของหมูก็ไม่มีอะไรนะ ทำต่อไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 197

ข่มขู่กิเลส


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30
เดินรู้เท้า ก็มัวบ้าง ไม่มัวบ้าง ช่วงไหนคิดต่อเนื่องกันก็มัว
ช่วงไหนที่รู้ว่าคิดแล้วดับเป็นเรื่องไปไม่ต่อเนื่องก็ไม่มั่วค่ะ ความอยาก มี แต่ไม่ลงไปคลุก

มีตัววิพากษ์วิจาร์ เวลาดูสภาวะ ทางใจ ตั้งใจจะดูความไม่เที่นง เที่ยง จะดูว่าอารมมันดับยังไง
มันดูไม่สุดก็เป็นตัววิพากวิจารณ์หรือตัวคำพูดแทรกขึ้นมา ก็ปล่อยไป เวลามีความทุกข์ทางใจ
เพราะว่าคอยดูมันอยู่ มันเลยไม่ลงไปคลุก เลยไม่มีตัวไหนขึ้นมา นาน วอบๆแวบๆ และไม่ชัดเจน
แบบจับเป็นตัวตนไม่ได้ เท้าก็รู้อยู่ เท้าชัดตอนกระทบ ตอนยกก็รู้ แต่บางช่วงที่ไปคิดเยอหรือมีตัววิจารณ
ซ้อนกันหลายตัว ก็จะมัวตอนนั่นจะรู้เท้าแบบไม่ลงรายละเอียด มันก็รู้ว่าหลงไป แตยังรู้ว่าเดินอยู่
แล้วก็มัว แล้วก็ออกจากการคิดซ้อนๆกันได้อีก มัวก็น้อยลง แล้วก็ไปเป็นอีกบางครั้งความคิดอกุศล
หรือจะปรามาส กำหนดมัน ยังไม่ขึ้นมา รู้ว่ากำลังจะลงไปมีความคิดอคติก็กำหนดก่อน
แล้วก็มาดูกายต่อ เวทนามีเจ็บเท้า มีร้อนผ่าวที่เท้า

พอมานั่งก็มีไม่จับกายแต่รู้ว่านั่งกะไปหลับใน มีมดกัด แต่ว่ามันไม่มารู้มดกัดชัด มันไปหลับในมากกว่า
ไม่เห็นกายเคลื่อนไหวแต่ไม่หลงไป หรือถึงขนาดลืมตัวไป จบแล้วค่ะพี่

อืมก็มีความพยายามจะดูความไม่เที่ยง แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไร แต่เห็นว่าจบมีสภาวะอะไรแล้ว
จะคิดวิจารขึ้นต่อทำให้เห็นไม่ชัด แต่ก็ไม่ได้เกิดความไม่พอใจ
เพราะดูอยู่ ถ้าไม่พอใจตั้งหลักแล้วก็จะไม่ลงไปทำให้มันกำเริบมากค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ดีแล้วค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ความผูกพันธ์ ของคู่ ที่อยู่กันมาหลายชาตินี่ มันแน่นจิงๆนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

มันเป็นเรื่องที่แปลกนะหมู ถ้าไม่มาปฏิบัติ พี่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้หรอกนะ
พอมาเจอกับตัวเอง ก็อึ้งเหมือนกัน


ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อเห็นพี่บันทึกใน บล็อกแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แต่ไม่ไปทุกข์แบบเมื่อก่อน มันเริ่มอยู่กับสภาวะได้มากขึ้น

ค่ะพี่น้ำ พี่น้ำเห็นทุกข์ขนาดนี้

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เพราะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ยังไงๆมันก็ทุกข์

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พี่คะ ต้องเป็นความรักที่ไม่ธรรมดาเลย ใช่ไหมคะ
หมูเห็นคนรักกันชาตินี้เลย เลิกกันแป๊ปก็ลืมละ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ มันไม่ใช่ความรักแบบมีราคะแบบนั้น มันเป็นความรู้สึกผูกพันน่ะหมู
ไม่ได้รักเขาเพราะอยากได้เขาเป็นของเรา ไม่ได้รักแบบนั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม คงไม่ได้มีแบบนี้กันทุกคน อ่านเรื่องคู่ของหลวงปู่มั่นแล้ว น่าเห็นใจมากนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เห็นใจมากๆ เข้าใจในความรู้สึกของวิญญาณดวงนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ฝ่ายหนึ่งเหนือโลกแล้ว อีกฝ่ายยังผูกพันกะอดีต

สุขที่แท้จริง says:

คำอธิษฐาน กุศลสร้างมาไม่เท่ากัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถึงขนาดไม่ไปเกิดเลย

สุขที่แท้จริง says:

พี่ยังลงไม่จบ หมูอ่านจบ น้ำตาร่วงแน่ๆ ตอนวิญญาณตัดพ้อต่อว่าหลวงปู่มั่น
อ่านแล้วสะเทือนใจ ใจหลวงปู่เองก็คงเมตตามากๆ คนนึงเห็นทางแล้ว อีกคนยังมองไม่เห็น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ป่านนี้ไม่รู้เป้นไง ถ้าเกิดใหม่แล้วก็คงลืมแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ อาจจะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แบบนั้นสบายกว่านะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ลืมดีกว่าค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูก็ว่าแบบนั้น จำได้แล้วทุกข์

สุขที่แท้จริง says:

คนที่จำได้จะรู้สึกเจ็บปวดมากกว่า รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เคยทำไว้กับเขา
ทุกอย่างมันมีเหตุนะ ตอนนี้เราได้มาสร้างเหตุดี ได้มีชีวิตใหม่แล้ว
นับวันเรื่องราวต่างๆในอดีตจะค่อยๆจางหายไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ต้องอดทนไม่สร้างเหตุใหม่เพิ่ม

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ถ้าจะสร้างเหตุใหม่ก็ขอเลือกแต่กุศล

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กุศลก็ต้องระวังไม่ให้ยึดด้วย อีกเนอะคะ ยึดแล้วก็กิเลสเพิ่มอีก ขาดสติไม่ได้เลย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ยึดคืออยาก อยากคือกิเลส ได้ทั้งกุศลและกิเลสเป็นของแถม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข็ดๆๆๆๆๆ ตอนพี่น้ำไม่อยู่ หมูก็หาทาง จัดการความอยากน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำยังไงหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม หมูยังไม่ชัดเจนว่าจะทำไงกะมันก็เลยลอง ไปฟังคำสอนของครูบา ที่ท่านพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เหมือนพี่น้ำและค่ะ แต่ว่าท่านพูดโดนกะสภาวะ ท่านก็บอกเหมือนพี่น้ำว่าให้ดูมัน มันจะทุรนทุรายก็ดูไป
เน้นดูความไม่เที่ยง ทีนี้มันก็ต้องดัดสันดานมัน

ตอนนี้ก็เลยถ้ามันอยาก บรรลุธรรมนักก็บอกมันว่า เออ ห ยาบหน่อยนะคะ
มึงไม่มีวันบรรลุหรอก คือแบบ กิเลส

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ ข่มขู่กิเลส

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือ ตอนนี้แบบความทุกข์ คือสิ่งที่เราต้องจัดการ เหมือนกันว่า การบรรลุธรรมก็คือการพ้นทุกข์
อยากอยู่อย่างนี้มันจะพ้นได้อย่างไง เอาเป็นว่า ทุกข์เฉพาะหน้า จัดการมันให้ได้ก่อนละกัน
คือนี่คือสิ่งที่ใช้ดัดมันน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สิ่งใดชัดเจน จัดการสิ่งนั้น จัดการตัวหยาบ ก็แล้วแต่กุศโลบายค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ คิดว่าเด๋วก็เปลี่ยนอีก ตาม กิเลสมัน

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ มันเปลี่ยนตามสิ่งที่มากระทบตลอดเวลา ถ้าสติยังไม่ทัน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 198-199


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

รอบแรกเสร็จแล้วค่พี่ 30/15
ก็รุ้เท้า มีจิตวุ่นวาย เพราะไปคิด ไม่ได้ลงไปคิดแบบคลุก แต่เหมือนไหลไปคิด แล้ว มันก็วอบแวบ
ความรู้สึกทุกข์ เป็นแบบจับมั่นไม่ได้

แล้วก็ไปรู้สึกอย่างอื่นอีก เท้ารู้ว่ามีการกระทบพื้น แต่ว่าไม่สนใจคือบางจังหวะน่ะค่ะ
เห็นว่าเท้าที่ว่ารู้ มันรู้แบบเราไม่ใส่ใจ แต่เราไปใส่ใจความคิด
แล้วก็เกิดความรู้สึก ไม่พอใจ เล็กๆน้อยๆขึ้นมาแล้วมันก็เปลี่ยนแปลง ระดับของความรู้สึก
มีหลงไปจะคิดปรามาส ตอนที่เราไประลึกถึงครูบา ว่าเรานับถือ แล้วมันจะขึ้นมาปรามาสก็กำหนดก่อน

แล้วดูกายต่อ มีไป ทุกข์แบบเศร้าหรือไม่สบายใจ กับกรรมที่เราทำไปเพรายังสิติไม่ทัน
กรรมไม่ดี ก้อ2-4เรื่อง ก็คิดว่าต้องระวังใหม่ แล้วก็กำหนดรู้หนอละมันไป ตั้งใจดูกายต่อ

มีตัววิพากษ์วิจาร ตัว อยาก ก็แบบระวังไม่ลงไปเอาจริงเอาจังกะมัน มีเวลาที่เราคิดเรื่องการปฎิบัติ
มันเหมือนเรากำลังดูอยู่ กำลังรู้สภาวะอยู่ แต่จริงๆไม่ใช่ มันเป็นการไปคิดแล้วเกิดทุกข์
แล้วเราดันไม่รู้ว่านี่กำลังทุกข์อยู่ ไปคิดว่ากำลังดู ก็พอรู้แล้วก็เปลี่ยนสภาวะไป อีก ไปปรุง แบบอื่นๆ
ตามภาษามัน ก็มีบางช่วงทีเรารู้เท้า แล้วเห็นว่าจิตมันไปคิด ปรุงของมันเอง แบบเก็บเรื่องระหว่างวัน
มาวอบๆแวบ ๆเป็นภาพ แล้วเปลี่ยนไวมากๆ เหมือนมันทำงานเอง
โดยที่เรายังไม่ได้เข้าไปขยายความภาพเหล่านั้นให้เป้นความคิดขึ้นมา แต่เรารู้ว่ามันคือเรื่องเกี่ยวกะอะไร
แล้วก็เปลี่ยนสภาวะไปปรุงเรื่องอื่นอีก ก็รู้เท้าไปคู่กันด้วยแต่มีรู้แบบสนใจ กะไม่สนใจ

แล้วพอมานั่งก็มีรู้กายได้บ้างแต่ส่วนใหญ่จะไปคิด แล้วกึ่งมันไปหลงไม่สนใจกาย
แต่ก็คือไม่ได้หลงถึงขนาดหลับน่ะค่ะ แล้วก็ไม่ได้ถึงขนดเข้าไปในความคิดเพลินๆน่ะค่ะจบแล้วค่ะ

มีช่วงที่มันกำลังหลงตอนนั่ง แล้วโดนสภาวะมดกัดเจ็บมาก
กระชากหลุดออกมา แค่นี้น่ะค่ะ เมื่อกี้ลืมบอก

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ของเมื่อวานนะคะพี่
3 มีนาคม 23 ถึงห้องดึกมากเพราะออกจากที่ทำงาน 5 ทุ่มกว่า เลยทำแค่ 40/20 รอบเดียว
เริ่มทำตอนเที่ยงคืนถึงตี 1 กว่า

เดินรู้เท้า ความรู้สึกเจ็บหรือบีบคั้นที่จิตมาและแปรเปลี่ยนไปตามความคิดหรือแรงกระทำของจิต
มันไม่ได้ไปแช่ที่ความรู้สึกใดรู้สึกหนึ่งนาน

มีการมองดูความรุ้สึกโดยความรู้สึกที่เป็นทุกข์นั้นมันไม่เข้าไปเดือดร้อนถึงข้างในใจ
มีคิดไม่ดีกำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง แล้วก็กังวล ไปกำหนดซ้ำอีก 3 ครั้ง (ไม่เล่าเรื่องนี้ให้พี่น้ำฟัง)

แล้วมาสนใจกายต่อ การรู้เท้ารู้ได้จิตก็คิดฟุ้งโน่นนี่มีมัวๆ มีคิดถึงคนที่เคยมีปัญหา
ก็มันรื้อขึ้นมาถึงการกระทำเขาในอดีตที่ทำไม่ดีมากๆกะเราแล้วก็เกิดความโกรธ
จากนั้นก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง แล้วปล่อยไป พอนั่งก็มีหลงไปหลับในกับคิดๆ ไม่ค่อยรู้สึกถึงกาย
จำไม่ค่อยได้ .... หมดแล้วค่ะ หมูไปทำต่อละค่ะ เด๋วมาส่งใหม่


เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/20 ค่ะ
รอบนี้ก็จะฟุ้งเยอะขึ้น การรู้เท้ายังรู้ได้อยู่ แต่มันไม่ค่อยเปนสมาธิและ ในจิตก็วุ่นวาย
มีความกังวล ถึงอนาคต สงสารน้อง สักพักตั้งแต่ตอนต้นก็ดูไป แล้วก็ความกังวลนั้นคล่อยๆ
มันคล้อยเปลี่ยนสภาพไปเป็นคิดเรื่องอื่น ไปสนใจเรื่องอื่นแทน มีมัว มีเหมืนมดกัด เห็นขึ้นลง
แล้วก็ฟุ้งๆ มีตัววิพากษ์วิจารณ์+ กับตัวออกความเห็น แล้วไปสนใจมัน
ทำไใเกิดความทุกข์เป็นตัวหนักๆขึ้นมา ลงไปคลุกมากขึ้น ก็สักพักก็เปลี่ยน
แล้วก็ฟุ้งๆ แต่ก็ยังรู้ว่าเดินอยู่ จนจบ รู้เท้าน่ะค่ะ

แล้วพอมานั่ง ก็มีรู้กายได้ มีไปคิดหลงไปคิด ไม่มาจับกาย แต่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
แล้วก็สลับกันค่ะ กับไปเพลินคิด กับรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
ตอนจบ กำลังหลงไปคิดพอดี ลอยไป จบแล้วค่ะ อ้อมีอกุศลด้วย กำหนดไปค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ยังดีรู้เท้าได้ เวลานั่งก็ยังกลับมารู้กายได้ สงสัยอะไรถามได้นะคะ ทำไปแบบนี้แหละหมู
ทำไปเรื่อยๆ อย่าคาดหวัง ดูตามความเป็นจริง ยอมรับตามความเป็นจริง

ตั้งสติไม่ทัน ให้อาศัยการกำหนดเข้าช่วย ไม่ต้องไปเกร็ง ไปเครียดว่าจะเป็นการแทรกแซงสภาวะหรือไม่
สภาวะเขาจะได้ขับเคลื่อนไปอย่างต่เนื่อง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนนี้ดีขึ้น หมายถึง ความคาดหวัง รู้สึกว่าไม่ไปคาดหวังเท่าแต่ก่อน

สุขที่แท้จริง says:

มันแบบนี้แหละ ดีมั่ง ไม่ดีมั่ง มันไม่เที่ยง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เอาทุกข์เฉพาะหน้าก่อน

สุขที่แท้จริง says:

ก็หมูเริ่มเห็นตามความเป็นจริงมากขึ้นน่ะ ทำอะไรลงไป ผลกระทบส่งมาทันที
มีหรือเรื่องคาดหวังจะไม่เบาบางลงไป ก็มันเห็นผลแล้วนี่ ว่ามีจริงๆ
พอเห็นผล ความอยากเลยมีขึ้นมาเป็นเงาตามตัว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

ที่แท้สุขจริง says:

เป็นเรื่องปกติน่ะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ความอยาก ความกลัว

สุขที่แท้จริง says:

กำหนดมันไป ถ้าสติไม่ทัน
มันอยากจนน้ำลายไหลยืด สักวันสติมันทัน ความอยากก็เบาบางลงไปเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ตอนนี้ไม่ได้เห็นเหมือนตอนนั้น แล้วค่ะ เรื่องที่ความคิดโดนย้อน
แต่เป็นตอนเดินแล้วมันไปรื้อว่าบกพร่องอะไร แล้วมันอาย

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ จิตมันพิจรณาของมันเอง มันจะเพ่งโทษแต่ตัวเองมากขึ้น เพ่งโทษนอกตัวน้อยลง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2010, 00:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 200

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/20
ก็รู้เท้า ฟุ้ง อารมณ์เจ็บ เกิดขึ้นที่อก ตามความคิดมากมายที่สะเปะสะปะ และก้มัวๆ
ก็มีความไม่พอใจ แบบไม่ได้แช่อยู่นานๆแวบๆวอบๆ มาเรื่อยๆ

พอไปนั่งก็มีรู้ว่านั่ง กะหลงไป คอพับไม่มาที่กาย หลังๆก็ค่อยมาณุ้ว่านั่งอยู่ได้ก็หมดเวลาค่ะ
จบแล้วค่ะ วันนี้แค่รอบเดียวค่ะพี่ มันเหนื่อยๆอะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

งานยุ่งหรอคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ช่วงนี้งานยุ่งน่ะค่ะ สอนติดๆกันทุกวัน สภาวะเลยแบบนี้

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เป็นไรค่ะ มันก็แค่สภาวะ บอกแล้วว่าอย่าไปคาดหวัง แต่ขอให้ทำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าค่ะ ไม่ได้อะไรมันหรอกค่ะ แบบรู้ตัว ว่ามันเป็นเพราะเหนื่อยเลยไม่ค่อยรู้กายตอนนั่งนะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

สภาวะเลยแบบนี้ ..... ก็หมูบอกมาแบบนี้ พี่ถึงได้พูดว่า บอกแล้วว่าอย่าไปคาดหวัง แต่ขอให้ทำ
เอานะ รู้ว่าเหนื่อย ยังดีที่ได้ทำน่ะค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็พยายามทำทุกวันน่ะค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร