สวัสดีค่ะพี่

น้ำนำตารางที่ทางวัดตาลเอนจัดเข้าปฏิบัติธรรมมาให้ค่ะ พี่จะไปกี่วันก็ได้ค่ะ ขอให้ไปตรงรอบที่เขาจัด ถ้าไปไม่ตรงรอบจะลำบากเรื่องอาหารการรับประทานค่ะ เพราะไม่มีแม่ครัวประจำวัด เราต้องรออาหารจากที่พระบิณฑบาตรมาค่ะ

รุ่นที่ ๑ วันที่ ๕ เมษายน-๑๒ เมษายน ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๒ วันที่ ๓ พฤษภาคม-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๓ วันที่ ๗ มิถุนายน-๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๔ วันที่ ๕ กรกฎาคม-๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๕ วันที่ ๒ สิงหาคม-๙ สิงหาคม ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๖ วันที่ ๖ กันยายน-๑๓ กันยายน ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๗ วันที่ ๓ ตุลาคม-๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๘ วันที่ ๒ พฤศจิกายน-๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

รุ่นที่ ๙ วันที่ ๕ ธันวาคม-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๒

ที่นั่น ช่วงเวลาที่มีรอบอบรม จะมีชาวบ้านมารับจ้างนำเสื้อผ้าเราไปซักให้ ชุดหนึ่งแล้วแต่จะตกลงราคากัน น้ำจำไม่ได้ค่ะว่าตกชุดละเท่าไหร่

หลังเลิกปฏิบัติ จะมีการสอบอารมณ์ทุกคืน เวลานอนถ้าคนไม่เยอะ จะนอนกลดค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงอบรมนี่คนเยอะมากๆ จะนอนมุ้งหลังใหญ่มากๆ นอนรวมกันค่ะ

เรื่องอาหาร ส่วนมากอาหารจะเป็นมังสวิรัติค่ะ อร่อยมากๆ

ตอนเย็นจะมีน้ำปานะ กลางคืนหลังสอบอารมณ์เสร็จ จะมีน้ำปานะแจกคนละกล่องสองกล่อง แล้วแต่เราจะทานค่ะ

พระอาจารย์ใจดีทุกท่านเลยค่ะ เวลาสอบอารมณ์ เขาจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ สงสัยอะไร ติดขัดตรงไหน ถามได้ค่ะ

วันกลับ ถ้าใครอยู่ปฏิบัติ 3 วันขึ้นไป จะได้รับใบอนุโมทนา และรับหนังสือแจกเป็นธรรมทาน เยอะมากๆค่ะ บางทีมีของขวัญจากพระอาจารย์จิรยุทธ์ แจกให้อีกต่างหาก เตรียมถุงไปด้วยนะคะ น้ำน่ะหอบมาแล้ว ถุงก็ไม่มีใส่ เพราะน้องเขาไม่ได้บอก ดีที่ว่าคนจัดเตรียมเขามัดเป็นแพ็คๆให้เลย

ถ้าต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พี่สามารถโทรฯติดต่อบุคคลเหล่านี้ได้เลยค่ะ

คุณวิภาวรรณ ( คุณนก ) 081-513-5221 คุณมาณพ ( ณพ ) 086-353-6267

คุณเลิศเกียรติ ( หน่อย ) 086-617-8438 คุณพรรณพัชรา ( ข้าวเม่า ) 081-044-1250

ส่วนมากเวลาน้ำจะติดต่อ จะติดต่อคุณนกโดยตรงค่ะ พี่โทรฯหาคุณนกได้นะคะ เขาจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ ใจดีมากๆค่ะ

ขอบคุณนะคะคุณน้ำ พี่บอกปุ๊บ จัดให้เลย จริงๆค่ะ
แล้วแบบ 3 วันพอมีไม๊คะ รบกวนอีกรอบนะคะ ที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนะคะ เพราะพี่จะไปเอง
เดี๋ยวแอบหนีกลับ ถ้าเอารถไป เพราะเป็นศิลปินเดี่ยว พูดถึงศิลปินนึกถึง K.กรัชกรายนะคะ
ถ้าผ่านมาอ่านขอ ปฏิหารย์ ของกุ้ง สักรอบนะคะ

หา ปาฏิหาริย์ กุ้ง ไม่พบนะขอรับ
ใช้ปาฏิหาริย์ กบ แทนแล้วแถมปาฏิหาริย์ นิว+จิ๋ว ให้

http://www.chaytalay.com/board.bak/data/2/0013-1.html

ปาฏิหาริย์ นิว+จิ๋ว

http://www.daraoke.com/song-%E0%B9%80%E ... 0600080904

สวัสดีค่ะพี่วรรณ

3 วันใกล้ๆกรุงเทพ มีวัดป่าเจริญราษฏร์ อยู่แถวรังสิต ธัญญัรักษ์ คลอง 11 ถ้าจำไม่ผิดนะคะ เดี๋ยวน้ำไปนำข้อมูลมาให้พี่ใหม่ค่ะ ที่อยู่ของวัดอยู่ที่ทำงานน้ำ มีอยู่ในหนังสือ ทางวัดให้มาค่ะ

น้ำเคยไปที่วัดนี้ครั้งเดียว อื่มมม ... พอดีช่วงนั้นที่ไป บังเอิญไปตรงกับงานกวนข้าวทิพย์ ก็เลยไม่มีข้อมูลอะไรมาก ทราบแต่ว่า ถ้าไปไม่ตรงรอบที่ทางวัดจัด อาหารจะทานจากที่พระบิณฑบาตร ที่พักก็พักรวม ห้องน้ำต้องเดินออกมานอกที่พัก ห้องน้ำน้อยมาก มีอยู่เพียง 7 ห้อง แต่สถานที่เงียบสงบมากๆค่ะ ห่างจากถนนใหญ่หลายกิโล ต้องคนที่อยู่ง่าย ทานง่าย จึงจะอยู่ที่วัดนี้ได้ค่ะ น้ำประเมิณจากสภาพของทางวัดน่ะค่ะ ครั้งนั้นที่ไปเพราะน้องเขาแนะนำมาค่ะ

อีกที่คือวัดมหาธาตุ คณะ ๕ ที่นี่น้ำจะไปบ่อยที่สุดค่ะ ไปกี่วันก็ได้ ไปเช้า เย็นกลับก็ได้ ปฏิบัติ 3 รอบ มีการสอบอารมณ์ทุกรอบ กลางคืนหลังจากสอบอารมณ์จะเลิกประมาณ 3 ทุ่ม ถ้าต้องการเก็บวาจา แบบว่าอยู่ห้องแยก ทางวัดก็มีให้ค่ะ พักที่คณะ ๕ เลยค่ะ ที่นี่จะไม่มีกฏระเบียบเคร่งครัดมากมาย อยู่แบบสบายๆน่ะค่ะ

น้ำเองไม่รู้จะแนะนำวัดอื่นๆยังไง ไม่ค่อยได้ไปหลากหลายวัดแบบคนอื่นๆเขา ปกติแล้ว เมื่อก่อนวัดที่ไปประจำคือ วัดหลวงพ่อจรัญ ต่อมาก็วัดตาลเอน บางปะหัน แต่ปัจจุบันนี้จะไปอยู่วัดเดียว คือ วัดนาคบางปะหัน อยุธยาค่ะ วัดแต่ละวัดตรงนี้ เป็นการต่อยอดทางปฏิบัติของน้ำ ส่วนที่พิษณุโลกที่เล่าให้พี่ฟังนั้น ต้องหยุดอย่างน้อย 4 วันถึงจะไปได้ นี่ก็ไปเป็นครั้งแรก กลับมาก็อย่างที่บอกแหละค่ะ คงได้เจอกับพี่อีกครั้งก็หลังสงกรานต์ ตามที่นัดไว้กับพี่

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะที่พาน้ำไปทานอาหาร ไม่ทราบว่าอาหารเขาทำอร่อยหรือเพราะได้คุยกับพี่ก็ไม่ทราบ แบบว่าพี่เป็นคนคุยสบายๆ น่ารักมากๆค่ะ วันนั้นก็ไม่คิดว่า น้ำจะทานได้เยอะขนาดนั้น คุยไป ทานไป อาหารจานใหญ่ๆตรงหน้า ไม่ทราบว่าหมดเกลี้ยงไปได้ยังไง

สงสัยถ้าไปกับหนุ่ม คงเลิกคบกับน้ำแน่ๆเลย ถ้าเห็นน้ำทานได้ขนาดนั้น ตัวนิดเดียว แต่ท้องยุ้งพุงกระสอบ

ท่าน จขกท


ถ้าสนใจ การปฏิบัติแบบพระป่า ที่ถอดรูปแบบการปฏิบัติมาจากพระพุทธพจน์ดั้งเดิม

ลองแวะไปที่

วัดนาป่าพง

http://www.watnapahpong.org/index.aspx

ขอบคุณนะคะคุณตรงประเด็น ที่แนะนำ อยากลองไปคะ เพราะยังไม่เคยแนวนี้ และใช้เวลาสั้นๆ
ถ้าได้ผลคืบหน้ายังไงแล้วจะส่งข่าวให้ทราบนะคะ

อ่านกระทู้แล้วรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นเหมือนกัน "เครียดแล้วทำให้ขาดสติ" เหมือนจะเป็นนิสัยเลยหล่ะค่ะ พอทำไปแล้วรู้สึกว่าผิดที่คิดแบบนั้น "คิด" ไม่ได้แสดงออกทางกายค่ะ ไม่ได้ขว้างปาสิ่งของ แต่จะคิด คิดมาก คิดจนเกินเหตุ พอคิดแล้วอยากจะทำโน้นทำนี่ พอทำผิดแล้วกลับมาคิดมันก็สายเกินไป ทำอย่างไรดีค่ะ สามารถข่มใจตัวเองได้ ยั้งคิด ยั้งทำ ไม่คิดมาก ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณshimai

ได้รับข้อความที่คุณส่งไปให้จากทางเว็บบอร์ดแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีเอมไหมคะ หรือเมล์ก็ได้ค่ะ

ส่งมาที่นี่นะคะ noy_walai@hotmail.com ค่ะ

หรือจะให้สนทนากันที่กระทู้นี้คะ

ทุกอย่างต้องใช้เวลา และต้องฝึกเจริญสติปัฏฐาน 4 ร่วมด้วยค่ะ

ขอฝากไว้สัก1ลิงค์ครับ
http://club.truelife.com/club/club_contentdetails.php?club_id=701&contentfolder_id=130109&content_id=1880903

ค่ะขอบคุณมากนะค่ะ แอดเมลล์ไว้แล้วค่ะ shimai_n@hotmai.com

อย่างกับไม่เคยเครียดกัน

อยู่ที่ความคิด

ผมเป็นหนักกว่าน้องชายพี่อีกนาครับ

ตอนนี้ใจทึบจนมองหาสติไม่เจอเลย

โรคเครียด ที่รู้ๆอยู่ ว่าเกิดจากตอกย้ำ รู้ คิด อยู่ ไม่แล้วๆไป ไม่คลายยิ่งไปหาวิธี แก้ซ้อนมันก็ยิ่ง วก วน
ที่สะลายแก้คือตัวตน ตัวเรา ที่ตั้ง ไปต้อง อะไรกับอะไร ต้นเหตุ เป็น ตั้ง เป็นต้อง ซ้อนกายธาตุจิต
เนื้อหาไม่สร้างเหตุ มีแต่ให้ปลง ปลงใจ จะ ก็ไม่จะ ต้อง ก็ไม่ต้อง ไม่อะไรกับอะไร แล้วๆไป ทุกสิ่งอย่างผ่านมาผ่านไป แล้วๆไปทุกเรื่อง ไม่ตอกย้ำหมายคิดหมาย ทุกสิ่งอย่างเดิมแท้ไม่ได้มีความอยู่เองแล้ว วางอยู่เองแล้ว ดับของมันเองอยู่แล้ว รู้วิธีผ่อน เปรียบขับรถที่หยียบคันเร่งแล้ว รู้จักผ่อน จักเบรค ไม่อิน ไม่อะไรกับอะไร แล้วๆไป นีละผ่อน คลี่คลาย จะเรียบง่ายไป

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/


ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

ปัญหาของคนส่วนมากมีอยู่ ๕ ประการ คือ

๑. ครอบครัวไม่มีความสุข ทะเลาะกันตลอด มีมากเป็นอันดับหนึ่งของคนที่มาวัดอัมพวัน ครอบครัวไม่มีความสุขทะเลาะกันตลอด มีความรู้เป็นดอกเตอร์ด้วยกันแท้ ๆ ก็ยังทะเลาะกัน บางทีได้กันแค่ปีเดียวก็ทะเลาะกันแล้ว เพราะขาดธรรมะ ขาดคุณภาพ ไร้คุณธรรม เหมือนยาเภสัชหมดอายุแล้วกินก็ไม่หายโรค ยังขืนไปกินอีกเหมือนคนขาดคุณภาพไร้คุณธรรม ดีไม่ได้เลย มีลูกก็เสียหมด เอาดีไม่ได้ ถ้าท่านทั้งหลายมีธรรมะ สวดมนต์ไหว้พระ เจริญกรรมฐาน ท่านจะไม่ทะเลาะกันให้เสียสมอง เสียอารมณ์ แล้วเสียไปถึงหน้าที่การงาน ถ้าอารมณ์ดีมีปัญญาท่านจะแก้ปัญหาได้ทุกทิศทุกทาง

๒. แก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ ผิดหวังในชีวิต ขาดธรรมะประจำจิต กลายเป็นโรคทันสมัยโรคประสาทกันมากมาย ไม่มีสติปัญญาที่จะแก้ปัญหา ก็กลายเป็นโรคประสาท โรคเครียด ธุรกิจก็เสีย ทำนาก็เสีย ค้าขายก็เสีย รับราชการก็ไม่ได้ตำแหน่ง เพราะแก้ไขปัญหาชีวิตไม่ได้

๓. ลูกไม่เรียนหนังสือ พ่อแม่เป็นจำนวนมากร้องไห้มาที่วัดอัมพวัน เพราะตามใจลูกจนลูกไม่อยากเรียนหนังสือ ไปติดเพื่อนอันธพาล ความผูกพันกับพ่อแม่ไม่มี ลูกก็เลยต้องไปติดเพื่อน ไปรักเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ทุกวันนี้ไม่มีเวลาให้ลูกเลย เพราะยากจนต้องไปทำมาหากิน สามีไปทางหนึ่ง ภรรยาก็ไปทางหนึ่ง ในเมื่อต่างคนต่างไปก็เกิดปัญหา ลูกก็เลยไม่มีความผูกพันกับพ่อแม่ กินข้าวก็คนละหม้อ อยู่กันคนละทิศคนละทาง ลูกก็เลยเลเพลาดพาดไปคบเพื่อนอันธพาล

เพราะฉะนั้น
คำทรงสอนของพระพุทธเจ้านั้นถ้าพิจารณาในแง่การประพฤติปฏิบัติของคนเราแล้ว อาจแบ่งได้เป็น ๔ ประการคือ

๑. สอนธรรมชาติ

๒. สอนเหตุ – สอนผล สอนอดีต ปัจจุบัน อนาคต

อดีตนั้นเป็นเหมือนความฝัน อย่าเอามาระลึก ปัจจุบันเป็นความจริง รีบทำงานให้มันเสร็จไปได้ไหมในปัจจุบัน อย่าไประลึกถึงอดีตที่ผ่านมา ไม่เกิดประโยชน์ อนาคตไม่แน่นอน อย่าจับมั่นคั้นให้ตาย ผิดหวังจะเสียใจตลอดชีวิต ไปไหนปากอย่าไว ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่ามารื้อฟื้น เรื่องอื่นอย่าไปคิด กิจที่ชอบ ทำไมไม่ทำ

๓. สอนเน้นกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

คนดีเหมือนผึ้งบินสูง คนเลวคนชั่วเหมือนแมลงหวี่แมลงวัน ชอบบินต่ำ ๆ ชอบของเหม็น ชอบของชั่ว ผึ้งนี้มันบินสูงมาก มันกินน้ำต้อย*--น้ำต้อยคือน้ำหวานที่หล่ออยู่ในดอกไม้ เกิดจากต่อมน้ำหวาน ซึ่งมักปรากฏอยู่ที่โคนของกลีบดอก(จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒)ของดอกไม้ แต่แมลงหวี่แมลงวันบินต่ำ ท่านจะเป็นแมลงผึ้งหรือแมลงวันดีก็เลือกเอาเอง

๔. สอนให้ฝืนใจ คนเราถ้าฝืนใจไม่ได้ ดีไม่ได้

ในบรรดา 4 ข้อนี้ ถ้ามีอย่างน้อย2 ข้อ ก้พอจะสามารถแก้ไขโรคเครียดได้ เครียดเพราะคิดมากเกินไป
คิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ธุระของตัวเอง หรือคิดมากจนปวดหัว หรือเอาความไม่สมหวังในเรื่องต่างๆมาคิด
จนหนักสมอง สมองไม่ได้พัก ก็เลยนอนไม่หลับ ตอนนี้เรียกว่า "จิตตก" สำคัญคือต้องมีเวลาว่างไว้ผ่อนคลายหรือทำให้จิตใจเบิกบานสนุกสนาน หรือมีกัลยาณมิตรที่ดีแนะนำและเป็นกำลังใจให้ ก้จะสามารถแก้ไขปัญหาจากโรคที่ว่า ถ้าเป็นมากต้องขอยาหมอมากินเพื่อควบคุมตัวเองให้ได้ แต่ทำแบบแรกจะดีกว่า

แต่ถึงยังไงๆๆ โรคเครียดคนส่วนใหญ่ชอบเป็นกันหรือโรคทันสมัยนั่นแหละ