วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 15:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 07:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่หรอกครับ...
โกรธ..ไม่โกรธ..ชอบ..ไม่ชอบ

ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาการทางกาย..เลย

แต่ที่เรารู้โกรธ..รู้ชอบ..เพราะสติ..ครับ

ของมันมี..แต่สติไม่ค่อยมี..ก็ไม่ค่อยรู้เท่าไร..ว่าโกรธว่าชอบ..ปล่อยให้ตัวทำตามใจของกิเลสไป

ครั้นพอเริ่มมีสติ..กะเขาบ้าง..ของที่มีอยู่แล้วก็เริ่มรู้ว่ามี..มากขึ้นตามกำลังสติ

ทีนี้..ก็รู้สึกว่า..ของที่เกิดเมื่อกี่..ดีหรือไม่ดี..ควรหรือไม่ควร..เพราะสัมปชัญญะ..ครับ

ดี.....ก็ทำต่อ
ไม่ดี..ก็หยุดทำ

ปัญหาคือ..รู้สึกไม่ดี..แล้วจะหยุดการกระทำไม่ให้ดำเนินต่อได้อย่างไร?..ที่หยุดไม่ได้ก็เพราะกำลังสัมปชัญญะไม่พอ..รถบรรทุก10ล้อ..หนัก ๆ..จะหยุดด้วยเบรกของรถปิกอัพ..มันจะหยุดได้หรือ?

บางพวกบางกลุ่มอาจจะมีความเห็นว่า..เมื่อมันรู้แล้วมันก็จะหยุดเอง..ไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง..อันนี้ถ้ามันหยุดได้จริงก็สาธุ...ในชั้นนี้..ยังงัยก็ได้..ขอให้หยุดได้ก่อนเถอะ

การจะหยุด..การกระทำที่ไม่ดีไม่ควร..ได้นี้มันก็มีเหตุมีปัจจัย..มีมรรค์คือทางของมัน..ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ ..ทุกๆอย่างมันมีเหตุ..จึงจะมีผล..

มรรค์ของการทำดีหยุดทำชั่ว..ก็..มีทาน..มีศีล..มีภาวนา

มีทาน..คือมีใจพร้อมในการเสียสละเสมอ..สละทรัพย์..สละเวลา..สละความสบายส่วนตัว
มีศีล..คือมีใจรักษาศีลตลอด..เห็นคุณค่าของศีล
มีภาวนา..คือมีใจระลึกถึงความไม่เที่ยงเสมอ..มีของ..เดี่ยวของก็พังไม่พังด้วยเหตุนี้ก็ต้องพังด้วยเหตุโน้น..มีตัว..เดี่ยวตัวก็ตาย..ไม่ตายด้วยเหตุนี้ก็ตายด้วยเหตุโน้น..จะหาสิ่งใดได้ดั่งใจกิเลสนี้ไม่มี

เมื่อใดที่..ทาน..ศีล..ภาวนา..เราทำบ่อย ๆ ทำมาก ๆ ..พระธรรมย่อมเจริญขึ้นที่ใจเราได้..ไม่ว่าจะเป็น..หิริโอตัปปะ..พรหมวิหาร 4..เห็นทุกข์..จนแม้แต่ญาณคือความรู้ต่าง ๆ..เราย่อมมีได้

ตราบใดเรายังไม่ใช่ผู้ที่สิ้นกิเลส..เมื่อโกรธ..ก็คุมโกรธไม่ให้ออกมาอาลวาดภายนอกด้วยกำลังของศีล..กำลังของทาน..สลายโกรธด้วยกำลังแห่งการภาวนา

ให้ทำบ่อย ๆ ..เมื่อทำบ่อย ๆ มันจะชิน..เมื่อมันชินบ่อย ๆ ..มันจะเป็นฌาณเป็นญาณรู้ของมัน..

ที่บางกลุ่มเห็นว่า..มันจะรู้ของมันเองหยุดเอง..ก็ด้วยเหตุนี้แหละครับไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ

ขอให้เจริญในธรรม..นะครับ :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 21 ก.พ. 2010, 08:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 523

แนวปฏิบัติ: ดูปัจจุบันอารมณ์ เจริญมรรค ๘
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประทีปแห่งเอเซีย
ชื่อเล่น: อโศกะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www




072dsq.jpg
072dsq.jpg [ 28.92 KiB | เปิดดู 1125 ครั้ง ]
คือเวลานั่งสมาธิพอผ่านไปส้ก5นาทีจะรู้สึกเหมือนจะ เป็นลม และฟุ้งซ่านมาก บางเรื่องจำไม่ได้แล้วก็ผุดขึ้นมาขณะนั่งสมาธิ(เฉพาะกรรมทีไม่ดี)แต่บาง ครั้งทำงานอยู่มันก็จะรู้สึกเหมือนเข้าสมาธิไปเอง รู้สึกกลัวมาก เวลาโกรธก็รู้ว่ากำลังโกรธแต่หยุดไม่ได้ๆแต่ดูอยู่เฉยๆ จนรู้สึกว่าไม่รู้ความจริงหรือฝัน ตอนนี้เลิกทำสมาธิได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมที่เคยทำไว้กำลังให้ผลอยู่เพราะเป็นคนไมเคยเจ็บ ป่วยแต่ตอนนี้เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่และจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟและของ ร้อนอยู่เนีองๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ :b10:


คุณjsb ต้องทำสมาธิไปพร้อมกับวิปัสสนาภาวนา จึงจะผ่านอารมณ์ดังที่เล่ามานี้ได้
อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมาในระหว่างการทำภาวนานั้น เป็นวิบาก คือผลของการกระทำในอดีตของเรามาแสดงผลในรูปแบบต่างๆ พูดแบบชาวบ้านเรียกว่ามาให้เราชดใช้กรรม

การชดใช้กรรมในกรรมฐานหรือการทำภาวนานั้น เป็นกระบวนการที่ทำให้เราต้องพบกับอารมณ์ต่างๆที่มาขัดขวาง กั้นขวางการภาวนาของเรา เรียกตามหลักวิชาว่า นิวรณ์ธรรม เครื่องกางกั้นไม่ให้เราถึงความดี

วิธีแก้ไขง่ายคือ นั่งภาวนาชดใช้กรรม โดยเวลานั่งเจริญสมาธิภาวนา มีอารมณ์มาขัดขวาง ให้มีสติรู้ทันแล้วใช้ปัญญา นิ่งดู นิ่งสังเกตพิจารณาอารมณ์และผลต่อเนื่องของอารมณ์ต่างๆเหล่านั้นไป โดยให้เพียงแต่เฝ้าดู เฝ้ารู้สภาวะอารมณ์ที่เกิดอยู่ณ ปัจจุบันขณะนั้น โดยไม่ต้องทำอะไร ตามที่อารมณ์ของจิตสั่งการ

ถ้าสู้ได้ ทนได้ ไม่ช้าไม่นาน อารมณ์แต่ละอารมณ์นั้นก็จะดับไป ผ่านไป ด้วยอำนาจแห่งกฏพระไตรลักษณ์
วันหลังถ้าเรามานั่งอีก อารมณ์อย่างนั้นจะเบาไป น้อยลง หรือหายไป ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนตอนเจอครั้งแรก

ถ้าเป็นในห้องกรรมฐาน วิบากกรรมเก่าที่มารบกวนเรานี้จะไม่เกิน 3 - 5 วัน จิตเราก็จะผ่านขั้นตอนนี้ไปพบความสงบได้บ้าง ถ้าปฏิบัติอยู่ที่บ้านคงจะนานหน่อยนะครับ อดทน ทำต่อไป วิธีปฏิบัติเดี๋ยวท่านกรัชกายคงแนะนำให้รู้ได้ง่ายๆนะครับ

ถ้าสนใจก็จะมาคุยให้ฟังต่อครับ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป สาธุ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร