วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 02:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 18:09
โพสต์: 41

โฮมเพจ: sagittarius23naj.hi5.com
ชื่อเล่น: นัจ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดถึงว่า..ถ้าเราจะทำบุญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การตักบาตรพระ หรือเข้าวัดทำบุญ เป็นส่วนมาก แต่ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ ก็เลยมักเสียโอกาสในการ สะสมบุญของเรา

วันนี้จึงมีเรื่องมาเล่าให้ทุกๆคนได้อ่านและพิจารณากัน เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ๆ ในการสร้างบุญสร้างกุศล สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือ มีเวลาทำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ได้อ่าน เพื่อจะได้เข้าใจว่า ถ้าเราทำอย่างที่บอกต่อไปนี้ เราจะได้อะไรบ้าง?

สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียม1.หิ้งพระ หรือโต๊ะหมู่บูชา แต่ถ้าไม่มีให้หารูปพระมาติดไว้ที่ผนังบ้านก็ได้
2.ขัน หรือกระปุกออมสิน หรือบาตรพระพลาสติก(ที่ร้านสังฆทานจะมีขายเป็นบาตรพลาสติกเจาะรูเหมือนกระปุกออมสิน)
3.เงินกี่บาทก็ได้ 1 บาท 5 บาท 10 บาท มากกว่านี้ก็ได้ตามศรัทธา
4.เวลา .....สละเวลาเพียงวันละประมาณ 20-30 นาที เวลาไหนก็ได้ที่เราว่าง เราสบายใจ เช้า สาย บ่าย เย็น หรือก่อนนอน
5.ใจ.....เมื่อใจพร้อมกายก็พร้อม

เริ่มกันเลย......โดยเริ่มสวดจากบท
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)


ต่อไปก็ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)ระหว่างที่ตั้งนะโม ก็ให้เราเอาเงินที่เตรียมไว้มาจบที่มือ จากนั้นก็เริ่มสวด

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


ต่อจากนั้นก็เริ่มสวด บทพระพุทธคุณ (อิติปิ โส ภะคะวา ฯลฯ) บทพระธรรมคุณ (สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ฯลฯ) บทพระสังฆคุณ (สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ฯลฯ)
ถ้ามีเวลา ให้สวดบท พาหุง มหากา ฯลฯ จบแล้วให้กลับมาสวด บทพระพุทธคุณ บทเดียว 9 จบ หรือเท่าอายุบวกหนึ่ง

ต่อจากนั้น ตั้งสมาจิตสักระยะหนึ่ง แล้วอธิษฐานจิต อธิษฐานเสร็จให้เราเอาเงินที่จบไว้ที่มือ ใส่เข้าไปในภาชนะที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลทุกครั้ง ทำอย่างนี้ทุกวันอย่าได้ขาด
เป็นอันเสร็จพิธีการทำบุญ ที่เราสามารถทำได้ทุกวันที่บ้านของเรา

ถามว่าเราจะได้อะไรจากการปฏิบัติอย่างนี้?

1. ถามว่า ขณะที่เราสวดมนต์อยู่นั้น เราสวดมนต์บูชาใคร?
ตอบ เราสวดมนต์บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขณะที่สวด จิตเราก็นอบน้อมอยู่กับคุณพระรัตนตรัย ขณะนั้นจิตเราจะมี พุทธานุสสติ, ธัมมานุสสติ, สังฆานุสสติ เท่ากับเราได้มาแล้วกรรมฐาน 3 กอง

2. ขณะที่สวดมนต์อยู่นั้น เราสวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจในการสวด ถามว่า อาการที่จิตสำรวม มีความตั้งใจในการสวดนั้น เป็นอาการของอะไร
ตอบ เป็นอาการของสมาธิ ได้มาแล้วสมาธิเบื้องต้น

3. ขณะที่สวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจ จิตของเราก็จะคอยนึกถึง ระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวด ถามว่า อาการที่คอยนึกถึง ระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวดนั้นเป็นอาการของอะไร?
ตอบ เป็นอาการของสติ ได้ฝึกสติในการสวดมนต์ไปในตัว

4. ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จ ตั้งจิตเป็นสมาธิอธิษฐานจิต เอาเงินที่จบใส่ลงไปในภาชนะที่ได้เตรียมไว้เป็น ทานบารมี อธิษฐานบารมี

*** บารมี แปลว่า ความดีที่ควรบำเพ็ญ ซึ่งประกอบด้วย
1.ทานบารมี 2.ศีลบารมี 3.เนกขัมมะบารมี
4.ปัญญาบารมี 5.วิริยะบารมี 6.ขันติบารมี
7.สัจจะบารมี 8.อธิษฐานบารมี 9.เมตตาบารมี 10.อุเบกขาบารมี

ถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์เพียงไม่กี่นาทีตรงนี้ เราจะได้บารมีอะไรบ้าง?
ตอบ
1.ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จเราทำทาน คือเอาเงินที่จบใส่ในขัน ฯลฯ เป็น ทานบารมี
2.ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ในขณะนั้นเราไม่ได้ทำบาปกรรมกับใคร มีศีลอยู่ในขณะที่สวด เป็น ศีลบารมี
3.ขณะที่เราสวดมนต์อยู่นั้นจิตเราปราศจากนิวรณ์มารบกวนใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ เป็น เนกขัมมะบารมี
4.ถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์ไหว้พระ เราทำด้วยความงมงายหรือไม่ ตอบ ไม่ เพราะเราทำด้วยศรัทธา ทำด้วยปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ช่วยฝึกจิตใจให้เกิดสติ มีสมาธิ เป็น ปัญญาบารมี
5.ถ้าเราไม่มีความเพียรที่จะทำ เราก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความเพียร เป็น วิริยะบารมี
6.มีความเพียรแล้ว ถ้าไม่มีความอดทน ความเพียรก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความอดทน ความอดทน เป็น ขันติบารมี
7.มีความเพียร มีความอดทนแล้ว แต่ขาดสัจจะในการกระทำ หมายถึง ความจริงใจ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติความจริงใจ เป็น สัจจะบารมี
8.เมื่อเราสวดมนต์เสร็จทำสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน การอธิษฐาน เป็น อธิษฐานบารมี
9.ใส่บาตรเสร็จก็ต้องแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตา เป็น เมตตาบารมี
10.ขณะที่แผ่เมตตา เราก็ต้องทำใจให้เป็นเมตตาไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งหลาย ทำใจให้เป็นพรหมวิหาร อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรมกับบุคคลที่เราได้ล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ไม่ชังใคร ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบเย็น วางจิตให้เป็นอุเบกขา เป็น อุเบกขาบารมี


เห็นไหมคะ เพียงแค่เราสวดมนต์เพียงไม่กี่นาทีต่อวัน เราก็ได้บารมีครบถ้วน และสิ่งเหล่านี้เองก็จะสะสมในใจของเราทีละเล็กทีละน้อย เหมือนกับเราเก็บเงินวันละบาท 10 วันก็ได้แล้ว 10 บาทแต่ถ้าเราไม่ทำอะไร เราก็จะไม่ได้อะไรเลย แล้วเงินที่เราหยอดทุกวันจากการสวดมนต์ ก็เหมือนกับเราได้ใส่บาตรพระทุกวัน โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ...เมื่อมีโอกาสเข้าวัด เราก็เอาเงินนั้นแหละไปทำบุญ หยอดตู้บริจาค หรืออะไรต่างๆที่เป็นสาธารณประโยชน์ ได้อานิสงค์มาก และจิตใจของเราก็จะติดอยู่กับกุศลทุกวัน เมื่อถึงเวลามันก็จะรวมเข้าในจิตของเราเป็นหนึ่งเดียว

ก็ฝากไว้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับ คนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำบุญตักบาตรพระ หรือเข้าวัด ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ ก็พยายามเจริญศรัทธาให้มาก ปฏิบัติให้ได้ทุกวันแล้วท่านจะเห็นผลได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย



***ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลนี้ให้แก่ สตท.เตชิต ลั่นทมเหลือง***

.....................................................
"คำร่ำลา" ความปวดร้าวของคนที่จากไป ความอาลัยของคนที่อยู่ สายใยสุดท้ายแห่ง"ความผูกพัน"


แก้ไขล่าสุดโดย SinGTo_NaM เมื่อ 10 ต.ค. 2009, 01:00, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 01:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

เจริญในธรรม :b41: :b41: :b41: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 02:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: ขออนุโมทนาค่ะ เป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ :b8: :b8: :b8:

:b55: :b55: :b55: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 07:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุค่ะ :b8:
ดิฉันปฏิบัติอยู่ทุกวันค่ะ พอกลับเมืองไทยก็นำเงินส่วนนี้ทำบุญ
ได้ผลจริงๆค่ะ ทำให้มีความสุขใจในขั้นแรก และมีสิ่งที่ดีๆตามมาตลอดค่ะ
:b48: ธรรมะสวัสดีค่ะ :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 18:09
โพสต์: 41

โฮมเพจ: sagittarius23naj.hi5.com
ชื่อเล่น: นัจ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนนึงที่เวลาคิดจะทำบุญ ก็จะคิดถึงวัดเป็นอันดับแรก

พอมาเกิดเหตุการณ์ที่แฟนเสียชีวิต ก็เลยลองศึกษาจากหนังสือธรรมมะหลายๆเล่ม

ก็เลยมาเจอข้อปฏิบัตินี้ ก็เลยเอามาฝากกันค่ะ...เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันได้ง่ายๆ อาศัยแค่ใจของเรา

แล้วก็ทำบุญได้จริงๆ อานิสงฆ์มากกว่าการที่เราทำบุญตักบาตรเสียอีก เพราะการสวดมนต์นี้เหมือนจะง่าย แต่ถ้าใจเรามีไม่พอ เจตนาเราไม่มี เราก็คงจะทำไม่ได้ :b16:

.....................................................
"คำร่ำลา" ความปวดร้าวของคนที่จากไป ความอาลัยของคนที่อยู่ สายใยสุดท้ายแห่ง"ความผูกพัน"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




ee209.jpg
ee209.jpg [ 93.81 KiB | เปิดดู 3333 ครั้ง ]
tongue
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง
ทางได้บุญ ๑๐ วิธี เป็นสิ่งที่ชาวพุทธพึงต้องรู้ แบ่งออกเป็น ๓ หมวด
หมวดทาน
๑.ทาน การให้ปันสิ่งของของตนเองให้กับผู้อื่น
๒.ปัตติทาน การแผ่ส่วนบุญ
๓.ปัตตานุโมทนา การอนุโมทนาส่วนบุญของตนเองและผู้อื่น
หมวดศีล
๔.ศีล การรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ ข้อ
๕.อัปจายนะ ความอ่อนน้อมถ่อมตน
๖.เวยยาวัจจะ การน้อมรับใช้ผู้อื่น
หมวดภาวนา
๗.ธัมมสวนะ การฟังธรรมตามกาล
๘.ธัมมเทศนา การแสดงธรรม
๙.ภาวนา การทำสมถะภาวนา
๑๐.ทิษฐุชุกรรม การทำความเห็นให้ตรง ถูกต้อง ด้วยวิปัสสนาภาวนา

บุญ คือสิ่งที่ทำให้ใจ สงบ เป็นสุข

บาป คือสิ่งที่ทำให้ใจเดือดร้อน เป็นทุกข์

การทำบุญด้วยศรัทธา และมีปัญญากำกับ ย่อมจะได้ผลมาก อานิสงมาก กว่าการทำบุญด้วยความงมงาย

สาธุ อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ ครับ smiley

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร